รวม 6 ท่าเล่นกล้ามอก ทั้งอกบนและอกล่าง ให้กล้ามสวยคมชัด

6-chest-exercises-for-gains-cover

การสร้างกล้ามอกที่สวยคมชัดเป็นเป้าหมายของหลายๆ คนที่หลงใหลในการออกกำลังกาย แต่การเล่นกล้ามอกอย่างถูกต้องไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนพบว่าตัวเองติดอยู่กับท่าออกกำลังกายแบบเดิมๆ ไม่รู้จะเล่นกล้ามอกบนหรือเล่นกล้ามอกล่างท่าไหนดี เล่นอย่างไรให้ได้ผล ในบทความนี้หมอรวม 6 ท่าเล่นกล้ามอก ทั้งอกบนและอกล่าง ให้กล้ามสวยคมชัดมาไว้ให้แล้วครับ ไปดูกันเลยว่ามีท่าไหนบ้าง

ความสำคัญของการฝึกกล้ามอก

กล้ามเนื้อหน้าอกเป็นกล้ามเนื้อหลักส่วนสำคัญในการเคลื่อนไหวแขนเข้าหาลำตัว (adduction) ช่วยในการดัน ผลัก หรือยกสิ่งของในชีวิตประจำวัน เช่น การเปิดประตู ยกกระเป๋า หรือวางของบนชั้นสูง 

การฝึกท่าเล่นกล้ามอก ไม่ว่าจะเป็นเล่นกล้ามอกล่างหรือเล่นกล้ามอกบนอย่างต่อเนื่อง จึงไม่เพียงแต่ช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าอกของเรามีความหนาและคมชัดขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ เช่น เล่นกล้ามหลัง และเล่นกล้ามหลัง ช่วยรักษาสมดุลของร่างกายส่วนบน ลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บจากการเสียสมดุล และทำให้เรามีความแข็งแรงในการออกกำลังกายประเภทอื่นๆ มากขึ้นอีกด้วย

ท่าออกกำลังกายสำหรับกล้ามอกบน

ท่าเล่นกล้ามอกช่วยสร้างความโค้งมนและความหนาของกล้ามเนื้อส่วนบนของหน้าอก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรูปทรงที่สวยงาม ต่อไปนี้คือเล่นกล้ามอกบนที่แนะนำครับ

1. Incline Bench Press

Incline Bench Press เป็นท่าพื้นฐานสำหรับท่าเล่นกล้ามอกบน โดยท่านี้เน้นการยกน้ำหนักในท่าบริหารกล้ามเนื้อหน้าอกส่วนบน โดยตั้งมุมเอียงที่ประมาณ 30-45 องศาจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกกล้ามเนื้อส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี

  • นอนบนม้านั่งที่ยกขึ้น 30-45 องศา
  • จับบาร์เบลด้วยมือทั้งสองข้างกว้างกว่าไหล่เล็กน้อย
  • ลดบาร์ลงมาที่หน้าอกส่วนบนช้า ๆ แล้วดันขึ้นจนแขนเหยียดตรง
  • ทำ 3-4 เซ็ต เซ็ตละ 8-12 ครั้ง

2. Incline Dumbbell Flyes

Incline Dumbbell Flyes เป็นท่าเล่นกล้ามอกที่เน้นเล่นกล้ามอกบนโดยการยืดและเกร็งกล้ามเนื้อหน้าอกส่วนบน ช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าอกมีความยืดหยุ่นและความคมชัดมากยิ่งขึ้น ควรทำช้า ๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อทำงานได้เต็มที่

  • นอนบนม้านั่งที่ยกขึ้น 30-45 องศา
  • ถือดัมเบลในแต่ละมือ ยกขึ้นเหนือหน้าอก
  • ลดแขนลงด้านข้างในลักษณะโค้ง จนรู้สึกถึงการยืดที่หน้าอก
  • ยกดัมเบลกลับขึ้นมาในแนวโค้งเดิม
  • ทำ 3 เซ็ต เซ็ตละ 10-15 ครั้ง

3. Cable Crossover (ยกสายสูง)

Cable Crossover เป็นท่าเล่นกล้ามอกโดยการยกสายสูงจะช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าอกบนถูกกระตุ้นอย่างเต็มที่ เป็นท่าที่เน้นการฝึกกล้ามเนื้อหน้าอกด้านในและบน ช่วยให้กล้ามเนื้อดูคมชัดและเพิ่มมิติให้กับหน้าอก

  • ตั้งสายเคเบิลในตำแหน่งสูงสุด
  • ยืนระหว่างเครื่อง จับด้ามจับทั้งสองข้าง
  • ก้าวขาหน้าเล็กน้อย โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย
  • ดึงสายลงและเข้าหากันด้านหน้าของร่างกาย
  • ค่อยๆ ปล่อยกลับสู่ตำแหน่งเริ่มต้น
  • ทำ 3 เซ็ต เซ็ตละ 12-15 ครั้ง

ท่าออกกำลังกายสำหรับกล้ามอกล่าง

การเล่นกล้ามอกล่างช่วยสร้างความกว้างและความหนาของกล้ามเนื้อส่วนล่างของหน้าอก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรูปทรงที่สมบูรณ์ และนี่คือท่าเล่นกล้ามอกล่างที่แนะนำครับ

