รวมวิธีกระชับสัดส่วน ไม่ต้องผ่าตัด คืนผิวเฟิร์ม หยุดความหย่อนคล้อย

วิธีกระชับสัดส่วน ไม่ต้องผ่าตัด คืนผิวเฟิร์ม

เมื่อน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว หรือเมื่ออายุมากขึ้น หนึ่งในปัญหาที่มักตามมาและสร้างความกังวลใจคือ “ความหย่อนคล้อย” ของผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใบหน้า ลำคอ ท้องแขน หน้าท้อง หรือต้นขา ทำให้สัดส่วนดูไม่กระชับ แม้ไขมันจะลดลงไปแล้วก็ตาม 

หลายคนอาจคิดว่าทางแก้เดียวคือการผ่าตัดยกกระชับ แต่ปัจจุบัน ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการแพทย์ มีวิธีกระชับสัดส่วน ไม่ต้องผ่าตัด ที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ ช่วยคืนความเฟิร์มกระชับให้ผิว หยุดยั้งความหย่อนคล้อย และปรับรูปร่างให้กลับมาดูดีได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องเผชิญกับแผลเป็น หรือระยะเวลาพักฟื้นที่ยาวนาน

ผิวหย่อนคล้อย สัดส่วนไม่กระชับ เกิดจากอะไร?

สาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหนังสูญเสียความตึงกระชับและเกิดความหย่อนคล้อย มาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในของผิวหนัง โดยเฉพาะการลดลงของคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ทำหน้าที่เปรียบเสมือนโครงข่ายพยุงผิวให้เต่งตึงและยืดหยุ่น 

ปัจจัยที่เร่งให้เกิดการสูญเสียนี้ ได้แก่ 

  • อายุที่เพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ
  • การเผชิญแสงแดดเป็นประจำ
  • การสูบบุหรี่ 
  • การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
  • การตั้งครรภ์ 

ซึ่งทำให้ผิวหนังขยายตัวและหดตัวอย่างรวดเร็วจนโครงสร้างคอลลาเจนเสียหาย แม้การออกกำลังกายจะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น หรือการทาครีมบำรุงจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาโครงสร้างผิวที่หย่อนคล้อยจากภายใน หรือกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้อย่างมีนัยสำคัญ นี่จึงเป็นจุดที่เทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามามีบทบาทสำคัญ

ส่อง 7 เทคโนโลยีกระชับสัดส่วนยอดฮิต ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้นนาน

เทคโนโลยีกระชับสัดส่วนยอดฮิต

เพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวหย่อนคล้อยโดยไม่ต้องผ่าตัด ปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์มากมายที่ได้รับการพัฒนาขึ้น โดยเน้นไปที่การฟื้นฟูโครงสร้างผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน และทำให้ผิวหดตัวกระชับขึ้นจากภายใน ซึ่งแตกต่างจากการเน้นสลายไขมันเพียงอย่างเดียว ลองมาทำความรู้จักกับ 7 เทคโนโลยีกระชับสัดส่วนยอดนิยม ที่ช่วยคืนความเฟิร์มให้ผิวคุณได้

H3 1. J Plasma

J Plasma เป็นนวัตกรรมที่โดดเด่นอย่างยิ่งในด้านการกระชับผิวขั้นสุด เทคโนโลยีนี้ใช้พลังงานฮีเลียมพลาสมาเย็น (Cold Plasma) ร่วมกับคลื่นความถี่วิทยุ (RF) ส่งพลังงานความร้อนสูงไปยังเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังในระยะเวลาสั้น ๆ แล้วตามด้วยการเย็นตัวลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เส้นใยคอลลาเจนและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันเกิดการหดตัวอย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลทันที เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงรุนแรง เช่น หลังดูดไขมันปริมาณมาก หรือหลังการลดน้ำหนักมาก ๆ ที่ต้องการผลลัพธ์การกระชับเทียบเคียงการผ่าตัด แต่มีแผลเล็กกว่าและฟื้นตัวเร็วกว่า

2. FaceTite

สำหรับความหย่อนคล้อยบริเวณใบหน้าและลำคอ FaceTite เป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ โดยใช้หลักการ RFAL (Radiofrequency Assisted Lipolysis) ผ่านหัวอุปกรณ์ขนาดเล็กที่สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำในพื้นที่บอบบาง พลังงาน RF จะถูกส่งผ่านเข้าใต้ผิวหนังเพื่อกระตุ้นการหดตัวของคอลลาเจนและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ทำให้ผิวบริเวณแก้ม กรอบหน้า และลำคอยกกระชับขึ้น ลดปัญหาแก้มห้อย เหนียง หรือคอเป็นชั้น ช่วยให้กรอบหน้าดูคมชัดและใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง

3. BodyTite Pro

BodyTite Pro เป็นเทคโนโลยี RFAL ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในการจัดการกับความหย่อนคล้อยบริเวณลำตัว เช่น หน้าท้อง เอว ท้องแขน ต้นขา หรือสะโพก จุดเด่นคือประสิทธิภาพในการทำงานแบบ Dual Action คือ สลายไขมันส่วนเกินไปพร้อม ๆ กับการ “กระชับผิว” อย่างมีประสิทธิภาพ พลังงาน RF ที่ส่งผ่านหัวอุปกรณ์จะทำให้ไขมันแตกตัวและถูกดูดออกมา ขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้ผิวหนังและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Fibrous Septae) หดตัว ทำให้ผิวที่เคยหย่อนคล้อยกลับมาเรียบเนียนและกระชับขึ้น ลดปัญหาผิวเปลือกส้มได้อีกด้วย

4. ACCUtite

ACCUtite คือเทคโนโลยี RFAL ที่มีขนาดหัวเล็กที่สุดในตระกูล ทำให้เหมาะสำหรับการจัดการความหย่อนคล้อยในพื้นที่เล็ก ๆ ที่ต้องการความละเอียดแม่นยำสูง เช่น บริเวณผิวเปลือกตาบนหรือล่างที่หย่อนคล้อยเล็กน้อย ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือแม้กระทั่งบริเวณเหนือหัวเข่า พลังงาน RF จะช่วยกระตุ้นการหดตัวของผิวหนังในบริเวณดังกล่าว ทำให้ผิวตึงกระชับขึ้น แก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยเฉพาะจุดได้อย่างตรงเป้าหมาย

5. Morpheus8

Morpheus8 เป็นเทคโนโลยีกระชับผิวที่ผสมผสาน Microneedling (เข็มขนาดเล็ก) เข้ากับพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Fractional RF) หัวเครื่องมือจะส่งเข็มขนาดเล็กจำนวนมากลงไปใต้ผิวหนัง พร้อมปลดปล่อยพลังงาน RF ไปยังชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง กระบวนการนี้จะกระตุ้นกลไกการซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่อย่างมหาศาล ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่แน่นเฟิร์มขึ้น รูขุมขนดูเล็กลง ริ้วรอยลดเลือนลง และโครงสร้างผิวโดยรวมแข็งแรงกระชับขึ้นจากภายใน

6. Ultherapy / HIFU

Ultherapy หรือ HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงส่งพลังงานลงไปใต้ผิวหนังได้อย่างแม่นยำและลึกถึงระดับชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อพังผืดสำคัญที่ศัลยแพทย์ทำการผ่าตัดดึงหน้า พลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นจะทำให้ชั้น SMAS หดตัวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ส่งผลให้ผิวหนังเกิดการยกกระชับ (Lifting) และตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าและลำคอโดยไม่ต้องผ่าตัด

7. Thermage / Monopolar RF

Thermage หรือเทคโนโลยีที่ใช้หลักการ Monopolar RF (คลื่นวิทยุแบบขั้วเดียว) เป็นอีกหนึ่งวิธีกระชับสัดส่วน ไม่ต้องผ่าตัดที่เน้นการฟื้นฟูคอลลาเจน เครื่องมือจะส่งพลังงาน RF ลงไปสร้างความร้อนในชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิวหนังเป็นบริเวณกว้าง (Bulk Heating) ความร้อนนี้จะทำให้เส้นใยคอลลาเจนเก่าหดตัวทันที พร้อมกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาทดแทนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผิวโดยรวมดูแน่นขึ้น ริ้วรอยลดลง และมีความกระชับมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวและลดความหย่อนคล้อยโดยรวม

เลือกวิธีกระชับสัดส่วนอย่างไรให้เหมาะกับระดับความหย่อนคล้อย?

เลือกวิธีกระชับสัดส่วนอย่างไรให้เหมาะกับระดับความหย่อนคล้อย

การเลือกวิธีกระชับสัดส่วน ไม่ต้องผ่าตัด ที่เหมาะสมนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ไม่ใช่แค่เพียงชื่อเทคโนโลยี ปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่

  • ระดับความหย่อนคล้อย : ผิวหย่อนคล้อยมากน้อยเพียงใด (เล็กน้อย, ปานกลาง, หรือรุนแรง)? เทคโนโลยีแต่ละชนิดมีขีดความสามารถในการกระชับที่แตกต่างกัน เช่น J Plasma อาจเหมาะกับเคสหย่อนคล้อยรุนแรง ขณะที่ Morpheus8 หรือ HIFU อาจเหมาะกับระดับปานกลาง
  • บริเวณที่ต้องการทำ : ผิวหน้า ลำคอ ลำตัว หรือพื้นที่เล็กเฉพาะจุด? แต่ละเทคโนโลยีมีหัวอุปกรณ์และพลังงานที่ออกแบบมาสำหรับพื้นที่แตกต่างกัน
  • คุณภาพผิวเดิม : ผิวหนาหรือบาง มีความยืดหยุ่นเหลืออยู่แค่ไหน?
  • ผลลัพธ์ที่คาดหวัง : ต้องการการเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใด ต้องการเห็นผลเร็วแค่ไหน?
  • งบประมาณ : ค่าใช้จ่ายของแต่ละเทคโนโลยีมีความแตกต่างกัน
  • ความกังวลอื่น ๆ :  มีปัญหาไขมันส่วนเกินร่วมด้วยหรือไม่? มีปัญหาริ้วรอยหรือรูขุมขนกว้างร่วมด้วยหรือไม่?

การปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์จะช่วยให้คุณเข้าใจข้อดีข้อจำกัดของแต่ละวิธี และเลือกเทคโนโลยีที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาของคุณได้อย่างตรงจุด

บอกลาผิวหย่อนคล้อย ปรึกษา AMARA ผู้เชี่ยวชาญด้านการกระชับผิว

หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่ว่าจะเป็นหลังลดน้ำหนัก หรือจากวัยที่เพิ่มขึ้น และกำลังมองหา วิธีกระชับสัดส่วน ไม่ต้องผ่าตัด ที่เห็นผลจริง AMARA คือคำตอบของคุณ เราเป็นศูนย์ดูดไขมัน เติมไขมัน และกระชับสัดส่วนที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เรามีเทคโนโลยีกระชับผิวที่ทันสมัยและครบครันที่สุดแห่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น J Plasma, FaceTite, BodyTite Pro, ACCUtite, และ Morpheus8 พร้อมด้วยทีมแพทย์ที่มีความชำนาญและประสบการณ์สูงในการประเมินสภาพผิวและระดับความหย่อนคล้อย เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและให้ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับคุณโดยเฉพาะ เข้ามาปรึกษาเราวันนี้ เพื่อบอกลาผิวหย่อนคล้อยและคืนความมั่นใจให้กับรูปร่างของคุณ

ต้องการปรึกษาแพทย์ฟรี!

SCan OR Code เพื่อแอดไลน์ หรือ

062 - 789 -1999

สาขา รัชโยธิน กด 1
สาขา ราชพฤกษ์ กด 2

สรุป กระชับสัดส่วนไม่ต้องผ่าตัด คืนความเฟิร์มให้ผิวเป็นจริงได้


ปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยและสัดส่วนไม่กระชับ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลหรือแก้ไขด้วยการผ่าตัดเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ปัจจุบันมีวิธีกระชับสัดส่วน ไม่ต้องผ่าตัด ที่ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงมากมาย สามารถช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และทำให้ผิวหดตัวกลับมาเฟิร์มกระชับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่เทคโนโลยีพลังงานพลาสมา, คลื่นวิทยุ (RF) ในรูปแบบต่าง ๆ, ไปจนถึงคลื่นอัลตราซาวด์ การเลือกวิธีที่เหมาะสมกับระดับปัญหา บริเวณที่ต้องการแก้ไข และสภาพผิวของแต่ละบุคคล คือกุญแจสำคัญสู่ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ดังนั้น การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการปรับรูปร่างและกระชับผิวในสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับคำแนะนำและการรักษาที่ปลอดภัยและได้ผลดี

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


    This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.