แจกตารางการดื่มน้ำลดความอ้วน เพื่อสุขภาพที่ดี

การลดน้ำหนักที่ดีจะต้องใส่ใจในสุขภาพด้วย ซึ่งรู้ไหมว่าการดื่มน้ำเปล่าธรรมดาก็ช่วยให้คุณมีหุ่นที่ฟิตแอนด์เฟิร์มได้เช่นกัน เพียงแต่จะต้องดื่มน้ำอย่างถูกวิธีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดังนั้นวันนี้เราจะมาบอกให้คุณได้รู้กันว่าเพียงแค่การดื่มน้ำจะช่วยลดความอ้วนอย่างไร? พร้อมแจกตาราง การดื่มน้ำที่เหมาะสม ไปดูกันเลยว่าต้องดื่มน้ำอย่างไร? ถึงจะมีหุ่นที่สวยเป๊ะได้ไม่ยาก

การดื่มน้ำ ส่งผลต่อการลดน้ำหนักอย่างไร 

รู้ไหมว่าน้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญของร่างกายเลยทีเดียว ซึ่งพบว่ามีมากถึง 70% ของร่างกาย ซึ่งน้ำจะช่วยสร้างสมดุลภายในร่างกาย ทำให้ระบบต่าง ๆ โดยเฉพาะระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดความอยากอาหาร ลดการกินจุกจิกได้เป็นอย่างดี

แต่หากร่างกายขาดน้ำ ก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตามมามากมาย รวมถึงการควบคุมน้ำหนักด้วย ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าการดื่มน้ำนั้นมีความสัมพันธ์กับการลดน้ำหนัก ถือเป็นสิ่งที่จะมองข้ามไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากมีหุ่นสวยเป๊ะก็ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอด้วยเช่นกัน

เราควรดื่มน้ำวันละเท่าไหร่

ปริมาณน้ำที่ควรดื่มให้ได้ในแต่ละวันก็คือ อย่างน้อย 1-1.5 ลิตร ซึ่งจะเพียงพอต่อการนำไปใช้ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งนี้ปริมาณน้ำที่เราควรดื่มต่อวันก็ยังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเพศ น้ำหนัก กิจกรรมที่ทำ และสภาพอากาศ เป็นต้น

โดยมีวิธีคำนวณปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวัน ดังนี้

น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) x 2.2 x 30 / 2 = ปริมาณน้ำ (มิลลิลิตร)

ตัวอย่าง: น้ำหนักตัว 60 กิโลกรัม x 2.2 x 30 / 2 = 1,815 มิลลิลิตร หรือ 1.8 ลิตร

การดื่มน้ำให้เพียงต่อความต้องการของร่างกาย จะส่งผลดีต่อสุขภาพหลายประการ ทั้งยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย 

ตารางการดื่มน้ำลดความอ้วนใน 1 วัน 

การลดน้ำหนักไม่ยากอย่างที่คิด ถ้าคุณทำอย่างถูกวิธี โดยปฏิบัติตามตาราง การดื่มน้ำใน 1 วันตามนี้ ก็จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักได้อย่างง่ายดาย 

ดื่มน้ำหลังตื่นนอน 1 แก้ว

หลังตื่นนอนในตอนเช้าให้คุณดื่มน้ำก่อนเลย 1 แก้ว เพื่อที่น้ำจะได้เข้าไปช่วยลดความข้นหนืดของเลือด กระตุ้นให้เลือดมีการไหลเวียนดีขึ้น ระบบต่าง ๆ จึงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังกระตุ้นให้ร่างกายของคุณมีความพร้อมสำหรับการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างกระปรี้กระเปร่านั่นเอง อีกทั้งยังช่วยลดความหิวโหยในยามเช้าได้อีกด้วย

