สำหรับบางคน อาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับ “มือ” เหมือนส่วนอื่น ๆ ของร่างกายเท่าไหร่นะครับ พอมีการละเลยที่จะบำรุงดูแลมือ เลยเกิดเป็นปัญหา “มือเหี่ยว” ก่อนวัยอันควรขึ้น! ซึ่งก็มีคนไข้ของหมออายุ 20 ต้น ๆ หลายคนมาปรึกษาหมอบ้างแล้วนะครับว่า “หลังมือเหี่ยว ดูมือแก่ ทำยังไงดีคะ? ” ซึ่งหมอก็จะมีวิธีการรักษาอยู่ 5 วิธีด้วยกันนะครับ (ใครอยากรู้ต้องอ่านบทความนี้ต่อ เดี๋ยวหมอมาเฉลยให้ครับ) แต่ก่อนที่เราจะไปถึงวิธีการแก้มือเหี่ยว มาฟังหมออธิบายให้เข้าใจกันก่อนว่าปัญหามือเหี่ยวเนี่ย มันเกิดจากอะไรได้บ้าง และส่งผลอย่างไร หมอไอซ์ Amara Clinic
มือเหี่ยวเกิดจากอะไร
มือเหี่ยวเกิดจากอะไรได้บ้าง? ปัญหาหลังมือเหี่ยว, ผิวหลังมือย่น, มือดูเหี่ยวก่อนวัย ฯลฯ ปกติแล้วมันเกิดได้จากหลาย ๆ ปัจจัยร่วมกันเลยนะครับ ทั้งปัญหาทางสุขภาพร่างกาย อย่างคนที่อายุเยอะขึ้นร่างกายก็ผลิตคอลลาเจนน้อยลงไปทุกวัน ผิวบริเวณมือก็ขาดความเต่งตึง เสื่อมโทรมไปเรื่อย ๆ จนทำให้มือเหี่ยวในที่สุด แต่กรณีนี้มักจะเป็นการที่มือเหี่ยวตามวัยครับ
ส่วนคนที่มือเหี่ยว หรือมือแก่ก่อนวัยนั้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นที่พฤติกรรมการใช้ชีวิตนะครับ บางคนอาจจะมีการทำความสะอาดซักล้าง โดยที่ไม่มีการสวมถุงมือป้องกัน ทำให้มือของเราโดนสารเคมีต่าง ๆ พอมือได้รับสารเคมีเข้ามาก ๆ ก็จะไปทำให้ผิวขาดความเต่งตึง และกลายเป็นมือเหี่ยวในที่สุดได้ครับ หรือคนที่ชอบล้างมือด้วยน้ำอุ่นมาก ๆ ก็อาจจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น เพิ่มโอกาสที่มือเหี่ยวได้มากขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ ทุกคนลองสังเกตดูนะครับว่า คนที่ไม่เคยทาครีมบำรุงมือ หรือไม่ทากันแดดที่มือเลย มักจะมีปัญหามือเหี่ยวเร็วมากกว่าคนที่หมั่นทาครีมบำรุงเป็นประจำครับ (ผิวบริเวณมือ หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ก็เหมือนใบหน้า โดนแดดทุกวัน โดนมลภาวะเป็นประจำ หากไม่มีการดูแลหรือบำรุง ก็สามารถเสื่อมโทรมและเหี่ยวย่นได้ครับ ดังนั้น การทาครีมกันแดดสำคัญมาก สำหรับผิวทุกส่วน!)
ปัญหาที่เกิดขึ้นหลังมือเหี่ยว
- มือเหี่ยว เหมือนมือคนแก่ ดูไม่สมวัย
- ใส่เครื่องประดับแล้วดูไม่สวย ดูไม่แพง
- อาจจะมีปัญหารอยดำ หรือฝ้าร่วมด้วย
- มองเห็นกระดูกปูดและเส้นเลือดชัดเจน
- ถ่ายรูปทีไร เป็นต้องรีทัชมือทุกที!
5 วิธีแก้มือเหี่ยว มือแก่ ให้กลับมาเต่งตึง อ่อนเยาว์
ถึงเวลาเฉลย!! “มือแก่ ทำไงดี?” สำหรับ 5 วิธีในการแก้ปัญหาหลังมือเหี่ยวก็มีให้เลือกหลากหลายเลยนะครับ ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีที่ช่วยฟื้นฟูมือเหี่ยว มือแก่ได้อย่างตรงจุด ได้ผลจริง ไม่ว่าจะเป็นการหมั่นบำรุงมือให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ เพื่อลดความแห้งกร้าน, การใช้ความร้อนกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว เพื่อให้เกิดความเต่งตึง, การใช้เลือดสกัดเป็น PRP เพื่อฟื้นฟูสภาพผิวที่เสื่อมโทรม ให้กลับมาดูดีอีกครั้ง รวมไปถึงการฉีดสารเติมเต็มอย่างฟิลเลอร์ และฉีดไขมันมือด้วยครับ
สำหรับใครที่เลือกรักษาโดยวิธีทางการแพทย์ หมอขอแนะนำว่าให้ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน และเลือกใช้บริการกับคลินิกที่น่าเชื่อถือ ได้มาตรฐาน รวมทั้งแพทย์มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เนื่องจากบริเวณหลังมือเป็นตำแหน่งที่มีเส้นประสาทอยู่เยอะ หากตัดสินใจไปรับบริการกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ อาจจะทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่ต้องการได้ครับ เช่น ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน, ฉีดไขมันหลังมือ แล้วผิวไม่เรียบเนียน หรืออาจจะเกิดอาการแพ้อื่น ๆ ได้ เป็นต้น ดังนั้น ควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจไปรักษามือเหี่ยวนะครับ!
1.ทาครีมบำรุงมือ
หลังจากที่เราล้างมือ หรือมีการใช้แอลกอฮอล์ล้างมือแล้ว ควรทาครีมบำรุงทันทีเลยครับ ยิ่งทามากเท่าไหร่ สภาพผิวหลังมือของเราก็จะยิ่งชุ่มชื้น ลดความแห้งเหี่ยว ช่วยบรรเทาริ้วรอยต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นมาได้ สำหรับคนที่มีการออกไปข้างนอกบ่อย ๆ หมอแนะนำให้เลือกใช้ครีมทามือที่มีส่วนผสมของกันแดดไปในตัวด้วยนะครับ นอกจากมือจะนุ่มชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยลดปัญหาความหมองคล้ำ ฝ้ากระจุดด่างดำ และลดโอกาสที่ทำให้มือเหี่ยวลงได้ด้วยครับ
2.เทอร์มาจ (Thermage)
การทำเทอร์มาจบริเวณหลังมือ เป็นการใช้คลื่นความถี่วิทยุ (คลื่น RF) ส่งกระตุ้นไปยังผิวชั้นลึก เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และมีการเรียงตัวของคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวหลังมือเหี่ยว ๆ ค่อย ๆ มีความตึงกระชับขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหามือเหี่ยวตามธรรมชาติของร่างกาย (อายุเริ่มเยอะ)
3.PRP (Platelet-Rich Plasma)
การทำ PRP เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาอ่อนเยาว์อีกครั้ง PRP เป็นการสกัดเลือดของเรา เพื่อให้ได้ Growth factor ออกมา แล้วนำไปฉีดบริเวณที่มือเหี่ยว ซึ่ง Growth factor จะเข้าไปฟื้นฟูซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพไปแล้ว ให้กลับมาเกิดการกระตุ้นคอลลาเจนอีกครั้ง ค่อย ๆ ปรับสภาพผิวให้มีความชุ่มชื้นเต่งตึง กระชับมากขึ้น และมีความกระจ่างใสเหมือนมือเด็ก แต่ต้องระวังเรื่องของการติดเชื้อนะครับ เพราะปัจจุบันมีคลินิกที่ทำ PRP ค่อนข้างเยอะ แต่ไม่ใช่ทุกคลินิกที่จะทำอย่างปลอดเชื้อทุกขั้นตอน และมีมาตรฐาน ดังนั้น หากขั้นตอนใดเกิดการเจือปนของเชื้อโรค ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมามากมายได้ครับ (หลีกเลี่ยงคลินิกที่มีราคาถูกผิดปกติ และเลือกรับบริการคลินิกที่น่าเชื่อถือแทน)
4.การฉีดฟิลเลอร์มือ
การฉีดฟิลเลอร์มือ หรือการฉีดสารเติมเต็มที่เป็นสารธรรมชาติของร่างกายเข้าไป เพื่อให้บริเวณหลังมือเกิดขึ้นความเต่งตึงขึ้นทันที ริ้วรอยเหี่ยวย่นหายไป โดยไม่ต้องมีการผ่าตัดใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ต้องดูให้ดีนะครับว่าฟิลเลอร์แท้หรือฟิลเลอร์ปลอม หมอเก่งไหม? เพราะปัจจุบันฟิลเลอร์ราคาถูกเยอะ ของจริงของปลอมปะปนกันมากมาย ถ้าเราฉีดฟิลเลอร์ปลอม อันดับแรกคือมันไม่สลายครับ จากนั้นอาจจะมีอาการอื่น ๆ ตามมา เช่น อาการแพ้, เป็นก้อนแข็ง, ผิวขรุขระไม่เรียบเนียน รวมไปถึงอาการติดเชื้อได้ แต่ถ้าหากเราฉีดฟิลเลอร์มือแท้ กับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญก็ไม่ต้องกังวลใด ๆ เลยครับ ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์มือคือราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับการฉีดไขมันมือที่หมอจะพูดในข้อต่อไปครับ
5.การฉีดไขมันมือ
การฉีดไขมันมือ (Fat Stemcell) จะช่วยเติมเต็มมือให้เต่งตึง คล้าย ๆ กับการฉีดฟิลเลอร์มือครับ แต่วิธีการและผลลัพธ์จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยนะครับ สำหรับขั้นตอนการทำคือการฉีดไขมันมือนั้น จะต้องมีการดูดไขมันออกมาก่อน จากนั้นก็นำเซลล์ไขมันไปปั่นคัดแยกชั้น เพื่อคัดเอาน้ำเหลือ ยาชา เลือด และเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกไป เมื่อเหลือเพียงเซลล์ไขมันที่ดี ค่อยนำไปปั่นย่อยขนาดของโมเลกุลให้เล็กลงตามต้องการ (ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์) เมื่อได้เซลล์ไขมันที่เหมาะสมแล้ว ก็จะมีการฉีดเติมเข้าไปบริเวณหลังมือ เพื่อแก้ปัญหามือเหี่ยวย่นครับ (ทั้งนี้ ไขมันจะต้องมีการเก็บไว้ในระบบปลอดเชื้อทุกขั้นตอน เพื่อความปลอดภัยของคนไข้)
ส่วนในด้านของผลลัพธ์หลังฉีดไขมันหลังมือ ที่แตกต่างจากการฉีดฟิลเลอร์มือคือ การฉีดไขมันจะเป็นการซ่อมแซมฟื้นฟูสภาพผิวไปในตัว นอกจากความเต่งตึง ไร้รอยเหี่ยวย่นแล้ว ยังทำให้มือของเราดูมีสุขภาพที่ดี ผิวเด้งเต่งตึงอีกด้วยครับ (ลองนึกภาพเคสที่เติมไขมันที่หน้าดูครับ เติมแล้วหน้าดูโกลว์ดูเกาหลี ผิวนี่เด้งมาก ๆ ครับ การฉีดไขมันมือก็เช่นกัน) แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการที่เรามีการขยับมือ และใช้มือในการหยิบจับทำนู้นทำนี่อยู่เสมอ จึงมีโอกาสที่เซลล์ไขมันจะยุบตัวลงไปได้หลังทำครับ (หมอฉีดไขมันมือในปริมาณที่เผื่อการยุบตัวอยู่แล้ว) แต่ถ้าเป็นเรื่องของความปลอดภัย การฉีดไขมันมือปลอดภัย 100% ครับ (ถ้าคลินิกทำทุกอย่างตามมาตรฐานจริง ๆ เช่น เก็บไขมันในระบบปลอดเชื้อ, แพทย์เชี่ยวชาญ, ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ, เครื่องมือ-อุปกรณ์ได้มาตรฐาน และมีระบบดูแลความปลอดภัยอย่างครบครัน)
วิธีป้องกันไม่ให้มือเหี่ยวเร็ว
หลังจากที่ได้มีการรักษาให้มือกลับมาเต่งตึงสวยงามขึ้นแล้ว ก็อย่าลืมหมั่นดูแลรักษามือของเราด้วยนะครับ จะได้ให้มือสวย ๆ คงอยู่กับเราไปนาน ๆ ใครที่อยากฟื้นฟูมือ หรือป้องกันไม่ให้มือเหี่ยวไปมากกว่านี้ ก็ลองตามคำแนะนำนี้ได้เลยครับ
- ทาครีมบำรุงมือทุกครั้งหลังล้างมือ
- ทาครีมบำรุงมือที่มีส่วนผสมของกันแดด
- นวดมือบ่อย ๆ (นวดพร้อมทาครีมได้เลย)
- หมั่นสครับหลังมือเป็นประจำทุกสัปดาห์
- ให้ล้างมือด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ร้อนไม่เย็นจัด
สรุป
สรุปว่าคนที่มีปัญหามือเหี่ยวนั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งสามารถบำรุงและรักษาได้ตามวิธีที่หมอแนะนำไปทั้ง 5 วิธีแก้มือเหี่ยว ได้แก่ ทาครีมบำรุงมือ, ทำเทอร์มาจ, PRP, การฉีดฟิลเลอร์มือ และการฉีดไขมันมือ ถ้าเหี่ยวมาก ๆ อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานนิดนึง สำหรับคนที่ไม่ได้เครียดมาก ก็หมั่นบำรุงมือให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอนะครับ ส่วนใครที่อยากได้ทางลัดเร่งด่วนจริง ๆ หมอก็แนะนำเป็นการฉีดไขมันมือ ไม่ก็การฉีดฟิลเลอร์มือครับ ยังไงก็ลองเข้ามาปรึกษาหมอก่อนได้นะครับ ยินดีให้คำปรึกษาทุกเคส (ฟรี) ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ครับ
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic