
ดูดไขมันเหนียง ใต้คาง หรือ ดูดไขมันกรอบหน้า เป็นหนึ่งในเทรนด์ความงามด้านการปรับรูปหน้าที่กำลังได้รับความนิยม เพราะช่วยแก้ปัญหาคางสองชั้น ตัวการที่ทำใบหน้าดูใหญ่ ไม่ได้รูป และดูมีอายุอย่างตรงจุด สำหรับใครที่มีปัญหาเหล่านี้อยู่ แล้วลังเลว่าควร ดูดไขมันเหนียงดีไหม? ดูดไขมันเหนียงคืออะไร? ทำแล้วดีกับทุกคนจริงไหม? มีผลข้างเคียงอะไรที่ต้องรู้? AMARA จะมาตอบทุกข้อสงสัย พร้อมรีวิวให้ดูแบบเรียล ๆ เอง!
ดูดไขมันเหนียง คืออะไร?
ดูดไขมันเหนียง (Double Chin Liposuction) คือ การสลายไขมันบริเวณกรอบหน้า ใต้คาง และยาวไปจรดบริเวณลำคอ โดยการใช้เครื่องดูดไขมันในการช่วยแยกเซลล์ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง และทำการดูดไขมันออกมา จึงทำให้สัดส่วนของใบหน้าเล็กลง กรอบหน้าชัดขึ้น แก้ปัญหาคางสองชั้นได้อย่างเห็นผล
“การดูดไขมันเหนียง จึงเป็นวิธีลดเหนียง ลดแก้ม ที่เห็นผลเร็วภายใน 7 วันหลังทำ”
อย่างไรก็ตาม การดูดไขมันเหนียงใต้คางเป็นการผ่าตัดรูปแบบหนึ่ง จึงต้องผ่าตัดโดยศัลยแพทย์และมีวิสัญญีแพทย์คอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดการผ่าตัด เพื่อให้การดูดไขมันที่หน้าและเหนียงเป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย และลดภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด
รีวิวดูดไขมันเหนียง ใต้คาง ปรับกรอบหน้าชัด หน้าเรียวและเข้ารูปมากขึ้น
เพื่อให้คุณเห็นภาพมากยิ่งขึ้น เรามีรีวิวการดูดไขมันลดเหนียงมาให้ดู ทั้งแบบวิดีโอ และภาพ Before & After ลองเปรียบเทียบผลลัพธ์ก่อนทำและหลังทำได้ที่ด้านล่างนี้เลย
ตัวอย่างภาพก่อน-หลังดูดไขมันเหนียง
ดูดไขมันเหนียง เหมาะกับใคร?
การดูดเหนียงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหน้ากลม กรอบหน้าไม่ชัด หรือ มีคางสองชั้นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ผู้ที่มีปัญหาฉีดแฟตไม่ลงยังถือเป็นอีกกลุ่มที่เหมาะกับการดูดเหนียง และยังสามารถทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงอีกด้วย
- คนที่มีปัญหาคางสองชั้น เหนียงออกเยอะ
- คนที่ต้องการให้ใบหน้าดูเรียวสวยมากขึ้น
- คนที่มีคางสั้น และมีไขมันสะสมใต้คาง
- คนที่อยากเพิ่มความมั่นใจให้ใบหน้า
- คนที่ฉีดแฟตเหนียงแล้วไม่ลง
- คนที่ดื้อโบแต่อยากเพิ่มกรอบหน้าให้ชัด
ดูดไขมันเหนียง ราคาเท่าไหร่? เตรียมงบกี่บาท?
ดูดไขมันเหนียง ราคาเริ่มต้นที่ 19,900 – 39,900 บาท โดยจะเป็นการดูดไขมันลดเหนียงใต้คางออกเท่านั้น ไม่ใช่การดูดไขมันกรอบหน้า เพื่อทำให้ปัญหาคางสองชั้นหายไป หากเป็นคนมีแก้ม แก้มก็จะยังคงอยู่เช่นเดิม ทั้งนี้ ราคาดูดไขมันเหนียง จะขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคล (BMI, Size, ปริมาณไขมัน และสภาพผิว) เครื่องดูดไขมันที่ใช้ และวิธีระงับความเจ็บปวดที่เลือก (ยาชาหรือยาสลบ)
(ดูดไขมันเหนียงราคาอัปเดตล่าสุดปี 2024)
ดูดไขมันเหนียง ราคา |
19,900 บาท (ACCUtite) |
ดูดเหนียง Vaser Smooth 2.2 หรือ Ultra Z ราคา |
25,000 บาท |
ดูดไขมันเหนียง body-jet ราคา |
39,900 บาท |

การเตรียมตัวก่อนดูดไขมันลดเหนียง
การเตรียมตัวก่อนเข้าห้องผ่าตัดลดเหนียง คนไข้จะได้รับการซักประวัติและตรวจร่างกายก่อนผ่าตัดทุกเคส เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็น % ที่อาจเกิดการแพ้ยาชาหรือยาสลบ ตลอดจนการเตรียมตัวที่เอื้อให้การผ่าตัดราบรื่น โดยผู้เข้ารับบริการสามารถปฎิบัติตามคำแนะนำด้านล่างนี้
การเตรียมตัวดูดไขมันลดเหนียงสำหรับเคสยาชา
- คืนก่อนดูดไขมัน นอนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
- รับประทานอาหารก่อนมาคลินิก 3 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้รู้สึกหิวมากหลังดูดไขมันเสร็จ
- งดการดื่มชา กาแฟ และน้ำอัดลม เพราะจะทำให้ปวดปัสสาวะบ่อย
- ใส่เสื้อผ้าสีเข้ม หลวม ๆ (เพราะหลังดูดไขมันจะมีน้ำซึมออกจากแผล อาจทำให้เสื้อเปื้อนได้)
- พาเพื่อนหรือญาติมาด้วย 1 คน ห้ามขับรถกลับเอง (เพราะอาจเกิดอันตรายได้)
การเตรียมตัวดูดไขมันลดเหนียงสำหรับเคสยาสลบ
- คืนก่อนดูดไขมัน นอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชม.
- งดดื่ม, กินอาหารทุกชนิด อย่างน้อย 8 ชม.
- งดสูบบุหรี่ทุกชนิด อย่างน้อย 8 ชม.
- งดการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม
- งดแต่งหน้า หรือทาครีมที่ใบหน้า
- ไม่ใส่เครื่องประดับทุกชนิด
- ตัดเล็บมือให้สั้น, เช็ดสีเล็บออก 1 เล็บ
- สวมใส่เสื้อผ้าสีเข้ม และมีลักษณะหลวม
- พาญาติหรือเพื่อนมาด้วย 1 คน ห้ามขับรถกลับเองคนเดียว
หมายเหตุ: การเตรียมก่อนดูดไขมันเหนียงที่ถูกต้อง จะช่วยลดผลข้างเคียงหลังดูดไขมันให้น้อยลงได้ ไม่ว่าจะเป็น อาการเวียนหัวคลื่นไส้ อาการเมายาสลบ หรือระยะเวลาในการพักฟื้นก็ตาม

ขั้นตอนดูดไขมันเหนียง ใต้คาง
เมื่อคนไข้มีความพร้อมสำหรับการผ่าตัดแล้ว ที่ AMARA จะมีการวาดเคสบริเวณเหนียงคอและกรอบหน้า เพื่อประเมินปริมาณไขมันที่ควรดูดออกมา กำหนดจุดในการผ่าตัด และออกแบบรูปหน้าแบบ 1:1 โดยเน้นผลลัพธ์ที่มีความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ และที่สำคัญคือต้องปลอดภัย!
เมื่อวาดเคสแล้วก็พร้อมสำหรับการผ่าตัด ที่ AMARA จะดำเนินการภายในห้องผ่าตัด Positive Pressure ที่ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข (ISO 146441-1 Class 7) จึงมีความปลอดเชื้อสูง และมีวิสัญญีแพทย์ดูแลอยู่ภายในห้องผ่าตัดตลอดเวลาแบบ 1:1 (ไม่ใช่วิสัญญีที่วิ่งดูหลาย ๆ เคสพร้อมกันแบบที่คลินิกทั่วไปใช้)
โดยขั้นตอนการดูดไขมันเหนียง มีดังนี้
- ทายาฆ่าเชื้อบริเวณเหนียง ด้วยเบตาดีน
- แพทย์เริ่มใส่ยาชา และใส่ Tumescent (สารน้ำที่ช่วยขยายชั้นไขมัน และระงับความเจ็บปวด)
- เปิดแผลดูดไขมันเหนียง ขนาดเล็กเท่าหัวปากกา บริเวณใต้คางและหลังหู
- เริ่มดูดไขมันตามที่แพทย์ได้วางแผนไว้
- รีดน้ำออกจากผิว เมื่อดูดไขมันเสร็จ
- เย็บปิดแผล 1 เข็ม (แต่จะไม่เย็บปิดสนิท เพื่อให้น้ำสามารถระบายออกมาได้)
- สวมผ้ารัดเหนียง เพื่อให้เหนียงกระชับ ไม่ย้วย และเข้าที่เร็ว
- แพทย์อธิบายวิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมันเหนียง
การดูแลตัวเองหลังดูดไขมันเหนียง
ในช่วง 1 เดือนแรกหลังดูดไขมันเหนียง ให้ดูแลตัวเองดีเป็นพิเศษ เพื่อให้เหนียงเข้าที่เร็ว แผลหายเร็ว และไม่บวมนาน ควรทำตามที่เจ้าหน้าที่และหมอแนะนำอย่างเคร่งครัด เพราะผลลัพธ์ที่ดีที่สุด จะมาจากการร่วมมือกันของแพทย์และคนไข้ สามารถทำได้โดยการดูแลตัวเองที่บ้านเป็นประจำทุกวัน และการเข้ามารับบริการ After Care ตามที่เจ้าหน้าที่นัดหมาย ดังนี้

การดูแลตัวเองหลังดูดไขมันลดเหนียงที่บ้าน
- สวมผ้ารัดเหนียง 18-20 ชั่วโมงต่อวัน และปลดตะขอเพื่อคลายชุดกระชับ 30-60 นาที ทุก ๆ 4-6 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้มีปัญหาแผลกดทับ
- ทำความสะอาดแผลทุกวันจนกว่าจะตัดไหม หากเหงื่อออกมากหรือแผลเปียกชื้น ให้เปลี่ยนผ้าก็อซใหม่ทันที
- ป้องกันไม่ให้น้ำเข้าแผลดูดไขมัน เพราะจะทำให้แผลแฉะ หายช้า และเสี่ยงติดเชื้อได้
- รับประทานยาตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อให้อาการต่าง ๆ ดีขึ้น
- เคลื่อนไหวร่างกายช้า ๆ ในทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และป้องกันไม่ให้แผลตึงรั้ง
- ดื่มน้ำวันละประมาณ 1-2 ลิตร สามารถดื่มเกลือแร่ได้ หากมีอาการอ่อนเพลีย (ดื่มในปริมาณน้อย)
- งดยา และอาหารเสริม ที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด 2 สัปดาห์ (กลุ่ม Aspirin, Warfarin, Vitamin E, Fish oil, Ginko)
- แนะนำทาน Vitamin C และ Vitamin B Complex เพื่อให้แผลสมานตัวเร็วขึ้น หรือปรึกษาแพทย์ก่อนซื้ออาหารเสริมมาทานเอง
- หลีกเลี่ยงอาหารไม่สะอาด อาหารทะเล อาหารเค็ม ของหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารที่มีน้ำตาลสูง เพื่อป้องกันการติดเชื้อและไม่ให้ขัดขวางการสมานตัวของแผล
- รับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ โดยเน้นการทานโปรตีนจาก เนื้อปลา ไข่ นมถั่วเหลือง และธัญพืช
การดูแลตัวเองหลังดูดไขมันลดเหนียงที่คลินิก
- พบแพทย์ เพื่อติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง
- ทำความสะอาดแผลทุกวัน และตัดไหม
- นวดกระชับสัดส่วน ด้วย Venus Legacy
- ฉายแสง LED ลดอาการบวมช้ำ และอักเสบ
- นวดลดก้อนแข็งใต้ผิว ด้วย Thermatight
- เลเซอร์รอยดำ ด้วย Pico Laser
- เลเซอร์รอยแดง ด้วย IPL Laser
ดูดไขมันเหนียงมีผลข้างเคียงไหม?
ผลข้างเคียงหลังดูดไขมันเหนียงที่เกิดขึ้นได้ เป็นอาการที่พบคล้ายกับการดูดไขมันในตำแหน่งอื่น ๆ เช่น เวียนหัว มีน้ำไหลจากแผล ก้อนแข็งใต้ผิว ฯลฯ เพื่อลดอาการดังกล่าวเราไปทำความรู้จักกับอาการหลังดูดเหนียงให้มากขึ้นกันเลย!
-
เวียนหัวหลังดูดไขมัน
ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาชา หรือใช้ยาสลบ ก็สามารถทำให้เรามีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ อยากอาเจียนได้ทั้งนั้น อาการนี้ ไม่ได้เกิดจากการใช้ยาชาและยาสลบเพียงเท่านั้น ยังเกิดได้จากการที่เรานอนอยู่กับที่เป็นเวลานาน และภาวะสูญเสียน้ำของร่างกายได้อีกด้วย เราสามารถบรรเทาอาการนี้ได้โดยการดื่มน้ำในปริมาณมาก เพื่อให้ร่างกายขับยาออกมาทางปัสสาวะ และทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไประหว่างดูดไขมัน
-
มีน้ำไหลออกมาจากแผล
น้ำที่ไหลออกมาจากแผลดูดไขมัน เป็นน้ำที่แพทย์ใส่เข้าไปในขั้นตอนแรกของการดูดไขมันเหนียง คือ สารน้ำ Tumescent นั่นเอง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นน้ำเกลือ และน้ำล้างเนื้อ ซึ่งอาจทำให้ผ้ารัดหน้าหรือเสื้อผ้าเปียกได้ ซึ่งเป็นการดีแล้วที่น้ำไหลออกมาจากแผล เพราะจะช่วยให้แผลของเราหายเร็วขึ้น ลดอาการบวมลง และช่วยให้เหนียงเข้าที่เร็ว
-
แผลดูดไขมัน
ปัญหาเรื่องแผลดูดไขมันเหนียง จะแบ่งเป็นการทิ้งรอยแผลดูดไขมันไว้ และการติดเชื้อของแผล กรณีแรกคือรอยแผลดูดไขมันนั้น ไม่จำเป็นต้องกังวลใด ๆ เพราะแพทย์จะเปิดแผลขนาดเล็ก ๆ ให้ในจุดที่ลับตาคน ทำให้มีโอกาสเกิดแผลเป็นน้อยมาก และทางเอมาร่าคลินิก ยังมีบริการเลเซอร์รอยแผลหลังดูดไขมันให้ จนกว่าจะถึงพอใจ
ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องรอยใด ๆ เลย ส่วนกรณีที่สองคือแผลติดเชื้อ กรณีนี้จะไม่พบบ่อยแล้วในปัจจุบัน เนื่องจากการดูดไขมันเหนียงในปัจจุบัน ไม่ได้เป็นหัตถการที่สกปรก แต่ก็สามารถเกิดได้ หากคนไข้ไม่ได้ทำความสะอาดแผลเป็นประจำ และรับประทานอาหารที่ไม่สะอาด ตามที่เจ้าหน้าที่เคยแจ้งไว้
-
ดูดไขมันเหนียงเป็นไตแข็ง
หลังดูดไขมันเหนียงเป็นไต มีลักษณะเหมือนก้อนแข็ง ๆ ใต้ผิว เป็นอาการปกติที่สามารถพบได้บ่อย ในเคสที่ดูดเหนียงด้วยเครื่องดูดไขมันพลังความร้อน เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่นพังผืด, ห้อเลือด หรือภาวะ Seroma เป็นต้น ไตแข็งหลังดูดไขมันเหนียง สามารถนิ่มลงได้เอง แต่จะใช้ระยะเวลานาน ทั้งนี้สามารถประคบอุ่นหรือสวมผ้ารัดเหนียง เพื่อให้ก้อนแข็งนิ่มลงได้ นอกจากนี้ หากต้องการให้ก้อนแข็งนิ่มลงเร็ว ๆ ก็สามารถนวด Thermatight ที่คลินิกได้เช่นกัน
-
ภาวะ Seroma
หลังดูดเหนียงออกไปแล้ว จะเกิดช่องว่างขึ้นระหว่างผิวหนังและกล้ามเนื้อ จึงทำให้ร่างกายสร้างน้ำขึ้นมาแทนที่ช่องว่างนี้ โดยเราจะเรียกอาการนี้ว่า Seroma หากมีน้ำที่ใต้ผิวไม่เยอะ ร่างกายก็สามารถดูดซึมออกไปได้เอง แต่ถ้ามีน้ำเยอะ รู้สึกว่าใช้ชีวิตลำบาก ก็สามารถเข้ามาพบแพทย์ได้ แพทย์จะทำการแก้ปัญหาให้ด้วยการเจาะของเหลวออก แค่นี้ก็ไม่บวมแล้ว!
การเข้ามารับบริการที่คลินิก
- พบแพทย์ เพื่อติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง
- ทำความสะอาดแผลทุกวัน และตัดไหม
- นวดกระชับสัดส่วน ด้วย Venus Legacy
- ฉายแสง LED ลดอาการบวมช้ำ และอักเสบ
- นวดลดก้อนแข็งใต้ผิว ด้วย Thermatight
- เลเซอร์รอยดำ ด้วย Pico Laser
- เลเซอร์รอยแดง ด้วย IPL Laser
ส่องสาเหตุ! เหนียง เกิดจากอะไร?
คลายข้อสงสัยก่อนดูดไขมันเหนียง! จริง ๆ แล้ว “เหนียงออก” เกิดจากอะไรได้บ้าง? แล้วรู้ไหมว่า… เหนียงไม่ได้เกิดขึ้นกับคนอ้วนเท่านั้น! คนที่รูปร่างผอมบาง หรือคนตัวเล็ก ก็มีปัญหาเหนียงใต้คางได้เหมือนกัน (ผอมแต่มีเหนียง) ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดเหนียงใต้คาง เกิดได้จากหลาย ๆ ปัจจัยประกอบกัน อาทิ อายุ, สภาพผิว, พันธุกรรม, โครงสร้างใบหน้า (คางสั้น), พฤติกรรมการใช้ชีวิต, กล้ามเนื้อใต้คาง และไขมันสะสม เป็นต้น

ปัจจัยทำให้เกิดเหนียงที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล จะส่งผลให้วิธีกำจัดเหนียงใต้คางของแต่ละคนแตกต่างกันตามไปด้วย บางคนอาจเหมาะกับการดูดเหนียง ในขณะที่บางคนอาจเหมาะกับการยกกระชับเหนียงก็เป็นได้ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินวิธีรักษาที่เหมาะสมเอง แล้วแต่ละปัจจัยทำให้เกิดได้อย่างไร เราไปดูรายละเอียดกันเลย!
ไขมันส่วนเกิน
การรับประทานอาหาร ในปริมาณที่เยอะกว่าที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน จะทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันไม่หมด และทำให้ไขมันดังกล่าว เข้าไปสะสมอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย เช่นหน้าท้อง, ต้นแขน, ต้นขา เป็นต้น ไม่เว้นแม้แต่เหนียงใต้คาง ซึ่งเหนียงที่เยอะขึ้น ยังเกิดได้จากการขยายตัวของเซลล์ไขมันได้อีกด้วย มันจะค่อย ๆ ใหญ่ขึ้นทีละนิด โดยที่เราไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีก็เจอกับปัญหาเหนียงเยอะไปซะแล้ว
ความหย่อนคล้อย
บริเวณใต้คางของเรา เป็นตำแหน่งที่มีการก้มและเงยอยู่เสมอ ทำให้ผิวบริเวณใต้คางขาดความยืดหยุ่น และมีความหย่อนคล้อยได้ เมื่อมีไขมันใต้คางร่วมด้วย ก็จะทำให้เหนียงดูชัดขึ้น นอกจากนี้ ความหย่อนคล้อยของเหนียงยังเกิดได้จากปัจจัยด้านอายุด้วย เนื่องจากร่างกายของคนเรา จะเริ่มผลิตคอลลาเจนน้อยลง เมื่ออายุ 25 ปีเป็นต้นไป เมื่อขาดการผลิตคอลลาเจน ผิวก็จะขาดความยืดหยุ่น กรอบหน้าที่เคยกระชับสวย ก็ค่อย ๆ หย่อนคล้อยลง
พฤติกรรมการใช้ชีวิต
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดเหนียงคอและเหนียงใต้คาง ก็มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราด้วยส่วนหนึ่ง เช่น การไม่ออกกำลังกาย, การลดน้ำหนักผิดวิธี, การก้มหน้าเงยหน้าบ่อย ๆ , ดื่มน้ำน้อย ดื่มแอลกอฮอล์เยอะ สูบบุหรี่บ่อย ๆ และการนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นต้น พฤติกรรมเหล่านี้ จะทำให้เกิดไขมันเหนียงขึ้นได้ง่าย อีกยังทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่นอีกด้วย
กล้ามเนื้อหย่อนคล้อย
บริเวณใบหน้าส่วนล่าง ตรงไปที่ลำคอ และยาวไปถึงบริเวณไหปลาร้า จะเป็นบริเวณที่มีกล้ามเนื้อ Platysma อยู่ ซึ่งกล้ามเนื้อส่วนนี้ จะเป็นกล้ามเนื้อที่คอยพยุงบริเวณใบหน้าส่วนล่างของเราไว้ เมื่ออายุเราเพิ่มขึ้น กล้ามเนื้อ Platysma ก็คล้อยตัวลงตามไป ประกอบกับแรงโน้มถ่วงของโลก ก็จะทำให้ส่วนนี้หย่อนคลงมา เลยทำให้เราดูมีเหนียงเยอะ แม้จริง ๆ แล้วเราจะมีไขมันใต้คางไม่เยอะก็ตาม กรณีนี้ อาจจะรักษาด้วยการผ่าตัดยกกระชับกล้ามเนื้อแทน
กรอบหน้าที่สวยตามหลัก Nefertiti
หากใครสงสัยว่ากรอบหน้าที่สวยและ Perfect เป็นยังไง ก็ต้องขอตอบว่าเป็นแบบเนเฟอร์ติตินี้แหละ! หลายคนอาจไม่รู้ว่ากรอบสวยคมชัดที่ใคร ๆ อยากมีแท้จริงแล้วได้แรงบันดาลใจมารูปหน้าของเนเฟอร์ติติ (Nefertiti) ราชินีของอียิปต์ ที่โดดดังในเรื่องของความงามและคอที่ยาวระหง จนทำให้การแพทย์ได้มีการนำเรฟของกรอบหน้าแบบเนเฟอร์ติติมาใช้ในการปรับรูปหน้า ยกหน้า รวมทั้งในการดูดไขมันเหนียงคออย่างในปัจจุบันด้วย
โดยลักษณะของกรอบหน้าที่สวยตามแบบฉบับ Nefertiti มีดังนี้
- แนวกรอบหน้าชัด สันกรามคม
- ไม่มีไขมันสะสมที่ใต้คางหรือรอบกรอบหน้า
- ต้นคอกระชับ ไม่เหี่ยวย่น

วิธีลดเหนียงทำยังไงได้บ้าง
เมื่อได้เข้ามาปรึกษา แพทย์จะประเมินให้ว่าในเคสของคนไข้แต่ละรายนั้น เหนียงเกิดจากอะไร โดยจะมีการแนะนำวิธีการรักษา ที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละคน หากเป็นเคสที่มีไขมันเหนียงเยอะ ก็สามารถทำการดูดไขมันบริเวณเหนียงได้ แต่ถ้าเป็นเคสที่มีความหย่อนคล้อยร่วมด้วย การดูดเหนียงเพียงอย่างเดียว อาจจะไม่ได้เห็นผลชัดเจนตามที่ต้องการนัก แพทย์อาจแนะนำให้ยกกระชับเหนียงร่วมด้วย
นอกจากนี้ การปรับพฤติกรรมการกิน และการออกกำลังกายใบหน้าส่วนล่าง ก็สามารถช่วยลดเหนียงใต้คางได้ โดยการลดเหนียงจะแบ่งเป็น 2 การรักษาครับ คือ วิธีลดเหนียงแบบไม่ผ่าตัด และวิธีลดเหนียงแบบผ่าตัด
วิธีลดเหนียงแบบไม่ต้องผ่าตัด
ฉีดแฟต ฉีดลดเหนียง
สำหรับคนที่เลือกการฉีดแฟตลดเหนียง มักจะเป็นเคสที่เคยผ่านการฉีดลดเหนียงมากแล้ว (เช่น การฉีดเมโสแฟต) แต่ไม่ได้ผล (หากเป็นเคสที่มีเหนียงเยอะ) และไม่ว่าจะไปฉีดกี่คลินิก หรือจะฉีดซ้ำหลาย ๆ ครั้ง ก็ยุบลงไปนิดเดียวแล้วก็กลับมาใหม่ ดังนั้น การฉีดแฟตลดเหนียง ก็ไม่ได้ทำให้เหนียงลดลงไปจริง ๆ ทำแล้วไม่เห็นผล เหมือนกับเราเสียเงินไปเปล่า ๆ ทั้งนี้ ก็ต้องผ่านการประเมินจากแพทย์ด้วยว่าเรามีเหนียงเยอะแค่ไหน เหมาะสำหรับการดูดไขมันลดเหนียง หรือ ฉีดลดเหนียงมากกว่ากัน
นวดกระชับเหนียง
นวดกระชับเหนียง สลายไขมันเหนียง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลาย ๆ คนเคยลองมาแล้ว เป็นการใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ สร้างพลังงานความร้อน และส่งความร้อนลงไปที่ใต้ผิว เพื่อทำให้กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และผิวจะค่อย ๆ กระชับตัวลง การนวดกระชับเหนียง มีข้อดีคือไม่ต้องมีแผล ไม่ต้องพักฟื้น มีความปลอดภัย ส่วนข้อเสียคือ ใช้เวลานานกว่าเหนียงจะมีขนาดเล็กลง และถ้าเลือกใช้เครื่องนวดกระชับที่ผิด อาจทำให้เกิดปัญหาผิวไหม้ได้ โดยเฉพาะเครื่องนวดที่มีราคาถูก
AccuTite ยกกระชับเหนียงพร้อมสลายไขมัน
AccuTite เทคโนโลยีที่ช่วยกระชับผิวพร้อมสลายไขมันได้ในหนึ่งเดียว โดยตัวเครื่องจะมีหัวอุปกรณ์ 2 แบบที่ทำงานไปพร้อมกันในเครื่องเดียว หัวแรกจะเป็นชนิดแบนระนาบอยู่กับผิวชั้นนอก ซึ่งอาศัยหลักการใช้คลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency Assisted Lipolysis หรือ RFAL) ส่งพลังงานในอุณหภูมิที่เหมาะสมและคงที่ ลงไปที่ชั้นผิวหนังลึก ส่งผลให้เส้นใยใต้ผิวหนัง Fibro Septal Network หรือ FSN หดตัวและกระชับยิ่งขึ้น ทำให้ผิวหนังบริเวณที่เคยหย่อนคล้อย กลับมาตึงกระชับได้ทันที
นอกจากนี้ เครื่อง AccuTite ยังมีหัวอุปกรณ์ที่เป็นหัวทู่ที่มีขนาดเล็กมาเพียง 0.9 มม. ที่จะถูกสอดเข้าไปที่ชั้นใต้ผิวหนัง ซึ่งจะช่วยทำการสลายไขมันได้อีกด้วย เหมาะกับเคสที่มีไขมันสะสมที่เหนียงใต้คาง หลังทำจะให้ผลลัพธ์ทั้งการลดไขมันใต้เหนียงและกระชับผิวให้ตึงขึ้น ทำให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น
สำหรับการทำ AccuTite จะเป็นการเปิดแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และหลังทำจะไม่ทิ้งรอยแผล ใช้เวลารักษาไม่นานเพียง 30 นาทีเท่านั้น และแทบจะไม่ต้องพักฟื้น รวมถึงหลังทำเพียง 2-3 วัน คนไข้ก็สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีลดเหนียงแบบไม่ต้องผ่าตัดที่เหมาะกับคนที่มีทั้งไขมันเหนียงใต้คาง และผิวหนังหย่อคล้อย
Morpheus8 ยกกระชับเหนียงให้ตึงกระชับ
Morpheus8 นวัตกรรมยกกระชับเหนียงแบบไม่ต้องผ่าตัด พร้อมแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ย้วย ยับ อย่างตรงจุดและไม่ทิ้งรอยแผล! เครื่อง Morpheus8 จะมีการปล่อยพลังงานความร้อนที่เกิดจากพลังงาน RF ผ่านเข็มทองคำขนาดเล็ก 24 เข็มลงไปที่ชั้นผิว สามารถปรับค่าพลังงานให้ลงลึกถึงชั้นผิวที่ต้องการได้อย่างเจาะจง ตั้งแต่ชั้นหนังแท้ไปจนถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ผลลัพธ์ที่ได้คือไขมันเหนียงใต้คางลดลง, คางสองชั้นบางลง, มีการกระตุ้นคอลลาเจนทำให้ผิวกระชับ, ฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวใหม่, แก้ปัญหาเรื่องรอยยับใต้คางได้ดี และช่วยปรับสภาพผิวให้สม่ำเสมอมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ปลอดภัยชัวร์! เพราะได้รับการรับรองจาก U.S. FDA ว่าเป็นเครื่องมือที่ลงลึกสู่ชั้นผิวได้มากที่สุด (Deepest FDA Approved Fractional Technology)
ลดเหนียงแบบผ่าตัด
ดูดไขมันเหนียง (Double Chin Liposuction)
ดูดไขมันสลายเหนียง เป็นวิธีลดเหนียงเร่งด่วนและตรงจุด ทำได้โดยการใช้เครื่องดูดไขมันเข้ามาช่วยในการแยกเซลล์ไขมัน (ในบางเคสที่มีเหนียงน้อยมาก แพทย์อาจไม่ได้เปิดเครื่องดูดไขมัน แต่จะเป็นการดูดด้วยแรงมือ (Manual Liposuction) แทน) ซึ่งเครื่องดูดไขมัน ก็สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มคือ เครื่องดูดไขมันพลังงานน้ำ (body-jet) และเครื่องดูดไขมันพลังงานความร้อน (Vaser Smooth 2.2, Ultra Z) เครื่องดูดไขมันทั้งสองแบบนี้ จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของราคาดูดไขมันเหนียง, ความเจ็บ, อาการหลังดูดไขมันหลัง และผลลัพธ์ที่ได้ด้วยเช่นกัน
เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet
ดูดไขมันเหนียง ด้วยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet (บอดี้เจ็ท) จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เจ็บน้อย บวมช้ำน้อย และพักฟื้นไม่นาน เพราะเครื่องดูดไขมัน body-jet จะใช้พลังงานน้ำ ในการสลายไขมันให้แตกตัวออกจากกันอย่างอ่อนโยน เซลล์ไขมันที่เคยเกาะกันเป็นกลุ่ม จะค่อย ๆ แยกออกมา และถูกดูดออกมาอย่างนุ่มนวล สำหรับเคสที่ดูดไขมันพลังน้ำ ในตำแหน่งใหญ่ ๆ เช่น ดูดไขมันหน้าท้อง ดูดไขมันเอวเอส หรือดูดไขมันต้นขา และได้ไขมันมาในปริมาณที่มากขึ้น สามารถเอาไขมันไปเติมส่วนอื่นต่อได้ อย่างปลอดภัย และติดทนนาน
เครื่องดูดไขมัน Vaser Smooth 2.2
Vaser Smooth 2.2 (เวเซอร์) เป็นเครื่องดูดไขมันเวเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุด มีพลังความร้อนที่สูง จึงสามารถทำลายเซลล์ไขมันได้มาก โดยใช้เวลาไม่นาน ซึ่งเหนียงเป็นตำแหน่งเล็ก ๆ จึงไม่ได้นิยมใช้เครื่องดูดไขมันเวเซอร์นัก โดยเครื่องเวเซอร์ จะใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ ในการสร้างความร้อน และใช้ในการสลายไขมันให้ตายไป Vaser Smooth 2.2 เหมาะกับการดูดไขมันหน้าท้อง, ดูดไขมันต้นแขน, ดูดไขมันต้นขา, ดูดไขมันเอวเอส, ดูดไขมันหลัง และเคสที่มีชั้นไขมันหนา ๆ อาทิคนตัวใหญ่ หรือเคสดูดไขมันผู้ชาย เป็นต้น
เครื่องดูดไขมัน Ultra Z
Ultra Z (อัลตร้าซี) เป็นเครื่องดูดไขมันพลังความร้อนจากประเทศเกาหลี ที่ใช้พลังคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์มาช่วยในการสลายไขมัน เครื่อง Ultra Z จะมีพลังงานที่ต่ำกว่าเครื่องดูดไขมัน Vaser จึงเหมาะกับเคสที่มีปริมาณไขมันไม่เยอะมาก (มีชั้นไขมันบาง) อย่างเคสคนไซซ์เล็ก เป็นต้น
เครื่องดูดไขมันพลังงานกล MicroAire
MicroAire เป็นเครื่องดูดไขมันระบบสั่น โดยจะใช้พลังงานกลมาช่วยเบาแรงแพทย์ระหว่างดูดไขมัน (Power-Assisted Liposuction) บางแห่งจึงเรียกเครื่องมือนี้ว่า MicroAire PAL นั่นเอง ซึ่งเครื่องนี้จะไม่มีการใช้พลังงานน้ำหรือพลังงานอื่น ๆ เพื่อทำให้เกิดพลังงานความร้อนเลย จึงทำให้เหมาะกับการดูดไขมันในตำแหน่งเล็ก ๆ และบริเวณที่ดูดออกได้ยากหรือมีพังผืดเยอะ อย่างการดูดไขมันแผ่นหลัง ดูดไขมันน่อง ดูดไขมันหนอกหลังคอหรือเหนียง เป็นต้น
