เสริมหน้าอกให้นมลูกได้ไหม ใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงให้ได้

breastfeeding-after-implants-cover

ผู้หญิงหลายคนฝันอยากมีหน้าอกสวย แต่ก็กังวลว่าการศัลยกรรมเสริมหน้าอกอาจส่งผลต่อการให้นมลูกในอนาคต คำถามที่มักพบบ่อยคือ “เสริมหน้าอกให้นมลูกได้ไหม?” หรือ “ทำหน้าอกให้นมลูกได้จริงหรือ?” ไม่ต้องกังวลไปค่ะ! วันนี้ หมอเอ็ดดี้ AMARA มีข้อมูลดี ๆ มาไขข้อสงสัยกันแบบหมดเปลือก หลังจากอ่านบทความนี้ รับรองว่าคุณจะหายข้องใจและมั่นใจในการตัดสินใจมากขึ้นแน่นอน

เสริมหน้าอกให้นมลูกได้ไหม ใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงให้ได้

หลังทำหน้าอกให้นมลูกได้ไหม

ทำหน้าอกให้นมลูกได้ไหม ? หมอเอ็ดดี้ ขอตอบ จริง ๆ แล้วการเสริมหน้าอกไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการให้นมลูกเสมอไปครับ แต่ทั้งนี้ก็มีปัจจัยบางอย่างที่ต้องพิจารณาด้วยครับ เช่น 

  • ผลกระทบต่อต่อมน้ำนม : การผ่าตัดที่ไม่กระทบต่อท่อน้ำนมและต่อมน้ำนมจะช่วยรักษาความสามารถในการผลิตน้ำนมไว้ได้
  • ปริมาณน้ำนม : อาจมีผลต่อปริมาณน้ำนมในระยะแรก แต่ส่วนใหญ่จะกลับมาปกติหลังจากระยะพักฟื้น
  • คุณภาพน้ำนม : ไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพน้ำนมโดยตรง แต่ควรระวังเรื่องการใช้ยาระหว่างและหลังการผ่าตัด

แม้ว่าการเสริมหน้าอกอาจส่งผลกระทบต่อการให้นมลูกในระยะแรก แต่หากทำอย่างถูกวิธีและมีการดูแลที่เหมาะสม คุณแม่ส่วนใหญ่ก็ยังสามารถให้นมลูกได้ตามปกติครับ 

เทคนิคการเสริมหน้าอกที่เป็นมิตรกับการให้นม

เทคนิคการเสริมหน้าอกที่เป็นมิตรกับการให้นม

การเลือกเทคนิคการผ่าตัดที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความสามารถในการให้นมลูก โดยมี 2 ปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณา คือ 

ตำแหน่งการวางซิลิโคน

การวางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อ “Submuscular” หรือ “Under the muscle” ซิลิโคนจะถูกวางไว้ใต้กล้ามเนื้อหน้าอก (Pectoral muscle)

ข้อดี

  • มีผลกระทบต่อต่อมน้ำนมและท่อน้ำนมน้อยที่สุด เพราะซิลิโคนไม่ได้สัมผัสกับเนื้อเยื่อเต้านมโดยตรง
  • ลดความเสี่ยงของการเกิดพังผืดรอบซิลิโคน (Capsular contracture)
  • ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อเต้านมน้อย

ข้อเสีย

  • การผ่าตัดอาจซับซ้อนกว่าและใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่า
  • อาจมีอาการปวดหลังผ่าตัดมากกว่า

ต่อมา คือ การวางซิลิโคนบนกล้ามเนื้อครับ วิธีนี้เรียกว่า “Subglandular” หรือ “Over the muscle” ซิลิโคนจะถูกหมอวางไว้ใต้ต่อมน้ำนมแต่อยู่บนกล้ามเนื้อหน้าอก

ข้อดี

  • การผ่าตัดง่ายกว่าและใช้เวลาฟื้นตัวสั้นกว่า
  • เจ็บปวดหลังผ่าตัดน้อยกว่า
  • ให้รูปทรงที่เด่นชัดกว่า

ข้อเสีย

  • มีความเสี่ยงสูงกว่าที่จะกระทบต่อต่อมน้ำนมและท่อน้ำนม เนื่องจากซิลิโคนอยู่ใกล้กับเนื้อเยื่อเต้านมมากกว่า
  • อาจทำให้การตรวจแมมโมแกรมยากขึ้น
  • มีโอกาสเกิดพังผืดรอบซิลิโคนสูงกว่า

วิธีการผ่าตัดที่แนะนำ

การผ่าตัดที่แนะนำ จะมี 2 วิธีได้แก่ การผ่าตัดผ่านรอยพับใต้ราวนม และ การผ่าตัดผ่านรักแร้ มีรายละเอียดดังนี้

1. ผ่าตัดผ่านรอยพับใต้ราวนม (Inframammary Fold Incision) 

เป็นการผ่าตัดโดยการเปิดแผลบริเวณรอยพับใต้เต้านม มีข้อดีและข้อควรระวังดังนี้

ข้อดี

  • แพทย์สามารถมองเห็นพื้นที่ผ่าตัดได้ชัดเจน ทำให้ควบคุมการวางซิลิโคนได้แม่นยำ
  • มีผลกระทบต่อต่อมน้ำนมและท่อน้ำนมน้อย เนื่องจากแผลอยู่ห่างจากบริเวณหัวนม
  • แผลเป็นมักจะซ่อนอยู่ใต้เต้านม ทำให้มองเห็นได้ยาก
  • เหมาะสำหรับการใส่ซิลิโคนขนาดใหญ่

ข้อควรพิจารณา

  • อาจมองเห็นแผลเป็นได้เมื่อนอนหงายหรือยกแขน
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีเต้านมขนาดเล็กมาก เพราะอาจไม่มีรอยพับใต้เต้านมที่ชัดเจน

 2. การผ่าตัดผ่านรักแร้ (Transaxillary Incision) 

เป็นการผ่าตัดโดยการเปิดแผลบริเวณรักแร้ มีข้อดีและข้อควรระวังดังนี้

ข้อดี

  • ไม่มีแผลเป็นบริเวณเต้านม ทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
  • ลดความเสี่ยงต่อการตัดท่อน้ำนมโดยตรง เนื่องจากแผลอยู่ห่างจากเต้านม
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงแผลเป็นบริเวณเต้านมโดยสิ้นเชิง
  • ช่วยรักษาความรู้สึกของหัวนมได้ดี ซึ่งสำคัญสำหรับการกระตุ้นการผลิตน้ำนม

ข้อควรพิจารณา

  • การผ่าตัดอาจซับซ้อนกว่าวิธีอื่น เนื่องจากแพทย์ต้องสอดซิลิโคนผ่านช่องทางที่ยาวกว่า
  • อาจมีข้อจำกัดในการแก้ไขหรือเปลี่ยนซิลิโคนในอนาคต
  • ไม่เหมาะสำหรับการใส่ซิลิโคนขนาดใหญ่มาก

ระยะเวลาที่เหมาะสมระหว่างการเสริมหน้าอกและการให้นม

สำหรับใครที่สงสัยว่าเสริมหน้าอก พักฟื้นกี่วัน ในหัวข้อนี้หมอเอ็ดดี้ AMARA จะมาให้คำตอบ โดยจะแยกออกเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมระหว่างการเสริมหน้าอกและการให้นมครับ

ระยะเวลาฟื้นตัวหลังผ่าตัด

  • ควรรอให้แผลหายสนิทและอาการบวมลดลง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน
  • ในระหว่างนี้ ควรงดการให้นมลูกเพื่อให้ร่างกายได้พักฟื้นอย่างเต็มที่

ช่วงเวลาที่ปลอดภัยสำหรับการตั้งครรภ์

  • แนะนำให้รอ 6-12 เดือนหลังการเสริมหน้าอกก่อนที่จะวางแผนตั้งครรภ์
  • ช่วงเวลานี้จะช่วยให้ร่างกายปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงและพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์และการให้นมลูก

 ทางเลือกอื่นสำหรับคุณแม่ที่กังวล

ทางเลือกอื่นสำหรับคุณแม่ที่กังวล

สำหรับคุณแม่ที่ยังกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการเสริมหน้าอกต่อการให้นมลูก หมอเอ็ดดี้มีทางเลือกอื่น ๆ อีกครับ เช่น

 การใช้นมผสม

นมผสมเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับทารก เพราะมีสารอาหารครบถ้วนตามความต้องการของเด็ก สามารถใช้ทดแทนนมแม่ได้หากจำเป็น หรือใช้เสริมควบคู่กับนมแม่ในกรณีที่น้ำนมให้นมลูกไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกสูตรที่เหมาะสม และเตรียมนมอย่างถูกวิธีเพื่อความปลอดภัยสูงสุดครับ

การบริจาคนมแม่

การบริจาคนมแม่เป็นทางเลือกสำหรับทารกที่ไม่สามารถรับนมจากมารดาได้เพียงพอ สามารถทำได้โดยผ่านกระบวนการคัดกรองผู้บริจาคอย่างเข้มงวด และพาสเจอร์ไรซ์นมเพื่อความปลอดภัย ซึ่งในประเทศไทยจะมีธนาคารนมแม่ในโรงพยาบาลหลายแห่ง ผู้สนใจบริจาคหรือรับบริจาคสามารถติดต่อโรงพยาบาลใกล้บ้านหรือสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีครับ

สรุปบทความ


การเล่นกีฬาเหล่านี้ จะทำให้คุณมีหุ่นที่ผอมเพรียว กระชับ ได้สัดส่วนดั่งใจต้องการ ทั้งยังดีต่อสุขภาพและการเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงอีกด้วย ซึ่งใครที่อยากลดน้ำหนักแต่ไม่รู้จะออกกำลังกายด้วยวิธีไหนดี ก็ลองมาเล่นกีฬาเหล่านี้กันดูได้ ส่วนใครที่อยากจะลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน หมอเอ็ดดี้ AMARA ก็มีอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจมานำเสนอ นั่นก็คือการดูดไขมันทั้งตัว และผ่าตัดหนังหน้าท้องนั่นเอง 

ซึ่งต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและมอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดย AMARA เราเป็นศูนย์ดูดไขมันและบริการด้านศัลยกรรมความงามอย่างครบวงจร มีทีมแพทย์เฉพาะทางที่สามารถดูดไขมันและทำการผ่าตัดหนังหน้าท้องได้อย่างมืออาชีพ หัตถการเหล่านี้จะช่วยเปลี่ยนคุณให้เป็นคนใหม่ และกลับมามีความมั่นใจได้อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้สามารถติดต่อสอบถามกับทางคลินิกก่อนได้ฟรี

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่

ติดต่อเบอร์โทร : 

062-789-1999

สาขารัชโยธิน กด 1
สาขาราชพฤกษ์ กด 2

สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB

ศัลยแพทย์เฉพาะทาง

นพ. ฤทธิกร พรไพศาลสกุล (หมอนิว)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!