การดูดไขมันเป็นศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมในการปรับรูปร่าง แต่หนึ่งในความกังวลที่พบบ่อยคือเรื่องแผลเป็นจากการดูดไขมันที่อาจเกิดขึ้นหลังการผ่าตัด ที่ AMARA เราเข้าใจความกังวลนี้และพร้อมให้ข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับการดูแลและป้องกันแผลเป็นจากการดูดไขมัน จะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกันในบทความนี้ได้เลย
ลักษณะแผลจากการดูดไขมัน
แผลจากการดูดไขมันมีขนาดเล็กเพียง 2-3 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นรอยแผลจากการสอดท่อดูดไขมัน (Cannula) โดยแพทย์จะเลือกตำแหน่งแผลในจุดที่มองเห็นได้ยาก เช่น รอยพับของผิวหนัง หรือบริเวณที่มักถูกปกปิดด้วยเสื้อผ้า เพื่อให้แผลเป็นไม่เป็นที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน
ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดแผลเป็นดูดไขมัน
ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดแผลเป็นจากการดูดไขมันมีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
พันธุกรรมและการสร้างคอลลาเจน
พันธุกรรมมีผลโดยตรงต่อการสร้างคอลลาเจนและการหายของแผล บางคนมีแนวโน้มที่จะเกิดแผลเป็นนูน (Keloid) หรือแผลเป็นหนา (Hypertrophic Scar) ได้ง่าย โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเกี่ยวกับการเกิดแผลเป็นที่ผิดปกติ นอกจากนี้ ความสามารถในการสร้างและจัดเรียงคอลลาเจนของร่างกายยังส่งผลต่อลักษณะของแผลเป็นที่จะเกิดขึ้น
อายุและสภาพผิว
อายุมีผลต่อความยืดหยุ่นของผิวและความสามารถในการซ่อมแซมตัวเอง โดยทั่วไป ผิวในวัยหนุ่มสาวจะมีการฟื้นตัวที่ดีกว่า แต่ก็มีโอกาสเกิดแผลเป็นนูนได้ง่ายกว่าเช่นกัน ส่วนสภาพผิว เช่น ความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่น และสีผิว ก็มีผลต่อการหายของแผลและลักษณะของแผลเป็นที่จะเกิดขึ้น ผิวที่มีเม็ดสีเข้มมีแนวโน้มที่จะเกิดแผลเป็นสีเข้มได้ง่ายกว่า
เทคนิคการผ่าตัดและความชำนาญการของแพทย์
เทคนิคการผ่าตัดที่ประณีตและความชำนาญการของแพทย์มีผลอย่างมากต่อการเกิดแผลเป็น แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถเลือกตำแหน่งแผลที่เหมาะสม ใช้เทคนิคการผ่าตัดที่ทำให้เกิดแผลน้อยที่สุด รวมถึงควบคุมความลึกและความกว้างของแผลได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถจัดการกับเนื้อเยื่อได้อย่างนุ่มนวลอีกด้วยที่
การดูแลแผลหลังผ่าตัด
การดูแลแผลที่ถูกต้องหลังการผ่าตัดเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยลดโอกาสการเกิดแผลเป็น ซึ่งมีวิธีการดูแลดังนี้
- การทำความสะอาดแผลอย่างถูกวิธี
- การเปลี่ยนผ้าพันแผลตามกำหนด
- การสวมชุดกระชับอย่างเหมาะสม
- การหลีกเลี่ยงการโดนน้ำหรือแสงแดดโดยตรง
- การใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์ดูแลแผลตามที่แพทย์แนะนำ
โรคประจำตัวและการสูบบุหรี่
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ส่งผลต่อการเกิดรอยแผลเป็นก็คือ โรคประจำตัวบางอย่างและพฤติกรรมการสูบบุหรี่ โดยมีรายละเอียดที่ควรทราบดังนี้
- โรคเบาหวานอาจทำให้แผลหายช้าและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- โรคภูมิแพ้หรือภูมิคุ้มกันผิดปกติอาจส่งผลต่อการหายของแผล
- การสูบบุหรี่ลดการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจน ทำให้แผลหายช้า
- ภาวะขาดสารอาหารหรือวิตามินบางชนิดอาจส่งผลต่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
ที่ AMARA เราจะประเมินปัจจัยเสี่ยงทั้งหมดอย่างละเอียดและให้คำแนะนำในการปรับพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็น พร้อมทั้งวางแผนการดูแลที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ
การป้องกันแผลเป็นดูดไขมัน
ผู้ชำนาญการที่ AMARA ให้ความใส่ใจในการเลือกตำแหน่งแผลอย่างพิถีพิถัน โดยจะพิจารณาจากรอยพับธรรมชาติของผิวหนัง หรือบริเวณที่มักถูกปกปิดด้วยชุดชั้นใน เพื่อให้แผลเป็นดูดไขมันไม่เป็นที่สังเกตเห็นได้ง่าย ก่อนการผ่าตัด เราจะให้คำแนะนำในการเตรียมผิวอย่างละเอียด ทั้งการงดสูบบุหรี่ การรับประทานวิตามินที่จำเป็นต่อการซ่อมแซมผิว และการหลีกเลี่ยงยาบางชนิดที่อาจส่งผลต่อการหายของแผล รวมถึงการดูแลความชุ่มชื้นของผิวให้เหมาะสม เพื่อให้ผิวอยู่ในสภาพที่พร้อมสำหรับการผ่าตัดและการฟื้นตัว
พร้อมกันนี้ เรายังใช้เทคนิคการเย็บแผลด้วยไหมละลายคุณภาพสูงและเทคนิคการเย็บที่ช่วยลดการเกิดรอยแผลเป็นบนผิวหนังให้ได้มากที่สุด ทำให้แผลหายสวยและเรียบเนียนมากขึ้น การผสมผสานเทคนิคทั้งหมดนี้ช่วยให้ผู้เข้ารับบริการที่ AMARA มั่นใจได้ว่าจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงามพร้อมแผลเป็นที่น้อยที่สุด
การดูแลแผลเป็นดูดไขมัน
การดูแลแผลหลังดูดไขมันด้วยวิธีการที่ถูกต้องและเหมาะสม ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้แผลเป็นอาการดีขึ้น โดยมีรายละเอียดที่ควรทราบดังนี้
การทำความสะอาดแผลเป็นดูดไขมัน
- ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ก่อนทำความสะอาดแผลทุกครั้ง
- เช็ดทำความสะอาดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่แพทย์แนะนำ
- เปลี่ยนผ้าก๊อซปิดแผลวันละ 2 ครั้ง หรือทันทีที่เปียกชื้น
- สังเกตสีและกลิ่นของแผล หากผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์
- หลีกเลี่ยงการแช่น้ำหรืออาบน้ำนาน ๆ จนกว่าแผลจะหายสนิท
การสวมชุดกระชับ
- สวมชุดกระชับตลอด 24 ชั่วโมงในช่วง 4-6 สัปดาห์แรก
- ถอดชุดกระชับเฉพาะตอนอาบน้ำหรือทำความสะอาดแผล
- ตรวจสอบว่าชุดกระชับไม่รัดแน่นหรือหลวมเกินไป
- ซักทำความสะอาดชุดกระชับสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- เปลี่ยนชุดกระชับเมื่อมีการยืดตัวหรือหลวม
การป้องกันแสงแดด
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรงอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้ผิวสามารถฟื้นฟูได้เต็มที่
- ทาครีมกันแดด SPF 50+ เมื่อต้องออกแดด
- สวมเสื้อผ้าที่ปกป้องผิวจากแสงแดดและหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงแดดจัด
- ใช้ร่มหรืออุปกรณ์กำบังแสงแดดเมื่อต้องอยู่กลางแจ้ง
การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลแผล
- ใช้ครีมหรือเจลลดแผลเป็นตามที่แพทย์สั่งเพื่อฟื้นฟูสภาพผิว
- ทาผลิตภัณฑ์บำรุงแผลตามเวลาที่กำหนด
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับการแนะนำจากแพทย์
- สังเกตอาการแพ้หรือระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์
- ใช้แผ่นซิลิโคนปิดแผลตามคำแนะนำของแพทย์
วิธีลดรอยแผลเป็นดูดไขมันด้วยเทคโนโลยีและการรักษาเสริม
เทคโนโลยีทันสมัยเพื่อการรักษาแผลเป็นที่ AMARA ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาวิธีการลดรอยแผลเป็นจากการดูดไขมัน เช่น Pico Laser หรือ Pico Plus Laser เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ช่วยรักษาแผลเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยพลังงานเลเซอร์ระดับ picosecondที่สามารถเข้าถึงชั้นผิวหนังได้อย่างแม่นยำ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยปรับสภาพผิวและลดความเข้มของแผลเป็น โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน ทำให้ฟื้นตัวเร็วและปลอดภัย เห็นผลชัดเจนภายใน 3-4 ครั้ง
การดูแลแผลอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอจะช่วยให้แผลหายเร็วและลดโอกาสการเกิดแผลเป็นที่ไม่สวยงาม ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยหรือพบความผิดปกติใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
ระยะเวลาการหายของแผลเป็นดูดไขมัน
กว่าแผลจากการดูดไขมันจะหายสนิทและฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ต้องใช้เวลาและความอดทน เนื่องจากการดูดไขมันส่งผลต่อทั้งผิวหนังชั้นนอกและเนื้อเยื่อชั้นใน การหายของแผลจึงเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นตามลำดับขั้น โดยแต่ละช่วงมีลักษณะการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกัน
ที่ AMARA เราให้ความสำคัญกับการติดตามการหายของแผลในทุกระยะ เพื่อให้มั่นใจว่าการฟื้นตัวเป็นไปอย่างเหมาะสมและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยระยะการหายของแผลแบ่งเป็น 4 ช่วงหลัก ดังนี้
- แผลภายนอก : จะใช้เวลาประมาณ 7-10 วัน เป็นช่วงที่แผลเริ่มปิดและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ โดยจะเริ่มสังเกตเห็นสะเก็ดแผลเริ่มแห้งและหลุดออก อาการบวมและช้ำลดลง อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการหายของผิวชั้นนอกเท่านั้น
- เนื้อเยื่อด้านใน : จะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ในการฟื้นตัว ในระยะนี้ร่างกายจะซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ได้รับผลกระทบจากการดูดไขมัน อาการบวมจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด และจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างที่ชัดเจนขึ้น
- การจางของรอยแผลเป็นดูดไขมัน : ใช้เวลา 3-6 เดือน ในช่วงนี้แผลเป็นจะค่อย ๆ อ่อนสีลง ผิวหนังเริ่มเรียบเนียนและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น การดูแลและป้องกันแสงแดดในระยะนี้มีความสำคัญมากต่อลักษณะของแผลเป็นที่จะเกิดขึ้น
- การฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ของแผลเป็น : ใช้เวลาประมาณ 1 ปี ซึ่งเป็นระยะที่ร่างกายปรับสภาพทั้งหมด ทั้งการจัดเรียงคอลลาเจนใหม่ การปรับสมดุลของผิวหนัง และการกระชับของเนื้อเยื่อ จนได้ผลลัพธ์สุดท้ายที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแผลเป็นดูดไขมัน
A แผลจะค่อย ๆ จางลงและแทบไม่สังเกตเห็นหลังการดูแลที่เหมาะสม
A ขึ้นอยู่กับลักษณะของแผลเป็นดูดไขมันว่าต้องทำเลเซอร์หรือไม่ โดยแพทย์จะประเมินและแนะนำการดูแลที่เหมาะสม
A มีหลายวิธี เช่น การใช้แผ่นซิลิโคน การทาครีมพิเศษ และการดูแลแผลอย่างถูกวิธี

สรุปบทความ
การป้องกันและดูแลแผลเป็นดูดไขมันเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญตั้งแต่แรก โดยต้องมีการวางแผนและเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกแพทย์ผู้ชำนาญการ เทคนิคการผ่าตัดที่เหมาะสม และการเตรียมสภาพผิวให้พร้อม นอกจากนี้ การดูแลอย่างต่อเนื่องหลังการผ่าตัดก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้แผลหายเร็วและมีโอกาสเกิดแผลเป็นน้อยลง ที่ AMARA เรามีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อให้ทุกคนมั่นใจได้ว่าจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงามตามที่ต้องการ พร้อมแผลเป็นดูดไขมันที่น้อยที่สุด
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
ติดต่อเบอร์โทร :
สาขารัชโยธิน กด 1
สาขาราชพฤกษ์ กด 2
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB

ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง
นพ. สุประกิต พรหมมาวัน (หมอเอ็ดดี้)