อยากลดน้ำหนักด่วน ๆ ต้องใช้หุ่นเร็ว ๆ ภายใน 1 อาทิตย์! ลองหันมาดูสูตรลดน้ำหนัก 7 วันด้วยไข่ต้ม ช่วยเร่งรัดลดน้ำหนักฉบับง่าย ๆ ได้ผลจริงเพราะใช้แค่ไข่ ซึ่งหาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าและร้านสะดวกซื้อทั่วไป แถมประหยัดงบไปได้เยอะ AMARA จะพาไปดูตารางสูตรลดน้ำหนัก 7 วันด้วยไข่ต้ม พร้อมเหตุผลว่าทำไมไข่ต้มถึงช่วยลดน้ำหนัก? แล้วลดได้เท่าไหร่? ไปหาคำตอบกัน!
เข้าใจสูตรลดน้ำหนัก 7 วัน ไข่ต้มช่วยลดได้ยังไง?
ก่อนไปรู้จักสูตรลดน้ำหนัก 7 วันด้วยไข่ต้ม เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า เพราะอะไรไข่ต้มจึงช่วยลดน้ำหนักได้ ซึ่งแน่นอนว่ามีข้อดีหลายอย่าง ๆ ที่ช่วยให้การลดน้ำหนักในระยะเวลาสั้น ๆ ได้ผลดี เหตุผลมีดังนี้
ไข่ต้มมีแคลอรี่ต่ำ
ไข่ต้ม 1 ฟองมีแคลอรี่เพียงประมาณ 74 แคลอรี่ ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับความหนาแน่นของสารอาหารที่ได้รับ เช่น โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ การกินไข่ต้มแทนอาหารแคลอรี่สูงช่วยลดปริมาณพลังงานที่ร่างกายได้รับในแต่ละวัน ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานของการลดน้ำหนัก
ไข่ต้มมีโปรตีนสูง
ไข่ต้มอุดมไปด้วยโปรตีนคุณภาพสูงที่เป็นโปรตีนสมบูรณ์ (Complete protien) เพราะมีกรดอะมิโนครบถ้วนที่ร่างกายต้องการ โปรตีนนี้ไม่เพียงช่วยซ่อมแซมและสร้างกล้ามเนื้อ แต่ยังเพิ่มอัตราการเผาผลาญให้ร่างกายทำงานได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับการรักษามวลกล้ามเนื้อขณะลดน้ำหนัก
การเพิ่มไข่ต้มในมื้ออาหารช่วยให้อิ่มนาน
ปริมาณโปรตีนและไขมันดีในไข่ต้มช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้นเมื่อเทียบกับอาหารที่มีโปรตีนต่ำ งานวิจัยระบุว่าไข่ช่วยลดความอยากอาหารและป้องกันการกินจุบจิบ โดยเฉพาะเมื่อกินคู่กับผักหรือไฟเบอร์ จะยิ่งเพิ่มความรู้สึกอิ่มและลดปริมาณอาหารในมื้อต่อไปได้
เพิ่มการเผาผลาญจากการย่อยโปรตีนในไข่ต้ม
การย่อยโปรตีนในไข่ต้มต้องใช้พลังงานมากกว่าการย่อยไขมันหรือคาร์โบไฮเดรต โดยผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “The Thermic Effect of Food“ ซึ่งช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ คุณสมบัติในการรักษากล้ามเนื้อจากโปรตีนยังช่วยให้การเผาผลาญมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์กับการลดน้ำหนักในระยะยาว
