แนะ 8 เคล็ดลับ กินหมูกระทะยังไงไม่ให้อ้วน

หมูกระทะ เมนูยอดฮิตสุดเลิฟของใครหลาย ๆ คน แต่ดันเป็นสาเหตุหนึ่งของความอ้วน เพราะหมูกระทะมีแคลอรีสูง ยิ่งคนส่วนใหญ่มักจะเน้นกินเนื้อมากกว่าผักด้วยแล้ว จึงทำให้เกิดการสะสมของไขมันส่วนเกินได้ง่ายนั่นเองค่ะ แต่ก็ใช่ว่าจะต้องเลิกกินหมูกระทะไปเลย เพราะบทความนี้หมอมะปรางมีวิธีสุดง่ายที่จะทำให้คุณกินหมูกระทะได้โดยไม่ต้องกลัวอ้วนกับ 8 เคล็ดลับ กินหมูกระทะยังไงไม่ให้อ้วน จะมีทริคใดบ้างนั้น มาติดตามกันต่อเลยค่ะ

 

เคล็ดลับกินหมูกระทะยังไงไม่ให้อ้วน

การกินหมูกระทะไม่ให้อ้วนสามารถทำได้ ถ้าคุณทำตามเคล็ดลับดังต่อไปนี้ ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปว่า หมูกระทะอ้วนไหม? ดังนั้นมาดูกันเลยว่ามีวิธีใดบ้าง 

1. แยกตะเกียบเพื่อสุขอนามัย

หมอมะปรางแนะนำให้แยกตะเกียบสำหรับอาหารดิบและสุกจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหูดับ และยังเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วยค่ะ เพราะการใช้ตะเกียบหลายอันทำให้คุณต้องหยิบจับอุปกรณ์บ่อยขึ้น ส่งผลให้กินช้าลงโดยอัตโนมัติ และมีความใส่ใจกับสิ่งที่กำลังกินน้อยลงกว่าเดิมค่ะ

ทำให้รู้ตัวว่ากำลังกินอะไรและปริมาณเท่าไร? อีกทั้งการกินช้าลง จะช่วยให้สมองมีเวลาประมวลผลความอิ่ม ทำให้คุณหยุดกินได้ทันเวลาก่อนที่จะกินมากเกินไปนั่นเอง

2. กินแค่พออิ่ม

การรู้จักหยุดกินเมื่ออิ่ม เป็นทักษะสำคัญในการควบคุมน้ำหนักที่หมอมะปรางแนะนำให้ควรมีค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกินหมูกระทะ ดังนั้นคุณจึงควรสังเกตตัวเองว่าอิ่มแล้วหรือยัง? หากอิ่มก็ควรหยุดทาน ไม่จำเป็นต้องรอให้รู้สึกอึดอัดแน่นท้อง อย่าปล่อยให้ความเสียดายว่าจะกินไม่คุ้ม ทำให้คุณกินมากไปโดยไม่รู้ตัว เพราะนั่นไม่เป็นผลดีกับตัวเองเลยค่ะ นอกจากส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นแล้ว ยังอาจเกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง และปวดท้องได้อีกด้วย

3. กินให้หลากหลาย

หมอมะปรางแนะนให้เลือกกินให้หลากหลาย ไม่ใช่กินแต่เนื้อหมูอย่างเดียวเท่านั้น เพื่อจะได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน และลดการกินอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งในปริมาณที่มากเกินไป จึงช่วยให้คุณควบคุมปริมาณแคลอรีโดยรวมของอาหารที่กินเข้าไปได้ดีค่ะ แนะนำให้เน้นกินผักเยอะ ๆ เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุ ใยอาหาร ซึ่งมีความสำคัญต่อร่างกายและทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว รวมถึงพวกเต้าหู้ เห็ดต่าง ๆ ก็ไม่ทำให้อ้วนและดีต่อสุขภาพเช่นกันค่ะ

