มัดรวมอาหารที่ควรทานและไม่ควรทานหลังเติมไขมัน

การเติมไขมันเป็นหนึ่งในวิธีการปรับรูปร่างที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน แต่หลังจากทำหัตถการแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษคือเรื่องของอาหารการกิน เพราะนอกจากจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้นแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานที่สุด วันนี้ หมอมะปราง AMARA จะพาไปดูว่า อาหารที่ควรทานหลังเติมไขมันมีอะไรบ้าง และมีอาหารประเภทไหนที่ควรหลีกเลี่ยง จะน่าสนใจแค่ไหน ตามไปดูกันเลย!

7 อาหารที่ควรทานหลังเติมไขมัน

หลังจากการเติมไขมัน ร่างกายต้องการสารอาหารที่จะช่วยในการฟื้นฟูและบำรุงเซลล์ไขมันที่ถูกย้ายมา ดังนั้น การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมจึงเป็นหนึ่งในวิธีดูแลตัวเองหลังเติมไขมันที่ไม่ควรละเลย โดย 7 อาหารที่หมอมะปราง AMARA แนะนำว่าควรทานหลังเติมไขมัน มีดังนี้

1. เมนูไข่ต่างๆ

ไข่เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงที่ร่างกายย่อยและดูดซึมได้ง่าย อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูร่างกาย โดยเฉพาะวิตามิน B12 ที่ช่วยในการสร้างเซลล์ใหม่ และวิตามิน D ที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม นอกจากนี้ไข่ยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ทำให้แผลหายเร็วขึ้น คุณสามารถรับประทานไข่ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ไข่ต้ม ไข่ตุ๋น หรือไข่เจียว แต่ควรหลีกเลี่ยงการทอดเพื่อลดการบริโภคน้ำมันที่ไม่จำเป็น

2. สเต็กอกไก่

อกไก่เป็นแหล่งโปรตีนไขมันต่ำที่ดีเยี่ยม มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและการสร้างคอลลาเจน ซึ่งสำคัญมากสำหรับการฟื้นฟูผิวหนังหลังการเติมไขมัน 

นอกจากนี้อกไก่ยังอุดมไปด้วยวิตามิน B3 ที่ช่วยในการไหลเวียนของเลือด ทำให้เซลล์ไขมันที่ถูกย้ายมาได้รับสารอาหารอย่างทั่วถึง การย่างหรืออบเป็นวิธีการปรุงที่ดีที่สุด เพราะช่วยรักษาคุณค่าทางโภชนาการไว้ได้มากที่สุด และไม่เพิ่มไขมันที่ไม่จำเป็นเข้าไปในอาหาร

3. ปลาแซลมอนย่าง

ปลาแซลมอนเป็นแหล่งของโปรตีนคุณภาพสูง มีกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการบวมและเจ็บปวดหลังการเติมไขมัน และยังช่วยในการรักษาสุขภาพของเซลล์ไขมัน ทำให้ผลลัพธ์ของการเติมไขมันอยู่ได้นานขึ้นด้วย

นอกจากนี้ในปลาแซลมอนยังอุดมไปด้วยวิตามิน D ที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งสำคัญต่อการฟื้นฟูกระดูกและเนื้อเยื่อ โดยการย่างปลาแซลมอนเป็นวิธีการปรุงที่ดีที่สุด เพราะช่วยรักษาคุณค่าทางโภชนาการไว้ได้มากที่สุด

4. โยเกิร์ต

โยเกิร์ตเป็นแหล่งของโปรตีนและแคลเซียมที่ดี อีกทั้งยังมีโพรไบโอติกที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและช่วยในการย่อยอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในช่วงการฟื้นตัวหลังการเติมไขมัน และมีวิตามิน B2 ที่ช่วยในการเผาผลาญพลังงานและการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เพื่อให้ได้ประโยชน์จากการรับประทานโยเกิร์ตมากที่สุด ควรเลือกยี่ห้อที่ไม่มีน้ำตาลเพิ่ม และอาจเพิ่มรสชาติด้วยผลไม้สดหรือน้ำผึ้งเล็กน้อย เพื่อเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นโดยไม่เพิ่มน้ำตาลมากเกินไป

5. เนยถั่ว

เนยถั่วเป็นแหล่งของโปรตีนและไขมันดีที่สำคัญ โดยเฉพาะกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่ช่วยในการลดการอักเสบและส่งเสริมสุขภาพของหัวใจ นอกจากนี้ เนยถั่วยังอุดมไปด้วยวิตามิน E ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย และช่วยในกระบวนการฟื้นฟูผิวหนัง และมีสังกะสีที่ช่วยในการสมานแผลและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน โดยควรเลือกเนยถั่วที่ไม่มีน้ำตาลหรือเกลือเพิ่ม และรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากมีแคลอรี่ค่อนข้างสูงค่ะ

6. น้ำเต้าหู้

น้ำเต้าหู้เป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่เพิ่งผ่านการเติมไขมัน เพราะอุดมไปด้วยโปรตีนจากถั่วเหลืองที่ย่อยง่าย มีกรดอะมิโนครบถ้วน และมีสารไอโซฟลาโวนที่ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการฟื้นฟูร่างกายหลังการผ่าตัด รวมถึงมีแคลเซียมและวิตามิน D ที่ช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและเนื้อเยื่อด้วย

7. ถั่ว

ถั่วชนิดต่างๆ เช่น อัลมอนด์ วอลนัท และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นแหล่งของโปรตีน ไขมันดี และสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ โดยเฉพาะวิตามิน E ที่ช่วยในการฟื้นฟูผิวหนังและป้องกันความเสียหายของเซลล์ นอกจากนี้ ถั่วยังมีแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด เช่น สังกะสีที่ช่วยในการสมานแผล และแมกนีเซียมที่ช่วยลดการอักเสบ การรับประทานถั่วเป็นอาหารว่างจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง แต่ควรระวังไม่รับประทานมากเกินไป เนื่องจากมีแคลอรี่ค่อนข้างสูงค่ะ

อาหารที่ไม่ควรทานหลังเติมไขมัน

ในขณะที่การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เป็นสิ่งสำคัญ การหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภทก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน หลายคนอาจสงสัยว่า “หลังดูดไขมันห้ามกินอะไร” คำตอบคือ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีผลเสียต่อการฟื้นตัวของร่างกายและอาจส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ของการเติมไขมัน ได้แก่ อาหารที่มีไขมันสูง อาหารแปรรูป อาหารที่มีน้ำตาลสูง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารที่มีเกลือสูง

อาหารเหล่านี้อาจทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ขัดขวางกระบวนการฟื้นฟู และอาจส่งผลให้เซลล์ไขมันที่ถูกย้ายมาไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง เพื่อป้องกันการอักเสบที่ไม่จำเป็น การดื่มน้ำสะอาดในปริมาณมากและการรับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูงจะช่วยในการขับสารพิษและลดการอักเสบในร่างกายได้ดี