เซลล์ไขมัน (Fat Cell) คืออะไร? รู้จักประเภท หน้าที่ และวิธีลดไขมันส่วนเกินอย่างเห็นผล

เซลล์ไขมัน (Fat Cell) คืออะไร

เซลล์ไขมัน มักเป็นคำที่หลายคนนึกถึงในแง่ของน้ำหนักส่วนเกินและความอ้วน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เซลล์ไขมันมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของร่างกายมากกว่าที่เราคิด บทความนี้ AMARA จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเซลล์ไขมันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ตั้งแต่ความหมายพื้นฐาน ประเภทต่าง ๆ หน้าที่สำคัญ ทั้งประโยชน์และโทษ รวมถึงแนวทางการจัดการกับเซลล์ไขมันส่วนเกินอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและการดูแลสุขภาพรูปร่างที่ดี

ทำความรู้จักเซลล์ไขมัน ส่วนประกอบสำคัญในร่างกาย

ก่อนจะไปลงลึกถึงประเภทหรือวิธีการลด เรามาปูพื้นฐานทำความเข้าใจกันก่อนว่า เซลล์ไขมันที่เราพูดถึงกันนั้น แท้จริงแล้วคืออะไร และมีความสัมพันธ์กับเนื้อเยื่อไขมันที่เราคุ้นเคยอย่างไร

เซลล์ไขมัน (Adipocyte) คืออะไร?

เซลล์ไขมัน หรือ Adipocyte (อะดิโพไซต์) คือ เซลล์ชนิดหนึ่งในร่างกายที่มีหน้าที่หลักในการกักเก็บพลังงานในรูปของไขมัน (Lipid) โดยเฉพาะอย่างยิ่งไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) เปรียบเสมือนแหล่งพลังงานสำรองที่ร่างกายจะดึงไปใช้เมื่อต้องการ นอกจากนี้ เซลล์ไขมันยังทำหน้าที่เหมือนต่อมไร้ท่อขนาดเล็ก สามารถผลิตและหลั่งฮอร์โมนหลายชนิดที่มีผลต่อระบบเผาผลาญ ความอยากอาหาร และการทำงานอื่น ๆ ของร่างกาย

เซลล์ไขมันกับเนื้อเยื่อไขมัน (Adipose Tissue) เหมือนหรือต่างกัน?

หลายคนอาจใช้คำว่า เซลล์ไขมันและเนื้อเยื่อไขมันสลับกันไปมา แต่แท้จริงแล้วมีความแตกต่างกัน เซลล์ไขมัน (Adipocyte) เป็นหน่วยย่อยแต่ละเซลล์ ส่วนเนื้อเยื่อไขมัน (Adipose Tissue) คือกลุ่มก้อนของเซลล์ไขมันจำนวนมากที่มาอยู่รวมกัน พร้อมด้วยโครงสร้างอื่น ๆ เช่น เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เส้นเลือด เส้นประสาท และเซลล์ภูมิคุ้มกัน ดังนั้น เมื่อเราพูดถึง “ไขมัน” ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ไขมันหน้าท้อง หรือไขมันต้นแขน เรามักจะหมายถึงเนื้อเยื่อไขมัน ซึ่งมีเซลล์ไขมันเป็นองค์ประกอบหลักนั่นเอง

ประเภทของเซลล์ไขมันในร่างกาย มีกี่แบบ? ทำหน้าที่อะไรบ้าง?

ประเภทของเซลล์ไขมันในร่างกาย

เซลล์ไขมันไม่ได้มีเพียงชนิดเดียว แต่สามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ตามลักษณะและหน้าที่ที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจประเภทของเซลล์ไขมันช่วยให้เราเห็นภาพรวมการทำงานของไขมันในร่างกายได้ชัดเจนขึ้น

ไขมันสีขาว (White Adipose Tissue : WAT)

ไขมันสีขาวเป็นเซลล์ไขมันประเภทที่พบมากที่สุดในร่างกายผู้ใหญ่ ทำหน้าที่หลักในการกักเก็บพลังงานส่วนเกินจากอาหาร พบได้ทั่วไปในไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous fat) และรอบอวัยวะภายในช่องท้อง (Visceral fat) นอกจากเก็บพลังงานแล้ว WAT ยังผลิตฮอร์โมนสำคัญ เช่น เลปติน (Leptin) ที่ควบคุมความอิ่ม และ อะดิโปเนคติน (Adiponectin) ที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่ออินซูลิน อย่างไรก็ตาม การมีไขมันสีขาวสะสมมากเกินไป โดยเฉพาะในช่องท้อง เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคอ้วนและปัญหาสุขภาพเรื้อรังต่าง ๆ

ไขมันสีน้ำตาล (Brown Adipose Tissue : BAT)

ไขมันสีน้ำตาลมีลักษณะเด่นคือ มีไมโทคอนเดรีย (โรงงานสร้างพลังงานของเซลล์) จำนวนมากและหนาแน่น ทำให้เซลล์มีสีน้ำตาล หน้าที่หลักของ BAT ไม่ใช่การเก็บพลังงาน แต่เป็นการเผาผลาญไขมันและน้ำตาลเพื่อสร้างความร้อน (Thermogenesis) ช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกายให้อบอุ่น โดยเฉพาะในทารกแรกเกิด ในผู้ใหญ่ BAT พบในปริมาณน้อยกว่า มักอยู่บริเวณต้นคอ ไหปลาร้า และตามแนวสันหลัง การมี BAT ที่ทำงานได้ดีสัมพันธ์กับการมีระบบเผาผลาญที่ดีขึ้นและการควบคุมน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

ไขมันสีเบจ (Beige Fat)

ไขมันสีเบจ เป็นเซลล์ไขมันที่มีลักษณะก้ำกึ่งระหว่างไขมันสีขาวและสีน้ำตาล พบแทรกตัวอยู่ในเนื้อเยื่อไขมันสีขาว เซลล์ไขมันชนิดนี้สามารถถูกกระตุ้นให้มีคุณสมบัติคล้ายไขมันสีน้ำตาลได้เมื่อร่างกายเผชิญกับความเย็น หรือได้รับการกระตุ้นจากการออกกำลังกาย ทำให้สามารถเผาผลาญพลังงานและสร้างความร้อนได้เช่นกัน

ประโยชน์ที่จำเป็นของเซลล์ไขมัน

แม้เรามักมองว่าไขมันเป็นสิ่งไม่ดี แต่ความจริงแล้ว เซลล์ไขมันในปริมาณที่เหมาะสมนั้นจำเป็นต่อการทำงานของร่างกายอย่างมาก ประโยชน์หลัก ๆ ได้แก่

  • แหล่งสะสมพลังงานสำรอง : กักเก็บพลังงานไว้ใช้ในยามที่ร่างกายต้องการ หรือเมื่อขาดแคลนอาหาร
  • ฉนวนป้องกันความร้อน : ไขมันใต้ผิวหนังช่วยรักษาอุณหภูมิแกนกลางของร่างกายให้คงที่
  • เบาะรองรับและปกป้องอวัยวะ : ไขมันที่อยู่รอบอวัยวะสำคัญช่วยป้องกันแรงกระแทก
  • แหล่งผลิตฮอร์โมน : สร้างและหลั่งฮอร์โมนที่ควบคุมกระบวนการต่าง ๆ เช่น ความหิว ความอิ่ม การเผาผลาญ
  • ช่วยในการดูดซึมวิตามิน : วิตามินชนิดที่ละลายในไขมัน (A, D, E, K) จำเป็นต้องอาศัยไขมันในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย

โทษและปัญหาสุขภาพเมื่อมีเซลล์ไขมันมากเกินไป

ในทางกลับกัน การมีเซลล์ไขมัน โดยเฉพาะไขมันสีขาวสะสมในร่างกายมากเกินไป นำไปสู่ภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อปัญหาสุขภาพร้ายแรงหลายประการ ได้แก่

  • โรคอ้วน (Obesity)
  • โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes) จากภาวะดื้อต่ออินซูลิน
  • โรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Diseases) เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ความดันโลหิตสูง
  • ภาวะไขมันในเลือดสูง (Dyslipidemia)
  • ภาวะไขมันพอกตับ (Fatty Liver Disease)
  • ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea)
  • โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis) จากการรับน้ำหนักที่มากเกินไป
  • เพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งบางชนิด
  • ภาวะอักเสบเรื้อรังในร่างกาย (Chronic Inflammation)

ลดเซลล์ไขมันส่วนเกิน ทำได้อย่างไรบ้าง?

ลดเซลล์ไขมันส่วนเกิน ทำได้อย่างไรบ้าง

เมื่อเข้าใจถึงประโยชน์และโทษแล้ว คำถามสำคัญคือ เราจะจัดการกับเซลล์ไขมันส่วนเกินได้อย่างไร? แนวทางหลัก ๆ มีตั้งแต่การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตไปจนถึงการใช้วิธีทางการแพทย์เข้าช่วย

ออกกำลังกายและคุมอาหาร ปัจจัยสำคัญในการลดขนาดเซลล์ไขมัน

วิธีการพื้นฐานในการจัดการไขมันส่วนเกินคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การควบคุมอาหารโดยลดปริมาณแคลอรี่ที่บริโภค และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน 

หลักการสำคัญคือการสร้างภาวะที่ร่างกายใช้พลังงานมากกว่าที่ได้รับ ส่งผลให้ร่างกายต้องดึงไขมันที่สะสมอยู่ในเซลล์ไขมันออกมาใช้เป็นพลังงาน ทำให้เซลล์ไขมันมีขนาดเล็กลง แม้วิธีนี้จะไม่ทำให้จำนวนเซลล์ไขมันลดลง แต่การที่เซลล์มีขนาดเล็กลงก็ส่งผลดีต่อสุขภาพและรูปร่างโดยรวม การออกกำลังกายบางประเภทอาจช่วยกระตุ้นการทำงานของไขมันสีเบจได้ด้วย

กำจัดเซลล์ไขมันถาวรด้วยวิธีทางการแพทย์

สำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะส่วนที่ลดได้ยากแม้จะควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้ว หรือต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและชัดเจนยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์หลายวิธีที่สามารถกำจัดเซลล์ไขมันออกจากร่างกายได้อย่างถาวร ตัวอย่างเช่น

  • การสลายไขมันด้วยความเย็น (Cryolipolysis) : ใช้ความเย็นจัด (-9 ถึง -11 องศาเซลเซียส) ทำให้เซลล์ไขมันตายและถูกกำจัดออกจากร่างกายตามกระบวนการธรรมชาติ
  • การสลายไขมันด้วยความร้อน:  ใช้พลังงานรูปแบบต่าง ๆ เช่น เลเซอร์ (Laser Lipolysis) หรือคลื่นวิทยุ (Radiofrequency – RF) เพื่อสร้างความร้อนทำลายเซลล์ไขมัน
  • การดูดไขมัน (Liposuction) : เป็นวิธีการผ่าตัดขนาดเล็ก ใช้ท่อสอดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อดูดเอาเซลล์ไขมันส่วนเกินในบริเวณที่ต้องการออกมาโดยตรง ถือเป็นวิธีที่กำจัดไขมันได้อย่างจำเพาะเจาะจงและเห็นผลชัดเจน

กำจัดเซลล์ไขมันอย่างตรงจุดด้วยการดูดไขมันที่ AMARA

การดูดไขมันถือเป็นหัตถการมาตรฐาน (Gold Standard) ในการกำจัดเซลล์ไขมันส่วนเกินอย่างถาวรและตรงจุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันสะสมเฉพาะส่วนที่ลดได้ยาก เช่น หน้าท้อง เอว สะโพก ต้นแขน ต้นขา หรือเหนียง ที่ AMARA เราเป็นศูนย์ดูดไขมันและเติมไขมันโดยตรง มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการดูดไขมันและปรับรูปร่าง พร้อมด้วยเทคโนโลยีเครื่องดูดไขมันที่ทันสมัยและหลากหลาย เช่น Vaser Lipo, Bodytite Pro, BodyJet เพื่อตอบโจทย์ปัญหาและสภาพผิวที่แตกต่างกันของผู้รับบริการแต่ละราย เรามุ่งเน้นผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และการดูแลอย่างครอบคลุม เพื่อให้คุณมั่นใจในการปรับเปลี่ยนรูปร่างและกำจัดเซลล์ไขมันส่วนเกินอย่างมีประสิทธิภาพ

ต้องการปรึกษาแพทย์ฟรี!

SCan OR Code เพื่อแอดไลน์ หรือ

062 - 789 -1999

สาขา รัชโยธิน กด 1
สาขา ราชพฤกษ์ กด 2

สรุปบทความ


เซลล์ไขมันเป็นมากกว่าแค่ที่เก็บพลังงาน แต่มีบทบาทซับซ้อนต่อสุขภาพ ทั้งให้ประโยชน์เมื่อมีในปริมาณพอเหมาะ และก่อโทษเมื่อมีมากเกินไป การทำความเข้าใจประเภทของเซลล์ไขมัน (สีขาว สีน้ำตาล สีเบจ) และหน้าที่ของมัน ช่วยให้เราดูแลสุขภาพได้ดีขึ้น การควบคุมอาหารและออกกำลังกายเป็นพื้นฐานสำคัญในการลดขนาดเซลล์ไขมัน แต่สำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดเซลล์ไขมันส่วนเกินอย่างถาวรในบริเวณที่ลดได้ยาก การดูดไขมันด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ AMARA ถือเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย เพื่อผลลัพธ์รูปร่างที่ดีขึ้นและความมั่นใจที่มากขึ้น

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


    This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.