ไข่ต้มหาทานได้สะดวกและดีต่อสุขภาพ
ไข่ต้มเป็นอาหารที่จัดเตรียมง่าย ไม่ต้องใช้น้ำมันหรือเนยเหมือนการทอดก็ได้ ช่วยลดปริมาณแคลอรี่และตัดไขมันส่วนเกินออก ซึ่งก็ทำให้การทานไข่ต้มเป็นวิธีที่ทั้งสะดวกและดีต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับคนที่มองหาเมนูควบคุมน้ำหนักแบบง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก
แจกตาราง! สูตรลดน้ำหนัก 7 วัน ด้วยไข่ต้ม
เนื่องจากไข่มีประโยชน์กับร่างกายมาก ๆ ทั้งยังสามารถนำมาทำอาหารได้ง่ายและหลากหลาย สูตรลดน้ำหนัก 7 วันด้วยไข่ต้ม จึงเป็นตัวเลือกที่ทั้งมีประโยชน์แถมประหยัด โดยเราสามารถเพิ่มไข่ต้มเข้าไปในมื้ออาหารได้ดังนี้
วันที่ 1 | เช้า – ไข่ต้ม 2 ฟอง ผักโขม ส้ม 1 ลูก กลางวัน – ปลานิลย่างกับยำผักรวม (ผักกาดหอม แตงกวา มะเขือเทศ น้ำมะนาว-น้ำปลา) เย็น – หมูย่าง (สันใน) กับผัดผักรวม (กะหล่ำปลี แครอท ปรุงน้ำมันหอยเล็กน้อย) ของว่าง/ของหวาน – งด |
วันที่ 2 | เช้า – ไข่ต้ม 2 ฟอง มะเขือเทศ แตงโม กลางวัน – อกไก่ย่าง กับส้มตำไทย (ปรับโดยใช้ มะละกอ แครอท ถั่วฝักยาว ไม่ใส่น้ำตาล) เย็น – ปลาทูย่างกับผักลวก (ผักบุ้ง กวางตุ้ง) และน้ำจิ้มซีฟู้ด ของว่าง/ของหวาน – งด |
วันที่ 3 | เช้า – ไข่ต้ม 2 ฟอง ส้ม 1 ลูก กลางวัน – เนื้อวัวย่าง (ส่วนไม่ติดมัน) กับยำผักกาดขาวและเห็ดเข็มทอง (น้ำยำมะนาว-น้ำปลา) เย็น – ปลาแซลมอนอบกับเห็ด ของว่าง/ของหวาน – งด |
วันที่ 4 | เช้า – ไข่ต้ม 2 ฟอง หน่อไม้ฝรั่ง สตรอว์เบอร์รี กลางวัน – สลัดไข่ต้ม (ไข่ต้ม 1 ฟอง ผักกาดหอม แตงกวา น้ำยำแบบไม่ใส่น้ำตาล) เย็น – เนื้อวัวอบกับกะหล่ำดอก ของว่าง/ของหวาน – งด |
วันที่ 5 | เช้า – ไข่ต้ม 2 ฟอง แฮม 1 ชิ้น สตรอว์เบอร์รี กลางวัน – ปลาช่อนย่างกับน้ำพริกกะปิและผักลวก (ตำลึง ฟักทอง) เย็น – ไก่ย่างเสียบไม้กับพริกหยวกและหัวหอม ของว่าง/ของหวาน – งด |
วันที่ 6 | เช้า – ไข่ต้ม 2 ฟอง แตงโม กลางวัน – สลัดไข่ต้มกับผักกาดขาวและมะเขือเทศ (น้ำยำมะนาว + น้ำปลานิดหน่อย) เย็น – ปลานิลนึ่งกับขิงและผัดดอกกะหล่ำกับเห็ดฟาง ของว่าง/ของหวาน – งด |
วันที่ 7 | เช้า – ไข่ต้ม 2 ฟอง แตงโม กลางวัน – ปลาแซลมอนย่างกับสลัดผัก เย็น – หมูสันในย่างกับผัดผักโขมและแครอท ของว่าง/ของหวาน – งด |
สูตรลดน้ำหนัก 7 วันด้วยไข่ต้ม ลดน้ำหนักได้เท่าไหร่?
สูตรนี้ช่วยลดน้ำหนักได้ราว ๆ 1.5-3 กก. ใน 7 วัน โดยขึ้นอยู่กับร่างกายและความเคร่งครัดของแต่ละคน อย่างการออกกำลังกายร่วมควบคู่ก็มีส่วนเยอะมาก ๆ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นผลลัพธ์ชั่วคราวเท่านั้น หากผ่านพ้นช่วง 7 วันไปน้ำหนักก็สามารถเพิ่มกลับมาเท่าเดิมได้ หากอ้างอิงจากการนับแคลอรี่ จะได้ข้อสรุปเบื้องต้น ตามตัวอย่างดังนี้
มื้อเช้า | มื้อกลางวัน | มื้อเย็น |
-ไข่ต้ม 148 -ผักโขม 20 -ส้ม 60 = ประมาณ 230 แคลอรี่ |
-ปลานิลย่าง 150 -ยำผัก 100 = ประมาณ 250 แคลอรี่ |
-หมูย่าง 200 -ผัดผัก 80 = ประมาณ 280 แคลอรี่ |
230 + 250 + 280 = 760 หากเราใช้สูตรลดน้ำหนัก 7 วันด้วยไข่ต้ม ก็จะได้รับพลังงานต่อวันประมาณ 760-800 แคลอรี่ |
ปกติคนเราทานวันละ 1,800-2,000 กิโลแคลอรี่ หากลดเหลือ 800 กิโลแคลอรี่แปลว่าลดเหลือ 1,000-1,200 กิโลแคลอรี่ ดังนั้นใน 7 วันก็จะลดแคลอรี่ได้ประมาณ 7,000 หรือประมาณ 1 กิโลกรัม (3,500 กิโลแคลอรี่ = 0.5 กก.) แต่เป็น 1 กิโลกรัมที่ยังไม่นับรวมกับมวลน้ำในกล้ามเนื้อที่หายไปจากกลไกการงดคาร์โบไฮเดรต รวมถึงการเบิร์นเพิ่มเติมจากการออกกำลังกายด้วย
สรุปง่าย ๆ คือหากทานตามสูตรนี้เป๊ะ ๆ 7 วัน อาจลดได้ราว 1.5-3 กิโล โดยเฉพาะคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำมาก่อนอยู่แล้ว และออกต่อเนื่องในช่วงที่ใช้สูตรลดน้ำหนัก 7 วันด้วยไข่ต้ม ก็จะสามารถเบิร์นได้เยอะกว่าคนทั่วไปที่ใช้สูตรเดียวกันนี้
สูตรลดน้ำหนัก 7 วันด้วยไข่ต้ม เหมาะกับทุกคนไหม?
สูตรลดน้ำหนัก 7 วันด้วยไข่ต้มเป็นแผนอาหารที่เน้นทานไข่ต้มอย่างน้อย 2-3 ฟองต่อวัน คู่กับโปรตีนไม่ติดมัน ผักใบเขียวและผลไม้แคลอรี่ต่ำ จึงช่วยลดน้ำหนักได้เร็ว แต่คำถามคือ สูตรนี้เหมาะกับทุกคนหรือเปล่า? คำตอบก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง แต่เราจะมาสำรวจกันว่าใครเหมาะ-ไม่เหมาะกับสูตรนี้
คนที่เหมาะกับสูตรลดน้ำหนัก 7 วันด้วยไข่ต้ม
- อยากลดน้ำหนักเร็ว ในระยะสั้น ๆ
- คนที่สุขภาพดีอยู่ในเกณฑ์ปกติ (หากออกกำลังกายเป็นประจำมาก่อนจะดีมาก)
- คนที่พร้อมปรับพฤติกรรมชั่วคราวและมีวินัยสูง
คนที่ไม่เหมาะกับสูตรลดน้ำหนัก 7 วันด้วยไข่ต้ม
- คนที่มีประวัติการกินผิดปกติ (Disordered Eating)
- คนที่มีคอเลสเตอรอลสูงหรือโรคหัวใจ
- คนที่เป็นโรคเรื้อรังและต้องทานยา
- คนที่ขาดไฟเบอร์อยู่แล้ว
เพราะอะไรสูตรลดน้ำหนัก 7 วันด้วยไข่ต้ม ถึงไม่ได้เหมาะกับทุกคน?
หากลองสังเกตดี ๆ จะพบว่าสูตรลดน้ำหนัก 7 วันด้วยไข่ต้มมีลดคาร์โบไฮเดรตออกไปเยอะพอสมควร หมายความว่าร่างกายจะได้รับสารอาหารและพลังงานที่ควรได้รับน้อยลง รวมถึงเป็นการพึ่งพาสารอาหารจากไข่เป็นหลัก จึงมีปัจจัยต่าง ๆ ที่เราควรพิจารณาดังนี้
-
เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ระยะสั้น
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าสูตรนี้เป็นสูตรที่ปรับมาจาก red-carpet diet ที่ออกแบบการกินให้เห็นผลไว เช่น ลดน้ำหนักก่อนงานสำคัญ แต่ปรับให้เข้ากับวัตถุดิบไทย ๆ เช่น ไข่ต้มกับผักโขมและปลานิลย่าง ก็ช่วยควบคุมแคลอรี่ได้ดี (มื้อเช้าแค่ 150-200 แคลอรี่) เหมาะกับคนสุขภาพดีที่อยากลดน้ำหนักช่วงสั้น ๆ ใน 7 วัน
-
ไม่เหมาะกับคนที่มีโรคประจำตัว
หากมีปัญหาคอเลสเตอรอลสูง โรคหัวใจหรือเบาหวาน ไข่ต้มวันละ 2-3 ฟอง (คอเลสเตอรอล 186 มก. ต่อฟอง) ก็เพิ่มความเสี่ยงต่าง ๆ ได้ เพราะคอเลสตเอรอลที่สูงไปสำหรับคนกลุ่มนี้คือ 300 มก. สัมพันธ์กับความเสี่ยงโรคหัวใจสูงขึ้น 17-18% รวมถึงผู้ป่วยบางโรคก็ไม่ได้เหมาะกับกินไข่ต้มทุกวัน
-
เสี่ยงขาดไฟเบอร์สำหรับบางคน
สูตรนี้เป็นสูตรที่จำกัดการทานธัญพืชและถั่ว ซึ่งเป็นแหล่งไฟเบอร์หลัก แม้ว่าเมนูแบบไทย ๆ จะเพิ่มผัก เช่น กะหล่ำปลี ผักกาด แต่ถ้ากินไม่หลากหลาย อาจได้ไฟเบอร์ไม่ถึง 25-38 กรัมต่อวันตามที่แนะนำ เสี่ยงท้องผูก โดยเฉพาะหากทานแค่ไข่ต้มล้วน ๆ
-
ไม่แนะนำสำหรับคนมีประวัติการกินผิดปกติ
การเน้นอาหารเดี่ยวอย่างไข่ต้มอาจทำให้เรารู้สึกเครียดเกินไป เพราะหากเข้มงวดมาก ๆ ก็ไม่ดีต่อสุขภาพจิตโดยเฉพาะคนมีประวัติการกินผิดปกติ (Eating Disorders) หรือคนที่มีปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ ก็ควรไตร่ตรองก่อนให้ดี เพราะจะกลายเป็นการเพิ่มความเครียดให้มากขึ้นจากเดิม สูตรลดน้ำหนัก 7 วันด้วยไข่ต้ม จึงเหมาะแค่คนที่ควบคุมตัวเองได้ดีเท่านั้น
คำแนะนำในการใช้สูตรลดน้ำหนัก 7 วันด้วยไข่ต้ม
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ วันละ 2-3 ลิตร เพื่อชดเชยน้ำที่หายไปจากการงดคาร์โบไฮเดรต
- เพิ่มผักใบเขียว เช่น ผักโขม กะหล่ำปลี เพื่อให้ได้ไฟเบอร์ ป้องกันท้องผูก
- ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เดินเร็ว 30 นาที ช่วยเผาผลาญแคลอรี่เพิ่ม
- หยุดหากอ่อนเพลีย ถ้ารู้สึกเหนื่อยเกินไป ให้เพิ่มโปรตีนหรือหยุดสูตรทันที
- ปรึกษาแพทย์ก่อน โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวานหรือคอเลสเตอรอลสูง
- ไม่เข้มงวดเกินจนไป ปรับเมนูได้เล็กน้อยหากหิวมาก เพื่อสุขภาพจิตที่ดี
- กินไข่ต้มไม่เกิน 3 ฟอง จำกัดคอเลสเตอรอลไม่ให้เกิน 558 มก. ต่อวัน
- ใช้เป็นสูตรชั่วคราว ไม่ควรทำเกิน 7 วัน เพราะอาจส่งผลเสียในระยะยาว
ต้องการปรึกษาแพทย์ฟรี!

SCan OR Code เพื่อแอดไลน์ หรือ
สาขา รัชโยธิน กด 1
สาขา ราชพฤกษ์ กด 2

สรุป
สูตรลดน้ำหนัก 7 วันด้วยไข่ต้มเป็นวิธีที่ง่ายและเร็ว เพราะไข่ต้มแคลอรี่ต่ำ อิ่มนาน ช่วยเผาผลาญได้ดี ทั้งยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งอาหารไทยและต่างชาติ อย่างไรก็ตาม สูตรลดน้ำหนัก 7 วันด้วยไข่ต้มไม่ได้เหมาะกับทุกคน แต่เหมาะสำหรับคนที่สุขภาพดีอยู่ในเกณฑ์ปกติ และต้องการลดน้ำหนักในระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อไปออกงานหรือทำภารกิจสำคัญเท่านั้น คนที่ไม่สามารถกินไข่ต้มได้ทุกวันหรือมีปัญหาด้านสุขภาพ ก็ควรเปลี่ยนไปใช้วิธีลดน้ำหนักที่ปลอดภัย โดยการออกกำลังกายแบบที่เหมาะกับตัวเองควบคู่ไปด้วย ก็เป็นทางเลือกตอบโจทย์และปลอดภัยกว่า
