การดูแลสุขภาพในยุคปัจจุบันมีหลากหลายวิธี และหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือการดริปวิตามิน ซึ่งเป็นวิธีการเสริมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นเข้าสู่ร่างกายโดยตรง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการดริปวิตามินมีประโยชน์อย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง? มาหาคำตอบไปพร้อมกันกับหมอตวง AMARA ในบทความนี้ได้เลย
ดริปวิตามินคืออะไร
ดริปวิตามิน หรือ IV Drip (Intravenous Vitamin Drip) คือการให้วิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารที่จำเป็นผ่านทางเส้นเลือดดำโดยตรง ส่งผลให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการรับประทานวิตามินแบบเม็ด เพราะไม่ต้องผ่านระบบย่อยอาหาร จึงทำให้ได้รับสารอาหารครบถ้วนและเห็นผลเร็วกว่าการรับประทานวิตามินตามปกติ ส่งผลให้การดริปวิตามินเป็นวิธีการเสริมสารอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
ดริปวิตามินช่วยอะไรได้บ้าง
การดริปวิตามินมีประโยชน์อยู่ด้วยกันหลายข้อ โดยเฉพาะในด้านความงามและการฟื้นฟูสุขภาพ และมีสูตรให้เลือกหลากหลายตามความต้องการและจุดประสงค์ในการรักษา โดยหมอตวง AMARA ได้รวมรายละเอียดมาให้ดังนี้
1. ฟื้นฟูสุขภาพผิว
ดริปวิตามินผิวนั้นช่วยฟื้นฟูผิวจากภายใน ทำให้ผิวกระจ่างใสแลดูสุขภาพดี ผิวนุ่มชุ่มชื้น เต่งตึง ลดริ้วรอย และเสริมสร้างคอลลาเจน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวให้สุขภาพดี แต่ควรทำในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัย
2. เสริมความแข็งแรงให้เซลล์ผิว
การดริปวิตามินผิวจะช่วยเสริมความแข็งแรงและฟื้นฟูเซลล์ผิว พร้อมทั้งชะลอวัยและต่อต้านอนุมูลอิสระ โดยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระที่เข้าสู่ร่างกายโดยตรงจะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะต่างๆ ทำให้ผิวสุขภาพดี กระจ่างใส และดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
3. สนับสนุนการทำงานของระบบต่าง ๆ
ดริปวิตามินผิวนอกจากจะช่วยเรื่องความกระจ่างใสแล้วยังช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเสริมสารอาหารที่จำเป็น ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน ลดความเครียด และบำรุงระบบประสาทให้ทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้สุขภาพโดยรวมแข็งแรงและผิวพรรณสดใสขึ้นจากภายในได้อีกด้วย
เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของการดริปวิตามิน
การดริปวิตามินเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายคนเลือกวิธีนี้เพื่อเสริมสร้างสุขภาพและความงาม แต่เช่นเดียวกับการรักษาทุกประเภท การดริปวิตามินก็มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ โดยมีรายละเอียดที่ควรทราบดังนี้
ข้อดีของการดริปวิตามิน
- ประหยัดเวลา เห็นผลเร็วกว่าการรับประทานวิตามิน
- สามารถปรับสูตรและแก้ไขปัญหาได้เฉพาะจุด
- ปรับปริมาณได้ตามความเหมาะสม
ข้อเสียของการดริปวิดามิน
- ราคาค่อนข้างสูง มีความจำเป็นต้องทำหลายครั้งเพื่อให้เห็นผล
- อาจมีผลข้างเคียง เช่น การแพ้ส่วนผสมบางตัวในดริปวิตามิน
- ไม่แนะนำสำหรับสตรีมีครรภ์ และควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
อยากดริปวิตามินต้องเตรียมตัวอย่างไรดี
การเตรียมตัวก่อนดริปวิตามินเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างปลอดภัยและได้ผลดีที่สุดสำหรับผู้ที่สนใจเข้ารับบริการ โดยมีรายละเอียดที่ควรทราบดังนี้
- เริ่มต้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสุขภาพและความเหมาะสมในการทำดริปวิตามิน โดยแพทย์จะตรวจเลือดเพื่อดูระดับวิตามินและแร่ธาตุในร่างกายว่าสามารถเข้ารับการดริปวิตามินได้หรือไม่
- ก่อนเข้ารับการดริปวิตามิน ควรงดอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง รวมถึงดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพออย่างน้อย 2-3 ลิตรต่อวัน เพื่อให้ร่างกายพร้อมรับสารอาหาร
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 24 ชั่วโมงก่อนทำดริปวิตามิน
- ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย หลวม ในวันที่รับการดริปวิตามิน เพื่อความสะดวกในการให้น้ำเกลือ นำประวัติการแพ้ยาและผลการตรวจเลือดมาด้วย แจ้งพยาบาลหากมีโรคประจำตัวหรือกำลังทานยาใดๆ อยู่
- ระหว่างรับการดริปวิตามิน ควรนั่งหรือนอนพักให้สบาย การรักษาใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที หากรู้สึกผิดปกติระหว่างรับการรักษา เช่น วิงเวียน คลื่นไส้ ให้แจ้งแพทย์หรือพยาบาลโดยทันที
- หลังจบการดริปวิตามิน หมอตวง AMARA แนะนำว่าควรพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอกจากนี้ยังควรหมี่นสังเกตอาการผิดปกติ หากมีอาการแพ้หรือผิดปกติภายใน 24 ชั่วโมงให้รีบติดต่อแพทย์โดยทันที
ควรดริปวิตามินบ่อยแค่ไหน
ความถี่ในการทำดริปวิตามินขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยแพทย์จะพิจารณาจากผลตรวจสุขภาพ ระดับวิตามินในร่างกาย และความต้องการของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม การทำดริปวิตามินบ่อยเกินไปก็อาจทำให้ร่างกายได้รับวิตามินมากเกินความจำเป็น และอาจเกิดผลข้างเคียงได้ จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการทำดริปวิตามินให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย และติดตามผลการรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับความถี่ในการทำดริปวิตามินให้เหมาะสม
ดริปวิตามินอย่างเดียวคงไม่พอ! ต้องลอง Lumecca เลเซอร์หน้าใส ผิวสวย ไร้รอย!
เลเซอร์ Lumecca ถือเป็นเทคโนโลยี IPL (Intense Pulsed Light) รุ่นใหม่ที่ช่วยรักษาปัญหาผิวหน้าหลายอย่าง ทั้งฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยแดง และความหมองคล้ำ โดยใช้พลังงานแสงความเข้มสูงโดยเฉพาะต่อเม็ดสีเมลานิน ส่งผลให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้เพื่อเสริมประสิทธิภาพการรักษา แนะนำให้ทำดริปวิตามินควบคู่ไปด้วย เพราะการดริปวิตามินจะช่วยเพิ่มการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิว โดยแนะนำเป็นวิตามินซีที่มีความเข้มข้นสูงและสามารถต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ ทำให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน และมีสุขภาพดียิ่งขึ้น
ข้อแนะนำในการทำ Lumecca ร่วมกับดริปวิตามิน
- ควรทำดริปวิตามินก่อนเลเซอร์ 1-2 วัน เพื่อเตรียมผิวให้พร้อม
- หลังทำเลเซอร์ 3-5 วัน สามารถทำดริปวิตามินอีกครั้งได้ เพื่อเป็นการบำรุงและฟื้นฟูผิว
- ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและควรทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ
- ทำทรีตเมนต์อย่างต่อเนื่องตามแผนการรักษาของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
การทำเลเซอร์ Lumecca ร่วมกับการดริปวิตามินจะช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส สุขภาพดี รวมถึงช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และยังยืดระยะเวลาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มทำการรักษาทุกครั้ง เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
สรุปบทความ
ดริปวิตามิน (IV Drip) คือการให้วิตามินและแร่ธาตุผ่านเส้นเลือดดำโดยตรง มีข้อดีคือ ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีกว่าการรับประทานวิตามินแบบเม็ด อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูสุขภาพผิว เสริมความแข็งแรงให้เซลล์ผิว และสนับสนุนการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย และยังเห็นผลเร็ว สามารถปรับสูตรได้เฉพาะจุด รวมถึงปรับปริมาณได้ตามต้องการอีกด้วย
อย่างไรก็ตามการดริปวิตามินอาจมีผลข้างเคียง นอกจากนี้ความถี่ในการทำขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน หมอตวง AMARA แนะนำว่าควรรับคำปรึกษาจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทุกครั้งก่อนทำการดริปวิตามิน
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB
ติดต่อเบอร์โทร :
062-789-1999⇒ สาขา รัชโยธิน กด 1
⇒ สาขา ราชพฤกษ์ กด 2
นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)
KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet