เคล็ดลับการดูแลแผลผ่าตัดหน้าท้อง ฉบับหายไว ไร้รอยแผลเป็น

การดูแลแผลผ่าตัดหน้าท้อง

       การผ่าตัดหน้าท้องเป็นกระบวนการทางการแพทย์มีจุดประสงค์เพื่อตัดหนังส่วนเกิน การดูแลแผลหลังผ่าตัดหน้าท้อง ให้หายไวและลดรอยแผลเป็นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยและความสวยงาม ในบทความนี้หมอมะปราง AMARA จะมานำเสนอเคล็ดลับการดูแลแผลผ่าตัดหน้าท้องที่ถูกต้อง เพื่อเป็นแนวทางในการเตรียมพร้อม สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นค่ะ

เคล็ดลับการดูแลแผลผ่าตัดหน้าท้อง

เคล็ดลับที่ 1 ขั้นตอนการดูแลแผลเบื้องต้น ไม่ให้ติดเชื้อ!


       การดูแลแผลผ่าตัดหน้าท้อง วิธีแรกคือการดูแลแผลไม่ให้ติดเชื้อ เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดเลยค่ะ เพราะหากเราละเลยไม่ดูแลแผลให้สะอาดตลอดเวลาแล้ว โอกาสที่เชื้อโรคจะเข้าสู่แผลและทำให้ติดเชื้อก็ยิ่งสูง ซึ่งนำไปสู่การเกิดอาการแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิต! แต่อันตรายจะไม่เกิดหากเราดูแลแผลอย่างถูกวิธี เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ทำไม่ยาก ดังนี้ค่ะ

  1. การทำความสะอาดแผล

    หลังจากผ่าตัดหน้าท้องช่วง 7 – 14 วันแรกต้องระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ อับชื้น หรือโดนสิ่งสกปรก แพทย์อาจปิดแผลด้วยพลาสเตอร์ปิดแผลแบบกันน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้แผลเสี่ยงติดเชื้อจากภายนอก แต่เมื่อนำพลาสเตอร์ปิดแผลออกและตัดไหม (ถ้ามี) เรียบร้อยแล้ว ให้ทำความสะอาดบริเวณแผล 2-3 ครั้งต่อวัน โดยใช้สำลีชุบน้ำเกลือล้างแผล (โซเดียมคลอไรด์) ที่มีแอลกอฮอล์ 70% หรือน้ำยาล้างแผลอื่น ๆ มาเช็ดทำความสะอาด และซับแผลให้แห้งอย่างเบามือ

  2. การเปลี่ยนผ้าพันแผล

    กรณีที่แผลผ่าตัดมีของเหลวหรือเลือดไหลออกมา จำเป็นต้องทำการเปลี่ยนผ้าพันแผลหรือผ้าก๊อซปิดแผล สามารถไปคลินิกเพื่อความสะดวกได้ หรือจะเปลี่ยนเองก็ได้เช่นกัน โดยอย่างแรกต้องล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาด ถอดผ้าพันแผลโดยระวังไม่ให้มือโดนแผลและโดนด้านในของผ้าพันแผล จากนั้นซับแผลให้แห้งเบา ๆ ก่อนปิดผ้าพันแผลหรือผ้าก๊อซใหม่

สัญญาณเตือนเมื่อแผลผ่าตัดมีปัญหา

แม้จะป้องกันและดูแลแผลผ่าตัดหน้าท้องอย่างดีแล้ว ก็ยังมีโอกาสเสี่ยง ‘ติดเชื้อ’ มาจาก 2 สาเหตุหลักคือ 1) แบคทีเรียหรือจุลินทรีย์เข้าสู่บาดแผล และ 2) ภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอ แผลติดเชื้อเสี่ยงอันตรายได้เพราะอาจกระจายไปยังเนื่อเยื่อทำให้เกิดการอักเสบ หรืออาจลุกลามเข้าสู่กระแสเลือดเป็นอันตรายถึงชีวิต! ดังนั้น ควรหมั่นเช็กลักษณะแผลอยู่เรื่อย ๆ และหากมีอาการเหล่านี้ควรรีบปรึกษาแพทย์

อาการแผลติดเชื้อ

  • มีเลือดหรือหนองไหล
  • แผลมีสีคล้ำและขนาดใหญ่หรือลึกขึ้น
  • แผลมีกลิ่นเหม็น
  • มีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียล นานกว่า 4 ชั่วโมง
  • ผิวหนังใกล้บาดแผลอุ่นและบวมขึ้น
  • รู้สึกปวดแผลมาก

เคล็ดลับที่ 2 ทานอาหารถูกอย่าง แผลหายไว


       อาหารมีบทบาทสำคัญในการฟื้นตัวจากการผ่าตัดหน้าท้อง เนื่องจากการเลือกทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสามารถช่วยเร่งกระบวนการสมานแผล เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนต่าง  ๆ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นฟูสุขภาพอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่อาหารบางอย่างก็ควรหลีกเลี่ยงเพราะอาจส่งผลด้านลบต่อแผลได้

  1. อาหารที่ควรทาน

    อาหารเป็นแหล่งฟื้นฟูร่างกายและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ร่างกายมีบาดแผลหรือผ่านการผ่าตัด การได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนจะช่วยเร่งการสร้างเซลล์ใหม่ เสริมสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในการสมานแผล และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยป้องกันการติดเชื้อและลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ทำให้แผลหายเร็วขึ้นและร่างกายกลับมาแข็งแรงได้อย่างรวดเร็วค่ะ โดยอาหารที่ควรทาน ได้แก่
    – น้ำเปล่า : 8 – 10 แก้ว/วัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นเซลล์ผิวหนังให้แผลสมานได้ไว
    – โปรตีน : เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ (เช่น ไก่, เนื้อปลา), ไข่, ถั่วต่างๆ
    – แคลเซียม : นม, โยเกิร์ต
    – วิตามินซี : ผักใบเขียว (เช่น ผักโขม, ผักคะน้า, บรอกโคลี), ผลไม้รสเปรี้ยว (เช่น ส้ม, มะนาว, กีวี)
    – สังกะสี : อาหารทะเล เช่น หอยนางรม, ปู, กุ้ง
    – ไขมันดี : น้ำมันมะกอก, น้ำมันรำข้าว, น้ำมันถั่วลิสง, น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันงา, ถั่วเปลือกแข็ง

  2. แผลผ่าตัดห้ามกินอะไรบ้าง

    แผลผ่าตัดห้ามกินอะไรบ้าง ? การเลือกรับประทานอาหารมีผลอย่างมากต่อกระบวนการหายของแผล ก่อนทานอาหารบางประเภทต้องเช็กให้ชัวร์ว่าเป็น ‘ของแสลง’ สำหรับการผ่าตัดหรือไม่ เพราะอาจส่งผลให้แผลหายช้า อักเสบ ติดเชื้อ หรือมีภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย โดยอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังผ่าตัดห้ามกินอะไรบ้าง? ดังนี้ค่ะ

  • อาหารแปรรูป
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • เครื่องดื่มคาเฟอีน
  • อาหารหมักดอง
  • อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ
  • อาหารเผ็ดร้อน
  • อาหารรสจัด
  • อาหารไขมันสูง
  • ขนมหวาน
  • ของทอด

ต้องการปรึกษาแพทย์ฟรี!

SCan OR Code เพื่อแอดไลน์ หรือ

062 - 789 -1999

สาขา รัชโยธิน กด 1
สาขา ราชพฤกษ์ กด 2

เคล็ดลับที่ 3 งดสูบบุหรี่


       การดูแลแผลผ่าตัดหน้าท้อง อย่างที่ 3 คือการงดสูบบุหรี่ เพราะสารในบุหรี่มีฤทธิ์ขัดขวางการหายของแผล ทำให้แทนที่จะหายไวกลับใช้เวลานานกว่าแผลจะสมานกัน โดยควรงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพราะผู้ที่สูบบุหรี่มีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ โดยสารสำคัญในบุหรี่ที่กระทบต่อการหายของแผลมี 3 อย่างด้วยกัน คือ

  • นิโคติน (Nicotine) สารนี้ทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงผิวหนังหดตัว ทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงไม่เพียงพอจนแผลหายช้า
  • คาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon monoxide) สารนี้จะไปจับกับฮีโมโกลบินในเลือด ทำให้เลือดนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้น้อยลง รวมถึงบริเวณแผลด้วย ทำให้แผลหายช้า 
  • สารอนุมูลอิสระ (Free Radical) สารเหล่านี้จะไปทำลายเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย รวมถึงเซลล์ที่ช่วยในการสมานแผล ทำให้แผลหายยากขึ้น และอาจเกิดการอักเสบได้ง่าย

เคล็ดลับที่ 4 ออกกำลังกายเบา ๆ ฟื้นฟูแผลให้หายดี


       การออกกำลังกายเบา ๆ เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม หลายคนอาจคิดว่าการอยู่เฉย ๆ จะดีต่อการสมานตัวของแผล แต่ไม่ถูกต้องค่ะ เพราะการออกกำลังกายเบา ๆ จะกระตุ้นให้ร่างกายฟื้นตัว สร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้ดีกว่า ในทางกลับกันหลังผ่าตัดหน้าท้องควรหลีกเลี่ยงกายออกกำลังกายหนัก เพราะอาจทำให้แผลฉีก บวมช้ำ เพิ่มความเจ็บปวด และเสี่ยงติดเชื้อด้วย กิจกรรมที่ควรทำหลังผ่าตัดหน้าท้อง เช่น ยืดเหยียดแขน ขา คอ, การเดินเบา ๆ, การฝึกการหายใจลึก

เคล็ดลับที่ 5 ทานยาฆ่าเชื้อให้ครบ


       การใช้ยาฆ่าเชื้อหลังการผ่าตัดมักเป็นการป้องกันการติดเชื้อและการอักเสบที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของการผ่าตัดและคำแนะนำของแพทย์ การใช้ยาฆ่าเชื้อไม่ได้จำเป็นในทุกกรณี แต่หากแพทย์สั่งให้ใช้ยา ควรทานให้ครบตามระยะเวลาที่กำหนดแม้ว่าแผลจะดีขึ้นแล้ว เพราะการหยุดใช้ยาก่อนกำหนดอาจทำให้เชื้อที่เหลือมีโอกาสพัฒนาเป็นเชื้อดื้อยาในอนาคต ซึ่งจะทำให้การรักษาในภายหลังยากขึ้นและอาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่รุนแรงได้

เคล็ดลับที่ 6 เทคนิคการลดรอยแผลเป็น

       การลดเลือนรอยแผลเป็นจากการผ่าตัดเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพกายแล้ว ยังส่งผลต่อความมั่นใจในตนเองอีกด้วย การรักษารอยแผลเป็นนั้นมีความซับซ้อนและขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นขนาดและความลึกของแผล ตำแหน่งของแผลบนร่างกาย รวมถึงการตอบสนองของผิวหนังแต่ละบุคคล ซึ่งแตกต่างกันไปตามพันธุกรรมและสุขภาพโดยรวม วันนี้หมอได้รวบรวมวิธีลดรอยแผลเป็นที่ได้รับความนิยมไว้ให้แล้วค่ะ

  1. ใช้ครีมหรือเจล

    ครีมหรือเจลลดรอยแผลเป็น เป็นตัวช่วยที่ดีในการลดเลือนรอยแผลเป็น เพราะมักมีส่วนผสมของซิลิโคน วิตามินซี วิตามินอี และส่วนประกอบอื่น ๆ ที่ล้วนมีส่วนช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดการอักเสบ และทำให้รอยแผลดูจางลง ต้องใช้อย่างต่อเนื่องและทาครีมกันแดดเพราะแสงแดดทำให้รอยแผลเข้มขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ครีมหรือเจลก็อาจไม่สามารถทำให้รอยแผลเป็นหายไปได้ทั้งหมด โดยผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล การดูแลแผลอย่างถูกวิธีควบคู่ไปกับการใช้ผลิตภัณฑ์จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

  2. นวด

    การนวดเป็นหนึ่งในวิธีที่หลายคนนำมาใช้เพื่อช่วยลดเลือนรอยแผลเป็น โดยหลักการทำงานของการนวดคือ ช่วยให้เนื้อเยื่อบริเวณแผลนุ่มขึ้น ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งจะช่วยให้รอยแผลเป็นจางลงและเรียบเนียนขึ้นได้ สามารถนวดแบบวงกลมคือนวดเบา ๆ เป็นวงกลมรอบรอยแผล หรือนวดแบบกดเบา ๆ ที่บริเวณรอยแผล หรือเป็นการนวดแบบดึงผิวเบา ๆ ในทิศทางต่าง ๆ ก็ได้เช่นกัน โดยนวดเป็นประจำทุกวันจะทำให้แผลเป็นนุ่มและจางลง

  3. ใช้แผ่นซิลิโคน

    แผ่นซิลิโคนเป็นที่นิยมใช้ในการดูแลแผลเป็น โดยเฉพาะแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์เนื่องจากมีคุณสมบัติในการช่วยให้แผลเรียบเนียน ลดอาการคัน รวมถึงสำหรับแผลที่ยังไม่นูน แผ่นซิลิโคนก็ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นบนผิวหนังบริเวณแผล ทำให้เซลล์ผิวสร้างคอลลาเจนได้อย่างสมดุล ลดโอกาสการเกิดแผลเป็นนูน โดยควรแปะไว้ตลอดเวลา เพียงแต่ถอดออกมาล้างแผลและทำความสะอาดแผ่นซิลิโคนบ้างระหว่างวัน ปกติแล้วใช้เวลาประมาณ 3 เดือน พบว่ากว่า 95% รักษาแผลเป็นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่บางรายอาจต้องใช้ร่วมกับการรักษาอื่น ๆ เช่น การทายา หรือการเลเซอร์ เป็นต้น

  4. การฉีดยาสเตียรอยด์

    การฉีดยาสเตียรอยด์ (Intralesional corticosteroid) มีฤทธิ์ลดการอักเสบและลดการผลิตคอลลาเจนส่วนเกิน โดยแพทย์จะฉีดยา Triamcinolone acetonide เข้าแผลโดยตรง ประมาณเดือนละ 1 ครั้ง ขึ้นอยู่กับว่ายาจะตอบสนองต่อแผลได้ดีแค่ไหนซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน แนะนำว่าให้ฉีดยาสเตียรอยด์ภายในระยะเวลา 1 ปีหลังการผ่าตัดหรือหลังจากที่แผลเริ่มนูน เนื่องจากแผลใหม่จะตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาสเตียรอยด์ได้ดีกว่าแผลที่มีอายุนาน

  5. รักษาด้วยเลเซอร์

    การกำจัดแผลเป็นด้วยเลเซอร์เป็นอีกหนึ่งวิธีในการดูแลแผลผ่าตัดหน้าท้อง โดยใช้เครื่อง Pico Laser ซึ่งรักษาแบบ Pico Resolve Laser เป็นเทคโนโลยีที่ปล่อยแสงเลเซอร์ลงสู่ชั้นผิวได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ช่วยกำจัดเม็ดสีเมลานินต่าง ๆ ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น แผลเป็นและรอยแตกลายจางลงอย่างมีประสิทธิภาพ ที่ AMARA ก็มีบริการผ่าตัดหนังหน้าท้อง พร้อมทั้งบริการดูแลหลังผ่าตัดหรือ After Care ที่ให้การดูแลแผลและรูปร่างหลังทำอย่างครบวงจร ช่วยให้คุณฟื้นตัวได้เร็วและผิวกลับมาดูดีอีกครั้ง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ การดูแลแผลผ่าตัดหน้าท้อง


       การดูแลแผลผ่าตัดหน้าท้องเป็นเรื่องสำคัญเพราะใครก็อยากฟื้นตัวเร็วและปลอดภัย นอกเหนือจากข้อมูลที่ให้ไปก่อนหน้านี้ หมอได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูแลแผลผ่าตัดหน้าท้องมาเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบข้อมูลส่วนอื่น ๆ และลดความกังวล มาดูกันว่ามีคำถามอะไรบ้างที่น่าสนใจค่ะ

แผลผ่าตัด หน้าท้อง กี่วันหาย ?

ใช้เวลา 4 – 8 สัปดาห์แผลถึงจะสมานกัน โดยปกติแล้วผิวหนังจะสมานตัวได้เร็ว แต่เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังใช้เวลานานกว่า เนื่องจากมีกระบวนการฟื้นตัวที่ซับซ้อนและต้องการการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทั้งนี้ การฟื้นตัวอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น อายุ สุขภาพทั่วไปของผู้ป่วย การดูแลแผลหลังการผ่าตัดหน้าท้อง รวมถึงการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ควรเว้นการอาบน้ำหลังผ่าตัด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้แผลเปียกน้ำและป้องกันการติดเชื้อ และไม่ควรแช่น้ำหรือลงสระว่ายน้ำอย่างยิ่งเพราะจะทำให้แผลนิ่มและผ้าพันแผลอาจหลุดได้ ควรอาบน้ำอย่างระมัดระวังไม่ให้น้ำโดนแผลหรือโดนให้น้อยที่สุด หลังอาบน้ำเสร็จให้เอาผ้าซับเบา ๆ ให้แห้งสนิท หลังจากนั้นเปลี่ยนผ้าพันแผลใหม่ถ้าจำเป็น

มีได้ค่ะ แต่ไม่แนะนำค่ะ แม้หน้าท้องของคนเราจะมีความยืดหยุ่นมากอยู่แล้ว แต่การผ่าตัดแล้วกลับไปตั้งครรภ์อีกรอบ ก็อาจจะทำให้หน้าท้องหย่อนคล้อยหลงคลอดเหมือนเดิม จึงจะกลายเป็นการผ่าตัดหนังหน้าท้องซ้ำซ้อนมากกว่า ดังนั้น จึงควรวางแผนการมีบุตรให้เรียบร้อยก่อนการผ่าตัดหน้าท้อง เพื่อหลีกเลี่ยงความจำเป็นในการผ่าตัดซ้ำ ซึ่งจะช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาวด้วยค่ะ

สรุป


       การดูแลแผลหลังผ่าตัดหน้าท้อง ให้หายไว้และห่างไกลการเสี่ยงติดเชื้อ ต้องอาศัยการทำความสะอาดแผลที่ถูกวิธี รวมทั้งปรับพฤติกรรมบางอย่าง ได้แก่ การทานอาหารที่ช่วยฟื้นฟูแผล, การงดสูบบุหรี่, การออกกำลังกายเบา ๆ นอกจากนี้ยังต้องปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัดในการทานยาฆ่าเชื้อ ส่วนเรื่องแผลเป็นนั้น สามารถแก้ได้หลายวิธีทั้งด้วยตัวเองและอาศัยเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งจะทำให้แผลผ่าตัดหน้าท้องมีลักษณะดีขึ้นได้

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่

ติดต่อเบอร์โทร : 

062-789-1999

สาขารัชโยธิน กด 1
สาขาราชพฤกษ์ กด 2

สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB

ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง

นพ. สุประกิต พรหมมาวัน (หมอเอ็ดดี้)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!