ดื่มน้ำช่วงสาย 2 แก้ว

ช่วงสาย ๆ ให้คุณดื่มน้ำอีก 2 แก้ว โดยแบ่งเป็น 2 มื้อ มื้อแรกในตอน 08.00 น. ให้ดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนที่จะกินอาหารมื้อเช้าอย่างน้อย 30 นาที- 1 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ทั้งนี้ไม่ควรดื่มน้ำแล้วกินข้าวตามในทันที เพราะอาจทำให้คุณจุกได้นั่นเอง

หลังจากนั้นให้ดื่มน้ำอีก 1 แก้วตอน 09.00 น. เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นให้ร่างกายขับเอาของเสียออกมา ไม่ว่าจะขับออกในรูปแบบของปัสสาวะ อุจจาระ หรือเหงื่อก็ตาม 

ดื่มน้ำช่วงบ่ายหลังมื้ออาหาร 2 แก้ว

ช่วงบ่ายตั้งแต่เวลา 13.00 น. – 14.00 น. ให้คุณดื่มน้ำทั้งหมด 2 แก้ว จะช่วยกระตุ้นให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ และทำให้คุณไม่รู้สึกง่วงนอนตอนบ่ายอีกด้วย ซึ่งปกติแล้วการที่คนเรามักจะง่วงนอนตอนบ่าย นั่นก็เพราะร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำนั่นเอง ส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ทำงานเฉื่อยชาลง และง่วงซึมได้ ดังนั้นเราจึงต้องจิบน้ำอยู่เรื่อย ๆ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสดชื่นและตื่นตัวยิ่งขึ้นนั่นเอง

ดื่มน้ำช่วงเย็นก่อนมื้ออาหาร 2 แก้ว

สำหรับช่วงเย็นก่อนทานอาหารมื้อหลัก ควรดื่มน้ำอีก 2 แก้ว เพื่อให้รู้สึกอิ่มเร็วและทานอาหารมื้อเย็นน้อยลง อีกทั้งยังไปกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกในลำไส้ให้ออกไปได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการดื่มน้ำตอนเย็นนอกจากจะดีต่อการลดน้ำหนักแล้ว ยังดีต่อสุขภาพและผิวพรรณอีกด้วย

แต่ทั้งนี้ควรดื่มน้ำก่อนมื้ออาหารประมาณ 1 ชั่วโมงเหมือนกับตอนเช้าเลย ดื่มแบบค่อย ๆ จิบ จนครบ 2 แก้ว โดยไม่ควรดื่มน้ำและกินอาหารตามในทันทีนั่นเอง

ดื่มน้ำก่อนนอน 1 แก้ว

อีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญที่ควรดื่มน้ำนั่นก็คือ ก่อนนอน โดยให้ดื่มน้ำอีก 1 แก้ว จะช่วยให้คุณนอนหลับสบายมากขึ้นและมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักด้วยเช่นกัน ซึ่งหากคุณทำตาม ตาราง การดื่มน้ำเหล่านี้ เชื่อได้เลยว่าจะมีหุ่นสวยได้ดั่งใจแน่นอน

ทำไมห้ามกินน้ำหลังกินข้าวทันที  

หลายคนคงเคยได้ยินว่าห้ามกินน้ำหลังกินข้าวทันที เพราะจะทำให้น้ำย่อยเจือจางและมีประสิทธิภาพในการย่อยอาหารลดลง แต่ความจริงแล้วร่างกายของเราสามารถปรับสมดุลค่า pH ได้เอง จึงสามารถดื่มน้ำได้ปกติ เพียงแต่ไม่ควรดื่มมากเกินไป เพราะจะทำให้กลืนอาหารง่ายจนเผลอเคี้ยวไม่ละเอียด ส่งผลให้กระเพาะอาหารต้องทำงานหนักเกินไป ซึ่งถ้าให้ดีควรดื่มน้ำแบบจิบทีละน้อย ๆ แต่บ่อย ๆ จะดีกว่า

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!

---

ชื่อ

หญิงชายอื่น ๆ

เบอร์มือถือ

บริการ/ตำแหน่งที่สนใจ...

วันที่สะดวก

ความกังวลที่ต้องการแก้ไข รักษา