4. Flat Bench Press

Flat Bench Press เป็นท่าฝึกกล้ามเนื้อหน้าอกที่ครอบคลุมทั้งส่วนบน กลาง และล่าง แต่หากคุณเน้นการยกน้ำหนักในมุมที่ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกเล่นกล้ามอกล่างได้อย่างเต็มที่

  • นอนราบบนม้านั่ง
  • จับบาร์เบลด้วยมือทั้งสองข้างกว้างกว่าไหล่เล็กน้อย
  • ลดบาร์ลงมาที่กลางหน้าอกช้าๆ แล้วดันขึ้นจนแขนเหยียดตรง
  • ทำ 3-4 เซ็ต เซ็ตละ 8-12 ครั้ง

5. Dips

Dips เป็นท่าเล่นกล้ามอกที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าอกล่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการยกตัวขึ้นลงในท่าที่ใช้แรงจากกล้ามเนื้อหน้าอกและแขน หากเราต้องการให้เน้นกล้ามเนื้อหน้าอกล่างมากขึ้น ควรก้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย

  • ใช้เครื่อง dip หรือบาร์คู่
  • เริ่มต้นด้วยการยกตัวขึ้น แขนเหยียดตรง
  • ลดตัวลงช้า ๆ โดยให้ข้อศอกชี้ออกด้านข้าง
  • ดันตัวขึ้นกลับสู่ตำแหน่งเริ่มต้น
  • ทำ 3 เซ็ต เซ็ตละ 8-12 ครั้ง

6. Push-ups

Push-ups เป็นท่าเล่นกล้ามอกพื้นฐานที่สามารถฝึกได้ทุกที่ทุกเวลา โดยการทำ Push-ups จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหน้าอกล่าง และยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามแขนและกล้ามหลังอีกด้วย

  • เริ่มในท่าคล้ายการวิดพื้น มือวางกว้างกว่าไหล่เล็กน้อย
  • ลดตัวลงจนหน้าอกเกือบแตะพื้น
  • ดันตัวขึ้นกลับสู่ตำแหน่งเริ่มต้น
  • ทำ 3 เซ็ต เซ็ตละ 15-20 ครั้ง หรือจนกว่าจะหมดแรง

เทคนิคการฝึกเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

นอกจากท่าเล่นกล้ามอกที่ถูกต้องแล้ว การใช้เทคนิคการฝึกที่เหมาะสมจะช่วยให้เราได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นด้วยครับ ไปดูกันว่ามีเทคนิคอะไรบ้าง

จัดโปรแกรมฝึก

  • ฝึกกล้ามอก 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์
  • ให้เวลาพักฟื้น 48-72 ชั่วโมงระหว่างการฝึกแต่ละครั้ง
  • แบ่งการฝึกท่าเล่นกล้ามอกให้ครอบคลุมทั้งกล้ามเนื้อหน้าอกบนและล่าง
  • ปรับโปรแกรมให้เข้ากับเป้าหมายและระดับความแข็งแรงของเรา

เพิ่มน้ำหนักและจำนวนครั้ง

  • เริ่มต้นด้วยท่าเล่นกล้ามอกล่าง และ ท่าเล่นกล้ามอกบนด้วยน้ำหนักที่สามารถทำได้ 8-12 ครั้งต่อเซ็ต
  • เมื่อทำได้ครบ 12 ครั้งอย่างง่ายดาย ให้เพิ่มน้ำหนัก 5-10%
  • ใช้หลักการ Progressive Overload เพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

สรุปบทความ


การฝึกท่าเล่นกล้ามอก ไม่ว่าจะเป็นเล่นกล้ามอกล่างหรือเล่นกล้ามอกบน เป็นท่าออกกำลังกายที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรูปร่างที่สวยงาม กล้ามเนื้อแข็งแรงมากขึ้น 

แต่ถ้าใครที่รู้สึกว่าออกกำลังกายแล้วยังไม่เพียงพอ ต้นแขน แผ่นหลังยังมีไขมันส่วนเกินที่ลดได้ยาก ก็สามารถดูดไขมันต้นแขน และ ดูดไขมันปีกหลังได้ครับ โดยจะเห็นผลลัพธ์หลังทำชัดเจนที่สุดในช่วง 1 – 3 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันอย่างรวดเร็วและปลอดภัย หรือ ผู้ที่มีปัญหาฉีดแฟตแขนแล้วไม่ลง ออกกำลังกายแล้วแขนไม่เล็กลง

 ที่ AMARA ดูดไขมันเทคนิค Real Arms แขนเรียวสวย ไม่ปลอม ไม่ย้วย ที่สำคัญเราขึ้นชื่อเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย ห้องผ่าตัดคลีนรูมรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขและ AACI ทุกเคสดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูดไขมันระดับ KOL Trainer ครบครันด้วยเทคโนโลยีด้านการดูดไขมันและกระชับผิวที่สุดในไทย

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่

สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB

ติดต่อเบอร์โทร : 

062-789-1999

⇒ สาขา รัชโยธิน กด 1
⇒ สาขา ราชพฤกษ์ กด 2

นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)

KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!