“ดูดไขมันหน้าท้อง” เทคนิค Advanced LipoSculpt 4D
ดูดไขมันหน้าท้อง ดีไหม? ราคาเท่าไหร่? เหมาะกับใครบ้างและมีอาการแทรกซ้อนอะไรที่คุณต้องรู้ก่อนตัดสินใจ วันนี้หมอไอซ์ AMARA พร้อมพาทุกคนไปทำความใจเรื่องการดูดไขมันที่หน้าท้องให้ดียิ่งขึ้น พร้อมเคล็ดลับในการเลือกคลินิกดูดไขมันให้ได้ทั้งความสวยและปลอดภัย เพราะหากเลือกทำในคลินิกที่ไม่มีความพร้อมจะก่อให้เกิดอาการแทรกซ้อนได้ – หมอไอซ์ แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน-เติมไขมันประจำ AMARA Liposuction Center
แต่ก่อนจะไปดูลึกถึงขั้นตอนการดูดไขมันลดหน้าท้อง หมออยากแนะนำให้คุณทำความเข้าใจถึงสาเหตุของปัญหาพุง และไขมันหน้าท้องทั้ง 2 ส่วนที่ทำให้เกิดส่วนเกินกันก่อนนะครับ รู้แล้วจะถึงบางอ้อเลยว่าทำไมพุงเราป่อง ลดยาก หรือ ลดแล้วดูไม่เฟิร์ม
ดูดไขมันหน้าท้องคืออะไร?
ดูดไขมันหน้าท้อง (Abdominal Liposuction) คือการกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องด้วยการใช้พลังงานจากเครื่องดูดไขมันในการสลายไขมัน ช่วยลดพุง ลดหน้าท้องป่อง หน้าท้องยื่น และแก้ปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อย สามารถทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ด้วยการเปิดแผลขนาด 3 มม. แล้วใส่สารน้ำ Tumescent เข้าไปเพื่อขยายไขมันใต้ชั้นผิวหนัง หลังจากนั้นแพทย์จะใช้เครื่องดูดไขมันในการสลายไขมัน ก่อนที่จะดูดออกมาผ่านหัวดูดไขมัน (Cannulas) ทำให้หน้าท้องแบนราบลงทันที
วิธีนี้จะช่วยลดพุงได้อย่างตรงจุด และเห็นผลรวดเร็วทันทีหลังทำเสร็จ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างร่องหน้าท้องและซิกแพกได้อีกด้วย โดยราคาดูดไขมันหน้าท้องมีตั้งแต่ราคาหลักพันจนถึงหลักหมื่น ซึ่งคิดราคาต่างกันไปตามคุณภาพของเครื่องมือที่ใช้และประสบการณ์ของแพทย์
ดูดไขมันลดพุงเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมหน้าท้องเยอะ อยากลดหน้าท้องเร่งด่วน รวมทั้งผู้ที่ออกกำลังกายแล้วร่องหน้าท้องไม่ชัด เป็นต้น แต่ทั้งนี้การดูดไขมันบริเวณหน้าท้องเป็นการผ่าตัดรูปแบบหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงและต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและวิสัญญีแพทย์ ก่อนตัดสินใจดูดไขมันบริเวณหน้าท้องจึงต้องศึกษารายละเอียดให้ดี
ดูดไขมันหน้าท้อง ผู้ชาย Vs. ผู้หญิง ต่างกันไหม?
ปกติแล้ว กล้ามเนื้อหน้าท้องของผู้หญิงและผู้ชายจะมีความแตกต่างกัน รวมไปถึงสัดส่วนโดยรอบเช่น เอว ปีกหลัง ก็จะมีความโค้งเว้าที่ไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ ถ้านับเรื่องสัดส่วนในอุดมคติตามหลักกายวิภาคศาสตร์ก็จะทำให้การดูดไขมันบริเวณหน้าท้องของผู้ชายและผู้หญิงต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ดูดไขมันหน้าท้องผู้หญิง
แนวทางการดูดไขมันเพื่อปรับสัดส่วนหน้าท้องของผู้หญิง จะเน้นความโค้งเว้าของหน้าท้อง เอว และปีกหลัง ให้มีความนุ่มนวลและอ่อนโยน โดยการดูดไขมันสำหรับผู้หญิงจะเน้นการใช้เครื่องมือที่พลังงานไม่แรง เพราะไขมันผู้หญิงจะมีความหนาแน่นน้อย ส่วนใหญ่มักใช้ Body-Jet, UltraZ, MicroAire และ BodyTite Pro
ดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย
แนวทางการดูดไขมันเพื่อปรับสัดส่วนหน้าท้องของผู้ชาย จะเน้นความหนักแน่น ความคมของหน้าท้อง เอว สีข้าง และปีกหลัง ให้มีความกระชับ คมเข้ม กล้ามเนื้อแต่ละมัดมีความชัดเจน โดยส่วนใหญ่จะใช้เครื่อง Vaser Smooth 2.2 เป็นหลัก เนื่องจากความหนาแน่นของไขมันผู้ชายจะมากกว่าผู้หญิง
ไขมันหน้าท้องใต้ชั้นผิวหนัง VS ไขมันในช่องท้อง ส่วนไหนดูดออกได้?
ไขมันส่วนเกินที่หน้าท้อง จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 แบบได้แก่ ไขมันในช่องท้อง และ ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งการลดไขมันส่วนเกินทั้งสองแบบสามารถลดได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะออกกำลังกายหรือคุมอาหาร แต่หากเป็นวิธีในทางการแพทย์จะแตกต่างออกไป
ไขมันในช่องท้อง
สามารถลดได้ด้วยการออกกำลังกายและคุมอาหารเท่านั้น ซึ่งถ้าไม่สามารถลดได้ด้วยตัวเอง ก็มีทางเลือกเชิงการแพทย์คือ การใช้ปากกาลดน้ำหนัก ซึ่งจะช่วยให้เราควบคุมความอยากอาหารได้ดี แต่ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะปากกาลดน้ำหนักจะต้องมีการปรับปริมาณให้เข้ากับร่างกาย เหมาะใช้ลดน้ำหนักในระยะสั้นเท่านั้น ไม่แนะนำให้ซื้อมาฉีดเอง ไม่แนะนำให้ใช้ระยะยาว เพราะผลข้างเคียงค่อนข้างรุนแรง
ไขมันใต้ชั้นผิว
สามารถลดด้วยการออกกำลังกายและคุมอาหารได้เช่นกัน ทว่าจะต้องใช้เวลานาน และอาจลดได้ไม่หมด นำไปสู่การแก้ปัญหาทางการแพทย์คือ การดูดไขมันออก ช่วยปรับสัดส่วนหน้าท้องที่มีไขมันส่วนเกินได้ตรงจุดกว่า
ดูดไขมันหน้าท้องช่วยกระชับหน้าท้องให้เฟิร์มได้ไหม?
ส่วนการกระชับผิวหน้าท้อง สามารถแก้ได้ด้วยการทำยกกระชับ เช่น กระชับหน้าท้องด้วย J-Plasma เนื่องจากผิวที่หย่อนคล้อยเกิดจากการสูญเสียความยืดหยุ่นของผิว ซึ่งมาจากเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสติน (FSN: Fibroseptal Network) ไม่แข็งแรง ไม่ยึดตัวกันแน่น ทำให้ผิวไม่กระชับ การดูดไขมันที่ท้องอย่างเดียวจะยังไม่ครอบคลุมปัญหานี้ หลายเคสจึงมีการทำยกกระชับผิวหน้าท้องร่วมด้วย
ซึ่งเครื่องมือทางการแพทย์ที่ถูกผลิตเพื่อนำมาแก้ปัญหานี้คือ J-Plasma ซึ่งจะส่งพลังงานฮีเลียมพลาสมาทำความร้อนให้กับผิวหนังจนเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินหดตัว จนผิวมีความกระชับมากขึ้น วิธีนี้สามารถทำร่วมกับการดูดไขมันได้ โดยไม่ต้องผ่าตัดซ้ำ
แต่สำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยของผิวหน้าท้องรุนแรงมาก ๆ เช่น คุณแม่หลังคลอด การใช้ J-Plasma จะไม่ช่วยเท่าไหร่นัก ในวางการแพทย์จึงมักแนะนำให้ทำการตัดหนังหน้าท้องจะได้ผลชัดเจนกว่า เนื่องจากเป็นการตัดผิวหนังที่หย่อนคล้อยออก แล้วเย็บผิวหน้าท้องส่วนที่เหลือเข้ามาติดกัน จะได้หน้าท้องที่กระชับตึงมากขึ้น
3 ขั้นตอนการดูดไขมันหน้าท้อง
ขั้นตอนในการดูดไขมันมีขั้นตอนที่สำคัญคือ การขยายพื้นที่ใต้ชั้นผิวหนังด้วยสารน้ำ Tumescent เพื่อให้มีความปลอดภัยในการดูดไขมัน หลังจากนั้นแพทย์จะทำการสลายไขมันหน้าท้องด้วยเครื่องดูดไขมันที่มีมาตรฐานสูง เมื่อแยกเซลล์ไขมันแล้วแพทย์จะทำการดูดไขมันออกมา
-
การใส่สารน้ำ Tumescent (ยาชา+อะดรีนาลีน)
เพื่อความปลอดภัยในการดูดไขมันและลดการบาดเจ็บของเส้นเลือดระหว่างดูดไขมัน จึงใส่สารน้ำ Tumescent เข้าไปที่บริเวณใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้พื้นที่ที่ดูดไขมันขยายใหญ่ขึ้น โอกาสที่เข็มดูดไขมันจะกระทบกับเส้นเลือดจึงน้อยลง
-
การสลายไขมันหน้าท้อง
หลังจากใส่สารน้ำแล้วแพทย์จะทำการสลายไขมันหน้าท้องด้วยเครื่องดูดไขมัน พลังงานที่ส่งออกไปจากตัวเครื่องจะช่วยแยกเซลล์ไขมันให้ออกจากกัน (เซลล์ไขมันของคนเรามีลักษณะคล้ายพวงองุ่นที่เกราะติดกัน) หากเลือกใช้เครื่องดูดไขมันที่มีความร้อนไขมันจะกลายเป็นน้ำมัน แต่หากใช้เครื่องดูดไขมันที่ไม่ใช่กลุ่มความร้อนไขมันจะยังคงมีชีวิตอยู่และนำไปเติมต่อได้
-
การดูดไขมัน
เมื่อแยกเซลล์ไขมันแล้ว แพทย์จะทำการดูดไขมันออกมา ทำให้บริเวณหน้าท้องที่เคยมีพุงอยู่ยุบตัวลงอย่างชัดเจน หลังจากดูดไขมันออกมาแล้วแพทย์จะทำการรีดน้ำออกและปิดแผลจนเสร็จขบวนการดูดไขมันตำแหน่งหน้าท้อง
ดูดไขมันหน้าท้อง พักฟื้นกี่วัน อาการแต่ละช่วงเป็นอย่างไร?
การดูดไขมันบริเวณหน้าท้องจะใช้เวลาในการพักฟื้น 7-14 วัน (ระยะเวลาอาจแตกต่างกันตามอายุ สภาพร่างกาย และการดูแลตัวเองของแต่ละคน) ซึ่งในช่วงระยะเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ต้องดูแลทั้งในเรื่องของความสะอาดแผล การทานอาหารที่มีประโยชน์ การงดออกแรงหน้าท้องหนัก ๆ แต่ยังสามารถออกไปทำงานได้ตามปกติ
ซึ่งในช่วงระยะเวลาของการพักฟื้นหลังดูดไขมันอสามารถย่นเวลาให้น้อยลงได้ด้วยการเลือกเครื่องดูดไขมันพลังงานที่ตรงกับปัญหา การดูดไขมันกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และการทำ After Care หลังผ่าตัดอย่างสม่ำเสมอ
อาการหลังดูดไขมันในแต่ละช่วง |
|
หลังดูดไขมันเสร็จทันที |
หลังดูดไขมันที่หน้าท้องเสร็จ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนเลยทันที |
หลังดูดไขมัน 7 วัน |
หลังดูดไขมัน 7 วันแรก จะยังคงมีความบวมช้ำตามตำแหน่งที่ดูดไขมันอยู่ |
หลังดูดไขมัน 3 สัปดาห์ |
หลังดูดไขมันบริเวณหน้าท้อง 3 สัปดาห์ ยังเป็นช่วงที่ต้องใส่ชุดกระชับ และในเคสที่ทำร่อง 11 ต้องมีการใส่โฟมเพื่อให้ร่อง 11 ที่ทำมีความสวยงาม จึงทำให้หน้าท้องมีรอยจากชุดกระชับ แต่จะค่อย ๆ จางลงไปได้เอง |
หลังดูดไขมัน 5 สัปดาห์ |
หลังดูดไขมันที่หน้าท้อง 5 สัปดาห์ ความบวมช้ำหายไปเกือบ 100% แต่ยังมีรอยแผลเล็กน้อย ระหว่างนี้ยังต้องมีการทำเลเซอร์และนวดกระชับ |
หลังดูดไขมัน 2 เดือนขึ้นไป |
หลังดูดไขที่มันหน้าท้อง 2 เดือนขึ้นไป ผลลัพธ์เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน หน้าท้องแบนราบ ไร้รอยแผล และรูปร่างมีมิติ จากการดูดไขมันแบบ Advanced LipoSculpt 4D |
ข้อดีของการดูดไขมันหน้าท้อง
การดูดไขมันหน้าท้อง ช่วยลดปัญหาพุง ปรับหน้าท้องให้แบนราบ และสามารถช่วยสร้างร่อง 11 หรือ Six pack ได้แบบเร่งด่วน โดยไม่ทิ้งแผลเป็นขนาดใหญ่ไว้ให้ต้องกังวล ทำให้ผู้ที่มีปัญหาส่วนเกินทั้งชายและหญิง มีรูปร่างที่ดีขึ้นได้ภายใน 7 วัน รวมทั้งยังช่วยแก้ไขปัญหาหน้าท้องที่ไม่กระชับให้เฟิร์มลีนขึ้นได้
- ลดไขมันส่วนเกินหน้าท้องได้ในทันที
- แก้ไขปัญหน้ารูปร่างไม่สมส่วน
- สร้างร่อง 11 และซิกแพกได้เสมือนจริง
- กระชับผิวหน้าท้องให้เฟิร์มขึ้น
- แผลดูดไขมันเล็ก 3-5 mm.
- เพิ่มความมั่นใจในการแต่งตัว
ดูดไขมันหน้าท้อง ข้อเสียมีอะไรบ้าง
การดูดไขมันหน้าท้อง ข้อเสียคือในเรื่องของอาการแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้หลังจากการผ่าตัด อาทิ อาการปวดบวมช้ำตามตัว อาการชา อาการวินเวียนศรีษะจากการใช้ยาสลบ รอยแผลที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัด และเสี่ยงต่อการเกิดก้อนแข็งก้อนไต (Seroma)
ดูดไขมันหน้าท้อง เหมาะกับใคร?
การดูดไขมันหน้าท้อง เหมาะกับคนที่มีปริมาณไขมันหน้าท้องค่อนข้างมาก ซึ่งสามารถเกิดได้ทั้งในคนที่รูปร่างอ้วนท้วมและคนหุ่นผอมบาง ทั้งนี้ สามารถพิจารณาเบื้องต้นได้ว่าตัวเองเหมาะกับการดูดไขมันบริเวณหน้าท้องหรือไม่ ด้วยปัจจัยต่อไปนี้
- เป็นคนที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่า 25 ขึ้นไป
- มีความต้องการลดสัดส่วนบริเวณหน้าท้องโดยเฉพาะ
- ต้องการแก้ปัญหาหน้าท้องย้วยจากการลดน้ำหนักหรือคลอดลูก
- ผู้ที่ลองลดไขมันด้วยตัวเองแล้ว แต่พุงไม่ยุบสักที
- ผู้ที่ต้องการเก็บสัดส่วนร่างกายให้ดูดีขึ้นกว่าเดิม
แม้การดูดไขมันบริเวณหน้าท้อง อ้วนหรือผอมก็สามารถทำได้ แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำได้เลยทันที เพราะการดูดไขมันมีการเปิดแผล ใช้ยาชา ยาสลบร่วมด้วย ซึ่งอาจส่งผลต่อร่างกายผู้เข้ารับบริการที่มีโรคประจำตัวบางชนิด ดังนั้น จึงต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไปจนถึงแพทย์ประจำตัว (หากมีโรคประจำตัว) ก่อนตัดสินใจเสมอ
รีวิวดูดไขมันหน้าท้อง ที่ AMARA
รีวิวดูดไขมันหน้าท้อง ก่อน-หลังจากห้องผ่าตัด OR
รีวิวดูดไขมันหน้าท้อง ก่อน-หลัง มุมภาพทางการแพทย์
รีวิวดูดไขมันหน้าท้องจากผู้ใช้บริการจริง ผลลัพธ์สุด Real ไม่มีตัดต่อ!
ดูดไขมันหน้าท้อง ที่ไหนดี?
การเลือกดูดไขมันหน้าท้อง ที่ไหนสักที่ถือเป็นเรื่องยาก เพราะอย่างที่เราต่างรู้กันดีว่ามีคลินิกเกิดใหม่มากมายให้คุณได้เลือกมากมาย แต่อะไรที่ทำให้ Amara Clinic กลายเป็นคลินิกอันดับ 1 ที่มีเคสดูดไขมันมากที่สุดในไทย นั่นเป็นเพราะคำว่า “จริงใจ” และ “คุณภาพ” ครับ
หมอต้องขอเล่าก่อนว่าหลายเคสที่เข้ามาดูดไขมันตำแหน่งหน้าท้องที่เอมาร่า มักเลือกไปปรึกษาที่อื่นมาก่อนเสมอ แต่สิ่งที่ทำให้หลายต่อหลายตัดสินใจมาเลือกที่เอมาร่า เป็นเพราะหมอเลือกที่จะให้คำปรึกษาที่จริงใจ ตรงไปตรงมา และคิดราคาอย่างสมเหตุสมผล
แน่นอนว่าเอมาร่าไม่ใช้คลินิกดูดไขมันที่ราคาถูกกว่าใคร แต่หมอมั่นใจว่าเราให้การดูแลทุกท่านได้ดีกว่าใครอย่างแน่นอนครับ เพราะที่ Amara Liposuction Center (เอมาร่าคลินิก) เราครบครันไปด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ห้องผ่าตัดขนาดใหญ่ที่ผ่านการรับรองจาก “กระทรวงสาธารณสุข” และมาตรฐานการให้บริการในระดับสากลรับรองโดย AACI
ในเรื่องของผลลัพธ์หลังดูดไขมัน เอมาร่าเราใช้หลักการ Liposculpture & Liposuction (ดูดไขมันพร้อมเหลาสัดส่วน) ที่ช่วยทั้งในเรื่องของการสลายไขมันส่วนเกิน พร้อมสร้างมิติให้กับหน้าท้อง ทำให้คุณมีหน้าท้องที่มั่นใจ ดูเป็นธรรมชาติ และสวยงามในทุกมิติ
มีความกังวลเรื่องไขมันที่หน้าท้อง นึกถึง
“AMARA Liposuction Center (เอมาร่าคลินิก)”
เครื่องมือ “ดูดไขมันหน้าท้อง” แบบไหนดี ?
การดูดไขมันกำจัดพุงโดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ คือ การดูดแบบทิ้ง และการดูดแบบเติม ซึ่งวิธีการดูดไขมันสองแบบนี้จะมีการใช้เครื่องมือที่แตกต่าง เครื่องที่มักใช้ดูดทิ้งจะสามารถเลือกเครื่องแบบไหนก็ได้ แต่สำหรับเครื่องดูดเติมจะต้องเลือกเครื่องพลังงานน้ำ ดูรายละเอียดด้านล่างกันเลยครับ
เครื่องดูดไขมันทิ้ง
การดูดไขมันแบบทิ้ง จะเป็นวิธีดูดไขมันที่ใช้เครื่องดูดไขมันที่มีพลังงาน RF หรือพลังงานกลในการสลายไขมันให้แตกตัวกลายเป็น “น้ำมัน” ทำให้ไขมันที่ดูดออกมากลายเป็นของเหลว ซึ่งเซลล์จะไม่มีชีวิต ไม่สามารถนำไปเติมต่อได้ จึงต้องเอาไปทิ้งสถานเดียวเท่านั้นครับ
เครื่องดูดไขมันที่ใช้สำหรับวิธีดูดไขมันแบบทิ้ง
- Vaser Smooth 2.2 ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ สลายไขมันเร็ว เยอะ เหมาะกับคนหน้าท้องใหญ่ ผู้ชายมีพุง
- Ultra Z ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ สลายไขมันได้อย่างรวดเร็ว เหมาะกับคนหน้าท้องไม่ใหญ่มาก
- MicroAire PAL ใช้พลังงานกลในการสร้างแรงสั่นสะเทือนจนทำให้ไขมันแตกตัว สลายไขมันได้ดีในตำแหน่งที่เข้าถึงยาก
- BodyTite Pro สลายไขมันด้วยพลังงาน RF พร้อมยกกระชับผิว เหมาะกับคนที่มีไขมันหน้าท้องไม่เยอะ และมีผิวย้วยไม่มาก
เครื่องดูดไขมันแบบเติม
การดูดไขมันบริเวณหน้าท้องแบบนำไปเติมต่อ คือการสลายไขมันด้วยเครื่องดูดไขมันพลังงานน้ำ เพื่อให้คงความสมบูรณ์ของเซลล์ไขมันไว้หรือทำให้ไขมันยังมีชีวิตอยู่ ไขมันที่ได้จะยังไม่กลายเป็นน้ำมัน จึงนำไปเติมไขมันในส่วนที่ขาดต่อได้ เช่น เติมไขมันหน้า เติมหน้าอก เติมก้นเด้ง และเติมน้องสาว เป็นต้น
เครื่องดูดไขมันที่ใช้สำหรับวิธีดูดไขมันแบบเติม
Body-Jet เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ หรือ Body-Jet เป็นเครื่องดูดไขมันที่ถือเป็นฮีโร่ของคนที่อยากสวย-หล่อสองต่อมาก ๆ ครับ เพราะด้วยการสลายไขมันที่อ่อนโยน ใช้พลังงานน้ำในการแยกเซลล์ไขมันออกจากกัน ทำให้ได้ไขมันที่มรีคุณภาพพร้อมนำไปเติมต่อ นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการบวมช้ำหลังการดูดไขมันได้มากกว่าการดูดไขมันด้วยเครื่องพลังงานสูงที่ก่อให้เกิดความร้อน
ดูดไขมันหน้าท้องต้องเตรียมตัวอย่างไร?
การเตรียมตัวสำหรับคนที่ดูดไขมันภายใต้การวางยาชา
การเตรียวตัวในเคสดูดไขมันหน้าท้องกรณีที่เลือกยาชา ผู้เข้ารับบริการจะยังรู้สึกตัวและรับรู้ได้อยู่ ดังนั้น จึงไม่ได้มีความเสี่ยงสูงเท่าการวางยาสลบ แต่จะต้องเตรียมตัวตามข้อปฎิบัติดังนี้
- พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง
- รับประทานอาหารเช้า ก่อนมาคลินิก 3 ชั่วโมง
- งดดื่มกาแฟ ชา น้ำอัดลม ในวันดูดไขมัน
- สวมเสื้อผ้าหลวม ๆ มีสีเข้ม และใส่สบาย ๆ
- มีญาติ หรือเพื่อนมาด้วย ห้ามขับรถกลับเอง
การเตรียมตัวสำหรับคนที่ดูดไขมันภายใต้การวางยาสลบ
เคสที่ดูดไขมันหน้าท้องแบบวางยาสลบ จะต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะอาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ หากไม่ปฎิบัติตัวตามคำแนะนำ โดยเฉพาะการดื่มน้ำ ชา กาแฟ หรือสูบบุหรี่ ก่อนผ่าตัด 8 ชั่วโมง ที่มีความอันตรายเพราะระหว่างดูดไขมัน สิ่งที่อยู่ในกระเพาะอาหาร อาจสำลักเข้าสู่ปอด และทางเดินหายใจได้ นอกจากนี้ยังทำให้ต้องเลื่อนเวลาผ่าตัดดูดไขมันพุงออกไปด้วย
- พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง
- งดอาหาร และเครื่องดื่มทุกชนิด ก่อนดูดไขมันอย่างน้อย 8 ชั่วโมง
- งดสูบบุหรี่ทุกชนิด ก่อนดูดไขมันอย่างน้อย 8 ชั่วโมง
- สวมเสื้อผ้าหลวม ๆ มีสีเข้ม และใส่สบาย ๆ
- ไม่ใส่เครื่องประดับทุกชนิด และฟันปลอม
- ล้างสีเล็บมือ และตัดเล็บให้สั้น 1 นิ้ว
- แจ้งให้แพทย์ทราบหากมีฟันโยก
- มีญาติ หรือเพื่อนมาด้วย ห้ามขับรถกลับเอง
แผลดูดไขมันหน้าท้องมีกี่จุด
โดยส่วนใหญ่ การดูดไขมันบริเวณหน้าท้อง มักจะต้องเก็บสัดส่วนบริเวณอื่น ๆ ร่วมด้วยเพื่อความสมจริง ซึ่งตำแหน่งที่มักทำเพิ่มบ่อย ๆ คือ เอวและปีกหลัง ทำให้บางครั้งจะมีการเปิดแผลจุดอื่นนอกเหนือจากแผลสำหรับดูดบริเวณหน้าท้องด้วย ได้แก่
- ใต้ราวนมหรือขอบบรา 1-2 จุด สำหรับสลายไขมันช่วงหน้าท้องบน
- ใต้ขอบบิกินี่ 1-2 จุด สำหรับสลายไขมันช่วงหน้าท้องล่าง
- บริเวณสะดือ 1 จุด สำหรับสลายไขมันหน้าท้องและเอว
- ใกล้รักแร้ข้างละ 1 จุด สำหรับสลายไขมันบริเวฯปีกหลัง
ทั้งนี้ การกำจัดไขมันหน้าท้องแต่ละครั้ง ไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมดก็ได้ แพทย์จะพิจารณาแนวทางการดูดไขมันแบบเคสต่อเคส ดังนั้น ผู้เข้ารับบริการแต่ละท่านที่มีปัญหาส่วนเกินไม่เหมือนกัน ก็จะต้องกำหนดตำแหน่งเพิ่มเติมไม่เหมือนกัน หรือบางคนทำหน้าท้องอย่างเดียวก็ถือว่าเพียงพอแล้วก็มีครับ
ดูดไขมันหน้าท้อง เจ็บไหม
การดูดไขมันหน้าท้องถือเป็นการผ่าตัดรูปแบบหนึ่ง จึง “ก่อให้เกิดความเจ็บแน่นอนครับ” แต่จะเจ็บแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันหน้าท้องของแต่ละเคส เครื่องดูดไขมันที่ใช้ เทคนิคของแพทย์ และการเลือกใช้ยาชา/ยาสลบครับ
ความเจ็บระหว่างกระบวนการจะมีการระงับด้วยการใช้ Tumescent , ยาชา และยาสลบเข้ามาช่วยอยู่แล้วครับ ในระหว่างคนไข้จะไม่รู้สึกถึงความเจ็บเท่าไหร่ครับ แต่หลังทำในตอนที่ฤทธิ์ยาต่าง ๆ เริ่มหมดแล้ว ความรู้ระบมและเจ็บตามจุดที่ดูดไขมันก็จะเกิดขึ้นมาครับ โดยเฉพาะในช่วง 1-3 วันแรกหลังทำครับ แต่ใครกลัวเจ็บมาก ๆ แบบนิดเดียวก็ทนไม่ได้แน่ ๆ หมอแนะนำว่าดูดไขมันบริเวณหน้าท้องแบบวางยาสลบเหมาะที่สุดครับ
10 วิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมันหน้าท้อง
- ใส่ชุดกระชับวันละ 22 ชม. และปลดคลายชุดกระชับ 30-60 นาที
- ทำแผลอย่างสม่ำเสมอ แนะนำให้ทำแผลด้วยยาฆ่าเชื้อ โดยทำความสะอาดและปิดผ้ากอซทุก 1-2 วันจนกว่าจะตัดไหม
- ควรเคลื่อนไหวร่างกายช้า ๆ ทุก 1-2 ชม
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง
- ควรรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ
- ดื่มน้ำไม่เกิน 1-1.5 ลิตรต่อวัน
- งดยาและอาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- เสริม Vitamin C, B Complex ให้กับร่างกาย
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย 1 เดือน
- หากมีไข้สูง แผลบวมแดง คลื่นไส้จนทานอาหารไม่ได้ มีแผลจากการใส่ชุดกระชับ แนะนำให้รีบมาพบแพทย์
การดูแลตัวเองหลังดูดไขมันถือเป็น 30% ที่จะช่วยให้หุ่นหลังดูดไขมันสวยได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดแผล สวมชุดกระชับหน้าท้อง การฉายแสง ทำเลเซอร์ และนวดกระชับ ทำให้อาการบวมช้ำหายไวขึ้น หุ่นเข้าที่เร็ว และลดภาวะแทรกซ้อนหลังการดูดไขมันหน้าท้อง ดังนั้น การดูแลตัวเองจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด และสามารถปฎิบัติตามข้อแนะนำดังกล่าว
ทำไมต้องเลือกดูดไขมันหน้าท้อง ที่ AMARA
- Amara Clinic เราเป็นศูนย์ดูดไขมัน เติมไขมัน และยกกระชับผิวเฉพาะทาง ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก AACI
- 95% ของเคสที่คลินิกเป็นการดูดไขมันและเติมไขมัน เจ้าหน้าที่ของเอมาร่าจึงมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้
- แพทย์เป็น KOL Trainer หรือ แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน-เติมไขมัน
- ทีได้รับการยืนยันว่าเป็นคลินิกที่มีจำนวนเคสดูดไขมันด้วยเครื่อง body-jet มากที่สุดในประเทศไทย (4ปีซ้อน)
- ห้องผ่าตัดความดันบวก Positive Pressure ขนาดใหญ่ ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
- เครื่องดูดไขมันมีครบทุกรุ่น ทุกพลังงาน ช่วยให้การปรับรูปร่างเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
- After Care ครบครันและมีคุณภาพที่สุด ดูแลอาการของคนไข้จนหุ่นเข้าที่สวย
- วางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ ดูแลแบบ 1:1 ทุกเคส
- รีวิวเยอะ มีภาพก่อน-หลังทำให้ดูจากคนไข้เคสจริง ไม่รีทัช!
- มีทีมดูแลหลังการขายที่เชี่ยวชาญ พร้อมให้การช่วยเหลือและให้คำปรึกษา
- การันตีผลงานหลังทำนาน 6 เดือน (เฉพาะเคสที่วางยาสลบ)
ดูดไขมันหน้าท้องต้องทำใน “ห้องผ่าตัดมาตรฐาน”
มีใบรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขถูกต้อง
ดูดไขมันท้องเทคนิค Advanced LipoSculpt 4D
ดูดไขมันท้องเทคนิค Advanced LipoSculpture 4D เป็นเทคนิคการดูดไขมันปั้นหุ่นเลียนแบบธรรมชาติ ที่เปลี่ยนการดูดไขมันแบบระนาบธรรมดา หรือ มุมมอง 2D ให้เป็นมิติ 4D ที่มีความนูนต่ำตามธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ โดยออกแบบตามหลักกายวิภาคและมีความสวยที่ตรงตามเพศวิถีของคนไข้แต่ละคน ซึ่งเทคนิคการดูดไขมันลดหน้าท้องรูปแบบนี้เป็น Signature ของที่ Amara Liposuction Center (ที่แรกและที่เดียวในไทยที่ทำเทคนิคนี้ได้) ปรับระนาบทั้ง 4 ของหน้าท้องให้มีมิติกว่าการดูดไขมันหน้าท้องแบบเก่า
- ระนาบซูพีเรีย: หน้าท้องบริเวณสะดือขั้นไปถึงขอบซี่โครง (T10)
- ระนาบกลางส่วนบน: ตั้งแต่ขอบล่างของ T10 ถึงรอบเอว (จุด W ที่อยู่ตรงสะดือ) โดยปกติจะอยู่ที่ระดับซี่โครงชิ้นล่างอันสุดท้าย
- ระนาบส่วนกลางตอนล่าง: จากจุด W ไปจนถึงกระดูกสันหลังอุ้งเชิงกรานด้านหน้า (ASIS) ตรงกระดูกสะโพก เอวจะเริ่มคอดจากตรงนี้
- ระนาบด้านล่าง: จากกระดูกสันหลังอุ้งเชิงกรานด้านหน้า ตามแนวเฉียงไปถึงเนินหัวหน่าว เป็นลักษณะสามเหลี่ยมคว่ำ
ผลลัพธ์การดูดไขมันหน้าท้องเคสผู้หญิง
จากรีวิวดูดไขมันหน้าท้องตามภาพด้านล่าง จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนทั้งในเรื่องของมิติรูปร่าง การเล่นของแสงและเงา ตลอดจนส่วนเว้าโค้งของหน้าที่สวยงามและสมดุลยิ่งขึ้น การดูดไขมันหน้าท้องเทคนิค Advanced LipoSculpt 4D จึงไม่ใช่
ผลลัพธ์การดูดไขมันหน้าท้องเคสผู้ชาย
สำหรับรีวิวหลังดูดไขมันหน้าท้องในเคสผู้ชาย จะมีความแตกต่างจากเคสผู้หญิงในเรื่องของความเว้าโค้ง เพราะต้องการให้ภาพลักษณ์ที่ได้มีความแข็งแรงและมีพลังของความเป็นชายสูง โดยจะเน้นการปั้นหุ่นให้มีกล้ามที่ดูเป็นธรรมชาติ
ดูดไขมันหน้าท้อง ราคาเท่าไหร่?
ราคาดูดไขมันหน้าท้องจะเริ่มต้นที่ 25,000 บาท สำหรับการดูดไขมัน 1 ตำแหน่ง และจะมีความแตกต่างกันตามเครื่องดูดไขมันที่ใช้ด้วย ที่ Amara Clinic จะคิดเป็นดูดไขมันราคาเหมาตำแหน่ง (บริเวณใหญ่) ไม่นับเป็นจุด แบ่งเป็นดูดไขมันพื้นที่ช่วงหน้าท้อง (บน+ล่าง) และดูดไขมันเอวเอส + ดูดไขมันปีกหลัง
ดูดไขมันหน้าท้อง ราคาเริ่มต้น 25,000 (อัปเดต 15/03/2024)
ตำแหน่งดูดไขมัน |
เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet |
เครื่องพลังความร้อน Vaser Smooth 2.2 , Ultra Z |
ดูดไขมันหน้าท้อง ราคา |
39,900 บาท |
25,000 บาท |
ดูดไขมันเอวเอส ราคา |
39,900 บาท |
25,000 บาท |
เพิ่ม ดูดไขมัน Sexy Line |
+ 10,000 บาท |
+ 10,000 บาท |
เพิ่ม ดูดไขมัน Six Pack |
+ 10,000 บาท |
+ 10,000 บาท |
หมายเหตุ: ราคาดังกล่าวเป็นราคาเริ่มต้น อาจมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันไปตามปัญหาและเครื่องมือที่ใช้
ดูดไขมันหน้าท้อง ราคาไม่แพง ความถูกที่อยู่บนความเสี่ยง!
ราคาเหมาจ่ายแค่ 5,000 ก็สวยจบ! พอเห็นคำโปรยโฆษณาแบบนี้ หมอขอเตือนให้ระวังให้ดี ๆ นะครับ เพราะว่าการดูดไขมันถือเป็นหัตถการที่มีต้นทุนสูงมาก ๆ ครับ แค่ค่าตัววิสัญญีแพทย์ก็เกิน 5,000 แล้วครับ ใครที่ไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยง หมอขอให้อ่านที่บทความนี้เพิ่มเติมได้เลยครับ “แฉกลโกงคลินิกดูดไขมัน”
การเลือกดูราคาดูดไขมันสลายไขมันหน้าท้อง จะต้องเช็กราคากลางของแต่ละคลินิกให้ดี แล้วลองเทียบดูว่าที่ ๆ คุณจะไปดูดไขมันนั้นมีราคาที่ต่ำเกินไปจนน่าสงสัยหรือไม่ คิดง่าย ๆ เลยว่าไม่มีธุรกิจไหนที่จะมาดูดไขมันอย่างดีด้วยราคาหลักพันแน่นอนครับ เพราะต้นทุกนั่นแสนแพงเกินว่าจะให้ราคาหลักพันได้จริง ๆ ครับ
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
FAQs
หลังดูดไขมันไปสามารถคงสภาพหุ่นนั้นไปได้อย่างถาวร แต่! ใช่ว่าจะเป็นแบบนั้นทุกเคสครับ เพราะคุณจะต้องมีการดูแลตัวเองทั้งในเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย ควบคู่ไปหลังจากดูดไขมันอย่างสม่ำเสมอด้วยครับ จึงจะมีหุ่นที่เสมือนเพิ่งออกจาก OR ไปยาว ๆ เลยครับ
ช่วงพักฟื้น 1 เดือนหลังดูดไขมัน หมอยังไม่อนุญาตให้ไปออกกำลังกายหรือเข้ายิมนะครับ เพราะจะทำให้บริเวณแผลที่เกิดจากการดูดไขมันเกิดอาการอักเสบหรือปริได้เลยครับ ยิ่งไปเพิ่มระยะเวลาในการพักฟื้นอดอวดหุ่นสวย ๆ ไปอีก
การออกกำลังกายหลังดูดไขมัน ไม่ว่าจะเล่นเวท ว่ายน้ำ ทำคาร์ดิโอ สามารถเริ่มทำได้หลังจากที่แผลหายดีแล้ว หุ่นเข้าที่ หากประมาณเวลาก็คือช่วง 2-3 เดือนหลังดูดไขมันนั่นเองครับ (เวลาอาจคาดเคลื่อนเล็กน้อยขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน)
ตัวอย่างคนไข้วินัยดี “คุณขมิ้น” หลังดูดไขมันไปเกือบ 2 ปี
หุ่นยังเฟิร์ม ลีน เซ็กซี่ไลน์ชัด ไม่มีตก!
เป็นคำถามที่หมอเคยได้ยินจากคนไข้มาหลายคนมาก ต้องอธิบายว่าการดูดไขมันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้นนะครับ ถ้าเราต้องการให้รูปร่างสวย ๆ อยู่กับเราไปนาน ๆ ไม่อยากให้มีไขมันสะสมเพิ่ม เราก็ต้องแก้ที่ต้นเหตุด้วย ซึ่งต้นเหตุก็คือพฤติกรรมการกินของเราที่ไม่เปลี่ยนไปจากเดิม ในบางเคสไม่มีการปรับไลฟ์สไตล์ ไม่มีการออกกำลังกาย ก็ทำให้ไขมันสามารถกลับมาสะสมได้ ดังนั้น หากต้องการให้หน้าท้องแบน เอวคอดนาน ๆ ต้องดูแลตัวเองหลังทำ ตามที่แพทย์แนะนำด้วย
สำหรับเคสคุณแม่หลังคลอด ที่ไม่ว่าจะคลอดธรรมชาติหรือผ่าคลอด ก็สามารถดูดไขมันลดสัดส่วนหน้าท้องได้ทั้งใน 2 กรณีนี้เลยครับ ซึ่งระยะเวลาที่คุณแม่จะเข้ามาดูดไขมันหน้าท้องได้ ควรเป็นช่วงที่คุณแม่ผ่านการให้นมบุตรเรียบร้อยแล้ว และร่างกายมีการฟื้นฟูตัวดีพร้อมสำหรับการผ่าตัดแล้วเท่านั้นครับ
ซึ่งผลลัพธ์หลังดูดไขมันในเคสของคุณแม่สามารถเกิดผิวย้วยหลังทำได้ จึงต้องมีการทำกระชับร่วมด้วยครับ โดยแนะนำทำยกกระชับด้วย J-Plasma ในเคสที่หน้าท้องย้วยปานกลางจะช่วยได้มากครับ ในเคสที่ย้วยไม่มากก็อาจเลือกใช้เป็น Morpheus8 แทนได้ครับ หรือในเคสที่ย้วยหนักรุนแรงหมอก็จะแนะนำให้ดูดไขมัน+ตัดหนังหน้าท้องแทนครับ
ทั้ง 2 อย่างมีจุดประสงค์ในการกำจัดไขมันส่วนเกินเหมือนกันครับ แต่ใช้วิธีการที่แตกต่างกัน การดูดไขมันเป็นการสลายไขมันด้วยเครื่องดูดไขมัน จะเปิดแผลเล็กแค่จุดละ 4-5 มิลเท่านั้นครับ แต่ในส่วนของการตัดไขมันหน้าท้องจะมีแผลที่ใหญ่กว่า แพทย์จะตัดผิวหนังส่วนที่เกินออกไปแทนการดูดไขมันออกครับ (อ่านเพิ่ม…ตัดไขมันหนังหน้าท้อง หรือ Tummy Tuck คืออะไร?)
เปรียบเทียบเคสดูดไขมันหน้าท้อง VS ตัดหนังหน้าท้อง
สรุป
สรุปได้ว่า การดูดไขมันหน้าท้อง ช่วยลดสัดส่วน ปรับรูปร่าง เสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเราได้นะครับ แต่ก็ต้องเข้ามาให้หมอประเมินให้ก่อนว่าสามารถดูดไขมันออกได้มากแค่ไหน และการดูดไขมันด้วยเครื่องอะไร เหมาะสมกับเราที่สุด Amara Clinic ดูดไขมันหน้าท้อง ราคาเริ่มต้น 25,000 บาท/ตำแหน่ง และบริการให้คำปรึกษาฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB
ติดต่อเบอร์โทร :
062-789-1999⇒ สาขา รัชโยธิน กด 1
⇒ สาขา ราชพฤกษ์ กด 2
นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)
KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet