เป็นอีกเทรนด์สุขภาพที่มาแรงมาก ๆ ในช่วงนี้กับ Sea Moss Gel ที่เป็น Superfood ตัวเด็ดจากสาหร่ายทะเลที่เหล่าคนดังทั้งฝั่งตะวันตกและชาวไทยให้ความสนใจกันอย่างมาก โดยเฉพาะคุณสมบัติที่ขึ้นชื่อในเรื่องของสุขภาพและความงาม จนทำให้ใครหลายคนต้องรีบหาคำตอบในการทาน Sea Moss Gel ซึ่งในบทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลที่จำเป็นต้องรู้ก่อนทานมาให้แล้ว ไปติดตามกันเลย!
Sea Moss Gel คืออะไร ทำไมถึงเป็นที่นิยม?
Sea Moss Gel คือ อาหารเสริมที่มีลักษณะเป็นเนื้อเจล ได้มาจากการแช่และบดสาหร่ายที่ชื่อว่า Sea Moss (Irish Moss) เป็นสาหร่ายทะเลสีแดงที่นิยมนำมาทำอาหารในแถบแคริบเบียนและเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดต่าง ๆ ในวงการดูแลสุขภาพและความงาม
Sea Moss Gel ได้รับความนิยมอย่างมากนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 เพราะคุณสมบัติที่หลากหลาย เช่น ช่วยบำรุงผิวและเพิ่มความชุ่มชื้น รวมถึงช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ Sea Moss Gel กลายเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์การดูแลสุขภาพที่ได้รับความนิยมในตอนนี้
เมื่อเร็วๆ นี้ในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ Sea Moss Gel ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางจากการที่อินฟลูเอนเซอร์หลายคนออกมาแชร์ประสบการณ์และประโยชน์ที่ได้รับจากการบริโภคผลิตภัณฑ์นี้ โดยเฉพาะการช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยงามและสุขภาพดี อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ได้เริ่มมีการพูดถึงข้อควรระวังในการบริโภค Sea Moss Gel มากขึ้นโดยอินฟลูเอนเซอร์ในวงการสุขภาพ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับทราบถึงประโยชน์และข้อจำกัดในการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม
สารสำคัญอาหารใน Sea Moss Gel ประกอบด้วยอะไรบ้าง?
- ไอโอดีน (Iodine)
- วิตามิน A, C, E, K
- แคลเซียม (Calcium)
- แมกนีเซียม (Magnesium)
- โพแทสเซียม (Potassium)
- ธาตุเหล็ก (Iron)
- ฟอสฟอรัส (Phosphorus)
- สังกะสี (Zinc)
- คอลลาเจน (Collagen)
- ไฟเบอร์ (Fiber)
- คาร์โบไฮเดรต (Carbohydrates)
- โปรตีน (Protein)
ประโยชน์ของ Sea Moss Gel ต่อสุขภาพ
ด้วยสารอาหารหลายชนิดใน Sea Moss Gel จึงทำให้อาหารเสริมตัวนี้มีประโยชน์กับสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งก็ทำให้ Sea Moss Gel ได้รับความนิยมอย่างมากดังนี้
สนับสนุนการทำงานของระบบทางเดินอาหาร
Sea Moss Gel มีไฟเบอร์ที่ช่วยในการขับถ่ายและส่งเสริมสุขภาพของลำไส้ และไฟเบอร์ใน Sea Moss Gel ยังมีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติกที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของโพรไบโอติกในลำไส้ ซึ่งเป็นชนิดแบคทีเรียที่สำคัญต่อระบบทางเดินอาหาร จึงช่วยลดอาการท้องผูกได้
เสริมภูมิคุ้มกัน
Sea Moss Gel มีวิตามิน A และ C เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน โดยกระตุ้นการทำงานเซลล์ภูมิคุ้มกัน จึงช่วยป้องกันร่างกายจากการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม ระดับวิตามินซีและวิตามินเอใน Sea Moss Gel อาจไม่สูงเท่าในผักและผลไม้บางชนิด เราจึงยังควรพึ่งพาวิตามินเหล่านี้จากการทานผักผลไม้ร่วมด้วย
เสริมการทำงานของต่อมไทรอยด์
Sea Moss Gel มีไอโอดีนสูง เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ โดยมีบทบาทในการควบคุมการเผาผลาญพลังงาน อุณหภูมิร่างกาย และการเจริญเติบโตของเซลล์ต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทาน Sea Moss Gel เพราะปริมาณไอโอดีนที่สูงก็ส่งผลกับผู้ที่มีปัญหาต่อมไทรอยด์เช่นกัน
ช่วยบรรเทาการอักเสบในร่างกาย
สารธรรมชาติใน Sea Moss Gel อย่าง Carrageenan มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการของโรคอักเสบเรื้อรัง เช่น อาการของโรคข้ออักเสบหรือปัญหาผิวหนัง แต่การศึกษาเกี่ยวกับ Carrageenan ที่มีความสัมพันธ์ต่อผลในการช่วยลดการอักเสบก็ยังไม่ได้มีมากนัก
บำรุงสุขภาพผิว
แร่ธาตุต่าง ๆ ใน Sea Moss Gel เช่น วิตามินเอและวิตามินซี นอกจากจะดีกับภูมิคุ้มกันแล้ว ยังช่วยในการผลิตคอลลาเจนในผิว กู้ปัญหาผิวต่าง ๆ ช่วยให้มีความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้น ลดการเกิดริ้วรอยและปัญหาผิวแห้งกร้าน ซึ่งก็เป็นคุณสมบัติเด่นที่ทำให้ Sea Moss Gel เป็นที่พูดถึงอย่างมากในวงการสุขภาพและความงาม
ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก
การทาน Sea Moss Gel เป็นประจำอาจช่วยในกระบวนการควบคุมน้ำหนัก เพราะอย่างที่บอกไปว่า Sea Moss Gel มีไฟเบอร์ที่ช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้นและยังมีแคลอรีต่ำ จึงช่วยลดความอยากอาหารนั่นเอง
ช่วยในการฟื้นฟูหลังออกกำลังกาย
ด้วยการที่ Sea Moss Gel มีแร่ธาตุอย่างแมกนีเซียมและโพแทสเซียม จึงช่วยในการฟื้นฟูและลดอาการเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกาย รวมทั้งยังช่วยลดการเกิดตะคริวที่เกิดจากการขาดแร่ธาตุ
เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย
Sea Moss Gel มีความสามารถในการรักษาสมดุลน้ำในร่างกายได้ดี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวและระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำและระบบต่าง ๆ ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ต้องการปรึกษาแพทย์ฟรี!

SCan OR Code เพื่อแอดไลน์ หรือ
สาขา รัชโยธิน กด 1
สาขา ราชพฤกษ์ กด 2
วิธีทาน Sea Moss Gel แบบฉบับเข้าใจง่าย
- ปริมาณที่แนะนำ – เริ่มต้นที่ 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน เพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับตัว หากไม่มีอาการผิดปกติก็เพิ่มปริมาณเป็น 2 ช้อนโต๊ะต่อวันได้
- เวลาที่ควรทาน – สามารถเลือทานได้ในตอนเช้า ก่อนหรือหลังออกกำลังกาย และก่อนนอน (ไม่มีการระบุเวลาตายตัว แต่ไม่ควรเกิน 2 ครั้งต่อวัน)
- ทานเปล่า ๆ ได้เลย – สามารถทานจากช้อนเลย หรืออาจผสมกับน้ำเปล่าเพื่อลดความหนืดและลดกลิ่นคาวลงได้
- ผสมกับอาหารอื่น ๆ – เติมลงในสมูทตี้ น้ำผลไม้ ซุป หรือโยเกิร์ต ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยกลบกลิ่นคาวของ Sea Moss Gel ได้ดีมาก
- ใช้ทาบำรุงผิว – สามารถใช้เป็นมาส์กหน้าหรือทาผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นได้
- เลือกแหล่งที่มา – ตรวจสอบแหล่งผลิตว่าปลอดสารปนเปื้อนและโลหะหนักหรือเปล่า หากตรวจสอบได้ถึงขั้นว่า Sea Moss ที่ใช้มาจากแหล่งใดก็ช่วยให้เรามั่นใจมากขึ้น
- ไม่ควรทานมากเกินไป – เพราะมีปริมาณไอโอดีนสูงอาจส่งผลต่อไทรอยด์ หากทานไปนาน ๆ ก็อาจเกิดการสะสมไอโอดีนในร่างกายได้ ทั้งนี้ยังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าทานได้ต่อเนื่องเป็นเวลานานเท่าไหร่ เวลาที่แนะนำจึงเป็นในช่วงระหว่าง 3-6 เดือน และคอยสังเกตผลที่เกิดกับร่างกายอยู่เรื่อย ๆ
ก่อนทาน Sea Moss Gel ต้องระวังอะไร?
แม้ Sea Moss Gel จะมีประโยชน์หลายอย่างในการดูแลสุขภาพและผิวพรรณ แต่เราก็ควรตระหนักถึงข้อควรระวังในการทานเพื่อความปลอดภัย และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพระยะยาว มาดูกันว่าก่อนทาน Sea Moss Gel จะต้องระวังอะไรบ้าง
- ยังมีงานวิจัยไม่มากพอ แม้จะมีการพูดถึงประโยชน์ของ Sea Moss Gel มากมาย แต่การศึกษาเกี่ยวกับ Sea Moss Gel ยังมีจำกัด และไม่มีข้อมูลวิจัยอย่างเพียงพอที่จะยืนยันผลข้างเคียงต่อร่างกายมนุษย์ในระยะยาว ส่วนใหญ่ในปัจจุบันยังเป็นการวิจัยโดยใช้หลอดทดลองหรือทดลองกับสัตว์ ดังนั้น เราจำเป็นต้องมีความระมัดระวังเรื่องผลกระทบกับร่างกายในระยะยาวด้วย
- ความเสี่ยงจากไอโอดีน อย่างที่ทราบกันดีว่า Sea Moss Gel มีปริมาณไอโอดีนสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับคนที่มีปัญหาหรือโรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ เช่น ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism) หรือภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ (Hypothyroidism) คนกลุ่มนี้ถ้าได้รับไอโอดีนมากไป ก็อาจทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น ใจสั่น น้ำหนักลดหรือเพิ่มขึ้นผิดปกติ หงุดหงิดง่าย นอนไม่หลับ และอาจทำให้เกิดโรคไทรอยด์เป็นพิษ (Thyrotoxicosis) ตามมาได้ด้วยเช่นกัน
- สารพิษจากโลหะหนัก Sea Moss อาจมีการปนเปื้อนจากโลหะหนัก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาหรือแหล่งเพาะเลี้ยง เพราะ Sea Moss เป็นพืชทะเลที่สามารถดูดซับโลหะหนักจากสภาพแวดล้อมในมหาสมุทรได้ หากสาหร่าย Sea Moss มาจากแหล่งที่ไม่ผ่านการรักษาความสะอาดของน้ำทะเล ก็อาจเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารพิษหลายชนิด เช่น ตะกั่ว ปรอทหรือสารหนู ซึ่งล้วนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
- อาการแพ้ ในบางคนอาจแพ้ส่วนประกอบใน Sea Moss เช่น คาร์ราจีแนน (Carrageenan) ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในการทำ Sea Moss Gel หากมีอาการแพ้ ควรหยุดทานทันทีและปรึกษาแพทย์
- ผลกระทบกับหญิงตั้งครรภ์หรือคุณแม่ให้นมบุตร ปริมาณไอโอดีนสูงอาจมีผลต่อการพัฒนาของทารก คุณแม่ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนการบริโภค
Sea Moss Gel เหมาะกับทุกคนไหม ใครทานได้บ้าง?
Sea Moss Gel มีสารบางอย่างที่ส่งผลให้เกิดอาการแพ้ได้ และแหล่งที่มาของวัตถุดิบในการผลิตที่เรายากจะตรวจสอบได้ รวมถึงงานวิจัยที่ยังคลุมเครืออยู่ ดังนั้นเรามาดูกันว่าใครทานได้และไม่ควรทาน Sea Moss Gel ดังนี้
Sea Moss Gel เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการเสริมไอโอดีน
- ผู้ที่ต้องการบำรุงสุขภาพผิวและเส้นผม
- ผู้ที่ต้องการเสริมระบบย่อยอาหาร
- ผู้ที่ต้องการสนับสนุนภูมิคุ้มกัน
- ผู้ที่ทานมังสวิรัติหรือวีแกน
คนที่ไม่ควรทาน Sea Moss Gel
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไทรอยด์
- หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
- ผู้ที่มีภาวะแพ้คาร์ราจีแนน
- ผู้ที่มีปัญหาทางเดินอาหารบางชนิด เช่น ผู้ที่เป็นโรคลำไส้อักเสบ (IBD) หรือโรคกระเพาะบางประเภท
- ผู้ที่เสี่ยงต่อภาวะโลหะหนักสะสม

สรุป Sea Moss Gel ปลอดภัยขนาดไหน?
โดยทั่วไปแล้ว Sea Moss Gel ถือว่าปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่หากทานในปริมาณที่พอดี แต่ก็ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับปริมาณไอโอดีนที่สูง ความเสี่ยงต่าง ๆ จากโลหะหนักและสารคาร์ราจีแนนที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองในระบบทางเดินอาหาร รวมถึงความคลุมเครือของงานวิจัยเกี่ยวกับ Sea Moss Gel ซึ่งยังคงมีจำกัด ดังนั้น ก่อนคิดจะทานก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีแหล่งที่มาชัดเจน และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนหากมีโรคประจำตัว แค่นี้เราก็เข้าใจการทาน Sea Moss Gel มากขึ้นแล้ว!
