‘สัดส่วนทองคำ’ ศาสตร์ 2000 ปีที่ยังมีอิทธิพลกับความงามยุคปัจจุบัน

golden ratio and facial contouring cover

“สัดส่วนทองคำ” หลักความสมดุลเก่าแก่ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ 300 ปีก่อนคริสตกาล ถูกศึกษาและปรับใช้ต่อเนื่องจนกลายเป็น ‘สัดส่วนในอุดมคติ’ ที่ศาสตร์หลายแขนงนำมาใช้เพื่อหาความสมดุลในมิติต่าง ๆ โดยเฉพาะในด้านศิลปะ เช่น ประติมากรรมเลียนแบบมนุษย์ จนในที่สุด วงการเวชศาสตร์ความงาม ก็ได้นำเอาสัดส่วนทองทำมาใช้กับการปรับรูปหน้า เกิดเป็นศาสตร์และศิลป์ ให้หัตถการความงามต่าง ๆ คิดค้นมาเพื่อถ่ายทอดความสมดุลผ่านสัดส่วนใบหน้าของเรา และวันนี้ AMARA จะพาไปเข้าใจหลักการนี้กัน

สัดส่วนทองคำ คืออะไร? ศาสตร์ที่นิยามความงามจากยุคกรีกโบราณ


สัดส่วนทองคำ (Golden Ratio) คือ อัตราส่วนทางคณิตศาสตร์ที่พบได้ในธรรมชาติและศิลปะ โดยมีค่าประมาณ 1:1.618 หรือในทางคณิตศาสตร์คือ (1 + √5)/2 ถูกยกย่องว่าเป็นสัดส่วนแห่งความสมดุลที่สมบูรณ์แบบที่สุด และได้รับการนำมาใช้ในการออกแบบและงานศิลปะอย่างแพร่หลายตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ 

แม้สัดส่วนทองคำจะมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี แต่การศึกษาที่ทำให้แนวคิดนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้างเกิดขึ้นในยุคของ ‘ฟีโบนัชชี’ นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี ผู้ค้นพบความเชื่อมโยงระหว่างลำดับตัวเลขที่มีความสัมพันธ์กับ Golden Ratio จนกลายเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันว่าความงามและความสมดุลมีอยู่จริงในธรรมชาติ

Golden Ratio

ในด้านของการนิยามความงาม สัดส่วนทองคำถูกนำมาใช้กำหนดความสมดุลและความสวยงามของสิ่งต่าง ๆ ตั้งแต่การวาดภาพ การออกแบบสถาปัตยกรรม การถ่ายภาพ รวมถึงการวัดสัดส่วนของร่างกายและใบหน้าของมนุษย์ด้วยเช่นกัน

สัดส่วนใบหน้า

หลัก Golden Ratio ถูกนำมาใช้วัดความสมดุลขององค์ประกอบบนใบหน้า เช่น ระยะห่างระหว่างตา ความยาวของจมูก ปาก และแนวกราม ซึ่งเมื่อสัดส่วนเหล่านี้ใกล้เคียงกับ Golden Ratio จะทำให้ใบหน้าดูสมมาตร มีเสน่ห์ และได้รับการนิยามว่าเป็นใบหน้าในอุดมคติ

สัดส่วนร่างกาย

สัดส่วนทองคำไม่เพียงแต่ถูกนำมาใช้กับใบหน้าเท่านั้น แต่ยังถูกใช้ในการออกแบบสัดส่วนร่างกายมนุษย์ เช่น ความยาวของแขนและขา  ความยาวของลำตัว หรือสัดส่วนระหว่างเอวและสะโพก ไปจนถึงกล้ามเนื้อ ซึ่งสัดส่วนเหล่านี้ถือเป็นการสร้างความสมดุลและความสวยงามที่มนุษย์รู้สึกว่าเป็นสัดส่วนที่สมบูรณ์ที่สุด

แม้เวลาจะล่วงเลยมากว่า 2000 ปี สัดส่วนทองคำ หรือ Golden Ratio ก็ยังคงมีอิทธิพลในการนิยามความงามของสิ่งต่าง ๆ โดยเฉพาะกับความเป็นมนุษย์ ด้วยเหตุนี้ วงการแพทย์ด้านเวชศาสตร์ความงามจึงได้นำหลักสัดส่วนทองคำมาประยุกต์ใช้ในการปรับปรุงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์อย่างแพร่หลายด้วยเช่นกัน

สัดส่วนทองคำกับการปรับรูปหน้า


สัดส่วนทองคำ (Golden Ratio) มีบทบาทสำคัญในวงการเวชศาสตร์ความงาม โดยเฉพาะในการออกแบบโครงสร้างใบหน้าให้มีความสมดุล น่าดึงดูด และสอดคล้องกับสรีรศาสตร์ธรรมชาติ ซึ่งเราจะต้องทำความเข้าใจกับความสัมพันธ์ระหว่างสัดส่วนทองทำ และสัดส่วนใบหน้าก่อน

เข้าใจสัดส่วนใบหน้าตามแบบ Golden Ratio 

การประเมินสัดส่วนใบหน้าเพื่อความสมดุลตามหลัก Golden Ratio จะพิจารณาใน 3 มิติหลัก ได้แก่

แนวดิ่ง (Vertical Proportion)

มีการแบ่งออกเป็น 3 ส่วนที่มีขนาดใกล้เคียงกัน ได้แก่ หน้าผากถึงคิ้ว คิ้วถึงปลายจมูก และปลายจมูกถึงคาง หมายความว่าหาก 3 ส่วนนี้ขนาดสมดุลกันมากเท่าไหร่ใบหน้าก็จะยิ่งเข้าใกล้กับความลงตัวตามหลักสัดส่วนทองคำมากขึ้นเท่านั้น

แนวนอน (Horizontal Proportion)

ใบหน้าจะถูกแบ่งออกเป็น 5 ส่วนเท่ากัน

  • ส่วนที่ 1 และ 5 เป็นขอบของใบหน้าด้านซ้ายและขวา
  • ส่วนที่ 2 และ 4 เป็นบริเวณดวงตา 
  • ส่วนที่ 3 (ตรงกลาง) เป็นพื้นที่ระหว่างดวงตาและจมูก

ซึ่งความกว้างของปากควรมีขนาดประมาณ 1.618 เท่าของความกว้างของจมูก เพื่อให้ดูสมดุลนั่นเอง

สัดส่วนของคางและกรอบหน้า

ความยาวของคางควรอยู่ในอัตราส่วนสมดุลกับสัดส่วนใบหน้าส่วนบนและกลาง และกรอบหน้าควรมีความโค้งที่เหมาะสม ไม่เหลี่ยมหรือกลมจนเกินไป

ขอบคุณภาพจาก: https://plus.maths.org/content/myths-maths-golden-ratio

อยากเสริมความสมดุลของใบหน้าด้วยแรงบันดาลใจจากสัดส่วนทองคำ ทำอะไรดี?


สัดส่วนทองคำ เป็นแนวคิดทางคณิตศาสตร์ที่นำมาใช้ในการกำหนดความงามและความสมดุลของใบหน้า หากต้องการเสริมความสมดุลของใบหน้าให้ดูละมุน ดูเป็นธรรมชาติ และเข้าใกล้สัดส่วนในอุดมคติ มีหลายแนวทางที่สามารถพิจารณาได้ เช่น

  1. การดูแลสภาพผิวให้เรียบเนียน

    พื้นผิวของใบหน้านั้นเป็นปัจจัยหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะผิวที่เรียบเนียนมีผลต่อความรู้สึกเกี่ยวกับความสมดุลและความงาม การดูแลสุขภาพผิวด้วยการทำทรีตเมนต์ ฟื้นฟูคอลลาเจน หรือการเลเซอร์ผิวอย่างเหมาะสม ช่วยเสริมให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และกลมกลืนกับโครงสร้างโดยรวม

  2. การปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ (Filler Injection)

    ฟิลเลอร์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเสริมสัดส่วนใบหน้า เช่น คาง ขมับ ร่องแก้ม หรือริมฝีปาก ช่วยเติมเต็มและปรับความสมดุล อ้างอิงจาก Golden Ratio ได้และสามารถช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีได้ด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนี้ 

  3. การเสริมคางหรือขากรรไกร (Chin Augmentation / Jawline Contouring)

    คางและแนวกรามมีบทบาทสำคัญอย่างมากในโครงสร้างของใบหน้า การเสริมคางหรือปรับแนวขากรรไกรให้ได้สัดส่วนเหมาะสมสามารถช่วยให้ใบหน้าดูเรียวยาว สมดุล และเสริมภาพลักษณ์ให้ใบหน้าดูมีมิติยิ่งขึ้น

  4. การปรับแนวคิ้วและหน้าผาก

    แนวคิ้วและหน้าผากที่มีสัดส่วนที่สมดุลกับส่วนกลางและส่วนล่างของใบหน้าช่วยเสริมภาพรวมของใบหน้าให้ได้สัดส่วนทองคำ การปรับแนวคิ้วให้เหมาะสมกับโครงหน้า เช่น การยกคิ้วด้วยเทคนิคเฉพาะ หรือการเติมวอลลุ่มหน้าผาก สามารถช่วยให้ใบหน้าดูละมุนมากขึ้น

  5. การเติมไขมันหน้า (Face Fat Grafting)

    การเติมไขมันใบหน้าเป็นวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยม เนื่องจากช่วยเพิ่มความอิ่มฟูในบริเวณที่ขาดวอลลุ่ม เช่น โหนกแก้ม ขมับ ใต้ตา หรือคาง การเสริมจุดเหล่านี้อย่างเหมาะสมสามารถปรับสัดส่วนแนวดิ่งและแนวนอนของใบหน้าให้สมดุลยิ่งขึ้น อีกทั้งยังใช้ไขมันของตัวเอง จึงให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และลดความเสี่ยงในการแพ้สารสังเคราะห์ได้อีกด้วย

การปรับสัดส่วนใบหน้า จำเป็นต้องยึดตามหลักสัดส่วนทองคำหรือเปล่า?


การปรับสัดส่วนใบหน้าจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องยึดตามสัดส่วนทองคำเพียงอย่างเดียว ต้องเข้าใจก่อนว่า สัดส่วนทองคำถูกนำมาใช้ในศาสตร์ความงามก็จริง แต่หัวใจสำคัญคือลักษณะและจุดเด่นที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน ซึ่งสัดส่วนทองคำก็ถูกนำมาใช้เป็นแม่แบบเพื่อหาสมดุลที่ดีในการปรับสัดส่วนใบหน้าของแต่ละคนเท่านั้น โดยต้องคำนึงถึงลักษณะเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคนมากกว่าการยึดตามมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด 

ยกตัวอย่างเช่น ขนาดริมฝีปากล่างที่ควรจะใหญ่กว่าริมฝีปากบน 1.618 เท่าตามหลักสัดส่วนทองคำ ที่จริงแล้วต้องคะเนก่อนว่า หากต้องเติมไขมันริมฝีปากให้ได้ตามสัดส่วนนั้นจริง ๆ จะเข้ากับใบหน้าของผู้ใช้บริการคนนั้นหรือไม่ เพราะพื้นฐานใบหน้าของแต่ละคน ก็อาจไม่ได้เข้ากับหลักสัดส่วนทองคำเสมอไป

สรุป


แม้ว่าสัดส่วนทองคำจะเป็นหลักการที่มีอายุเก่าแก่กว่าสองพันปี แต่ก็ยังคงมีอิทธิพลอย่างมากต่อการนิยามความงามในปัจจุบัน โดยเฉพาะในวงการเวชศาสตร์ความงามที่ถูกนำมาปรับใช้ในการออกแบบโครงหน้าเพื่อสร้างสมดุลและความสวยงามที่เป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม การปรับรูปหน้าไม่ได้จำเป็นต้องยึดตามสัดส่วนทองคำเท่านั้น แต่ควรถ่ายทอดเอกลักษณ์และโครงสร้างเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล แนะนำให้ปรึกษาแพทย์โดยตรงจะตอบโจทย์มากกว่า

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!