4. กินผักสลับกับเนื้อสัตว์

การสลับกินผักและเนื้อสัตว์ เป็นวิธีที่ช่วยสร้างสมดุลในมื้ออาหารและควบคุมปริมาณแคลอรีได้ดี เพราะเนื้อสัตว์ให้โปรตีนและวิตามิน B ในขณะที่ผักให้ใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุ ซึ่งผักมีแคลอรีต่ำกว่าเนื้อสัตว์มาก การสลับกินช่วยจึงลดปริมาณแคลอรีรวมได้ดีมาก ทั้งยังให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ดังนั้นหากใครกินแบบนี้จึงมักจะไม่อ้วนนั่นเอง โดยหมอมะปรางแนะนำให้กินผักและเนื้อในอัตราส่วน 2:1 และควรเลือกผักที่มีสีสันสดใสจะช่วยกระตุ้นให้อยากกินผักมากขึ้น แถมยังช่วยให้ได้รับวิตามินอย่างครบถ้วนอีกด้วย

5. จิ้มน้ำจิ้มแค่พอดี

กินหมูกระทะยังไงไม่ให้อ้วน น้ำจิ้มก็เป็นอีกสิ่งสำคัญ เพราะเป็นตัวการเพิ่มน้ำหนักอย่างดีเลยทีเดียว เนื่องจากมีโซเดียมและแคลอรีสูงมากอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง หมอมะปรางแนะนำให้กินน้ำจิ้มน้อย ๆ ด้วยการนำเนื้อสัตว์แตะน้ำจิ้มเบา ๆ ไม่ต้องจุ่มลงไปทั้งชิ้น หรือใช้ช้อนตักน้ำจิ้มมาหยดลงบนอาหารแทน จะควบคุมปริมาณของน้ำจิ้มได้ง่ายกว่า หรืออาจเลือกทานเป็นน้ำจิ้มที่มีรสไม่จัดแทน ถ้ายิ่งทำเองได้ก็ยิ่งดีเลยค่ะ จะได้กำหนดปริมาณของส่วนผสมที่ใส่ลงไปได้นั่นเอง

6. เพิ่มคาร์โบไฮเดรตคุณภาพดีเพื่อลดแป้ง

การเลือกคาร์โบไฮเดรตที่มีคุณภาพดีแทนแป้งขัดขาว จะช่วยให้อิ่มนานและได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น โดยหมอมะปรางขอแนะนำให้ทานเป็นคาร์โบไฮเดรตจากผัก และธัญพืชไม่ขัดสีแทน เพราะมีใยอาหารสูง กินแล้วอิ่มเร็ว ไม่หิวบ่อย ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้นค่ะ 

อีกทั้งมักจะมีดัชนีน้ำตาลต่ำกว่าแป้งขัดขาว จึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี แต่จะเพิ่มคาร์โบไฮเดรตอย่างไรดีล่ะ หมอมะปรางแนะนำให้เลือกทานเห็ดต่าง ๆ ทั้งเห็ดหอม เห็ดออรินจิ หรือข้าวโพด แครอท และเส้นบุกก็ได้ อาหารเหล่านี้เป็นคาร์โบไฮเดรตที่ทดแทนแป้งขัดสีได้ดีเลยล่ะค่ะ

7. ดื่มน้ำเปล่า

เมื่อกินหมูกระทะ หลายคนมักจะดื่มน้ำอัดลม หรือเหล้าเบียร์ไปด้วย จึงไม่ต้องถามเลยว่ากินหมูกระทะอ้วนไหม เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้ล้วนเป็นตัวการเพิ่มน้ำหนักทั้งนั้น ซึ่งหากคุณอยากกินหมูกระทะแบบไม่ต้องกลัวอ้วน หมอมะปรางขอแนะนำให้เลือกดื่มน้ำเปล่าแทน จะช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็ว และไม่มีแคลอรี ไม่มีน้ำตาล ดื่มเยอะเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนอย่างแน่นอนค่ะ 

8. นาน ๆ กินทีสุขภาพดีกว่า

หมูกระทะ ให้เลิกกินก็คงไม่ได้ แต่หมอมะปรางว่านาน ๆ กินทีจะดีกว่า เพื่อให้เวลาร่างกายได้เผาผลาญแคลอรีส่วนเกินที่กินเข้าไปออกมาได้ ไม่สะสมไว้เป็นไขมันนั่นเองค่ะ ซึ่งหากคุณกินบ่อย ๆ หรือกินทุกวัน จะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณแคลอรีที่เกินความจำเป็นมากไป ส่งผลให้น้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็วได้นั่นเอง