คุณแม่หลังคลอด หรือแม้กระทั่งคนที่เคยมีน้ำหนักตัวมาก และลดน้ำหนักลงอย่างรวดเร็ว ปัญหาที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คงหนีไม่พ้นปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อย ผิวหน้าท้องย้วยยาน หรือบางรายอาจมีปัญหาไขมันสะสมร่วมด้วย โดยหากปัญหาที่เกิดเป็นอยู่ในระดับรุนแรงมาก จนไม่สามารถใช้วิธีอื่น ๆ ได้ การผ่าตัดหนังหน้าท้อง หรือการทำ Tummy Tuck ก็ถือว่าเป็นการรักษาที่ตรงจุด เห็นผลทันทีหลังทำ หน้าท้องกลับมาตึงกระชับได้อีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลให้รูปร่างกลับมาดีขึ้นได้ครับ
สำหรับใครที่สนใจเรื่องการตัดหนังหน้าท้อง ตัดไขมันหน้าท้อง หรือ Tummy Tuck อยู่ แต่ยังไม่มีข้อมูล วันนี้หมอวี ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง Amara Clinic มีรายละเอียดเกี่ยวกับการผ่าตัดหนังหน้าท้องอย่างละเอียดมาฝากกันครับ
สาเหตุของหน้าท้องหย่อนคล้อย ย้วย ยาน
ก่อนอื่น เราลองมาดูสาเหตุของหน้าท้องหย่อนคล้อย ผิวหนังหน้าท้องเหี่ยวย้วย กันก่อนนะครับว่าเกิดจากอะไรได้บ้าง โดยปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดปัญหานี้มาจากโครงสร้างผิวที่เสื่อมสภาพ ผิวหนังขาดคอลลาเจนและอิลาสติน ส่งผลให้ผิวหนังขาดความตึงกระชับ สูญเสียความยืดหยุ่น และเป็นที่มาของหน้าท้องย้วยยาน
โดยเราสามารถจำแนกที่มาที่ทำให้โครงสร้างผิวเสื่อมสภาพได้ 4 สาเหตุ ดังนี้ครับ
คุณแม่หลังคลอด
ปัญหาหน้าท้องย้วยหลังคลอด เกิดจากในระหว่างการตั้งครรภ์ หน้าท้องของคุณแม่มีการขยายตัวมากและกินเวลานานหลายเดือน จนทำให้กล้ามเนื้อขยาย รวมไปถึงผิวหนังที่ขยายตัวตามไปด้วย ซึ่งหลังคลอดลูก ผิวหนังจะหดตัวกลับแบบทันที เปรียบเสมือนหนังยางที่ถูกยืดเป็นเวลานาน ๆ และเมื่อวันหนึ่งหนังยางหดกลับ เราจะสังเกตได้เลยว่าหนังยางเสื่อมสภาพ และเสียความยืดหยุ่นไปแล้ว และเช่นเดียวกันกับผิวหนังที่ถูกขยายนาน ๆ เมื่อผิวหนังหดตัวหลังคลอดลูก หน้าท้องของคุณแม่จะมีความย้วยยานได้นั่นเองครับ
อายุมากขึ้น
ด้วยวัยที่มากขึ้น ทำให้โครงสร้างผิวหนังเสื่อมสภาพลงตามกาลเวลาครับ ซึ่งแน่นอนว่า ปัญหาเรื่องผิวหย่อนคล้อยเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และโดยส่วนมากแล้ว คนที่อายุมากขึ้นมักจะมีปัญหาเรื่องไขมันส่วนเกินควบคู่กันด้วย ทำให้สัดส่วนบริเวณหน้าท้องมีผิวหนังที่ย้วยยาน และมีไขมันสะสม ทำให้หน้าท้องใหญ่ครับ
ลดน้ำหนักผิดรวดเร็วเกินไป
ในรายที่เคยมีน้ำหนักตัวมาก ๆ แล้วใช้วิธีการลดน้ำหนักแบบผิดวิธี อย่างบางคนใช้วิธีอดอาหาร และไม่ออกกำลังกาย นี่ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้หน้าท้องหย่อนคล้อยได้แน่นอนครับ เนื่องจากผิวหนังกระชับไม่ทัน จนเกิดเป็นช่องว่างระหว่างชั้นผิวหนังและกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ คนที่ใช้การลดน้ำหนักผิดวิธี ขาดการออกกำลังกายไปด้วย จะทำให้ร่างกายไม่เผาผลาญไขมัน ยังไงก็ยังเหลือไขมันส่วนเกิน บวกกับมวลกล้ามเนื้อที่น้อย ทำให้รูปร่างไม่ลีนและไม่เฟิร์ม รวมถึงมีผิวหนังหย่อนย้วยครับ
ขอบคุณภาพประกอบจาก : healthtuition.com
ดูดไขมันออกมากเกินไป
สาเหตุต่อมาที่ทำให้หน้าท้องหย่อนคล้อย ผิวหนังหย่อนยาน คือ ผลลัพธ์จากการที่ดูดไขมันออกเยอะเกินไปครับ หลายคนสงสัยว่า การดูดไขมันเยอะ ๆ ก็น่าจะดี เพราะน่าจะทำให้หน้าท้องลีนสวยได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ในเคสที่ตัวใหญ่ มีไขมันสะสมเยอะที่หน้าท้อง ซึ่งหลังจากดูดไขมันออกแล้ว จะมีโอกาสสูงที่จะทำให้ผิวหนังหย่อยคล้อยได้ โดยแพทย์อาจแนะนำให้คนไข้ทำการกระชับผิวไปด้วยเลย แต่หากเป็นในระดับที่ไม่รุนแรงมากนัก สามารถใช้เครื่อง J Plasma กระชับผิวย้วยร่วมกับการดูดไขมันได้เลย โดยไม่ต้องเปิดแผลใหม่ ใช้แผลเดียวกับบริเวณที่ดูดไขมันได้เลย หรืออาจเลือกใช้การนวดกระชับผิวด้วยคลื่น RF รวมถึงใส่ชุดกระชับสัดส่วนหลังดูดไขมันก็ได้เช่นกัน แต่สำหรับกรณีที่มีปัญหาผิวย้วยมาก ๆ จะต้องทำการตัดหนังหน้าท้องหลังดูดไขมันครับ
ทำความรู้จัก “ตัดหนังหน้าท้อง”
การผ่าตัดหนังหน้าท้อง หรือบางคนรู้จักกันในชื่อ ตัดไขมันหน้าท้อง (Abdominoplasty / Tummy Tuck) คือ การผ่าตัดเพื่อตัดผิวหนังส่วนเกินบริเวณหน้าท้องออก เพื่อทำให้หน้าท้องตึงกระชับได้อีก ทำให้สัดส่วนกลับมาดูดีได้อีกครั้ง เหมาะสำหรับในเคสที่มีผิวหนังหน้าท้องย้วยยานระดับรุนแรง ซึ่งไม่สามารถใช้วิธีอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้ ในรายของคุณแม่หลังคลอดที่มีปัญหากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกร่วมด้วย ก็สามารถเย็บกล้ามเนื้อหน้าท้อง หรือทำการย้ายสะดือ ร่วมกันกับการตัดหนังหน้าท้องได้ครับ
การตัดหนังหน้าท้อง หรือการทำ Tummy Tuck เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ ผิวหนังหน้าท้องตึงกระชับ ไร้ผิวหนังส่วนเกิน เป็นการปรับรูปร่างให้สมส่วนและดูดีขึ้นได้ ซึ่งโดยส่วนมากแล้ว การตัดหนังหน้าท้องจะเน้นการผ่าตัดที่หน้าท้องส่วนล่าง เพราะเป็นส่วนที่ผิวหนังมีความหย่อนคล้อยได้มาก รวมถึงบางรายอาจมีปัญหาหน้าท้องแตกลายตามมาด้วยครับ
ตัดหนังหน้าท้อง ต้องดูดไขมันด้วยไหม?
หลายคนสงสัยว่า ในคนที่มีปัญหาทั้งหน้าท้องย้วยยานและมีไขมันส่วนเกินร่วมด้วย จะต้องมีการดูดไขมันด้วยไหม? คำตอบก็คือ หมอจะต้องพิจารณาตามความเหมาะสมในคนไข้แต่ละรายครับ โดยจะต้องมีการตรวจร่างกายก่อน ซึ่งหากพบว่าคนไข้มีไขมันส่วนเกินค่อนข้างมาก หรือมีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่บริเวณใกล้เคียงด้วย เช่น บริเวณหน้าท้องด้านบน, เอว และช่วงปีกหลัง ซึ่งคนไข้ต้องการให้สัดส่วนดูเป๊ะมากขึ้น หมอจะแนะนำให้ใช้วิธีดูดไขมันร่วมกับการผ่าตัดหนังหน้าท้องไปด้วยครับ
ส่วนในกรณีของคนไข้ที่มีปัญหาหน้าท้องย้วยยานมาก และมีไขมันส่วนเกินไม่มาก แบบนี้จะแนะนำให้ตัดหนังหน้าท้อง ตัดไขมันหน้าท้องเพียงอย่างเดียว อีกในกรณีคือ คนที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยในระดับที่ไม่รุนแรง ร่วมกับมีไขมันส่วนเกินที่ไม่มากนัก ซึ่งหมออาจแนะนำให้ใช้การดูดไขมันร่วมกับการกระชับผิวหน้าท้องด้วย J Plasma แทนครับ แต่ทั้งนี้ หมอจะมีการพูดคุยกับคนไข้ก่อนตัดสินใจทำเสมอ โดยจะคำนึงถึงความพึงพอใจของคนไข้เป็นสิ่งสำคัญด้วยครับ
2 เทคนิคผ่าตัดหนังหน้าท้อง
การผ่าตัดหนังหน้าท้องจะแบ่งออกเป็น 2 เทคนิค คือ การผ่าตัดหนังหน้าท้องแบบ Full Tummy Tuck ซึ่งเป็นการตัดหนังหน้าท้อง ตัดไขมันหน้าท้องแบบที่ต้องมีการย้ายสะดือร่วมด้วย และเทคนิคที่ 2 คือ การตัดหนังหน้าท้องแบบ Mini Tummy Tuck ส่วนใครจะเหมาะกับเทคนิคไหน หมอจะต้องมีการพิจารณาตามความเหมาะสมกับปัญหาที่แตกต่างกันไปในแต่ละเคสครับ
Full Tummy Tuck
การผ่าตัดหนังหน้าท้องแบบ Full Tummy Tuck เป็นการตัดหนังหน้าท้องพร้อมกับการย้ายตำแหน่งสะดือ และสามารถทำร่วมกับการเย็บกล้ามเนื้อ แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกได้ในคราวเดียว เหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาหน้าท้องย้วยยานค่อนข้างเยอะ มีไขมันส่วนเกินในระดับหนึ่ง หรืออาจมีปัญหากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกร่วมด้วย ซึ่งจะพบได้บ่อยในคุณแม่หลังคลอด และต้องไม่มีแพลนที่จะมีลูกอีกในอนาคต โดยเทคนิคนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหน้าท้องส่วนบนและส่วนล่าง สำหรับการผ่าตัดด้วยเทคนิค Full Tummy Tuck จะมีการเปิดแผลยาวตั้งแต่บริเวณสะโพกข้างนึงไปยังอีกข้าง แต่ทั้งนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่ารอยแผลเป็นหลังผ่าตัดหนังหน้าท้องจะมองเห็นง่ายสะดุดตานะครับ เพราะการเปิดแผลยาวจะอยู่ในตำแหน่งเหนือหัวหน่าว ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันกับขอบกางเกงชั้นใน หรือซ่อนอยู่แนวบิกินีไลน์ครับ
Mini Tummy Tuck
สำหรับเทคนิคตัดหนังหน้าท้องต่อมาคือ Mini Tummy Tuck เป็นการตัดหนังหน้าท้องส่วนเกินที่ไม่ต้องมีการย้ายสะดือ เหมาะกับคนไข้ที่มีหน้าท้องหย่อนและมีไขมันส่วนเกินเล็กน้อย โดยสามารถเย็บกล้ามเนื้อแยกได้เช่นเดียวกัน ซึ่งจะมีการเปิดแผลที่สั้นกว่าเทคนิค Full Tummy Tuck ที่บริเวณเหนือหัวหน่าว จากนั้นจึงเลาะพังผืดที่ในชั้นไขมันและกล้ามเนื้อหน้าท้อง ทำการเลาะไปถึงบริเวณใต้สะดือ แล้วทำการเย็บกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่าง เสร็จแล้วทำการดึงผิวหนังลงมา และตัดหนังหน้าท้องส่วนเกินออก สุดท้ายเย็บปิดแผลให้เรียบร้อยครับ
ใครที่เหมาะกับการตัดหนังหน้าท้อง
- คนที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อย ย้วยยาน ในระดับที่รุนแรง
- คุณแม่หลังคลอดที่มีหน้าท้องย้วยยาน หรือมีไขมันส่วนเกิน หรืออาจมีปัญหาผิวหน้าท้องแตกลายร่วมด้วย
- คุณแม่หลังคลอดที่ไม่มีแพลนจะมีลูกเพิ่มอีกในอนาคต
- คนที่ลดน้ำหนักแบบผิดวิธี ทำให้น้ำหนักลดลงเร็วเกินไป จนทำให้มีผิวหนังหน้าท้องส่วนเกินเยอะ
- คนที่มีปัญหาหน้าท้องย้วยจากการดูดไขมันออกเยอะเกินไป
- การตัดหนังหน้าท้อง สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ที่ประสบปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อย ย้วยยาน มีไขมันสะสมร่วมด้วย
ใครที่ไม่เหมาะกับการตัดหนังหน้าท้อง
- คุณแม่หลังคลอดที่มีแพลนจะมีลูกอีกในอนาคต เพราะหากตัดหนังหน้าท้องออกไปแล้ว และตั้งครรภ์อีกครั้ง จะเกิดโอกาสที่ผิวหน้าท้องตึง หรือกลับมาหย่อนคล้อยได้อีก
- คนที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยและไขมันส่วนเกินเล็กน้อย โดยแพทย์อาจแนะนำวิธีอื่น ๆ แทน เช่น การดูดไขมันร่วมกับการทำ J Plasma เป็นต้น
ข้อดี-ข้อจำกัดของการผ่าตัดหนังหน้าท้อง
ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมทุกชนิด รวมไปถึงการผ่าตัดหนังหน้าท้อง หมออยากแนะนำให้คนไข้ลองศึกษาทั้งข้อดีและข้อจำกัดก่อน เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจว่าเหมาะกับเราหรือไม่ครับ เพราะการตัดหนังหน้าท้อง หรือตัดไขมันหน้าท้อง เป็นการผ่าตัดที่ต้องมีการเปิดแผลใหญ่พอสมควร ต้องมีการวางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ และต้องมีเวลาพักฟื้นเป็นสัปดาห์ เดี๋ยวเราลองมาดูข้อดีและข้อจำกัดของการผ่าตัดหนังหน้าท้องไปพร้อม ๆ กันครับ
ข้อดีของการผ่าตัดหนังหน้าท้อง
- กำจัดผิวหนังหน้าท้องส่วนเกิน ทำให้หน้าท้องตึงกระชับ
- หน้าท้องแบนราบ ปรับสัดส่วนให้ดูดีขึ้น หน้าท้องดูเฟิร์มขึ้น
- สามารถจัดการปัญหาอื่นร่วมด้วยได้ในคราวเดียว อย่างการเย็บกล้ามเนื้อหน้าท้อง
- ทำแล้วเห็นผลทันที แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
- สวมใส่เสื้อผ้าได้อย่างมั่นใจ สนุกกับการแต่งตัวมากขึ้น
ข้อจำกัดของการผ่าตัดหนังหน้าท้อง
- ระยะเวลาในการพักฟื้นค่อนข้างนาน ซึ่งแนะนำให้ลาหยุดงานประมาณ 2 สัปดาห์
- หลังผ่าตัดหนังหน้าท้อง ตัดไขมันหน้าท้อง อาการยุบบวมจะหายเป็นปกติใน 3-4 เดือน
- หลังผ่าตัดหนังหน้าท้อง จะต้องมีการดูแลตัวเองเป็นพิเศษอย่างเคร่งครัด เช่น งดการยืดตัวในช่วง 2 สัปดาห์แรก เป็นต้น
- มีรอยแผลยาวในกรณีตัดหนังหน้าท้องแบบ Full Tummy Tuck แต่ทั้งนี้ จะมีการเปิดแผลและเย็บซ่อนแผลตามขอบกางเกงใน ซึ่งจะมองเห็นได้ยาก
- บางรายอาจใช้ระยะเวลาในการรักษารอยแผลค่อนข้างนาน
- ไม่เหมาะกับคนที่วางแผนจะมีลูกในอนาคต
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดหนังหน้าท้อง
- เมื่อตัดสินใจแล้วว่าต้องการตัดหนังหน้าท้อง ควรเข้ารับการปรึกษา ตรวจวิเคราะห์ และวางแผนการรักษากับศัลยแพทย์
- แจ้งศัลยแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว, ประวัติการรักษาหรือการผ่าตัด, ประวัติการแพ้ยา-แพ้อาหาร และยา-วิตามิน ที่ใช้อยู่เป็นประจำ
- งดการรับประทานยา, วิตามิน หรือาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ตามคำแนะนำของศัลยแพทย์
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 2-3 วันและงดสูบบุหรี่ 1 เดือน ก่อนผ่าตัดหนังหน้าท้อง
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอประมาณ 8-10 ชั่วโมง
- งดดื่มน้ำและงดรับประทานอาหารก่อนตัดหนังหน้าท้อง 8 ชั่วโมง (เนื่องจากต้องวางยาสลบ)
- อาบน้ำและสระผมให้เรียบร้อยก่อนเข้ารับการผ่าตัดหนังหน้าท้อง
- งดสวมเครื่องประดับทุกชนิด และงดใส่ฟันปลอม
- กรณีมีฟันโยกอยู่ แจ้งศัลยแพทย์ให้ทราบก่อน
- ควรตัดเล็บมือให้สั้น และล้างสีเล็บ 1 เล็บ
- สวมเสื้อผ้าหลวม ๆ ใส่-ถอดได้สะดวก แนะนำเป็นเสื้อที่มีกระดุมด้านหน้า
- หลังตัดหนังหน้าท้อง ศัลยแพทย์อาจมีการพิจารณาให้นอนค้างที่คลินิก 1-2 คืน ซึ่งในวันที่กลับบ้านไปพักฟื้นต่อ แนะนำให้พาญาติหรือเพื่อนมารับกลับบ้าน และห้ามขับรถกลับเอง
ขั้นตอนการผ่าตัดหนังหน้าท้อง
- ศัลยแพทย์วาดตำแหน่งกำหนดจุดที่จะมีการเปิดแผล ตามแผนการรักษาที่ได้วางไว้
- ทำการทายาฆ่าเชื้อบริเวณผิวหนังบริเวณตัดหนังหน้าท้อง
- วิสัญญีแพทย์ทำการวางยาสลบให้กับคนไข้
- ศัลยแพทย์เริ่มการผ่าตัดหนังหน้าท้องตามเทคนิคที่ได้กำหนดไว้ โดยมีขั้นตอนหลัก ๆ คือ เลาะพังผืดระหว่างชั้นไขมันและกล้ามเนื้อ มีการเย็บกล้ามเนื้อหน้าท้องให้กระชับ จากนั้นดึงผิวหนังหน้าท้องลงมาให้เรียบตึง และทำการตัดผิวหนังส่วนเกินออก สุดท้ายเป็นการเย็บปิดแผลที่หน้าท้อง
- ใช้เวลาในการผ่าตัดหนังหน้าท้องประมาณ 2-3 ชั่วโมง ทั้งนี้ระยะเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง หากมีปัจจัยอื่น ๆ เพิ่ม เช่น การดูดไขมันร่วมกับการผ่าตัดหนังหน้าท้อง
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดหนังหน้าท้อง
- ดูแลไม่ให้แผลผ่าตัดหน้าท้องโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม
- ทำความสะอาดแผลหลังผ่าตัดหนังหน้าท้องทุกวัน
- รับประทานยาบรรเทาอาการต่าง ๆ ตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
- งดยืดตัวในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก แนะนำให้นอนงอตัว เพื่อลดแรงตึงของผิวหน้าท้อง
- งดยกของหนัก งดออกกำลังกายหนัก ๆ ประมาณ 6 สัปดาห์หลังผ่าตัดหนังหน้าท้อง
- งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่จนกว่าแผลจะหายสนิท เพราะอาจทำให้แผลหายช้า
- งดรับประทานอาหารไม่สุก อาหารหมักดอง และอาหารทะเล
- รับประทานอาหารอ่อน ๆ ย่อยง่าย เพื่อป้องกันการเกร็งหน้าท้องระหว่างเบ่งถ่ายอุจจาระ
- ระมัดระวังไม่ให้เกิดการเกร็งหน้าท้องแรง ๆ เช่น การไอ จาม หรือการถ่ายอุจจาระ
- รับประทานอาหารลดอาการบวมช้ำ เช่น น้ำฟักทอง, น้ำมะพร้าว หรือใบบัวบก
- เข้ามาพบศัลยแพทย์ตามนัดหมาย เพื่อติดตามอาการหลังการผ่าตัดหนังหน้าท้อง
- เข้ารับบริการ After Care ตามนัดหมาย เพื่อช่วยให้แผลหายไว ลดอาการไม่พึงประสงค์ และลดรอยแผลเป็น
- ใส่ชุดกระชับหน้าท้องตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
ผลแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้หลังตัดหนังหน้าท้อง
- มีอาการปวด เจ็บ บวม ระบมช้ำ ที่บริเวณแผลผ่าตัดหนังหน้าท้อง
- ภาวะน้ำคั่งใต้ผิว หรือ Seroma ซึ่งจะมีลักษณะเป็นก้อนไตแข็งใต้ผิวหนัง
- อาจมีอาการชาได้ชั่วคราว
- อาการมึน เบลอ หรือเวียนศีรษะ ที่เกิดขึ้นหลังจากฟื้นจากการวางยาสลบ
- บางกรณีอาจมีเลือดคั่งใต้ผิว หรือมีเลือดซึมออกมาจากแผล
- หากรับการผ่าตัดหนังหน้าท้องกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ อาจทำให้บริเวณหน้าท้องไม่สมส่วน
ตัดหนังหน้าท้องที่ Amara Clinic
หลายคนอาจยังตัดสินใจไม่ได้ว่า จะผ่าตัดหนังหน้าท้อง ตัดไขมันหน้าท้อง หรือทำ Tummy Tuck ที่ไหนดี หมอแนะนำให้เราโฟกัสที่ผลลัพธ์และความปลอดภัยเป็นหลักสำคัญ ซึ่งที่ Amara Clinic เราเป็นศูนย์ปรับรูปร่าง-ดูดไขมัน-เติมไขมันโดยเฉพาะ ซึ่งมีความครบวงจร เรียกได้ว่ามาที่เดียวครบจบ ตอบโจทย์ครอบคลุมทุกปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อย ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดหนังหน้าท้อง หรือการดูดไขมันหน้าท้อง และสัดส่วนต่าง ๆ โดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง และแพทย์ผู้ชำนาญการด้านดูดไขมัน ที่เป็นถึงระดับ KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน นอกจากนี้ เรายังมีเทคโนโลยีและเทคนิคที่ทันสมัย เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ Clean Room ระบบ Positive Pressure
- ทำการผ่าตัดหนังหน้าท้องโดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง ที่มีทักษะและประสบการณ์สูง
- ดูดไขมันโดย KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน ประจำศูนย์ดูดไขมัน-เติมไขมัน Amara Clinic
- เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐาน ทันสมัย มีให้เลือกใช้ครบทุกชนิด
- มีวิสัญญีแพทย์วิชาชีพดูแลการวางยาสลบอย่างใกล้ชิด แบบอัตราส่วน 1:1 (วิสัญญีแพทย์ 1 คนต่อคนไข้ 1 คน)
- ห้องพักฟื้นระดับ VIP พร้อมพยายาลวิชาชีพดูแลอย่างใกล้ชิด
- ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อแบบ Clean Room ด้วยระบบ Positive Pressure และระบบอื่น ๆ ที่สำคัญครบครัน (อ่านเพิ่มเติม : ห้องผ่าตัด)
- ติดตามอาการอย่างใกล้ชิดโดยศัลยแพทย์
- บริการ After Care ดูแลหลังผ่าตัดหนังหน้าท้องครบครัน ด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง (อ่านเพิ่มเติม : After Care)
ตัดหนังหน้าท้อง ราคาแพงไหม?
สำหรับใครที่สนใจและอยากทราบว่า ที่ Amara Clinic ตัดหนังหน้าท้อง ราคาเท่าไหร่? แพงไหม? โดยการผ่าตัดแบบ Mini Tummy Tuck หรือตัดหนังหน้าท้อง ราคาอยู่ที่ 99,000 บาท (ราคานี้ไม่รวมเย็บกล้ามเนื้อหน้าท้อง และวางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์) ซึ่งที่เราจะมีการจัดโปรโมชั่นอยู่บ่อย ๆ โดยราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ สามารถสอบถามกับเจ้าหน้าที่ได้ก่อนครับที่ LINE : @amaraclinic
โดยถ้าจะมองกันที่เรื่องความคุ้มค่าแล้ว หมอคิดว่าเป็นราคาที่ไม่ได้ถูกมากและไม่ได้แพงมากเกินไป เพราะการตัดหนังหน้าท้องเป็นการผ่าตัดที่ต้องอาศัยทักษะและประสบการณ์ของศัลยแพทย์เป็นอย่างมาก รวมถึงที่ Amara Clinic เรามีการวางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์โดยเฉพาะ บวกกับเราเลือกใช้แต่เครื่องมือและเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ การตัดหนังหน้าท้องส่วนเกินถือว่าเป็นการรักษาอย่างตรงจุด ให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว หากมีการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ปัญหาหน้าท้องอย่อนคล้อยกลับมาอีก ซึ่งหมอว่ามีความคุ้มค่าน่าลงทุนมากครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
การผ่าตัดหนังหน้าท้อง ตัดไขมันหน้าท้อง หรือ Tummy Tuck ถือว่าเป็นการรักษาที่ตอบโจทย์คนที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อย ผิวหนังหน้าท้องย้วยยานในระดับรุนแรง ซึ่งไม่สามารถใช้วิธีอื่นได้แล้ว สำหรับใครที่กำลังสนใจ หรือยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับการตัดหนังหน้าท้องหรือเปล่า ก็สามารถเข้ารับคำปรึกษาและตรวจวิเคราะห์ปัญหาก่อนตัดสินใจทำได้เลยครับ ซึ่งในขั้นตอนการปรึกษาแพทย์ จะไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic