โรคอ้วนเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญและพบได้บ่อยในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ มากมาย แม้ว่าการควบคุมอาหารและออกกำลังกายจะเป็นวิธีลดน้ำหนักที่แนะนำเป็นอันดับแรก แต่สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไป หรือลดน้ำหนักด้วยวิธีปกติไม่สำเร็จ การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ บทความนี้ หมอเอ็ดดี้ AMARA จะพาคุณไปทำความรู้จักกับวิธีการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร ข้อดี ข้อควรระวัง และทางเลือกอื่นๆ ในการลดน้ำหนัก จะมีข้อมูลน่าสนใจอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย!
ผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร คืออะไร
การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร (Bariatric Surgery) เป็นวิธีการรักษาโรคอ้วนด้วยการผ่าตัด โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดขนาดของกระเพาะอาหารให้เล็กลง หรือเปลี่ยนแปลงระบบการย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายสามารถรับประทานอาหารได้น้อยลงและรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น
นอกจากนี้ยังช่วยปรับเปลี่ยนการทำงานของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหารและการเผาผลาญพลังงาน ส่งผลให้ผู้ป่วยสามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น
ผู้ที่เหมาะกับการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร
- ผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ตั้งแต่ 35 ขึ้นไป หรือตั้งแต่ 30 ขึ้นไปในกรณีที่มีโรคร่วมที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน
- ผู้ที่พยายามลดน้ำหนักด้วยวิธีการควบคุมอาหารและออกกำลังกายมาแล้วอย่างน้อย 6 เดือน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
- ผู้ที่มีอายุระหว่าง 18-65 ปี
- ผู้ที่มีความพร้อมทางด้านร่างกายและจิตใจในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการรับประทานอาหารอย่างถาวร
- ผู้ที่ไม่มีปัญหาสุขภาพร้ายแรงที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการผ่าตัด
ผู้ที่ไม่เหมาะกับการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรงที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการผ่าตัด เช่น โรคหัวใจรุนแรง โรคปอดเรื้อรัง
- ผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือดหรือมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
- ผู้ที่ติดสุรา หรือสารเสพติด
- ผู้ที่มีปัญหาทางจิตเวชที่ยังควบคุมไม่ได้
- ผู้ที่ไม่สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตนเองหลังผ่าตัดได้
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ในเร็วๆ นี้
ตัดกระเพาะลดความอ้วน อันตรายไหม
การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร หรือตัดกระเพาะลดความอ้วน เป็นการผ่าตัดใหญ่ที่มีความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีการผ่าตัดที่ก้าวหน้าและประสบการณ์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ความเสี่ยงลดลงอย่างมาก โดยทั่วไปอัตราการเสียชีวิตจากการผ่าตัดอยู่ที่ประมาณ 0.1-0.5% ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับความเสี่ยงจากโรคอ้วนที่ไม่ได้รับการรักษา
ตัวอย่างภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
- การติดเชื้อ
- การรั่วของรอยเย็บ
- ภาวะเลือดออก
- การอุดตันของลำไส้
- ภาวะขาดสารอาหารในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้สามารถป้องกันและรักษาได้ หากผู้เข้ารับการรักษาปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดและมาติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอ
ตัดกระเพาะลดความอ้วนที่ไหนดี
การเลือกสถานที่ผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร หรือตัดกระเพาะลดความอ้วนเป็นเรื่องสำคัญมาก หมอเอ็ดดี้ AMARA แนะนำว่าควรเลือกโรงพยาบาล หรือศูนย์การแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการผ่าตัดลดน้ำหนัก มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง และมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย นอกจากนี้ควรเป็นสถาบันที่มีทีมสหสาขาวิชาชีพ เช่น นักโภชนาการ นักจิตวิทยา แพทย์เฉพาะทางด้านต่อมไร้ท่อ เพื่อดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวมทั้งก่อนและหลังการผ่าตัดด้วย
ถ้าไม่อยากตัดกระเพาะ สามารถลดความอ้วนด้วยวิธีอื่นได้ไหม
แม้ว่าการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาโรคอ้วน แต่ก็ไม่ใช่ทางเลือกเดียวในการลดน้ำหนัก สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดหรือไม่เข้าเกณฑ์ในการผ่าตัด ยังมีวิธีอื่นๆ ที่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ ดังนี้
1. ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย
การควบคุมอาหารและออกกำลังกายเป็นพื้นฐานสำคัญของการลดน้ำหนักที่ไม่ควรมองข้าม แม้ว่าจะเป็นวิธีที่ต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่ก็เป็นวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลในระยะยาว
การควบคุมอาหารที่มีประสิทธิภาพควรเน้นการลดปริมาณแคลอรี่ที่บริโภคต่อวัน เลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น ผัก ผลไม้ โปรตีนไขมันต่ำ และธัญพืชไม่ขัดสี ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ และเพิ่มการออกกำลังกายแบบเสริมสร้างกล้ามเนื้อ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
2. ดูดไขมันเฉพาะจุด
การดูดไขมันเป็นวิธีการกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายโดยตรง เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุดที่ยากต่อการกำจัดด้วยการออกกำลังกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา สะโพก การดูดไขมันสามารถช่วยปรับรูปร่างให้ได้สัดส่วนที่ดีขึ้น แต่ไม่ใช่วิธีการลดน้ำหนักที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาก และไม่สามารถแก้ไขปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วนได้ ผู้ที่สนใจควรปรึกษาศัลยแพทย์ตกแต่งเพื่อประเมินความเหมาะสมและวางแผนการรักษา
3. ใช้เครื่องกระชับสัดส่วน J Plasma
J Plasma เป็นเทคโนโลยีใหม่ในการกระชับผิวและลดไขมันใต้ผิวหนัง โดยใช้พลังงานพลาสมาฮีเลียม (Helium Plasma) ซึ่งเป็นก๊าซเฉื่อยที่มีความเย็น และพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency: RF) ก่อให้เกิดความร้อนที่อุณหภูมิสูงถึง 85 องศาเซลเซียส สามารถช่วยละลายไขมันใต้ผิวหนังและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับและเรียบเนียนขึ้นได้
J Plasma เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินเล็กน้อยและผิวหย่อนคล้อย สามารถใช้ได้กับหลายบริเวณของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และใบหน้า โดยให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดหลังการรักษาเพียงครั้งเดียว และมีระยะพักฟื้นที่สั้น
อย่างไรก็ตาม J Plasma ไม่ใช่วิธีการลดน้ำหนักโดยตรง และอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาก ผู้ที่สนใจควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนเข้ารับการรักษา
4. ใช้ปากกาลดน้ำหนัก AMARA Pen
ปากกาลดน้ำหนัก AMARA Pen เป็นนวัตกรรมใหม่ในการควบคุมน้ำหนัก โดยใช้หลักการของ GLP-1 Analogue ซึ่งเลียนแบบการทำงานของฮอร์โมน GLP-1 ในร่างกาย ช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วและนานขึ้น ลดความอยากอาหาร และควบคุมการรับประทานอาหารได้ดีขึ้น มีความปลอดภัย ได้รับการรับรองจาก FDA และต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น โดยผลลัพธ์ที่ได้คือการลดน้ำหนักอย่างค่อยเป็นค่อยไปและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารในระยะยาว
สรุปบทความผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร
การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับผู้ที่มีปัญหาโรคอ้วนรุนแรงและไม่สามารถลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นได้ผล แม้ว่าจะมีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและความเชี่ยวชาญของแพทย์ ทำให้การผ่าตัดมีความปลอดภัยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารจะทำให้น้ำหนักตัวลดลงเร็วเกินไป ซึ่งจะทำให้ผิวย้วยมาก และไม่กระชับ
สำหรับใครที่เข้ารับการผ่าตัดมาแล้วกำลังประสบปัญหานี้อยู่ ไม่ต้องกังวลไป สามารถนัดหมายเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการผ่าตัดหนังหน้าท้อง (Tummy Tuck) ที่ AMARA ได้เลย แพทย์ของเราพร้อมให้คำแนะนำและดูแลอย่างใกล้ชิด
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB
ติดต่อเบอร์โทร :
062-789-1999⇒ สาขา รัชโยธิน กด 1
⇒ สาขา ราชพฤกษ์ กด 2
นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)
KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet