ผิวแพ้ง่าย หนึ่งปัญหาผิวที่หลายคนไม่อยากเจอ

สภาพผิวของคนเราจะมีความแตกต่างกัน บางคนก็มีผิวมัน บางคนก็มีผิวแห้ง แต่ลักษณะของผิวที่ไม่มีใครอยากเจอที่สุดก็คือ ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย ซึ่งปัญหาผิวนี้มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง? วันนี้หมอไอซ์ AMARA จะมาบอกให้รู้กัน พร้อมเคล็ดลับการบำรุงผิวให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ติดตามกันต่อเลย

ผิวแพ้ง่ายคืออะไร

ผิวแพ้ง่าย หรือ Sensitive skin เป็นสภาวะที่ผิวหนังมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติ ทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองได้ง่าย โดยเมื่อผิวถูกกระตุ้นด้วยสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ จะทำให้เกิดการอักเสบจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน จึงแสดงอาการต่าง ๆ ออกมา 

ดังนั้นการดูแลผิวแพ้ง่าย จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และอาจต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย กลับมามีผิวที่สุขภาพดี และลดปัญหาความระคายเคืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อาการผิวแพ้ง่ายเป็นอย่างไร

อาการผิวบอบบางแพ้ง่ายของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ตามลักษณะการแพ้ที่เกิดขึ้น โดยอาการที่มักจะพบได้บ่อย ๆ เช่น

• อาการแดงและบวม เป็นปฏิกิริยาที่พบได้บ่อยเมื่อผิวสัมผัสกับสิ่งกระตุ้น เช่น เครื่องสำอางที่มีแอลกอฮอล์ หรือน้ำหอม เป็นต้น
• ผิวอาจแห้ง แตก ลอกเป็นขุย หรือหยาบกร้าน สาเหตุอาจมาจากการขาดความชุ่มชื้นหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น Glycolic, Retinol, AHA หรือ BHA ในความเข้มข้นที่สูงเกินไปกว่าที่ผิวจะรับได้
• ความรู้สึกแสบร้อนหรือไหม้ที่ผิว เกิดจากเกราะป้องกันผิวที่บอบบาง ทำให้ผิวไวต่อสิ่งกระตุ้น โดยเฉพาะหลังจากสัมผัสแสงแดด
• อาการคัน มักเกิดจากผิวแห้ง เมื่อผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี จึงทำให้เกิดอาการผิวแห้งคันตามมานั่นเอง
• การเกิดสิวหรือผื่น อาจพบในบริเวณที่มีการระคายเคือง เป็นอีกหนึ่งอาการที่มักจะพบได้บ่อยในคนที่มีผิวแพ้ง่าย

สาเหตุที่ทำให้เกิดผิวแพ้ง่าย

ผิวบอบบางแพ้ง่าย อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งมีทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ดังนั้นการรู้สาเหตุของอาการแพ้ จะช่วยให้รับมือกับปัญหาผิวแพ้ง่ายได้อย่างถูกวิธี และลดโอกาสเกิดการแพ้ได้ดี ซึ่งมีสาเหตุใดบ้างมาดูกันเลย

1. ฮอร์โมนและเพศ

ฮอร์โมนมีผลต่อสภาพผิวของคนเราเช่นกัน โดยการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ในช่วงวัยรุ่น ตั้งครรภ์ หรือวัยทอง สามารถส่งผลให้ผิวไวต่อสิ่งกระตุ้นมากขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังพบว่าเพศหญิงมักมีแนวโน้มที่จะเกิดผิวแพ้ง่ายได้มากกว่าเพศชายอีกด้วย เนื่องจากความแตกต่างของโครงสร้างผิวและการทำงานของฮอร์โมนนั่นเอง

2. กรรมพันธุ์

พันธุกรรมเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดลักษณะผิวของแต่ละบุคคล หากมีประวัติครอบครัวเป็นโรคผิวหนังอักเสบ เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis) หรือโรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) ก็มีโอกาสสูงที่จะมีผิวแพ้ง่ายได้มากกว่าคนที่ไม่มีกรรมพันธุ์ผิวแพ้ง่ายนั่นเอง

3. อายุ

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังจะบางลงและสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอลง ส่งผลให้ผิวไวต่อสิ่งกระตุ้นภายนอกมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการผลิตน้ำมันตามธรรมชาติของผิวลดลงร่วมด้วย จึงทำให้ผิวแห้งและแพ้ง่ายมากขึ้น อาการเหล่านี้จึงมักพบในผู้สูงอายุได้บ่อยกว่าวัยอื่น ๆ นั่นเอง

4. สภาพอากาศ

สภาพอากาศมีผลโดยตรงต่อการเกิดผิวแพ้ง่าย อย่างอากาศที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด ก็มักจะทำให้ผิวแห้ง คัน และไวต่อสิ่งกระตุ้น รวมทั้งสภาพอากาศที่มีความชื้นต่ำก็เช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังมีมลพิษในอากาศ เช่น ฝุ่น ควัน และสารเคมี ก็ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำร้ายผิว และเหนี่ยวนำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ง่ายอีกด้วย

5. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่เหมาะสม

การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมรุนแรงเกินไป เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือสารกันเสียในปริมาณสูง อาจทำลายเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวบอบบางและแพ้ง่าย หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น AHA หรือ BHA บ่อย ๆ ก็ทำให้ผิวไวต่อสิ่งกระตุ้นมากขึ้นได้ ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันปัญหาผิวแพ้ง่ายนั่นเอง

6. ได้รับยาเคมีบำบัด

การรักษาด้วยเคมีบำบัดจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อสภาพผิว เพราะยาเคมีบำบัดจะทำลายเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวบางลง แห้ง และไวต่อการระคายเคือง ผู้ป่วยที่ได้รับเคมีบำบัดจึงมักพบปัญหาผิวแพ้ง่าย ผื่นแดง และอาการคันได้บ่อย ๆ นั่นเอง

วิธีบำรุงให้ผิวแพ้ง่ายให้กลับมาแข็งแรง

มอไอซ์แนะนำสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย สามารถบำรุงเพื่อฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาแข็งแรงมากขึ้นได้ ซึ่งเราก็มีคำแนะนำในการดูแลผิวมาฝากกัน ดังนี้

1. ทานอาหารที่มีวิตามินบำรุงผิว

การทานอาหารที่มีวิตามินบำรุงผิว จะช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงตั้งแต่ภายในถึงภายนอก ทำให้ผิวไม่ถูกทำร้ายได้ง่าย เช่น 

• มะเขือเทศ มีส่วนช่วยในการปกป้องผิวจากมลพิษ และป้องกันแสงแดดทำร้ายผิว ลดปัญหาการเกิดผื่นแดงได้ดี เพราะอุดมไปด้วยไลโคปีน วิตามินซี และวิตามินเอที่สำคัญต่อผิวนั่นเอง
• คะน้า ผักใบเขียวมากประโยชน์ที่มีลูทีนและซีแซนทีนในปริมาณสูง จะช่วยปกป้องผิวจากการถูกแสงแดดทำร้าย และลดการระคายเคืองผิวจากการสัมผัสรังสี UV ได้ดี
• ชาเขียว อาหารที่ดีต่อคนผิวแพ้ง่าย เพราะมีโพลีฟีนอล ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง พร้อมชะลอการเสื่อมของผิวได้อีกด้วย

2. ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน

การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และทำให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้นได้ ลดปัญหาผิวแห้งลอกเป็นขุย และลดอาการคันของผิวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการรักษาสมดุลของค่า pH บนผิวหนัง ป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้อีกด้วย 

3. ฉีดวิตามินผิว

การฉีดวิตามินผิว เป็นอีกหนึ่งวิธีการเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว โดยที่ร่างกายจะสามารถนำวิตามินไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ทันทีเมื่อฉีดเข้าไป ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่น และชะลอการเสื่อมสภาพของผิวได้เป็นอย่างดี ได้ประสิทธิภาพการบำรุงผิวที่เหนือกว่าการรับประทานอาหารและวิตามินบำรุงผิว