เทียบชัด! Thermage กับ Ulthera ต่างกันยังไง เลือกทำอันไหนดี?

Thermage VS Ulthera

หากคุณกำลังมองหาวิธียกกระชับผิวหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด Thermage และ Ulthera คือสองตัวเลือกยอดนิยมที่หลายคนกำลังให้ความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน ว่าแต่ทั้งสองวิธีนี้มีความแตกต่างและมีข้อดีกับข้อจำกัดอย่างไรบ้างนั้น มาทำความเข้าใจไปพร้อมกันกับหมอตวง AMARA ในบทความนี้ได้เลย

Thermage กับ Ulthera

Thermage กับ Ulthera แตกต่างกันอย่างไร

เริ่มต้นด้วยการมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า Thermage และ Ulthera สองวิธีนี้ความแตกต่างกันอย่างไร จะได้ง่ายต่อการตัดสินใจว่าควรเลือกวิธียกกระชับใบหน้าแบบไหนดี

Thermage คืออะไร

Thermage เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นวิทยุ (Radio frequency) ความถี่สูงในการยกกระชับผิว โดยจะปล่อยพลังงานความร้อนลงสู่ชั้นผิวในลักษณะกระจายเป็นวงกว้าง ซึ่งสามารถลงลึกได้ถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมัน เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวกระชับ และเรียบเนียนสม่ำเสมอ

ซึ่งในปัจจุบัน การทำ Thermage เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ก็มีข้อจำกัดตรงที่เห็นผลลัพธ์ค่อนข้างช้า โดยจะเห็นผลลัพธ์ 20% หลังทำทันที และจะยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ หลังทำ 3-6 เดือน

ดังนั้น จึงได้มีการพัฒนาเครื่อง ThermaTight ขึ้นมา โดยเทคโนโลยีนี้จะเป็นการยกกระชับผิวที่ใช้คลื่นความถี่วิทยุเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันตรงที่ เครื่อง ThermaTight จะให้ผลลัพธ์ทันทีหลังทำและเห็นชัดเจนขึ้นภายใน 1-3 วันเท่านั้น ใช้ระยะเวลาทำเพียง 30-45 นาที ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี และสามารถทำซ้ำได้เพื่อรักษาผลลัพธ์ที่ดีไว้

หมอตวง AMARA เลยเห็นว่า เครื่อง ThermaTight เหมาะมาก ๆ สำหรับคนยุคใหม่ที่ต้องการความรวดเร็ว แต่ยังมีประสิทธิภาพในการดูแลผิว

สรุปข้อแตกต่างของ Thermage และ ThermaTight 

  ด้านระยะเวลาเห็นผล ด้านการทำหัตถการ ด้านผลลัพธ์ ความเหมาะสมกับผู้ใช้
Thermage เห็นผลทันที 20%
และผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นภายใน 3-6 เดือน
ใช้เวลาทำนานกว่า อาจมีความเจ็บปวดระหว่างทำ ผลลัพธ์อยู่ได้ 1-2 ปี
แต่ต้องใช้ระยะเวลา
กว่าจะเห็นผลลัพธ์
ที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
เหมาะกับผู้ที่ไม่เร่งรีบ
เพื่อให้เห็นผลลัพธ์
ThermaTight  เห็นผลทันทีหลังทำ
และชัดเจนขึ้น
ภายใน 1-3 วัน
ใช้เวลาทำเพียง 30-45 นาที ไม่เจ็บ และไม่ต้องพักฟื้น ผลลัพธ์อยู่ได้ 1-2 ปี และเห็นผลเร็ว
สามารถทำซ้ำได้
เพื่อรักษาผลลัพธ์
เหมาะกับผู้ที่ต้องการ
เห็นผลลัพธ์เร็ว
และมีประสิทธิภาพ

 

Ulthera คืออะไร

 Ulthera คืออะไร

Ulthera หรือ Ultherapy คือเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูง ที่สามารถส่งพลังงานความร้อนประมาณ 60-70 องศา (กำลังอุ่น ๆ) ลงลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อที่คลุมกล้ามเนื้อใบหน้า โดยจะปล่อยพลังงานเป็นจุดเล็ก ๆ ขนาด 1 มิลลิเมตร ให้เรียงตัวกันเป็นเส้นตรงบริเวณชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหนังกระชับเต่งตึง ริ้วรอยลดเลือนลง

ทั้งนี้ การทำ Ulthera ก็มีการพัฒนาเครื่อง Ultraformer III ขึ้นมาเช่นกัน โดยเครื่อง Ultraformer III จะใช้คลื่นเสียง MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ที่สามารถส่งพลังงานลงลึกถึงชั้นผิว SMAS ได้อย่างเจาะจง ตรงจุดมากขึ้น และมีความเสถียรของพลังงานสูงมาก ทำให้ควบคุมความเจ็บปวดได้ดีกว่าการทำ Ulthera

สรุปข้อแตกต่างระหว่าง Ulthera และ Ultraformer III

  ด้านเทคโนโลยี ด้านความรู้สึกขณะทำ ด้าน
ความปลอดภัย
ด้านประสิทธิภาพ ความเหมาะสมกับ
ผู้ใช้
Ulthera ใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์แบบทั่วไป
ควบคุมความลึก
ได้จำกัด
มักมีความเจ็บปวด
ระหว่างทำมากกว่า
ได้รับการรับรองมาตรฐานทั่วไป ยกกระชับผิวได้
ในระดับทั่วไป
เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยทั่วไป
Ultraformer III ใช้คลื่น MMFU
(Micro & Macro) ควบคุมความลึก
ได้เจาะจง
เจ็บน้อยกว่า
เพราะควบคุมพลังงานได้อย่างสม่ำเสมอ
ได้รับการรับรองจากหลายประเทศ รวมถึง อย. ไทย
และมีความเสถียรของพลังงานสูง
ยกกระชับผิวได้อย่างแม่นยำ
และประสิทธิภาพสูงกว่า
เพราะควบคุมการทำ
ได้อย่างตรงจุด
เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แม่นยำ
และมีความรู้สึก
เจ็บปวดน้อย
ระหว่างทำ

 

จากข้อมูลี้ หมอตวง AMARA จึงขอสรุปว่า ทั้ง Thermage และ Ulthera ต่างก็เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่มีประสิทธิภาพเหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันในด้านเทคนิคและผลลัพธ์ ซึ่งการเลือกวิธีใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย

ทั้งนี้ นอกจาก Thermage กับ Ulthera แล้ว หากรู้สึกสนใจการยกกระชับผิวด้วยเครื่อง ThermaTight และ Ultraformer III ที่ได้พูดถึงกันไป ก็สามารถติดต่อ AMARA เพื่อขอปรึกษาเพิ่มเติมได้ทุกเมื่อ เพราะทางเรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณอย่างใกล้ชิดตลอดการรักษา เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้ผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติและปลอดภัยที่สุด

Thermage กับ Ulthera ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง

Thermage กับ Ulthera ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง

ทั้งสองเทคโนโลยีนี้สามารถทำได้หลายบริเวณด้วยกัน ได้แก่

Thermage :

  • ใช้ยกกระชับผิวหน้าทั่วไป
  • สามารถลดริ้วรอยรอบดวงตาได้
  • ใช้กระชับผิวบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง สะโพก ต้นแขน ต้นขา เป็นต้น

Ulthera :

  • ใช้ยกกระชับผิวหน้าทั่วไป
  • สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณแก้ม คอ และเหนียงได้
  • ช่วยยกกระชับผิวบริเวณเนินอกได้

Thermage กับ Ulthera อันไหนเจ็บกว่ากัน

ในการทำ Thermage จะมีความรู้สึกร้อนและอาจมีอาการแสบเล็กน้อย เพราะเทคโนโลยีนี้จะใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงกระจายความร้อนลงสู่ชั้นผิวเป็นบริเวณกว้าง ไม่ได้เจาะลงเป็นจุดเหมือนกับการทำ Ulthera รวมถึงยังลงลึกเพียงชั้นหนังแท้และชั้นไขมันเท่านั้น

ขณะการทำ Ulthera จะมีความรู้สึกเจ็บมากกว่า เนื่องจากเป็นการส่งพลังงานอัลตร้าซาวด์แบบจุดเล็ก ๆ ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อใบหน้า ทำให้อาจรู้สึกเหมือนมีเข็มเล็ก ๆ ทิ่มลงบนผิว เนื่องจากพลังงานถูกปล่อยออกมาเป็นจุด ๆ นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม หมอตวง AMARA บอกว่า ความเจ็บปวดของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป รวมถึงขึ้นอยู่กับแต่ละตำแหน่งที่ทำหัตถการด้วย ซึ่งหากกังวลเรื่องความเจ็บปวด สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อขอยาชาหรือวิธีลดความเจ็บปวดระหว่างการทำได้ทุกเมื่อ

Thermage กับ Ulthera ราคาเท่าไหร่

ราคาของ Thermage กับ Ulthera นั้น จะแตกต่างกันตามขนาดพื้นที่ที่ทำหัตถการ โดย Ulthera จะมีราคาเริ่มต้นประมาณ 20,000-80,000 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนไลน์ที่ทำ ส่วน Thermage ราคาจะขึ้นอยู่กับจำนวน shots และบริเวณที่ทำหัตถการ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 30,000 บาทต่อ 450 shots

Thermage กับ Ulthera ผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม

ทั้งสองวิธีนี้ให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างใกล้เคียงกันอย่างมาก โดยสรุปได้ดังนี้

  • เห็นผลเบื้องต้น 20-30% หลังทำทันที
  • เห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ หลังทำ 2-3 เดือน
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง รวมถึงสภาพแวดล้อมที่พบเจอในแต่ละวันด้วย เช่น หากโดนแดดบ่อย หรือดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นประจำ ก็อาจทำให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้ไม่นาน

สรุป Thermage กับ Ulthera ควรเลือกทำอันไหนดี

หมอตวง AMARA แนะนำว่า การเลือกระหว่าง Thermage และ Ulthera นั้น ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและเป้าหมายของการรักษาด้วย โดยจะแนะนำให้เลือกทำ Ulthera เมื่อ

  • มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก
  • ต้องการผลลัพธ์การยกกระชับผิวที่เห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำ
  • ต้องการแก้ไขปัญหาเหนียงและผิวคอหย่อนคล้อย

และให้เลือก Thermage เมื่อ

  • ต้องการปรับผิวให้มีความเรียบเนียนสม่ำเสมอ กระชับเต่งตึง
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา
  • ต้องการกระชับผิวในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

ทั้งนี้ หากไม่มั่นใจว่าต้องการทำ Thermage กับ Ulthera ก็สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ประเมินสภาพผิวและเลือกหัตถการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณก่อนเริ่มทำได้เลย

สรุป Thermage กับ Ulthera

สรุปบทความ

การยกกระชับผิวด้วย Thermage กับ Ulthera มีความแตกต่างกันในด้านเทคโนโลยีและกระบวนการทำงาน โดย Thermage จะใช้คลื่นวิทยุที่กระจายความร้อนเป็นวงกว้าง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ และแก้ไขริ้วรอยรอบดวงตา ส่วน Ulthera จะใช้คลื่นอัลตราซาวด์ที่ส่งพลังงานเป็นจุดลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยและต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

ทั้งสองวิธีนี้ให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน 1-2 ปีเท่ากัน แต่ความยั่งยืนของผลลัพธ์นั้นก็ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและสภาพแวดล้อมที่พบเจอในชีวิตประจำวัน หากคุณกำลังพิจารณาเลือกวิธีการยกกระชับผิวแต่ยังไม่รู้จะเลือกวิธีไหนดี ก็สามารถติดต่อ AMARA เข้ามาเพื่อรับคำปรึกษาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้ เราพร้อมช่วยประเมินและแนะนำวิธีที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้ผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติและปลอดภัยที่สุด

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่

สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB

ติดต่อเบอร์โทร : 

062-789-1999

⇒ สาขา รัชโยธิน กด 1
⇒ สาขา ราชพฤกษ์ กด 2