เปลี่ยน “ก้นย้อย” ให้กลับมาแน่นเด้ง ไม่ต้องผ่าตัด!

เมื่ออายุมากขึ้น บวกกับแรงโน้มถ่วงของโลก รวมไปถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้ผิวเหี่ยวย่น ผิวหย่อนคล้อย ขาดความตึงกระชับ ซึ่งนอกจากผิวหน้าและผิวกายส่วนอื่น ๆ แล้ว ยังมีอีกหนึ่งบริเวณที่ใครหลายคนอาจละเลยหรือมองข้ามไป นั่นก็คือ “บั้นท้าย” ครับ จากที่เคยเป็นผิวเรียบเนียน เต่งตึง แต่วันนึงกลับกลายเป็นก้นย้อย ก้นเหี่ยว นี่แหละครับหนึ่งในหลายปัญหาที่สาว ๆ จำนวนมากมาปรึกษาหมอที่ Amara Clinic 

นั่นก็เพราะบริเวณก้นเป็นสัดส่วนที่ถือว่าเป็นเสน่ห์ของสาว ๆ นั่นเอง แต่ถ้าวันนึงผิวพรรณส่วนบั้นท้ายเปลี่ยนไป แน่นอนครับว่าย่อมทำให้หลายคนหมดความมั่นใจ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องใส่กางเกงขาสั้นและชุดว่ายน้ำ แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะหมอมีวิธีเปลี่ยนก้นย้อย ก้นเหี่ยวให้กลับมากระชับได้อีกครั้งด้วยวิธีที่ “ไม่ต้องผ่าตัด”

คอลลาเจนและเส้นใยอิลาสตินเปรียบเหมือนเสาหลักของบ้านครับ ถ้าวันใดที่อิลาสตินและคอลลาเจนผลิตได้น้อยลงหรือถูกทำลาย หลังคาบ้านอย่างผิวหนังชั้นบนก็จะล้มครืนลงมา ผิวจึงสูญเสียแรงตึงผิวและเหี่ยวลงนั่นเองครับ 

คอลลาเจน คือ เส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่คล้ายกับ “กาว” คอยยึดกับเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย มีรูปร่างเกี่ยวพันกันสามเส้น ซึ่งแต่ละเส้นประกอบไปด้วยสายเปปไทด์ โดยคอลลาเจนเป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนัง ขน เส้นผม ข้อต่อ กระดูกอ่อน หลอดเลือด กล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อ ซึ่งคอลลาเจนมีคุณสมบัติช่วยคงความชุ่มชื่น ยืดหยุ่น เพิ่มความแข็งแรงให้กับอวัยวะต่าง ๆ รวมไปถึงผิวหนัง โดยร่างกายคนเราสามารถผลิตคอลลาเจนได้เองตามธรรมชาติ แต่เราอายุมากขึ้นประมาณ 25 ปีขึ้นไป คอลลาเจนจะผลิตได้น้อยลง ทำให้ผิวพรรณสูญเสียคอลลาเจน ผิวจะขาดความชุ่มชื้น ผิวยุบตัว ขาดความตึงกระชับ

สำหรับเส้นใยอิลาสติน คือ เส้นใยโปรตีนเหมือนคอลลาเจนแต่เป็นโปรตีนคนละชนิดกัน และมีความสามารถยืดตัวได้ดีกว่า โดยอิลาสตินเป็นโครงสร้างที่สำคัญที่ช่วยยึดให้เซลล์ผิวเรียงตัวกันอย่างเหมาะสม และเส้นใยอิลาสตินยังเปรียบเหมือนเป็นหนังยางที่เป็นตัวทำให้ผิวหนังเรามีความยืดหยุ่นได้ดีครับ

หมอเคยได้อ่านงานศึกษาจากต่างประเทศชิ้นหนึ่ง เค้าบอกว่าอัตราส่วนจากเอวและสะโพก 7:10 เป็นสัดส่วนที่ถือว่าเป็นสเน่ห์ที่ดึงดูดสายตาได้มากที่สุดครับ (อ่านเพิ่มเติม: Beauty summed up) ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วสรีระของผู้หญิงที่มีช่วงเอวเว้าคอด และสะโพกที่ผายออก มีบั้นท้ายกลมกลึง เมื่อเรามองดูทั้งด้านข้างและด้านหลังจะเห็นเป็นลักษณะเว้าโค้งตัว S หรือที่เรียกว่า S Curve ซึ่งผู้หญิงที่จะมีสัดส่วน S Curve ไม่จำเป็นต้องเป็นคนผอมเพรียวนะครับ ผู้หญิงที่เจ้าเนื้อก็สามารถมีรูปร่างแบบ S Curve ได้เช่นกันครับ ซึ่งปัญหาเรื่องก้นเหี่ยว ก้นย้อย ในบางรายอาจทำให้สัดส่วนไม่ได้รูป S Curve อย่างที่ต้องการ

สาเหตุที่ทำให้ก้นย้อย ก้นเหี่ยว ผิวเหี่ยวย่น เกิดได้จากหลายสาเหตุครับ มีทั้งปัจจัยที่เกิดจากภายในที่เราอาจไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ รวมไปถึงปัจจัยที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันของเราเองที่อาจมองข้ามและละเลยไป ซึ่งไม่ใช่แค่ผิวก้นเหี่ยวเท่านั้น แต่มันส่งผลให้ผิวพรรณทั่วร่างกายเกิดปัญหาแบบเดียวกันครับ

อย่างที่หมอบอกไว้ตอนต้นนะครับว่า เมื่ออายุมากขึ้นการผลิตคอลลาเจนก็จะลดลง ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื่น ไม่กระชับ แน่นอนว่าเมื่อโครงสร้างผิวเราไม่แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน มีปัญหาเรื่องผิวเหี่ยวย่น เกิดเป็นริ้วรอย ผิวแห้งกร้าน และทำให้ก้นย้อย ก้นเหี่ยวได้เช่นกันครับ และเมื่ออายุมากขึ้น ฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศหญิง (ฮอร์โมนเอสโตรเจน) ที่จะผลิตได้น้อยลงและส่งผลโครงสร้างผิวเสื่อมโทรมลง ทำให้ผิวพรรณขาดความอ่อนเยาว์ ขาดความชุ่มชื้น ผิวเกิดร่องลึก และเหี่ยวย่นครับ

โดยเฉพาะในกรณีผู้ที่เคยมีน้ำหนักตัวมาก ๆ แล้วหันมาลดน้ำหนักผิดวิธี เช่น ทานอาหารไม่เพียงพอหรืออดอาหาร และไม่ออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วก็จริงอยู่ครับ แต่มันกลับเป็นการทำร้ายร่างกายและผิวหนังอย่างรุนแรง ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพจากการขาดสารอาหารแล้ว ยังทำให้ผิวหนังที่เคยขยายตัวแล้วเกิดการหดตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผิวกระชับได้ไม่ทันเกิดเป็นช่องว่างระหว่างผิวหนังและชั้นกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวเหี่ยวย่น รวมไปถึงส่งผลให้ก้นย้อย ก้นเหี่ยว

วิธีกระชับก้นย้อย ก้นเหี่ยว หากเรามีไขมันสะสมอยู่ด้วยก็ต้องลดไขมันที่บั้นท้ายกันก่อนด้วยการควบคุมอาหาร รับประทานอาหารที่เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการ หากจะลดน้ำหนักให้ทำค่อยเป็นค่อยไปและห้ามอดอาหารเด็ดขาด รวมไปถึงออกกำลังกายเพื่อกระชับผิวหนังหย่อนคล้อย ผิวเหี่ยวย่น กันด้วยนะครับ เพื่อบั้นท้ายที่กระชับยิ่งขึ้นแบบไม่ต้องเสียเวลาไปเข้ายิม หรือจ้างเทรนเนอร์ ทำได้เองง่าย ๆ เพียงแต่มีความตั้งใจและมีวินัยในตัวเองครับ

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเป็นรูปแบบออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และช่วยเผาผลาญพลังงานได้ดีมากครับ อาทิ การปั่นจักรยาน, การว่ายน้ำ, การเดิน แบบนี้จะเหมาะมากสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากที่ต้องการลดน้ำหนักในช่วงแรก รวมไปถึงคนที่อาจมีปัญหาเรื่องข้อเข่าต่าง ๆ เพราะไม่ก่อให้เกิดแรงกระแทก แต่หากลดน้ำหนักมาได้ในระดับหนึ่งแล้วรวมถึงไม่มีปัญหาเรื่องข้อต่อ ก็สามารถเปลี่ยนมาออกกำลังกายที่มีการกระโดดได้ เช่น การเต้นแอโรบิคหรือกระโดดเชือก รวมไปถึงท่าก้นฟิตซึ่งเป็นการบริหารกระชับบั้นท้าย แก้ไขก้นย้อย ก้นเหี่ยว อาทิ ท่าสควอช, ท่ายืดเหยียด, ท่า Superman, ท่า Plank ซึ่งเป็นท่าเบสิคที่ช่วยบริหารบั้นท้ายให้เฟิร์มกระชับครับ

อีกหนึ่งวิธีที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ของสาว ๆ ที่มีปัญหาก้นย้อยและก้นเหี่ยว และต้องการแก้ไขอย่างเร่งด่วนแบบไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ นาทีต้องนี่เลยครับ J Plasma เทคโนโลยีที่ช่วยกระชับผิวได้อย่างตรงจุด ทำแล้วกระชับในทันที ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เผยผิวที่เรียบเนียนตึงกระชับได้อย่างดีเยี่ยมครับ เดี๋ยวเราไปดูหลักการทำงานของเจ้าเครื่อง J Plasma กันครับ

J Plasma เป็นการผสานกัน 2 พลังงาน คือ คลื่นความถี่วิทยุ (RF) เป็นพลังงานความร้อนที่จะช่วยกระชับเส้นใยที่ทำหน้าที่ดึงผิว (Fibroseptal Network) ให้หดตัวได้ในทันที และหลังจากที่เนื้อเยื่อหดตัวแล้ว พลังงานฮีเลียมพลาม่า (ก๊าซเฉื่อยที่มีความเย็น) จะถูกปล่อยเพื่อให้อุณหภูมิลดลงอย่างอัตโนมัติ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความร้อนต่อเนื่องที่จะส่งผลให้เนื้อเยื่อรอบข้างโดยทำลาย รวมไปถึงยังป้องกันไม่ให้ผิวหนังด้านบนไหม้นั่นเองครับ ผลลัพธ์ที่ได้คือ ก้นเหี่ยว ก้นย้อย จะกลับมาเรียบเนียนและกระชับได้ในทันที

• แก้ไขก้นย้อย ก้นเหี่ยว แบบเห็นผลได้ทันที
• กรณีที่มีไขมันสะสมร่วมด้วย สามารถดูดไขมันพร้อมยกกระชับก้นย้อยในคราวเดียว ไม่ต้องเปิดแผลใหม่ แผลเดียวกับดูดไขมัน
• ใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ กรณียกกระชับก้นย้อยอย่างเดียว ไม่มีการดูดไขมัน เปิดแผลเล็กเพียง 4 มม. 
• กระชับแล้วกระชับเลย ไม่ต้องทำซ้ำ (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างมีประสิทธิภาพ 
• ไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง เจ็บน้อย

บทความที่เกี่ยวข้อง

• อยากกระชับผิวเลือกอะไรดี หาคำตอบได้ที่ เลือก J Plasma หรือ เครื่องดูดไขมันกระชับผิว ดีนะ?
• ก่อนทำ J Plasma ต้องอ่าน! ข้อดี ข้อเสียของ J Plasma

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี