ใครต่อใครก็พูดกันว่าออกกำลังกายด้วยการเดินนั้นดีต่อสุขภาพ ที่สำคัญช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย แต่นั่นเป็นเรื่องจริงไหมนะ? หลายคนอาจสงสัยว่าการเดินเพียงอย่างเดียวจะส่งผลต่อสุขภาพได้มากแค่ไหน เดิน 1 ชั่วโมงกี่แคล? เผาผลาญพลังงานได้มากแค่ไหน วันนี้หมอมะปราง AMARA จะพาทุกคนไปหาคำตอบกันค่ะ
เดิน 1 ชั่วโมงกี่แคล?
การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ทำได้ง่าย แต่ช่วยบริหารกล้ามเนื้อและเผาผลาญพลังงานได้ดี แล้วเดิน1ชั่วโมงกี่แคล? ปกติแล้วจะเผาผลาญได้ 200 – 500 แคลอรี่ โดยจะเผาผลาญได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยปัจจัยสำคัญคือน้ำหนักตัวของเราและความเร็วของการเดินที่มีผลต่อการเบิร์น ซึ่งทาง Wisconsin Department of Health Services ของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความแตกต่างของการเดินโดยแยกออกเป็น 7 แบบ ดังนี้
ลักษณะการเดิน
|
แคลอรี่ที่ถูกเผาผลาญ (ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว) | ||
130 ปอนด์ (59 กิโลกรัม) |
155 ปอนด์ (70 กิโลกรัม) |
190 ปอนด์ (86 กิโลกรัม) |
|
เดินช้า (ความเร็ว 3.2 กม./ชม.) | 148 | 176 | 216 |
เดินปกติ (ความเร็ว 4.8 กม./ชม.) | 207 | 246 | 302 |
เดินเร็ว (ความเร็ว 6.4 กม./ชม.) | 236 | 281 | 345 |
เดินขึ้นเนิน (ความเร็ว 5.6 กม./ชม.) | 354 | 422 | 518 |
เดินอุ้มลูกหรือของหนักประมาณ 7 กิโลกรัม | 207 | 246 | 302 |
เดินขึ้นบันได | 472 | 563 | 690 |
เดินโดยใช้ไม้ค้ำยัน | 236 | 281 | 345 |
ดังนั้น สำหรับคำถามที่ว่า เดิน 1 ชั่วโมงกี่แคล? อาจตอบเป็นตัวเลขชัดเจนไม่ได้ เพราะยิ่งน้ำหนักน้อยและเดินช้าก็จะทำให้เผาผลาญน้อย แต่ถ้าน้ำหนักมากและเดินทางสูงชันก็จะยิ่งเผาผลาญมาก เหมาะเป็นการออกกำลังกายประจำวันค่ะ หมอแนะนำว่าให้เดิน 1 ชั่วโมงต่อวันเพราะเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและการทำงานของหัวใจได้อย่างเต็มที่และต่อเนื่อง แต่หากรู้สึกว่า 1 ชั่วโมงยากเกินไป ให้เลือกออกกำลังกาย 30 นาทีก่อนก็ได้ค่ะ เป็นการเริ่มต้นที่ดี ไม่หักโหมจนทำให้เสียกำลังใจค่ะ
ข้อดีของการเดิน
การเดินออกกำลังกายเป็นประจำส่งผลดีหลายอย่างต่อร่างกายค่ะ แม้ว่าจะฟังดูง่าย ๆ แต่การเดินนี่แหละค่ะที่ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เป็นกิจกรรมที่ทำได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ และสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา การเดินจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยดูแลร่างกายแบบง่าย ๆ แต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม เราไปดูข้อดีของการเดินกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง
-
เพิ่มกล้ามเนื้อ
เดิน1ชั่วโมงทุกวันช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณขาและสะโพก สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มออกกำลังกาย ควรเริ่มจากการเดินระยะทางสั้น ๆ และใช้เวลาไม่นาน เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ปรับตัว เมื่อร่างกายเริ่มคุ้นเคยแล้ว ค่อย ๆ เพิ่มระยะทางและเวลาในการเดิน การหักโหมเดินมากเกินไปตั้งแต่แรกอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้
-
ลดความเสี่ยงโรคร้าย
เดิน 1 ชั่วโมงช่วยลดความเสี่ยงจากโรคร้ายหลายชนิด งานวิจัยจาก Harvard University พบว่าผู้ที่เดินมากกว่า 7 ชั่วโมง/สัปดาห์ มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมน้อยลงถึง 14% เมื่อเทียบกับผู้ที่เดินเพียง 3 ชั่วโมงหรือน้อยกว่า นอกจากนี้ การเดินระยะทาง 8 – 10 กิโลเมตร/สัปดาห์ ยังช่วยบรรเทาอาการปวดข้อในผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบ โดยเฉพาะบริเวณข้อเข่าและสะโพก การเดินยังมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานประเภทที่ 2 เพราะการออกกำลังกายจะช่วยดึงกลูโคสไปใช้ทันที อีกทั้งยังช่วยชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์ รวมถึงลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด จึงลดความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดหัวใจได้อีกเช่นเดียวกัน
-
ช่วยหลั่งสารแห่งความสุข
การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินส์ (Endorphins) ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลังเดิน 1 ชั่วโมงจึงไม่แปลกที่จะรู้สึกสดชื่น สบาย อารมณ์ดีขึ้น การเดินอย่างสม่ำเสมอส่งผลดีต่อสุขภาพจิต ทำให้จิตใจปลอดโปร่งและยังทำให้นอนหลับได้ดีขึ้นอีกด้วย
-
ช่วยรักษารูปร่าง
การเดินเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าช่วยลดน้ำหนักได้ เนื่องจากคาร์ดิโอจะกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจ การไหวเวียนเลือด นำน้ำตาลออกมาใช้เป็นพลังงานไม่ให้สะสมเป็นไขมันตามร่างกาย และจากงานวิจัยยังบอกอีกด้วยว่าการเดิน 1 ชั่วโมงต่อวันช่วยลดผลกระทบกว่าครึ่งหนึ่งจากยีนส์ที่เป็นสาเหตุของโรคอ้วนได้! ทั้งนี้สามารถลดน้ำหนักได้ประมาณ 4.5 กิโลกรัม โดยใช้เวลา 10 – 24 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการเดินด้วย
การเดิน1ชั่วโมงช่วยลดน้ำหนักได้จริงเพียงแต่ต้องใช้เวลาสักพัก หากต้องการมีหุ่นที่ดี นอกจากการเดินเร็วแล้ว ยังมีวิธีอื่นที่ช่วยรักษารูปร่างให้ดีได้ นั้นคือ ‘การดูดไขมัน (Liposuction)’ โดยแพทย์ของ AMARA จะใช้เครื่องมือพิเศษดูดไขมันส่วนเกินออกจากบริเวณที่มีปัญหา เช่น หน้าท้อง, ต้นขา, สะโพก หรือแขน การดูดไขมันไม่ใช่วิธีการลดน้ำหนักโดยตรง แต่เป็นการปรับรูปร่างในบริเวณที่ไขมันสะสมมากจนลดด้วยการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารไม่ได้ผล อีกทั้งการดูดไขมันเห็นผลทันทีหลังทำ (แต่ผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดจะเห็นในเดือนที่สาม) การดูดไขมันจึงทั้งสามารถเลือกได้ว่าอยากลดส่วนไหนและเห็นผลไว!
ต้องการปรึกษาแพทย์ฟรี!
SCan OR Code เพื่อแอดไลน์ หรือ
สาขา รัชโยธิน กด 1
สาขา ราชพฤกษ์ กด 2
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ เดิน1ชั่วโมงกี่แคล
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับความรู้ที่หมอให้ไปวันนี้ หวังว่าจะช่วยให้คำตอบได้นะคะ แต่คำถามที่ว่า เดิน1ชั่วโมงกี่แคล? อาจไม่ใช่คำถามเดียวที่ทุกคนอยากทราบค่ะ หมอมะปรางเลยรวบรวมคำถามน่ารู้และคาดว่าเป็นคำถามที่หลายคนกำลังสงสัยกันอยู่ ไปดูกันเลยค่ะว่าจะมีอะไรบ้าง
เดิน 1 กิโล กี่แคล? โดยเฉลี่ยประมาณ 30 – 100 กิโลแคลอรี่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น น้ำหนักตัว ความเร็วในการเดิน และความสูงชันของเส้นทาง การเดินบนพื้นราบจะเผาผลาญแคลอรี่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับการเดินขึ้นเนินหรือลาดชัน อีกทั้งน้ำหนักตัวที่มากขึ้นก็จะทำให้ร่างกายใช้พลังงานมากขึ้นในการเดิน
เดิน 1 ชั่วโมงกี่กิโล? อันนี้ตอบเป็นจำนวนชัดเจนยากค่ะ ถ้าตามปกติแล้วก็ประมาณ 6 – 8 กิโลเมตร ทั้งนี้ถ้าเดินไม่ถึงก็ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะหากเพิ่งเริ่มเดินระยะอาจจะแค่ 3 – 4 กิโลเมตร แล้วอาจค่อย ๆ เพิ่มระยะทางได้
เดิน 1 ชั่วโมงได้กี่ก้าว? หลายคนจะเดินได้ประมาณ 6,000 – 10,000 ก้าว ขึ้นอยู่กับความเร็วในการเดินและระยะก้าวของแต่ละคน แต่หากเดินไวขึ้นก็สามารถเดินมากกว่าหนึ่งหมื่นก้าวได้ จะช่วยทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและลดโอกาสเกิดโรคเรื้อรังได้
สรุป
เดิน 1 ชั่วโมงกี่แคล? จากข้อมูลจะเผาผลาญพลังงานได้ตั้งแต่ 150 – 700 กิโลแคลอรี่ ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของผู้เดิน ความเร็วในการเดิน และความสูงชันของทาง การเดิน 1 ชั่วโมงมีข้อดีหลายประการ ทั้งเพิ่มกล้ามเนื้อ, ลดความเสี่ยงโรคร้าย, ช่วยหลั่งสารแห่งความสุข และช่วยรักษารูปร่าง โดยแนะนำให้เดินออกกำลังกายเป็นประจำวันทุกวันจะทำให้ร่างกายได้ประโยชน์มากมาย
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB
ติดต่อเบอร์โทร :
062-789-1999⇒ สาขา รัชโยธิน กด 1
⇒ สาขา ราชพฤกษ์ กด 2
นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)
KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet