ดูดไขมันทั้งตัว อันตรายไหม? ดูดไขมันทั่วร่างกายได้จริงไหม แค่ฟังชื่อหัวข้อก็น่าสนใจแล้วนะครับ เพราะมีหลายคนที่ยังสงสัยว่า ตัดสินใจดูดไขมันทั้งตัวทั้งที เราสามารถดูดไขมันหลายตำแหน่งในครั้งเดียวกันได้ไหม เนื่องจากทำแล้วก็อยากทำทีเดียวไปเลย ไม่อยากมาทำอีกครั้งต่อไป
รวมถึงอีกหนึ่งคำถามยอดฮิต ดูดไขมันทั้งตัวที่ไหนดี ดูดไขมันทั้งตัว ราคาเท่าไหร่ ต้องเตรียมงบไว้ประมาณไหน ซึ่งเป็นคำถามที่วันนี้หมอจะมาตอบให้หายข้องใจกันครับ—หมอไอซ์ KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Amara Clinic
ดูดไขมันทั้งตัว อันตรายไหม? ต้องคำนึงจากอะไรบ้าง?
การดูดไขมันทั้งตัว หรือดูดไขมันทั่วร่างกายในครั้งเดียวนั้นสามารถทำได้ครับ แต่ก็ต้องพิจารณาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักตัวของคนไข้, มวลไขมันในร่างกาย, ความสอดคล้องของปริมาณไขมันและน้ำหนัก, และระยะเวลาที่ใช้ในการดูดไขมัน เป็นต้น โดยแพทย์ที่ทำการดูดไขมันจะเป็นผู้ประเมินว่าสามารถดูดไขมันได้หรือไม่นะครับ
น้ำหนักและมวลไขมันของคนไข้
ในการพิจารณาดูดไขมันทั้งตัว แพทย์จะดูน้ำหนักและปริมาณไขมันของคนไข้ เพื่อประเมินปริมาณยาชาที่ต้องใช้ หากคนไข้มีน้ำหนักที่มากพอ ก็สามารถใช้ยาชาได้เยอะขึ้น ทำให้คนไข้สามารถดูดไขมันทั้งตัวในครั้งเดียวได้ครับ
แต่คนไข้บางรายมีน้ำหนักและมวลไขมันที่ไม่สอดคล้องกัน คือมี น้ำหนักน้อย แต่มีไขมันเยอะ แสดงว่าไขมันเยอะกว่าน้ำหนัก หากในการดูดไขมันครั้งนั้นมีการใช้ยาชาเต็มลิมิตแล้ว แต่ยังดูดไม่เสร็จ หรือคนไข้ต้องการยาชาเพิ่มอีก กรณีนี้จะต้องแบ่งการดูดไขมันเป็นสองครั้งนะครับ
สำหรับบาง คนที่มีน้ำหนักเยอะ แต่มีมวลไขมันน้อย ในกรณีนี้ เราสามารถดูดไขมันทั่วทั้งตัวได้ในครั้งเดียว เพราะปริมาณยาชาจะไม่เกินจากที่กำหนดไว้ ทั้งนี้แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาปริมาณการใช้ยาชาในแต่ละครั้ง ซึ่งจะไม่ใช้ยาชาในปริมาณมากเกินกำหนด เพื่อลดความเสี่ยงและผลแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ
ถ้าได้รับยาชามากเกินกำหนด จะทำให้เกิดอะไรขึ้น?
ยาชาเฉพาะที่ (Local anesthesia) เป็นยาที่ใช้ระงับความเจ็บปวดเฉพาะจุด มีความปลอดภัย และมีผลข้างเคียงน้อย แต่หากได้มากเกินปริมาณที่กำหนด หรือคนไข้มีอาการแพ้ยาชาอย่างรุนแรง ก็อาจเกิดอันตรายได้ครับ</p
ผลข้างเคียงทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นได้จากยาชา (ไม่เป็นอันตราย)
- มีรอยช้ำ หรือเจ็บปวดเล็กน้อย ในบริเวณที่ดูดไขมัน
- รู้สึกเจ็บแปลบ ๆ ในบริเวณที่ดูดไขมัน (อาการหลังดูดไขมัน)
ผลข้างเคียงของยาชา เมื่อใช้ยาชาเกินขนาด
- อาการสั่น หรือกล้ามเนื้อกระตุก
- สับสน กระวนกระวาย
- ภาวะเลือดเป็นกรด ทำให้ออกซิเจนในเลือดต่ำ อาจทำให้หัวใจล้มเหลวได้
- ภาวะพิษจากยาชา : ยาชาถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด และไหลไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจ ระบบหายใจ และการทำงานของสมองได้ จึงทำให้มีอาการต่าง ๆ ตามมาได้ เช่นความดันต่ำ, หน้ามืด เป็นลม, หูอื้อ, พูดไม่ชัด พูดอ้อแอ้, ปากชา ลิ้นชา, การรับรสผิดปกติ คล้ายมีรสโลหะอยู่ในปาก และเห็นภาพซ้อนได้
ยาชามีความปลอดภัย หากใช้อย่างถูกวิธี คือใช้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ, ใช้ในปริมาณที่พอดี, และใช้ในสัดส่วนความเข้มข้นตามมาตรฐาน
ทั้งนี้ แพทย์จะเป็นคนประเมินความเหมาะสมในการใช้ยาชาของคนไข้แต่ละคน เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์หลังการรักษาที่พึงพอใจ รวมถึงโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงน้อยลงด้วย หากใช้ยาชาผิดวิธี หรือใช้โดยแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ครับ
ระยะเวลาในการดูดไขมัน
โดยทั่วไป การดูดไขมัน 1 ครั้ง ไม่ควรใช้เวลาเกิน 4-5 ชั่วโมงนะครับ เพราะยิ่งดูดนาน ก็จะยิ่งเกิดผลข้างเคียงในระหว่างการดูดไขมันได้ เช่นคนไข้มีอาการอ่อนเพลีย, แพทย์เหนื่อย, หรือคนไข้นอนอยู่กับที่นาน ๆ ไม่ขยับร่างกาย อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นลิ่มเลือดได้ ทั้งนี้ ทาง Amara Clinic เราจึงใช้คุณหมอ 2 ท่าน ช่วยกันดูดไขมัน ในเคสที่ต้องการดูดไขมันทั้งตัว เพื่อให้ดูดไขมันได้เร็วขึ้นครับ
ปริมาณไขมันที่ดูดออกมาได้
การดูดไขมันในแต่ละครั้ง จะมีการกำหนดปริมาณไขมันไว้เป็นพื้นฐานว่า ไม่ควรดูดเกิน 5 ลิตรต่อครั้ง หากดูดไขมันเกิน 5 ลิตรต่อครั้ง เราจะเรียกว่า MEGA Liposuction ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสมดุลของน้ำในร่างกาย และความดันในร่างกายได้
ความสมดุลของน้ำในร่างกาย (Electrolyte)
เมื่อน้ำในร่างกายถูกดึงออกไปพร้อม ๆ กับไขมัน การดูดไขมันเกิน 5 ลิตรในแต่ละครั้ง ทำให้เราเสียน้ำในร่างกายมาก จึงทำให้เกิดภาวะไม่สมดุลของน้ำในร่างกาย ส่งผลให้เกิดความผิดปกติต่อหัวใจและเส้นเลือด อาจทำให้มีอาการต่าง ๆ ตามมาได้ เช่นหัวใจเต้นผิดจังหวะ, เป็นเหน็บชาตามร่างกาย, คลื่นไส้ อาเจียน, อ่อนเพลีย, สับสน จนถึงขั้นชัก และเสียชีวิตได้ หากปล่อยไว้นาน ๆ ครับ
ความดันต่ำผิดปกติ
เมื่อร่างกายสูญเสียน้ำมาก จะส่งผลให้ความดันต่ำลงได้ ซึ่งเกิดจากการที่เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ จึงทำให้มีอาการต่าง ๆ ได้ เช่นวิงเวียนศีรษะ, หน้ามืดเป็นลม, มึนงงสับสน, อ่อนเพลีย, เบลอ มองเห็นไม่ชัด, กระหายน้ำ และตัวเย็นหนาวสั่น เป็นต้น
ดูดไขมัน อันตรายไหม? เคยเห็นข่าวว่าดูดไขมันแล้วตายได้
ในอดีตเรามักจะเห็นข่าวที่มีเคสที่ดูดไขมันทั้งตัวแล้วตายจริง ๆ ครับ เนื่องจากสมัยก่อนยังไม่มีเทคโนโลยีในการดูดไขมัน แพทย์จะดูดไขมันโดยใช้แรงมืออย่างเดียว (Manual Liposuction) ไม่มีพลังงานต่าง ๆ อย่างพลังงานน้ำเข้ามาช่วย
ดังนั้น การดูดไขมันทั่วร่างกายจะทำให้เวลาดูดไขมันหมอจะใช้แรงมือในการสลายไขมันเยอะ ด้วยแรงกระแทกเป็นเวลานาน จึงทำให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันข้างเคียง รวมไปถึงเส้นเลือด เส้นประสาท ได้รับผลกระทบมาก ทำให้เลือดออกเยอะมาก คนไข้เจ็บมาก (จึงต้องดมยาสลบ) รวมไปถึงแพทย์อาจไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ และฝืนดูดไขมันต่อไปทั้ง ๆ ที่ร่างกายคนไข้ไม่ไหวแล้ว เป็นเหตุให้คนไข้อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตราย และเสียชีวิตได้ในที่สุด
แต่ในปัจจุบัน เรามีเทคโนโลยีและพลังงานต่าง ๆ เข้ามาช่วยในการดูดไขมันทั้งตัว หรือในเคสดูดไขมันเฉพาะจุดทั่วไป เพื่อให้การดูดไขมันเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีกับทั้งตัวคนไข้ และตัวแพทย์เองด้วย พอเราใช้พลังงานต่าง ๆ เข้ามาช่วยในการสลายไขมัน เช่น
- ดูดไขมันพลังน้ำ (Water Jet Assisted Liposuction)
- พลังคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ (Ultrasound)
- พลังคลื่นวิทยุ (Radio frequency) เป็นต้น
จึงช่วยให้แพทย์สลายไขมันได้เร็วขึ้น ใช้ระยะเวลาในการดูดไขมันน้อยลง แพทย์เหนื่อยน้อยลง คนไข้เจ็บน้อยลง เพราะเราสามารถระงับความเจ็บปวดโดยการใช้ยาชาเฉพาะที่ แทนการวางยาสลบได้ การดูดไขมันในปัจจุบันจึงมีความปลอดภัยสูงนั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง
ดูดไขมันอันตรายไหม? ความแตกต่างของเครื่องดูดไขมันAmara Clinic เรามีทั้งการใช้ยาชา และการดมยาสลบ
โดยการเลือกใช้ยาชา หรือวางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์นั้น จะขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ และการประเมินของแพทย์ผู้ดูแลครับ
ดูดไขมันทั้งตัวด้วย ยาชา
- ก่อนการดูดไขมัน แพทย์จะใช้ Tumescent ซึ่งจะประกอบไปด้วย
- ยาชาเฉพาะที่ : ช่วยระงับความเจ็บปวดในบริเวณที่ดูดไขมัน
- Adrenaline : ช่วยให้เส้นเลือดหดตัวลง เพื่อลดความเสี่ยงที่จะกระทบต่อเส้นเลือด จึงทำให้เลือดออกน้อยลง
- ตัวยาอื่น ๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก
ดูดไขมันทั้งตัวด้วย ยาสลบ
การวางยาสลบนั้น จะอยู่ภายใต้การดูแลของวิสัญญีแพทย์ตลอดการดูดไขมันทั้งตัวครับ โดยทางคลินิกมีวิสัญญีแพทย์วิชาชีพ ดูแลคนไข้แบบ 1:1 พร้อมเครื่องมือที่ครบครัน คนไข้จึงมั่นใจได้ว่าจะปลอดภัยแน่นอนครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
การดูดไขมันแบบวางยาสลบ ปลอดภัยไหม?ดูดไขมันทั้งตัวที่ไหนดี เพื่อให้ปลอดภัยได้มาตรฐาน
ใครที่กำลังสงสัยว่าดูดไขมันทั้งตัวที่ไหนดี หรือดูดไขมันที่ไหนดี? จะรู้ได้ยังไงว่าคลินิกไหนปลอดภัย Amara Clinic จึงมาแนะนำข้อควรรู้ ในการเลือกคลินิกดูดไขมัน เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการดูดไขมันทั่วร่างกายเป็นที่น่าพึงพอใจสูงสุดมาฝากกันครับ
- วิธีดูดไขมัน หรือเครื่องดูดไขมันที่เลืือกใช้
- ความน่าเชื่อถือของสถานพยาบาล
- รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจ
- ความใส่ใจและการบริการที่ดี
- ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- เครื่องมือและห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐาน
- วิธีระงับความเจ็บปวด เลือกใช้ยาชาหรือดมยาสลบ
ที่ Amara Clinic ดูดไขมันทั้งตัว ราคาเท่าไหร่
ในการดูดไขมันทั้งตัว หรือดูดไขมันทั่วร่างกาย หมอจะต้องมีการประเมินตำแหน่งทั้งหมดในคนไข้แต่ละราย ซึ่งในความหมายของดูดไขมันทั้งตัว บางเคสอาจดูดไขมัน 5 ตำแหน่ง หรือบางคนอาจจะน้อยหรือมากกว่านั้น ซึ่งเป็นตำแหน่งที่กระจายทั่วร่างกาย ดังนั้น ดูดไขมันทั้งตัว ราคาจึงแตกต่างกันออกไปด้วยครับ
ที่ Amara Clinic เรามีบริการดูดไขมันทั้งตัว โดยมีราคาเริ่มต้นตำแหน่งละ 25,000 บาท ซึ่งเป็นราคาในเคสที่ต้องการดูดไขมันทิ้ง ไม่ต้องการนำมาเติมไขมันต่อ เป็นเครื่องดูดไขมันพลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ (Vaser Smooth 2.2 หรือ Ultra Z) ส่วนเคสที่ต้องการดูดไขมันทั้งตัว แล้วนำมาเติมไขมันต่อ ด้วยเครื่องดูดไขมันพลังงานน้ำ Body-jet จะเป็นราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 39,900 บาท
Body-jet เครื่องดูดไขมันพลังน้ำที่ Amara Clinic เลือกใช้
เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากเยอรมัน ที่ช่วยในการสลายไขมันอย่างอ่อนโยนด้วยพลังงานน้ำ และดูดไขมันออกมาอย่างนุ่มนวล โดยไม่ใช้ความร้อน ทำให้เซลล์ไขมัน, เส้นเลือด, เส้นประสาท และเนื้อเยื่อข้างเคียงไม่ถูกทำลาย
ทำให้ในขณะดูดไขมันคนไข้จะรู้สึกเจ็บน้อยหรือไม่เจ็บเลย หลังการดูดไขมันก็จะมีอาการบวมช้ำน้อย และพักฟื้นไม่นาน อีกทั้งเซลล์ไขมันที่ได้จากเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ ยังมีชวิตอยู่ มีคุณภาพที่ดี จึงสามารถนำไปเติมเต็มส่วนต่าง ๆ ในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า, หน้าอก, หลังมือ, น้องสาว หรือก้นเด้งได้ ไขมันที่เติมเข้าไปจึงติดทนและติดนาน
ข้อดีของการใช้เครื่องดูดไขมันพลังงานน้ำ
- ดูดไขมันได้ทุกสัดส่วนในร่างกาย
- ดูดมันได้ในปริมาณมาก
- สภาพผิวหลังดูดไขมันเรียบเนียนไม่เป็นคลื่น
- แผลเล็กเพียง 4-5 มิลลิเมตร
- ดูดไขมันเสร็จแล้ว สามารถกลับบ้านได้เลย
- เซลล์ไขมันที่ได้ สามารถนำไปเติมต่อได้อย่างมีคุณภาพ
สรุป
ปัจจัยทั้งหลายเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคนไข้แต่ละคนด้วยครับ ทางเอมาร่าคลินิกแนะนำให้เข้ามาปรึกษาคุณหมอก่อน ว่าสามารถดูดไขมันทั้งตัวได้ไหม หรือทำไม่ได้เพราะอะไร เพื่อให้การดูดไขมันเป็นไปอย่างปลอดภัยและราบรื่นนะครับ
อีกทั้งยังสามารถป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยเช่นกัน สำหรับใครที่สนใจในการดูดไขมัน ไม่ว่าจะดูดไขมันแบบทั้งตัว หรือจะดูดเฉพาะสัดส่วน ก็สามารถเข้ามาปรึกษาหมอไอซ์ก่อนได้ครับ Amara Clinic ยินดีให้คำปรึกษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญฟรี!
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB
ติดต่อเบอร์โทร :
062-789-1999⇒ สาขา รัชโยธิน กด 1
⇒ สาขา ราชพฤกษ์ กด 2
นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)
KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet