ไข่เป็นวัตถุดิบที่หลายบ้านมีติดตู้เย็นไว้เพราะนอกจากจะหาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพงแล้ว ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย กล่าวได้ว่าไข่เป็นส่วนประกอบของอาหารในชีวิตประจำวัน โดยหนึ่งในเมนูยอดนิยมก็คือเมนูไข่ต้มที่หลายคนเชื่อว่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ก็เกิดคำถามตามมาว่าแล้วการ กินไข่ต้มทุกวัน นั้นจะส่งผลเสียด้วยหรือเปล่า บทความนี้มีคำตอบให้แล้ว ตามไปดูพร้อมกันได้เลยค่ะ
กินไข่ต้มทุกวัน ให้ประโยชน์หรือให้โทษมากกว่ากัน
ไข่ต้มเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือไข่ขาวและไข่แดง โดยไข่ขาวมีโปรตีนที่สำคัญคือ โปรตีนอัลบูมิน (Albumin) ซึ่งช่วยปรับสมดุลกรดด่างในกระแสเลือด, กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน, ช่วยต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงมีกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ 9 ชนิด ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ได้แก่
- ไลซีน (Lysine)
- ทริพโตเฟน (Tryptophan)
- ฮีสทิดีน (Histidine)
- ฟีนิลแอลานีน (Phenylalanine)
- ลิวซีน (Leucine), ไอโซลิวซีน (Isoleucine)
- ทรีโอนีน (Threonine)
- เมไทโอนีน – ซีสติอีน (Methionine – Cysteine)
- วาลีน (Valine)
ส่วนไข่แดงก็อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญหลายชนิด ได้แก่ โปรตีน ไขมัน แร่ธาตุ เช่น ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม สังกะสีและทองแดง มีวิตามินที่จำเป็นหลายชนิด โดยเฉพาะวิตามิน A, D, E และ K ซึ่งพบได้ที่ไข่แดงเท่านั้น สารเหล่านี้มีส่วนสำคัญต่อการทำงานของสมอง ที่สำคัญไข่แดงยังมีลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) ที่ช่วยบำรุงสายตาและช่วยชะลอความเสื่อมของเรตินา เลนส์ตา ลดโรคจอประสาทตาเสื่อม นอกจากนี้ไข่แดงยังพบโคลีน (Choline) ได้มาก ซึ่งช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทและสมอง รวมทั้งพัฒนาความจำและการเรียนรู้ตั้งแต่เป็นทารกในครรภ์ไปจนถึงวัยสูงอายุ
สำหรับใครที่มีคำถามว่ากินไข่ต้มทุกวันช่วยอะไรก็คงได้คำตอบกันแล้วนะคะว่าไข่ต้มมีประโยชน์ต่อคนทุกเพศ ทุกวัยเลยจริง ๆ เรียกได้ว่าเป็นอาหารบำรุงร่างกายในราคาที่ไม่แพงและหาทานได้ง่ายมากเลยค่ะ คราวนี้จะมากล่าวถึงปริมาณสารอาหารที่ได้รับกันค่ะ เป็นที่ทราบกันว่าไข่ต้มมีแคลอรี่ต่ำ โดย 1 ฟองให้พลังงานราว ๆ 70 กิโลแคลอรี่ เทียบกับไข่ดาวและไข่เจียวที่ให้พลังงานสูงถึง 120 – 240 กิโลแคลอรี่ ไข่ต้มจึงเหมาะเป็นอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักนั่นเองค่ะ
แล้วการกินไข่ต้มทุกวันดีไหมนั้น ต้องแบ่งออกเป็นออกเป็น 2 แบบค่ะ คือ 1.ผู้ที่สุขภาพแข็งแรง และ 2.ผู้ที่มีโรคประจำตัว สำหรับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงสามารถกินไข่ต้มทุกวันได้ เพราะร่างกายคนเราต้องการโปรตีนที่สูง จึงสามารถกินไข่ต้มได้หลายฟองต่อวันค่ะ ส่วนคอเลสเตอรอลในไข่แดงนั้นก็ไม่เป็นอันตรายอย่างที่หลายคนกังวลค่ะ เพราะจัดเป็น HDL หรือไขมันดีที่ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ไม่ใช่ LDL ที่เป็นไขมันเลวซึ่งมักไปจับตัวตามผนังหลอดเลือด เป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองค่ะ ดังนั้น เราสามารถบริโภคไข่ต้มได้ทุกวันโดยไม่ส่งผลกระทบด้านลบต่อร่างกายค่ะ
สำหรับผู้มีข้อจำกัดทางสุขภาพหรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง, โรคไขมันในเส้นเลือด, โรคหลอดเลือดหัวใจและอื่น ๆ ไม่ควรเกิน 3 ฟองต่อสัปดาห์หรือกินไข่ต้มในปริมาณที่แพทย์แนะนำ เพราะไข่แดงในไข่ต้มมีคอเลสเตอรอลสูง แม้ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง แต่สำหรับผู้มีโรคประจำตัวนั้น การกินไข่ต้มทุกวันอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อหัวใจและระบบอื่น ๆ ได้ค่ะ จึงควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมและกินอาหารที่หลากหลายเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนค่ะ
กินไข่ต้มทุกวัน มีประโยชน์อย่างไร ?
หลังจากที่ได้ทราบข้อมูลทางโภชนาการของไข่ต้มกันแล้ว คราวนี้ก็มาตอบคำถามที่ว่า กินไข่ต้มทุกวัน มีประโยชน์อย่างไร ? แน่นอนว่าการกินไข่ต้มส่งผลดีต่อร่างกายอยู่แล้ว เพราะเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ อีกทั้งสารบางชนิดร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้ จำเป็นต้องได้รับผ่านการกินอาหาร การกินไข่ต้มทุกวันช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง แต่ไม่เพียงเท่านี้ เพราะไข่ต้มยังมีข้อดีอื่น ๆ อีกมากมายเลยค่ะ ทาง AMARA Clinic จะขอยกตัวอย่างประโยชน์ที่น่าสนใจดังนี้นะคะ
-
โปรตีนสูง
ไข่ต้ม 1 ฟองมีโปรตีนสูงประมาณ 7 กรัม ซึ่งร่างกายคนเราต้องการโปรตีน 0.8 – 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ถ้าหนัก 50 กิโลกรัมก็ควรกินโปรตีน 40 – 50 กรัมต่อวัน โปรตีนจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ กระดูก เส้นผม พัฒนาการทำงานของเซลล์และอวัยวะทั่วร่างกาย เราสามารถกินไข่ต้มมากกว่า 1 ฟอง/วันได้ โดยทางกรมอนามัยแนะนำว่าคนทั่วไปควรกินไข่ต้มวันละ 1 – 2 ฟองกำลังดีค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม เราควรเพิ่มโปรตีนจากแหล่งอาหารอื่นด้วยนะคะ
-
ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
การสร้างกล้ามเนื้อไม่ใช่แค่ออกกำลังกายเท่านั้น แต่เรื่องการกินก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยโปรตีนเป็นตัวช่วยสำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อ ผู้ที่กำลังฟิตหุ่นจึงควรได้รับปริมาณโปรตีนมากกว่าคนทั่วไปอยู่ที่ 2- 3 กรัมต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม เช่น หนัก 50 กิโลกรัม ควรได้รับโปรตีน 100 กรัมต่อวัน อาจกินไข่ต้มวันละ 3 – 5 ฟองควบคู่ไปกับการกินโปรตีนชนิดอื่นและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
-
ช่วยบำรุงจอประสาทตา
นอกจากมีโปรตีนสูงและช่วยสร้างกล้ามเนื้อแล้ว การกินไข่ต้มทุกวันช่วยอะไรอีกนั้น จะไม่พูดถึงการบำรุงดวงตาคงไม่ได้ เพราะไข่ต้มมีสารลูทีนและซีแซนทีน โดยเฉพาะในไข่แดงที่ช่วยบำรุงดวงตาให้เสื่อมช้าลงและช่วยดูดซับแสงสีน้ำเงินที่ทำลายจอประสาทตา การกินไข่ต้มจึงเป็นการถนอมดวงตาให้แข็งแรงและลดการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตานั่นเองค่ะ
-
ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
ตามข้อมูลจากกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกาหรือ USDA (US Department of Agriculture) ไข่ต้ม 1 ฟองมีแคลเซียมราว ๆ 50 มิลลิกรัม นับเป็น 5 – 10% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวันขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงวัย และไข่ต้มยังมีฟอสฟอรัสประมาณ 170 มิลลิกรัม นับเป็น 20% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน แคลเซียมและฟอสฟอรัสช่วยเพิ่มความหนาแน่นให้มวลกระดูก ลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนและกระดูกหักได้ค่ะ
-
ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค
เนื่องจากไข่ต้มมีสารอาหารหลากหลายจึงมีโอกาสช่วยลดความเสี่ยงในหลาย ๆ โรค เช่น สารลูทีนที่ช่วยยับยั้งการเกิดต้อกระจก โรคเบาหวานขึ้นตา หรือโรคจอประสาทตาเสื่อมเมื่ออายุมากขึ้นได้ค่ะ, โอเมก้า 3 ในไข่แดง เป็นกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ช่วยด้านการทำงานของสมอง พัฒนาความจำและช่วยลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์, ซัลเฟอร์หรือกำมะถันในไข่เป็นแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ เล็บ และเส้นผมให้มีสุขภาพดีได้ค่ะ เป็นต้น
กินไข่ต้มทุกวัน ผอม ไหม ?
กินไข่ต้มทุกวัน ผอม ไหม ? คงเป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้กันใช่ไหมคะ ไข่ต้มเป็นอาหารให้พลังงานต่ำจึงเหมาะเป็นอาหารลดน้ำหนัก เพราะจะช่วยให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น เนื่องจากไข่ต้มมีโปรตีนสูงจึงช่วยให้ร่างกายย่อยแป้งและน้ำตาลได้ช้าลง แต่การกินโปรตีนควรต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสมค่ะ เพราะหากมากเกินไปจะทำให้ตับและไตทำงานหนัก และหากน้อยเกินไปอาจทำให้ร่างกายสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ อ่อนเพลียง่าย เกิดริ้วรอยก่อนวัย และหิวบ่อยมากขึ้นค่ะ
ไข่แต่ละประเภทให้พลังงานต่างกันเท่าไหร่ ?
- ไข่เป็ด : ประมาณ 178 กิโลแคลอรี่
- ไข่นกกระทา : ประมาณ 171 กิโลแคลอรี่
- ไข่ไก่ : ประมาณ 143 กิโลแคลอรี่
- ไข่จระเข้ : ประมาณ 128 กิโลแคลอรี่
ข้อมูลจากกรมอนามัย เปรียบเทียบไข่ต่อน้ำหนัก 100 กรัม
อย่างไรก็ตาม การกินไข่ต้มเพื่อลดน้ำหนักต้องใช้ความอดทนและมีวินัยการกินที่ดี และอาจต้องใช้เวลานานขึ้นอยู่กับจำนวนน้ำหนักที่ต้องการลดค่ะ หลายคนต้องการลดน้ำหนักเพื่อรูปร่างที่ฟิตแอนด์เฟิร์ม แต่นอกเหนือจากการควบคุมอาหารแล้วก็ยังมีวิธีอื่น ๆ ที่ช่วยสร้างความมั่นใจในร่างกายของตนเองมากขึ้นนะคะ ซึ่งทาง AMARA Clinic เองมีบริการดูดไขมัน (Liposuction) ที่แม้จะไม่ได้ช่วยลดน้ำหนักโดยตรง แต่ก็ช่วยกระชับสัดส่วนให้ดูดียิ่งขึ้นภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หุ่นดูดี ฉับไว แบบปลอดภัยสุด ๆ!
วิธีการกินไข่ต้มทุกวันให้สุขภาพดี
ตามหลักการกินอาหารโดยทั่วไปแล้วควรกินให้ถูกวิธีและกินในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ ไข่ต้มเองก็เป็นอาหารที่มีหลักการกินที่เหมาะสมเช่นกันค่ะ วันนี้ทาง AMARA Clinic จะมาแบ่งปันความรู้เรื่องวิธีการกินไข่ต้มทุกวันที่ถูกต้องเพื่อป้องกันผลเสียจากการกินไข่น้อยหรือมากเกินไปค่ะ ทุกคนสามารถอ่านและนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเองได้เลยนะคะ
-
การกินไข่ต้มให้เหมาะตามช่วงอายุ
ปริมาณการกินไข่ต้มของแต่ละช่วงวัยแตกต่างกันไปตามความต้องการทางโภชนาการ เพราะร่างกายในช่วงวัยหนึ่ง ๆ มีจุดมุ่งหมายในการใช้ประโยชน์จากสารอาหารต่างกัน เช่น ต้องการนำไปใช้เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของร่างกาย หรือใช้เพื่อซ่อมแซมส่วนที่เสื่อมสภาพ เป็นต้น โดยข้อมูลจากกรมอนามัย กระทรวงสาธาณสุขแนะนำให้กินไข่ต้มตามปริมาณดังต่อไปนี้ค่ะ
-
วัยทารก
ทารกวัย 6 เดือนควรกินไข่วันละครึ่งฟองเพื่อเพิ่มสารอาหารให้เด็กนอกเหนือจากน้ำนมแม่ ส่วนทารกวัย 7 – 12 เดือน สามารถกินไข่ต้มวันละครึ่งถึง 1 ฟองค่ะ โดยต้องนำไข่ไปต้มให้สุกดี (ไม่ใช่ไข่ยางมะตูมหรือไข่ลวก) ก่อนนำไปบดรวมกับอาหารชนิดอื่น เพราะระบบย่อยอาหารของเด็กยังไม่แข็งแรงค่ะ การกินไข่ต้มจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อและพัฒนาการทำงานของสมองได้ดีค่ะ
-
วัยก่อนเรียนถึงวัยรุ่น
ในที่นี้นับตั้งแต่เด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไปจนถึงช่วงวัยรุ่น แนะนำให้กินไข่ต้มวันละ 1 – 2 ฟอง ไข่ต้มมีประโยชน์สำหรับวัยนี้มากเช่นกัน เพราะช่วยเพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยพัฒนาระบบประสาทและสมอง มีวิตามินและกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย ทั้งยังเสริมสร้างภูมิต้านทานได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
-
วัยผู้ใหญ่
สามารถกินไข่ต้มได้วันละ 1 – 2 ฟองเช่นเดียวกันค่ะ เพื่อช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ช่วยในการมองเห็นและพัฒนาความจำ ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย มีโฟเลตที่ช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันไปสะสมตามผนังหลอดเลือด มีเลซิธินป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว จะเห็นได้ว่าการกินไข่ต้มมีสารที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคที่มักเกิดขึ้นในวัยนี้ได้จึงควรบริโภคเพื่อเสริมภูมิต้านทานค่ะ
-
วัยผู้สูงอายุ
ผู้สูงอายุที่มีสุขภาพแข็งแรงสามารถกินไข่ต้มทุกวันได้วันละ 1 ฟอง เพื่อช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท และฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ส่วนผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวแนะนำว่าควรกินไข่ต้มไม่เกิน 3 ฟอง/สัปดาห์ เพราะหากกินไข่มากเกินไปอาจทำให้หัวใจและไตทำงานหนักจนเกิดอันตรายได้ค่ะ แต่ก็สามารถทดแทนด้วยโปรตีนจากแหล่งอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น อกไก่ ถั่วชนิดต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์จากนมอย่างโยเกิร์ต เนย เป็นต้นค่ะ
กลุ่มผู้มีโรคประจำตัวที่ไม่ควรกินไข่ต้มทุกวัน
- โรคไขมันในเลือด : ไข่แดงมีไขมันและคอเลสเตอรอลสูง หากทานไข่ต้มทุกวันจะทำให้ร่างกายได้รับไข่มันและคอเลสเตอรอลเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ
- โรคหัวใจและหลอดเลือด : ผู้ป่วยไม่ควรทานอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูงเพราะอันตรายต่อหัวใจ
- โรคเบาหวาน : ผู้ป่วยต้องควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตและไขมัน หากทานไข่ต้มมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงเรื่องหลอดเลือดหัวใจและสมองได้
- โรคความดันโลหิตสูง : ไข่แดงและคอเลสเตอรอลสูงเสี่ยงทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น
- โรคไตเรื้อรัง : ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีปริมาณฟอสฟอรัสสูง เพราะจะทำให้ฮอร์โมนบางชนิดเพิ่มสูง ซึ่งจะส่งผลเสียต่ออวัยวะต่าง ๆ
- โรคกรดไหลย้อน : ควรหลีกเลี่ยงการกินไข่แดงเพราะคอเลสเตอรอลสูง เพราะทำให้น้ำย่อยหลังออกมามากจนอาจแสบร้อนกลางอกได้
ควรกินไม่เกิน 3 ฟอง/สัปดาห์หรือตามที่แพทย์แนะนำ
-
กินไข่ต้มให้เหมาะสมต่อความต้องการ
นอกจากเรื่องวัยแล้ว ความต้องการส่วนตัวก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรคำนึงถึงค่ะ เพราะแต่ละคนต้องการโปรตีนและสารอาหารอื่น ๆ ต่างกัน เช่น นักกีฬา เป็นผู้ที่ต้องการโปรตีนสูงกว่าบุคคลทั่วไปกว่า 2 -3 เท่า และไข่ต้มก็เป็นอาหารที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อได้ดี โดยสามารถคำนวณจากสูตร (น้ำหนัก x 2 หรือ 3) = ปริมาณโปรตีนที่ควรได้รับโดยมีหน่วยเป็นกรัม การกินไข่ต้มในจำนวนที่เหมาะสมต่อตัวเองจะเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงและฟื้นฟูส่วนต่าง ๆ ให้เสื่อมสภาพช้าลงค่ะ
-
การเลือกซื้อไข่ที่สด สะอาด ปลอดภัย
ไข่ที่สดจะมีลักษณะของนวลไข่หรือที่เคลือบเปลือกไข่เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศและน้ำผ่านเข้าไปได้ และสีของไข่ควรเรียบเสมอกันไม่ควรมีจุด ๆ แต้มอยู่บนเปลือก และควรเลือกซื้อไข่ที่มีสัญลักษณ์รับรองความสะอาดและปลอดภัย มีวันผลิตและหมดอายุชัดเจน การกินไข่ที่มีคุณภาพดีก็จะทำให้ร่างกายได้รับคุณประโยชน์อย่างเต็มที่ค่ะ
ต้องการปรึกษาแพทย์ฟรี!
SCan OR Code เพื่อแอดไลน์ หรือ
สาขา รัชโยธิน กด 1
สาขา ราชพฤกษ์ กด 2
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการ กินไข่ต้มทุกวัน
A : ข้อมูลจากสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการและกรมอนามัยได้ระบุว่าไข่ลวกที่ไข่ขาวไม่สุกนั้นย่อยยาก และเสี่ยงได้รับเชื้อจุลินทรีย์ อีกทั้งยังขัดขวางโปรตีนไม่ให้ดูดซึมไบโอตินหรือวิตามินบีที่ทำหน้าที่เผาผลาญและผลิตพลังงาน ดังนั้นทางที่ดีควรที่จะกินไข่ที่ไข่ขาวสุกแล้วอย่างไข่ต้มเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายค่ะ
A : ไข่ต้มเป็นเมนูที่สามารถกินกับอาหารชนิดอื่นได้หลายอย่าง เรียกได้ว่ากินคู่กับอะไรก็อร่อยทั้งนั้น แต่ทางที่ดีควรกินคู่กับอาหารที่มีประโยชน์อย่างผักใบเขียว, โยเกิร์ต, ถั่ว, ข้าวกล้อง, ปลาชนิดต่าง ๆ และอาหารแบบอื่นค่ะ เพื่อให้แต่ละมื้อได้รับสารอาหารครบถ้วนและหลากหลาย ไม่ว่าจะแร่ธาตุและวิตามิน คาร์โบไฮเดรต โปรตีนจากแหล่งอื่นก็สำคัญเช่นกันค่ะ
A : มีสิ่งที่ควรกินคู่กับไข่ต้มไปแล้ว ก็ต้องมีสิ่งที่ควรเลี่ยงการกินพร้อมกัน ไข่ต้มไม่ควรกินคู่กับกาแฟ ชา เครื่องดื่มชูกำลังหรือเครื่องดื่มคาเฟอีนอื่น ๆ เพราะคาเฟอีนจะไปจับสารซัลเฟอร์ในไข่ต้ม ขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กของร่างกาย ทางที่ดีควรเว้นระยะเวลาระหว่างการกินไข่ต้มกับเครื่องดื่มคาเฟอีนให้ห่างกันอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ดูดซึมสารอาหารสูงสุดค่ะ
สรุป
ไข่ต้มมีคุณค่าทางโภชนาการสูง การกินไข่ต้มทุกวันสามารถทำได้ ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ที่ร่างกายแข็งแรงค่ะ แต่สำหรับผู้มีโรคประจำตัวควรกินไม่เกิน 3 ครั้ง/สัปดาห์หรือปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อความปลอดภัยค่ะ เราควรกินไข่ต้มในปริมาณที่เหมาะสมและเลือกไข่ที่สด สะอาด ปลอดภัย เพื่อให้เราได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพค่ะ
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB
ติดต่อเบอร์โทร :
062-789-1999⇒ สาขา รัชโยธิน กด 1
⇒ สาขา ราชพฤกษ์ กด 2
พญ.กรพร สถิตวิทยานันท์ (หมอมะปราง)
KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet