หากคุณกำลังเผชิญกับตุ่มแดงเล็ก ๆ คล้ายสิว ขึ้นตามร่างกายหรือใบหน้า อาจมีอาการคันหรือเจ็บร่วมด้วย นั่นอาจเป็นสัญญาณของ “รูขุมขนอักเสบ” ภาวะผิวหนังที่พบได้บ่อยและสร้างความรำคาญใจไม่น้อย บทความนี้ AMARA จะพาคุณไปทำความเข้าใจอย่างละเอียดถึงสาเหตุ อาการ วิธีการรักษาที่ถูกต้อง รวมถึงแนวทางการป้องกันเพื่อให้คุณมีผิวสุขภาพดี ห่างไกลจากปัญหานี้
รูขุมขนอักเสบคืออะไร?
รูขุมขนอักเสบ (Folliculitis) คือภาวะที่รูขุมขนเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ ซึ่งรูขุมขนเป็นช่องเล็ก ๆ ในผิวหนังที่เส้นขนงอกออกมา การอักเสบนี้มักแสดงอาการเป็นตุ่มแดงขนาดเล็ก หรือตุ่มหนองสีขาวเหลืองคล้ายสิว บริเวณรอบ ๆ รูขุมขน สามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกายที่มีขน เช่น ใบหน้า หนังศีรษะ หน้าอก หลัง แขน ขา หรือแม้แต่บริเวณหัวหน่าว
ประเภทของรูขุมขนอักเสบที่พบบ่อย
การแบ่งประเภทของรูขุมขนอักเสบสามารถจำแนกได้หลายแบบ โดยทั่วไปมักแบ่งตามความลึกของการอักเสบ ได้แก่
- รูขุมขนอักเสบระดับตื้น (Superficial Folliculitis) เป็นการอักเสบเฉพาะส่วนบนของรูขุมขน อาการมักไม่รุนแรง
- รูขุมขนอักเสบระดับลึก (Deep Folliculitis) ที่การอักเสบลึกลงไปถึงชั้นผิวหนังส่วนล่าง ทำให้เกิดอาการรุนแรงกว่าและอาจทิ้งรอยแผลเป็นได้
นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งตามสาเหตุของการเกิด เช่น รูขุมขนอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย รูขุมขนอักเสบจากเชื้อรา หรือรูขุมขนอักเสบที่เกิดจากการระคายเคือง เช่น จากการโกน เป็นต้น
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดรูขุมขนอักเสบ
การเข้าใจถึงต้นตอของปัญหาเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการดูแลและป้องกันรูขุมขนอักเสบ ต่อไปนี้คือปัจจัยหลัก ๆ ที่กระตุ้นให้เกิดภาวะนี้
1. การติดเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา
สาเหตุส่วนใหญ่ของรูขุมขนอักเสบเกิดจากการติดเชื้อ โดยเชื้อแบคทีเรียที่พบบ่อยที่สุดคือ Staphylococcus aureus ซึ่งปกติอาศัยอยู่บนผิวหนัง แต่เมื่อผิวหนังมีรอยถลอกหรือรูขุมขนถูกทำลาย เชื้อนี้ก็สามารถเข้าไปก่อให้เกิดการอักเสบได้ นอกจากแบคทีเรียแล้ว เชื้อรา เช่น กลุ่ม Malassezia (ทำให้เกิด Pityrosporum folliculitis มักพบบริเวณหน้าอกและหลัง) หรือเชื้อราในกลุ่ม Dermatophytes ก็เป็นสาเหตุของรูขุมขนอักเสบได้เช่นกัน
2. ปัจจัยกระตุ้นจากพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อม
พฤติกรรมการใช้ชีวิตและสภาพแวดล้อมบางอย่างก็มีส่วนสำคัญในการทำให้เกิดรูขุมขนอักเสบ เช่น การโกนหรือแว็กซ์ขน โดยเฉพาะการโกนที่ไม่ถูกวิธีหรือใช้ใบมีดที่ไม่คม ทำให้เกิดการระคายเคืองและขนคุด การสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป หรือเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ไม่ดี ทำให้เกิดความอับชื้นและการเสียดสีผิวหนัง การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือเครื่องสำอางบางชนิดที่ก่อให้เกิดการอุดตันหรือระคายเคืองรูขุมขน รวมถึงการแช่น้ำในอ่างน้ำร้อน หรือสระว่ายน้ำที่ไม่สะอาดเพียงพอ ก็อาจทำให้ได้รับเชื้อแบคทีเรีย และทำให้เกิดรูขุมขนอักเสบตามมาได้
3. ปัจจัยภายในร่างกายและภาวะสุขภาพ
ปัจจัยจากภายในร่างกายเองก็ส่งผลต่อการเกิดรูขุมขนอักเสบได้เช่นกัน เช่น ผิวหนังที่เสียหายจากการเกา มีบาดแผล หรือเป็นโรคผิวหนังอักเสบอยู่เดิม ทำให้เชื้อโรคเข้าไปได้ง่าย รวมถึงผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ติดเชื้อ HIV หรือผู้ที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป
นอกจากนี้ การใช้ยาบางชนิดเป็นเวลานาน เช่น ครีมสเตียรอยด์ หรือยาปฏิชีวนะบางกลุ่ม ก็อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดรูขุมขนอักเสบได้เช่นกัน
ลักษณะอาการของรูขุมขนอักเสบ
อาการของรูขุมขนอักเสบสามารถสังเกตได้ไม่ยาก โดยเริ่มแรกมักปรากฏเป็นตุ่มแดงเล็ก ๆ หรือตุ่มหนอง (Pustules) บริเวณรูขุมขน อาจมีลักษณะคล้ายสิวหัวขาวหรือสิวหัวหนอง บางครั้งตุ่มเหล่านี้อาจแตกออกและมีของเหลวไหลซึมหรือตกสะเก็ด
ผู้ป่วยอาจรู้สึกคัน ระคายเคือง หรือปวดแสบปวดร้อนบริเวณที่เป็น และเมื่อสัมผัสอาจรู้สึกเจ็บ ความรุนแรงและลักษณะของอาการอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความลึกของการอักเสบและตำแหน่งที่เกิด หากเป็นการอักเสบระดับตื้น ตุ่มมักมีขนาดเล็กและหายได้เอง แต่หากเป็นการอักเสบระดับลึก ตุ่มอาจมีขนาดใหญ่ขึ้น กลายเป็นฝี (Furuncle หรือ Boil) หรือฝีฝักบัว (Carbuncle) ซึ่งจะเจ็บปวดมากและอาจทิ้งรอยแผลเป็นไว้ได้
ตำแหน่งที่พบได้บ่อยคือ บริเวณที่มีการเสียดสี เหงื่อออกมาก หรือมีการโกนขน เช่น ใบหน้า (โดยเฉพาะในผู้ชายที่โกนหนวด) หนังศีรษะ คอ รักแร้ หน้าอก หลัง ก้น และขา รวมถึงบริเวณหัวหน่าว
วิธีรักษารูขุมขนอักเสบด้วยตนเอง
หากอาการรูขุมขนอักเสบไม่รุนแรง การดูแลตนเองเบื้องต้นสามารถช่วยบรรเทาอาการและทำให้หายเร็วขึ้นได้ โดยเน้นการรักษาความสะอาดบริเวณที่เป็นอย่างอ่อนโยน อาจใช้น้ำเกลืออุ่น ๆ หรือสบู่อ่อน ๆ ที่ไม่ระคายเคืองทำความสะอาดวันละ 2 ครั้ง ซับให้แห้งเบา ๆ การประคบอุ่นด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นประมาณ 15-20 นาที วันละ 3-4 ครั้ง สามารถช่วยลดการอักเสบและช่วยให้หนองระบายออกได้ง่ายขึ้น
สิ่งสำคัญคือ ควรหลีกเลี่ยงการเกา บีบ หรือเค้นตุ่มอักเสบ เพราะอาจทำให้การติดเชื้อลุกลามและเกิดรอยแผลเป็นได้ รวมถึงงดการโกนขนหรือการกระทำใด ๆ ที่จะสร้างความระคายเคืองเพิ่มเติมบริเวณนั้นจนกว่าอาการจะดีขึ้น
เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์
แม้ว่ารูขุมขนอักเสบส่วนใหญ่จะอาการไม่รุนแรงและสามารถดูแลเองได้ แต่มีบางสถานการณ์ที่คุณควรพิจารณาไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม เช่น
- อาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงหลังจากดูแลตัวเองเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
- ตุ่มอักเสบมีขนาดใหญ่ขึ้น เจ็บปวดมาก หรือกลายเป็นฝี
- การอักเสบลุกลามไปยังบริเวณอื่นอย่างรวดเร็ว
- มีอาการไข้ร่วมด้วย
- เป็นซ้ำบ่อยครั้ง แม้จะพยายามดูแลป้องกันแล้ว
- มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีโรคประจำตัวที่อาจทำให้การติดเชื้อรุนแรงขึ้น
วิธีรักษารูขุมขนอักเสบทางการแพทย์
เมื่อการดูแลตัวเองเบื้องต้นไม่เพียงพอ หรืออาการเข้าข่ายที่ควรพบแพทย์ แพทย์ผิวหนังอาจพิจารณาแนวทางการรักษาดังต่อไปนี้ เพื่อควบคุมการติดเชื้อ ลดการอักเสบ และป้องกันการเกิดซ้ำ
1. การใช้ยารักษาและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
แพทย์อาจสั่งจ่ายยาทาเฉพาะที่ เช่น ครีมหรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะ (เช่น Mupirocin, Clindamycin) เพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย หรือยาต้านเชื้อรา (เช่น Ketoconazole, Clotrimazole) ในกรณีที่เกิดจากเชื้อรา
หากการอักเสบ หรือการติดเชื้อค่อนข้างรุนแรง หรือกระจายเป็นวงกว้าง อาจจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะหรือยาต้านเชื้อราชนิดรับประทาน นอกจากนี้ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้สบู่ยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ หรือครีมที่มีส่วนผสมของ Corticosteroid อย่างอ่อนเพื่อช่วยลดอาการคันและการอักเสบในระยะสั้น
2. การระบายหนอง
ในกรณีที่รูขุมขนอักเสบพัฒนาไปเป็นฝีขนาดใหญ่และมีหนองสะสมอยู่ภายใน แพทย์อาจจำเป็นต้องทำการเจาะและระบายหนองออก เพื่อช่วยลดความเจ็บปวด ลดการอักเสบ และทำให้แผลหายเร็วขึ้น การทำหัตถการนี้ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสภาวะปลอดเชื้อเพื่อป้องกันการติดเชื้อเพิ่มเติม
3. การทำเลเซอร์กำจัดขน
สำหรับผู้ที่มีปัญหารูขุมขนอักเสบเรื้อรัง หรือเป็นซ้ำบ่อย ๆ โดยเฉพาะชนิดที่เกิดจากการโกน หรือขนคุด การทำเลเซอร์กำจัดขนถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการลดการเกิดซ้ำ โดยเลเซอร์จะทำลายรากขน ทำให้ขนที่ขึ้นใหม่น้อยลง เส้นบางลง หรือไม่ขึ้นอีก จึงช่วยลดโอกาสที่รูขุมขนจะอักเสบจากการกำจัดขน หรือการอุดตัน
รูขุมขนอักเสบกี่วันหาย
ระยะเวลาในการฟื้นตัวจากรูขุมขนอักเสบนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความรุนแรงของอาการ ประเภทของการติดเชื้อ สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย และการรักษาที่ได้รับ โดยทั่วไปแล้ว รูขุมขนอักเสบระดับตื้นที่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจเริ่มดีขึ้นภายในไม่กี่วันและหายสนิทภายใน 1-2 สัปดาห์ ส่วนในรายที่มีอาการรุนแรง เป็นการอักเสบระดับลึก หรือมีการติดเชื้อที่ดื้อยา อาจต้องใช้เวลารักษานานหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน และจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด
เราสามารถป้องกันรูขุมขนอักเสบได้หรือไม่?
เราสามารถลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดรูขุมขนอักเสบได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและดูแลสุขอนามัยอย่างถูกวิธี ลองปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้
- อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังจากการออกกำลังกายหรือเมื่อมีเหงื่อออกมาก เพื่อชำระล้างเหงื่อไคลและแบคทีเรีย
- ใช้สบู่อ่อน ๆ ที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และหลีกเลี่ยงการขัดถูผิวแรงเกินไป
- ซับผิวให้แห้งด้วยผ้าขนหนูที่สะอาด และไม่ใช้ผ้าเช็ดตัวหรือของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
- หากจำเป็นต้องโกนขน ควรล้างผิวด้วยน้ำอุ่นและสบู่ก่อน จากนั้นใช้ครีมหรือเจลโกนขนทาให้ทั่ว
- โกนตามแนวขน (ไม่ใช่ย้อนแนวขน) และใช้ใบมีดที่คมและสะอาด เปลี่ยนใบมีดบ่อย ๆ
- พิจารณาวิธีกำจัดขนอื่น ๆ ที่อาจลดการระคายเคือง เช่น การใช้ครีมกำจัดขน หรือการทำเลเซอร์กำจัดขน
- สวมใส่เสื้อผ้าที่หลวมพอดีตัว ทำจากเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย เพื่อลดการเสียดสีและความอับชื้น
- หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่นเป็นเวลานาน โดยเฉพาะขณะออกกำลังกาย
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางที่ปราศจากน้ำมัน (Oil-free) และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic)
ต้องการปรึกษาแพทย์ฟรี!

SCan OR Code เพื่อแอดไลน์ หรือ
สาขา รัชโยธิน กด 1
สาขา ราชพฤกษ์ กด 2

สรุปบทความ
รูขุมขนอักเสบเป็นภาวะผิวหนังที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่การติดเชื้อไปจนถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน แม้จะสร้างความไม่สบายตัวและกระทบต่อความมั่นใจ แต่โดยส่วนใหญ่มักตอบสนองดีต่อการดูแลตนเองและการรักษาที่เหมาะสม การทำความเข้าใจถึงสาเหตุ อาการ และวิธีการป้องกัน จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีความน่ากังวล การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเป็นทางเลือกที่ดี เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง เพื่อผิวสุขภาพดีที่คุณปรารถนา