เครื่องยกกระชับสัดส่วน J Plasma
J Plasma (เจพลาสมา) เป็นเครื่องกระชับสัดส่วน เทคโนโลยีใหม่จากอเมริกา ช่วยยกกระชับเหนียงให้เรียบตึง ผิวเฟิร์มกระชับอย่างตรงจุด เหมาะกับเคสที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเป็นทุนเดิม หรือผิวย้วยหลังดูดไขมันเหนียง เนื่องจากในบางเคส การสวมผ้ารัดเหนียงหรือการนวดกระชับสัดส่วนอาจไม่เพียงพอ แพทย์จึงแนะนำให้มีการมีการกระชับผิวด้วย J Plasma ร่วมด้วย นอกจากเหนียงจะกระชับแล้ว ยังช่วยลดอาการข้างเคียงหลังดูดไขมันได้ดีด้วย ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บ, ความบวม, ความช้ำ หรือการฟื้นตัวของร่างกายก็ตาม
AMARA Before & After Gallery
Real Story จากลูกค้าดูดไขมันเหนียง AMARA

เทคนิคดูดไขมันเหนียง
ทีมแพทย์ AMARA ที่ให้บริการดูดไขมันจะมีการออกแบบสัดส่วนก่อน วางแผนว่าควรดูดไขมันจากจุดไหนเท่าไหร่ และจะดูดไขมันในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ดูดไขมันใต้คางออกมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาคลื่นบุ๋ม หรือใบหน้าดูไม่เท่ากันได้ รวมถึงไม่ดูดไขมันใต้คางออกน้อยเกินไปด้วย เพราะอาจจะทำให้ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงได้
- ดูดไขมันใต้คางออกมา ในปริมาณที่พอดี
- เปิดแผลเล็ก ลดความเสี่ยงที่จะเกิดคีลอยด์
- เสียเลือดน้อย ฟื้นตัวเร็ว และปลอดภัย
- เลือกได้ว่าจะใช้ยาชา หรือวางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์
- ดูดไขมันเหนียงใต้คางเท่านั้น ไม่ดูดไขมันบริเวณกรอบหน้า หากไม่มีการพูดคุยกับคนไข้ก่อน เพราะบริเวณใบหน้ามีเส้นประสาทมาก ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะทำให้ใบหน้าบิดเบี้ยวได้ หากแพทย์ดูดไขมันผิดจุด หรือไม่เชี่ยวชาญ
ดูดไขมันเหนียง ผิวจะย้วยไหม?
ดูดเหนียงมาแล้ว อาจจะมีปัญหาเหนียงย้วยได้ หากไม่ทำตามที่แพทย์แนะนำ เช่น ทำกระชับเหนียง, สวมผ้ารัดเหนียง อย่างน้อย 22 ชั่วโมงต่อวัน หรือการนวดกระชับหลังดูดไขมันเป็นต้น สำหรับเคสใดที่มีปัญหาเหนียงหย่อนคล้อยมาก แพทย์จะแนะนำให้กระชับเหนียงด้วย J Plasma แต่ถ้าคนไข้ไม่สะดวกทำ การนวดกระชับและสวมที่รัดหน้า ก็สามารถช่วยให้เหนียงกระชับขึ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่จะใช้ระยะเวลาที่นานขึ้นกว่าเหนียงจะเข้าที่ และไม่ได้เฟิร์มกระชับขึ้นไปอย่างการใช้ J Plasma
หลังดูดไขมันลดเหนียง บวมกี่วัน
หลังดูดไขมันเหนียง จะมีอาการบวมจากการอักเสบใต้ผิว เพราะเส้นเลือดฝอยขนาดเล็ก ได้ถูกทำลายไประหว่างดูดไขมัน จึงทำให้ในช่วง 1-3 วันแรก จะมีอาการบวมมาก ให้คนไข้ดูแลตัวเองหลังดูดไขมันตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อให้อาการบวมลดน้อยลง และเข้าที่ไว อาทิ การกินยาลดบวม, การสวมที่รัดเหนียง หรือการนวดกระชับเหนียง เป็นต้น นอกจากอาการบวมแล้ว เรายังอาจเจอกับอาการฟกช้ำได้อีกด้วย ซึ่งอาการฟกช้ำนี้จะไม่เป็นอันตรายใด ๆ จะค่อย ๆ เปลี่ยนจากสีแดงอมม่วงเข้ม ๆ เป็นสีเขียวเหลือง และค่อย ๆ จางหายไปภายในไม่กี่วัน
ผลลัพธ์หลังทำอยู่ได้นานไหม?
โดยปกติแล้วผลลัพธ์ที่ได้หลังดูดไขมันเหนียง สามารถลดเหนียงใต้คางได้ในระยะยาว แต่ทั้งนี้ก็ยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนไข้ด้วยเช่นกัน หากมีการรับประทานอาหารเหมือนเดิม ไม่มีการออกกำลังกายเพิ่มเติม ไขมันใต้คางก็สามารถกลับมาสะสมเหมือนเดิมได้ง่าย ๆ นอกจากนี้ คนที่มีอายุมากแล้ว ระบบเผาผลาญของร่างกายจะทำงานน้อยลง ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะทำให้เหนียงกลับมาได้ (ทั้งนี้ การยกกระชับเหนียงด้วย J Plasma จะช่วยยืดเวลาที่เหนียงจะกลับมาออกไปได้)
ดูดไขมันเหนียง อันตรายไหม
ดูดไขมันเหนียงอันตรายไหม? ในปัจจุบันการดูดไขมันไม่มีความอันตรายใด ๆ หากอยู่ภายใต้การดูดไขมันกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ซึ่งในสมัยก่อน ที่การดูดไขมันแล้วเสียชีวิตเกิดขึ้นได้ เกิดจากการที่แพทย์ไม่มีเทคนิคดูดไขมันที่เหมาะสม, ไม่มีการใช้ยาชา หรือยาสลบ เพื่อระงับความเจ็บที่เกิดขึ้น, ไม่มีเครื่องดูดไขมันที่ช่วยให้ใช้เวลาดูดไขมันน้อยลง, ไม่มีห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ เป็นเพียงห้องธรรมดา รวมไปถึงนวัตกรรมต่าง ๆ ก็ล้าสมัย จึงทำให้การดูดไขมันมีความเจ็บปวดทรมาณ ติดเชื้อ และเสียเลือดมาก
แต่ในปัจจุบัน นวัตกรรมของวงการดูดไขมันได้ก้าวไกลมาจากอดีตมาก ทั้งเครื่องดูดไขมันที่ทันสมัย (body-jet, Vaser Smooth 2.2 หรือ Ultra Z เป็นต้น), มีเครื่องยกกระชับสัดส่วนที่ทำให้เห็นผลชัดเจนขึ้น (J Plasma), มีเทคนิคการดูดไขมันใหม่ ๆ , มีการใช้ยาชาและยาสลบอย่างปลอดภัย และมีห้องผ่าตัดที่ปลอดเชื้อได้ถึง 99.99% ทำให้การดูดไขมันไม่เจ็บอีกต่อไป เสียเลือดน้อยลง ไร้การติดเชื้อ ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ดี ไม่อันตรายแล้ว
ดูดไขมันเหนียง ที่ไหนดี?
ดูดไขมันเหนียง ที่ไหนดี?การดูดเหนียง เป็นหัตถการที่ทำบริเวณใกล้เคียงใบหน้าที่สุด ถ้าไม่อยากให้เกิดข้อผิดพลาดใด ๆ ก่อนตัดสินใจว่าจะลดเหนียงด้วยการดูดไขมันที่ไหนดี ให้พิจารณาและเลือกคลินิกดูดไขมันเหนียงที่มีความน่าเชื่อถือ, มีภาพรีวิวจากเคสจริง, แพทย์มีความเชี่ยวชาญด้านการดูดไขมัน, มีเครื่องดูดไขมันทันสมัย, มีห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐาน, มี After Care บริการ และความใส่ใจดูแลของเจ้าหน้าที่
นอกจากนี้ เราก็ควรหาข้อมูล สอบถามเพิ่มเติม และตรวจสอบให้แน่ชัดว่า คลินิกดูดไขมันที่เราเลือกมีมาตรฐานจริง ๆ อย่าเลือกคลินิกที่เน้นการดูดไขมันเหนียงราคาถูก แต่ควรเลือกคลินิกที่มีราคาเหมาะสม และเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก
สิ่งที่ต้องเช็คก่อนดูดไขมันหน้า เหนียง!
เคยไหม? ที่ตั้งใจจะเข้าไปดูดไขมัน แต่กลับเจอปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ เช่นราคาดูดเหนียงที่ไม่ตรงปก, เขียนราคานี้ แต่จ่ายจริงอีกราคานึง, เรียกเก็บเงินเพิ่มหลังทำเสร็จ, แจ้งว่ามีวิสัญญีแพทย์ในการให้ยาสลบ แต่จริง ๆ แล้วไม่มี (ทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้), เครื่องดูดไขมันที่ตกลงกัน กับเครื่องที่ใช้จริงไม่เหมือนกัน (เช่นใช้เครื่องอื่น แต่แจ้งว่าเป็นเครื่องเวเซอร์ เป็นต้น), ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีอย่างที่พูดคุยไว้, ห้องผ่าตัดที่ไม่ได้มาตรฐานอย่างที่โฆษณา (เช่นการบอกว่ามีระบบครบครัน แต่จริง ๆ แล้วไม่มีอะไรเลย) และอื่น ๆ อีกมากมาย
ปัจจุบันมีคลินิกดูดไขมันหลายแห่งให้เลือก แต่ละคลินิกก็จะมีการโฆษณาถึงข้อดีที่แตกต่างกันไป ซึ่งโฆษณาของคลินิกดูดไขมันมีอยู่หลายรูปแบบ บ้างก็โฆษณาถึงความจริงที่เกิดขึ้น บ้างก็โฆษณาเกินความเป็นจริง ทำให้เราหลงทางพลาดเข้าไปดูดไขมันเหนียงที่นั่น และเจอกับบรรดาปัญหาต่าง ๆ มากมาย ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น
ซึ่งจะดีกว่าไหม? ถ้าเรารู้เท่าทัน และสามารถสังเกตได้ด้วยตัวเองว่า คลินิกไหนพูดตามความเป็นจริง และได้มาตรฐานจริง ๆ บ้าง เรามาลองตรวจสอบข้อมูลตามลิสด้านล่างนี้ได้เลย!
- คลินิกดูดไขมันตั้งอยู่ในสถานที่ที่น่าไว้ใจ
- คลินิกดูดไขมันมีความน่าเชื่อถือ
- คลินิกดูดไขมันมีการให้ข้อมูลอย่างถูกต้อง
- คลินิกมีการทำทุกขั้นตอนตามมาตรฐานสากล
- แพทย์มีความเชี่ยวชาญจริง เป็นแพทย์จริง (สอบถามชื่อและนำไปตรวจสอบ)
- มีวิสัญญีแพทย์สำหรับให้ยาสลบจริง (สอบถามชื่อและนำไปตรวจสอบ)
- มีห้องผ่าตัดที่ปลอดเชื้อ และมาพร้อมด้วยระบบต่าง ๆ ครบครัน
- มีเครื่องดูดไขมันที่ทันสมัย และเครื่องมือที่เป็นรุ่นใหม่
- คลินิกสะอาด มีการฆ่าเชื้ออยู่ตลอดทั้งวัน
- มีการฆ่าเชื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ อย่างถูกต้อง
- ให้คำแนะนำที่ดี เต็มใจดูแล และให้บริการเต็มที่
- ยินดีช่วยเราแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
ทำไมต้องดูดไขมันเหนียงที่ AMARA Liposuction Center
ดูดไขมัน = AMARA เพราะเราคือที่ 1 ด้านการดูดไขมันและปรับสัดส่วนโดยเฉพาะ กว่า 95% ของคนไข้เราล้วนเป็นเคสดูดไขมัน จึงทำให้เอมาร่าเป็นคลินิกให้บริการดูดไขมันที่เคสเยอะที่สุด มีประสบการณ์มากกว่า 10,000+ เคส


ความน่าเชื่อถือสูง ตรวจสอบได้
- เราได้รับความไว้วางใจจากคนไข้กว่าหลายพันเคส
- ดูดไขมันเหนียงรีวิวเพียบ!! เรามีจำนวนเคสรีวิวดูดไขมันเยอะที่สุดในประเทศไทย
- ดู Before After เพิ่มเติม : รีวิวดูดไขมัน
- ดูรีวิวแบบเล่ารายละเอียดเคส เพิ่มเติม : แชร์ประสบการณ์ดูดไขมัน
มีเทคนิคดูดไขมัน
- แพทย์ดูดไขมันในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้รูปร่างออกมาสมส่วน
- แพทย์รู้ว่าควรดูดไขมันในจุดไหน ด้วยปริมาณเท่าไหร่ เพื่อให้พอดีกับแต่ละเคส
- ไม่ดูดไขมันออกมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาผิวคลื่นได้
- ไม่ดูดไขมันออกน้อยเกินไป เพราะอาจทำให้ไม่เกิดความเปลี่ยนแปลง
- เทคนิคซ่อนแผลดูดไขมัน และมีการเปิดแผลขนาดเล็ก
- เทคนิคดูดไขมัน Sexy Line 3D, ดูดไขมัน Six Pack 3D
- เทคนิคดูดไขมันเอวเอส 360° , เทคนิคดูดไขมันต้นแขนเรียวสวย
มีความทันสมัย
- เลือกใช้แต่เทคโนโลยีใหม่ที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรอง
- เลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น และเราไม่ลดมาตรฐานอย่างแน่นอน
- มีเครื่องมือหลากหลาย แพทย์เลือกใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละเคส
- Body-jet เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ Water-Assisted Liposuction (WAL)
- Vaser Smooth 2.2 เครื่องดูดไขมันพลังงาน Ultrasound-assisted Liposuction (UAL)
- Ultra Z เครื่องดูดไขมันที่เหมาะกับสาวไซซ์เล็ก
- J Plasma เครื่องกระชับสัดส่วนผิวอย่างตรงจุด
- Venus Legacy เครื่องนวดกระชับหลังดูดไขมัน เดรนน้ำเหลือง ผิวเรียบเนียน
มีห้องผ่าตัด มาตรฐานโรงพยาบาล
- ห้องผ่าตัดมาตรฐานเทียบเท่าห้องผ่าตัดโรงพยาบาลชั้นนำ
- ภายในห้องผ่าตัดมีระบบ เครื่องมือ อุปกรณ์ที่ครบครัน
- มีทีมวิสัญญีแพทย์วิชาชีพ และทีมพยาบาล คอยดูแลตลอดเคส
- ระบบ Clean Room กรองอากาศให้ปลอดเชื้อ
- ระบบควบคุมอากาศ, ควบคุมความดัน, ควบคุมความชื้น
- ระบบออกซิเจนไปป์ไลน์, ระบบสำรองไฟฉุกเฉิน
- ระบบระบายแก๊สส่วนเกิน, เครื่องดมยาสลบรุ่นใหม่
- อุปกรณ์ช่วยชีวิตฉุกเฉิน, ยาสำหรับกรณีฉุกเฉิน
- ประตูผนึกแน่น ป้องกันไม่ให้อากาศจากภายนอกผ่าตัดเข้ามา
เน้นความปลอดภัย และปลอดเชื้อ
- เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ จะได้รับการฆ่าเชื้อทั้งก่อนและหลัง
- ใช้เครื่องอบฆ่าเชื้อด้วยพลังความร้อน
- เราเลือกใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่ดีและมีราคาสูง เพื่อฆ่าเชื้อให้ได้เต็มที่
- วางยาสลบ อย่างปลอดภัย โดยวิสัญญีแพทย์วิชาชีพทุกเคส
- อ่านเพิ่มเติมเรื่อง : การวางยาสลบ
ดูแลเต็มที่ทุกขั้นตอน
- ยินดีให้ข้อมูล ให้คำแนะนำ และรายละเอียด
- ให้บริการด้วยใจทุกขั้นตอน ทั้งก่อนและหลังดูดไขมัน
- แพทย์มีการติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง
- มีบริการ After Care หลังดูดไขมันครบครัน
- บริการห้องพักฟื้นหลังดูดไขมัน ระดับ VVIP
- มีมื้อรับรองหลังดูดไขมัน และเซ็ตยาให้รับประทาน
- บริการทำความสะอาดแผลตัดไหม ที่คลินิกทุกวัน
- บริการนวดกระชับสัดส่วน บริการนวดสลายก้อนไตแข็ง
- บริการฉายแสง LED เพื่อลดอาการบวม และการอักเสบ
- บริการเลเซอร์ลดเลือนรอยแผล และฉีดลดคีลอยด์
- อ่านเพิ่มเติม : After Care หลังดูดไขมัน
ข้อแตกต่างดูดไขมันเหนียง กรอบหน้า AMARA กับที่อื่น
เพราะเรื่องไขมันคืองานถนัดของเรา…AMARA เราใส่ใจปัญหาส่วนเกินของคุณอย่างแท้จริง ตั้งแต่การประเมินปัญหาจนถึงขั้นตอนในการรักษา ที่นี่เราเน้นการมอบคุณภาพที่ดีที่สุดให้คุณ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดูดไขมันและเครื่องมือทางการแพทย์ที่เราเลือกใช้ ล้วนเป็นเครื่องที่เหมาะกับการดูดไขมันเหนียงโดยเฉพาะ
เพื่อแก้ปัญหาอย่างตรงจุด ผลลัพธ์สวยไว ไม่มีอาการแทรกซ้อน เราจึงมี After Care คุณภาพสูงที่พร้อมดูแลอาการหลังผ่าตัดอย่างที่ใครก็ไม่กล้าให้ เพราะเราคือคลินิกศัลยกรรมเพื่อความงาม ให้คุณได้เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่มั่นใจ
FAQs : ตอบทุกข้อสงสัยเรื่องดูดเหนียง
ผิวบริเวณเหนียงมีความบอกบางอาจรู้สึกเจ็บหลังดูดไขมัน แต่ในระหว่างทำจะไม่มีความเจ็บเนื่องจากแพทย์จะฉีดยาชาเพื่อระงับอาการเจ็บปวด
อาการบวมหลังดูดเหนียงจะค่อย ๆ หายไปในช่วง 2-3 วันหลังทำ โดยอาการบวมจะรุนแรงที่สุดคือช่วงวันแรกที่ทำ หากผ่านไป 7 วันแล้วอาการบวมไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์
ผลลัพธ์หลังดูดไขมันเหนียงจะเข้าที่ในช่วง 2-4 สัปดาห์หลังทำ แต่ทั้งนี้ในแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปตามเครื่องมือที่ใช้ อายุ ปริมาณไขมันที่ดูดออก และการดูแลหลังทำ
หากดูดไขมันเหนียงกับผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญ จะมีผลเสียที่รุนแรงเช่น มุมปากตก หรือ แพทย์ไปโดนเส้นประสาททำให้หน้าเบี้ยวได้
หลังดูดไขมันที่กรอบหน้าหรือเหนียง ไม่แนะนำให้นอนตะแคงในช่วง 1 สัปดาห์แรก ควรนอนหงายเพื่อให้ร่างกายอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดียิ่งขึ้น
หลังการดูดไขมันเหนียง ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารรสจัด อาหารที่มีไขมันสูง อาหารที่มีน้ำตาลสูง และอาหารที่มีเกลือสูง

สรุป
ใครที่กำลังมีปัญหาเหนียงออก มีคางสองชั้น หรือรู้สึกรำคาญไขมันใต้คางเวลาก้มหน้า ลองเข้ามาปรึกษา เพื่อประเมินกับแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการดูดไขมันได้ที่ AMARA Clinic ได้เลยฟรี! ค่าปรึกษาทุกเคส!! ยินดีให้คำปรึกษาอย่างตรงจุด ให้ข้อมูลละเอียด และวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมทุกเคส เราเน้นเรื่องความปลอดภัย มาตรฐาน และผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเป็นหลัก สอบถามจองคิวหรือนัดปรึกษาแพทย์แบบส่วนตัวได้ที่ช่องทางติดต่อตามด้านล่างนี้
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน
สาขาราชพฤกษ์
ติดต่อสอบถามได้ที่ : 062-789-1999
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic