วิธีสร้าง Self-Esteem ฉบับเข้าใจง่าย เพิ่มความมั่นใจจากภายในสู่ภายนอก

วิธีสร้าง Self-Esteem ฉบับเข้าใจง่าย

เคยไหมที่รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง ไม่กล้าแสดงออก หรือมักเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นจนรู้สึกด้อยค่า? ความรู้สึกเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณว่าระดับการเห็นคุณค่าในตนเอง หรือ Self-Esteem ของคุณกำลังต้องการการดูแล หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น อยากรู้สึกมั่นใจและรักตัวเองมากขึ้น บทความนี้คือคำตอบ เพราะเราจะพาไปรู้จักวิธีสร้าง Self-Esteem อย่างเป็นขั้นตอน เข้าใจง่าย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้คุณได้จริง ๆ ตั้งแต่ภายในความคิดไปจนถึงการแสดงออกภายนอก โดยไม่ต้องพึ่งพาการเปลี่ยนแปลงทางศัลยกรรมเพียงอย่างเดียว

Self-Esteem คืออะไร ?

Self-Esteem หรือการเห็นคุณค่าในตนเอง คือความรู้สึกที่เรามีต่อตัวเอง เป็นการประเมินค่าและความสามารถของตนเองโดยรวม มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกชอบตัวเองผิวเผิน แต่เป็นการยอมรับนับถือในคุณค่าพื้นฐานที่เรามี ไม่ว่าเราจะประสบความสำเร็จ หรือล้มเหลวก็ตาม

คนที่มี Self-Esteem ที่ดี จะเข้าใจว่าตัวเองมีค่า มีความสามารถ และสมควรได้รับสิ่งดี ๆ ในชีวิต โดยไม่จำเป็นต้องรอการยอมรับจากภายนอก หรือเปรียบเทียบตัวเองกับมาตรฐานของใคร มันคือความเชื่อมั่นในตัวเองที่มาจากภายในอย่างแท้จริง ซึ่งแตกต่างจากความเย่อหยิ่งหรือหลงตัวเอง แต่เป็นความรู้สึกสงบและมั่นคงในคุณค่าของตน

ข้อดีของการมี Self-Esteem สูง

การมี Self-Esteem ที่ดีเปรียบเสมือนรากฐานที่แข็งแกร่งของชีวิต นำมาซึ่งประโยชน์หลายด้าน ได้แก่

  • ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น : กล้าที่จะสื่อสารความต้องการของตัวเองอย่างเหมาะสม สร้างความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมและดีต่อสุขภาพ ลดการพึ่งพิงทางอารมณ์จากผู้อื่น
  • การตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว : มีความมั่นใจในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตมากขึ้น กล้าที่จะลองผิดลองถูก และเรียนรู้จากความผิดพลาดโดยไม่เสียความมั่นใจไปทั้งหมด
  • สุขภาพจิตที่แข็งแรง : มีภูมิต้านทานต่อคำวิจารณ์หรือความล้มเหลวได้ดีกว่า จัดการกับความเครียดและความท้าทายได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อภาวะวิตกกังวลหรือซึมเศร้า
  • กล้าที่จะไล่ตามเป้าหมาย : มีแรงผลักดันและความเชื่อมั่นที่จะทำตามความฝันหรือเป้าหมายที่ตั้งไว้ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคง่าย ๆ
  • ความพึงพอใจในชีวิตโดยรวม : รู้สึกดีกับตัวเองและชีวิตที่เป็นอยู่มากขึ้น มองโลกในแง่บวกและมีความสุขได้ง่ายขึ้น

ข้อเสียของการมี Self-Esteem ต่ำ

ในทางกลับกัน การมี Self-Esteem ต่ำสามารถส่งผลกระทบเชิงลบต่อชีวิตในหลายมิติ เช่น

  • ความกลัวและการหลีกเลี่ยง : ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ ๆ หลีกเลี่ยงสถานการณ์ทางสังคม หรือโอกาสในการเติบโต เพราะกลัวความล้มเหลวหรือการถูกตัดสิน
  • ความลังเล ไม่กล้าตัดสินใจ : ขาดความมั่นใจในความคิดและการตัดสินใจของตัวเอง มักต้องการการยืนยันจากผู้อื่นอยู่เสมอ
  • อ่อนไหวต่อคำวิจารณ์ : รับคำติชมหรือความคิดเห็นต่าง ๆ มาเป็นเรื่องส่วนตัวได้ง่าย รู้สึกเจ็บปวดหรือไม่พอใจได้ง่าย
  • ยอมทำตามใจคนอื่น : ไม่กล้าปฏิเสธหรือแสดงความต้องการของตนเอง มักยอมทำตามผู้อื่นเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง แม้จะฝืนใจตัวเองก็ตาม
  • ความคิดเชิงลบต่อตนเอง : มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตัวเองในหัวตลอดเวลา โฟกัสแต่ข้อบกพร่องและความผิดพลาดของตนเอง
  • การเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น : มักมองว่าคนอื่นดีกว่า เก่งกว่า หรือมีความสุขมากกว่าตนเองอยู่เสมอ ทำให้รู้สึกด้อยค่า

เริ่มต้นสร้าง Self-Esteem จากความคิดและใจของเรา

เริ่มต้นสร้าง Self-Esteem จากความคิดและใจของเรา

หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ภายในตัวเราเอง การปรับเปลี่ยนมุมมองและความคิดที่มีต่อตนเอง คือจุดเริ่มต้นที่ทรงพลังที่สุดในการสร้าง Self-Esteem ที่มั่นคงและยั่งยืน ลองมาดูวิธีสร้าง Self-Esteem ที่เริ่มต้นได้จากความคิดและจิตใจของเรากัน

รู้จักและยอมรับตัวเอง

ขั้นตอนแรกคือการทำความรู้จักตัวเองอย่างแท้จริง ลองใช้เวลาสำรวจตัวเองอย่างซื่อสัตย์ ทั้งจุดแข็ง ข้อดี ความสามารถ รวมถึงจุดอ่อนและข้อบกพร่องต่าง ๆ ด้วย การยอมรับตัวเองไม่ได้หมายความว่าเราต้องพอใจกับทุกอย่างที่เป็น หรือหยุดพัฒนาตัวเอง แต่หมายถึงการยอมรับความเป็นจริงในปัจจุบันโดยไม่ตัดสินอย่างรุนแรง เข้าใจว่าทุกคนต่างมีทั้งด้านดีและด้านที่ต้องปรับปรุง การโอบกอดตัวเองในทุกแง่มุม ทั้งส่วนที่ชอบและไม่ชอบ คือก้าวสำคัญของการสร้างความรักและความเมตตาต่อตนเอง

ปรับมุมมอง หยุดเปรียบเทียบ

ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารและชีวิตของผู้อื่นปรากฏให้เห็นได้ง่าย การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นจึงเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง ซึ่งมักนำไปสู่ความรู้สึกด้อยค่าและไม่พอใจในตัวเอง ฝึกฝนการดึงสติกลับมาโฟกัสที่เส้นทางของตัวเอง ตระหนักว่าแต่ละคนมีจุดเริ่มต้น ประสบการณ์ และเป้าหมายที่แตกต่างกัน ชื่นชมความสำเร็จของผู้อื่นได้ แต่ไม่จำเป็นต้องใช้เป็นมาตรฐานวัดคุณค่าของตัวเอง ให้ความสำคัญกับการเติบโตและการเดินทางของตัวเราเอง จำไว้ว่าสิ่งที่เราเห็น โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ มักเป็นเพียงภาพด้านเดียวที่ถูกคัดสรรมาแล้ว

ฝึกพูดเชิงบวกกับตัวเอง

เราทุกคนมีบทสนทนาภายในใจ หรือ “เสียงในหัว” อยู่ตลอดเวลา ลองสังเกตดูว่าเสียงนั้นมักจะวิจารณ์ ตำหนิ หรือให้กำลังใจเรา? หากพบว่าเรามักจะพูดกับตัวเองในเชิงลบ ให้เริ่มฝึกฝนการปรับเปลี่ยน เมื่อมีความคิดตำหนิตัวเองผุดขึ้นมา ลองท้าทายความคิดนั้นด้วยมุมมองที่เป็นจริงและมีความเมตตามากขึ้น เปลี่ยนจากการซ้ำเติม เป็นการให้กำลังใจเหมือนที่เราจะทำกับเพื่อนสนิท การฝึกพูดเชิงบวกกับตัวเองอย่างสม่ำเสมอจะช่วยปรับเปลี่ยนทัศนคติและสร้างความรู้สึกดี ๆ ต่อตนเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ

3 เทคนิคเปลี่ยนพฤติกรรม เติมพลังบวก เพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง

เทคนิคเปลี่ยนพฤติกรรม เติมพลังบวก เพิ่มความมั่นใจ

นอกจากการปรับความคิดแล้ว การลงมือทำและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมก็เป็นส่วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการกระทำที่เป็นรูปธรรมจะช่วยตอกย้ำความเชื่อมั่นและสร้างความรู้สึกดี ๆ ให้เกิดขึ้นจริงได้ นี่คือ 3 เทคนิค วิธีสร้าง Self-Esteem ผ่านการลงมือทำ

1. ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ และลงมือทำ

ความรู้สึกว่า “ฉันทำได้” เป็นเชื้อเพลิงชั้นดีของ Self-Esteem เริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน วัดผลได้ และ “ทำได้จริง” ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องใหญ่โต อาจเป็นเรื่องเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การตื่นนอนให้เช้าขึ้น การอ่านหนังสือวันละ 15 นาที หรือการเริ่มออกกำลังกายสัปดาห์ละครั้ง เมื่อทำเป้าหมายเล็ก ๆ เหล่านี้สำเร็จอย่างต่อเนื่อง มันจะค่อย ๆ สร้างความรู้สึกถึงความสามารถ (Competence) และความภาคภูมิใจในตนเอง (Pride) ซึ่งจะสะสมเป็นความมั่นใจที่มากขึ้นในการทำสิ่งที่ท้าทายต่อไป

2. ดูแลตัวเองทั้งกายและใจ

การดูแลตัวเอง (Self-Care) คือการแสดงความรักและความเคารพต่อตนเองอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่เรื่องของการตามใจตัวเองอย่างไร้ขอบเขต แต่คือการใส่ใจดูแลสุขภาพพื้นฐาน ทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมถึงการหาเวลาทำกิจกรรมที่ชอบเพื่อผ่อนคลายความเครียด การจัดสรรเวลาเพื่อดูแลตัวเองเป็นการส่งสัญญาณบอกตัวเองว่า “ฉันมีค่าและสมควรได้รับการดูแล” ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อระดับพลังงาน อารมณ์ และความรู้สึกมีคุณค่า

3. กล้าที่จะปฏิเสธและแสดงออกอย่างเหมาะสม

การมีขอบเขตที่ชัดเจนและการสื่อสารความต้องการของตัวเองอย่างเหมาะสม (Assertiveness) เป็นทักษะสำคัญในการรักษา Self-Esteem คนที่เห็นคุณค่าในตัวเองจะกล้าที่จะปฏิเสธในสิ่งที่ไม่อยากทำ หรือสิ่งที่เกินกำลังของตน โดยไม่รู้สึกผิดหรือกลัวว่าจะทำให้คนอื่นไม่พอใจ การฝึกฝนที่จะพูดว่า “ไม่” อย่างสุภาพเมื่อจำเป็น รวมถึงการแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกของตนเองอย่างตรงไปตรงมาและให้เกียรติผู้อื่น จะช่วยลดความรู้สึกอึดอัดใจ การถูกเอาเปรียบ และเสริมสร้างความรู้สึกเคารพตัวเอง

ดูแลตัวเองให้ดูดี เพิ่มความมั่นใจ ก็ช่วยเสริม Self-Esteem ได้

จริงอยู่ที่แก่นแท้ของ Self-Esteem มาจากภายใน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกก็มีส่วนส่งเสริมความรู้สึกมั่นใจได้เช่นกัน เมื่อเรารู้สึกดีกับภาพลักษณ์ของตัวเอง เรามักจะมีพลังใจ มีความกล้าแสดงออก และมีปฏิสัมพันธ์กับโลกรอบตัวได้อย่างมั่นใจมากขึ้น การดูแลตัวเองให้ดูดีในแบบของเรา จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนที่ช่วยเติมเต็มความรู้สึกดี ๆ และเสริมสร้าง Self-Esteem ได้ทางอ้อม

เสริมความมั่นใจด้วยบุคลิกภาพและผิวพรรณที่ดีกับ AMARA

การดูแลบุคลิกภาพและการใส่ใจดูแลผิวพรรณ ถือเป็นการลงทุนในตัวเองรูปแบบหนึ่งที่ส่งผลต่อความมั่นใจได้โดยตรง เมื่อเรารู้สึกว่าผิวหน้าสดใส ดูสุขภาพดี กรอบหน้าดูชัดเจน หรือปัญหาผิวต่าง ๆ ลดลง ย่อมทำให้เราอยากเข้าสังคม พบปะผู้คน และรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น

สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวพรรณเพื่อเสริมความมั่นใจ ที่ AMARA เรามีเทคโนโลยีและบริการที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น โปรแกรมยกกระชับผิวหน้าและปรับกรอบหน้าให้คมชัดด้วย Morpheus8, Ultraformer III, หรือ Thermatight ซึ่งช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และได้รูปมากขึ้น หรือโปรแกรมปรับผิวให้กระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิว เพื่อผิวที่เรียบเนียน สม่ำเสมอ ด้วย Lumecca หรือ Pico Laser การเลือกดูแลตัวเองด้วยวิธีเหล่านี้ ควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าจากภายใน จะช่วยเสริมพลังความมั่นใจให้คุณเปล่งประกายได้อย่างเต็มที่จากภายในสู่ภายนอก

ต้องการปรึกษาแพทย์ฟรี!

SCan OR Code เพื่อแอดไลน์ หรือ

062 - 789 -1999

สาขา รัชโยธิน กด 1
สาขา ราชพฤกษ์ กด 2

สรุป หมั่นสร้าง Self-Esteem ให้ตนเอง เพื่อสุขภาพจิตที่แข็งแรง


โดยสรุปแล้ว วิธีสร้าง Self-Esteem เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความต่อเนื่องและความตั้งใจ ทั้งการปรับเปลี่ยนความคิดภายใน การลงมือทำเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงภายนอก และการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงการใส่ใจดูแลภาพลักษณ์เพื่อเสริมความมั่นใจ การเดินทางสายนี้อาจต้องใช้เวลา แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือสุขภาพจิตที่แข็งแรงขึ้น ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น และความสุขในชีวิตที่เพิ่มพูนขึ้นอย่างแน่นอน 

อย่างไรก็ตาม หากคุณได้ลองพยายามด้วยตนเองแล้ว แต่ยังคงรู้สึกว่าการเห็นคุณค่าในตนเองยังอยู่ในระดับต่ำ หรือมีความรู้สึกด้านลบที่รบกวนการใช้ชีวิต การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น จิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยา ถือเป็นทางเลือกที่ดีและเป็นสัญญาณของความเข้มแข็ง เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริงและรับแนวทางการดูแลที่เหมาะสมต่อไป

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


    This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.