Gynecomastia เกิดจาก ? พร้อมวิธีแก้ปัญหาหน้าอกใหญ่เหมือนผู้หญิง

       Gynecomastia เกิดจากการขยายของหน้าอกในผู้ชาย ซึ่งการมีหน้าอกโตผิดธรรมชาติสามารถเป็นปัญหาที่บั่นทอนความมั่นใจของผู้ชายลงไปมาก โดยเฉพาะเวลาที่ต้องแต่งตัวด้วยเสื้อยืดหรือเสื้อเชิ้ตซึ่งจะมองเห็นหน้าอกที่ขยายได้ชัดเจนกว่าปกติ รวมไปถึงเมื่อถอดเสื้อก็อาจรู้สึกอายหรือไม่สบายใจ วันนี้หมอนิว AMARA ได้รวบรวมสาเหตุและวิธีแก้ของปัญหาดังกล่าวไว้ให้แล้ว รับรองว่าช่วยไขข้อสงสัยพร้อมขจัดปัญหากวนใจได้แน่นอนครับ !

Gynecomastia เกิดจาก ?

       ภาวะเต้านมโตในผู้ชาย (Gynecomastia) เกิดจากเนื้อเยื่อเต้านมของผู้ชายขยายตัวผิดปกติ อาจมีหน้าอกไม่เท่ากัน โตข้างเดียวหรือโตทั้ง 2 ข้าง ซึ่ง Gynecomastia แบ่งเป็น 2 แบบคือ หน้าอกใหญ่เพราะต่อมน้ำนมโตผิดปกติและมีไขมันส่วนเกิน มักไม่มีอันตราย แต่ก็อาจทำให้ผู้ชายรู้สึกอายหรือวิตกกังวลเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของตัวเองได้ Gynecomastia เกิดจากหลายปัจจัย ทั้งจากการเปลี่ยนแปลงในร่างกายเองและพฤติกรรมภายนอก ในวันนี้เราจะมาศึกษาและทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะนี้อย่างละเอียดกันครับ

1. ฮอร์โมนไม่สมดุล

        ร่างกายของเรามีทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงและฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ของผู้ชาย โดยปกติจะมีฮอร์โมนเพศตัวเองมากกว่า แต่ผู้ที่มีภาวะ Gynecomastia มักมีระดับเอสโตรเจนสูงเกินกว่าที่ควร ส่งผลให้ต่อมน้ำนมโตผิดปกติ การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนนี้มักเกิดขึ้นในช่วงวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน ได้แก่

• ช่วงเริ่มวัยเจริญพันธุ์ (ประมาณ 12-14 ปี) : ร่างกายของผู้ชายวัยแรกรุ่นจะตอบสนองต่อฮอร์โมนเอสโตรเจนของผู้หญิงไว แต่มักหายได้เองภายใน 1-3 ปี
• ช่วงวัยกลางคน (ประมาณ 40-60 ปี) : ผู้ชายในช่วงวัยกลางคนอาจประสบปัญหาระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง
• ช่วงผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) : ระดับเทสโทสเตอโรนจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ประกอบกับเอสโตรเจนเพิ่มขึ้นทำให้เนื้อเยื่อเต้านมขยายตัว ประกอบกับคอลลาเจนและเนื้อเยื่อไขมันลดลง ทำให้หน้าอกหย่อนคล้อย

2. ยาและสารเสพติด

       ยาบางชนิดอาจมีส่วนผสมที่ก่อให้เกิด Gynecomastia ได้ ซึ่งมักเป็นยารักษาโรคต่าง ๆ เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม และโรคหัวใจ นอกจากยารักษาโรคเหล่านี้แล้ว ยังมียาอื่น ๆ ที่ใช้เพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของตับ ซึ่งทำหน้าที่ขับฮอร์โมนออกจากร่างกาย หากตับไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ อาจทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล และเกิด Gynecomastia ขึ้นได้

ตัวอย่างยาที่ทำให้เต้านมโต

• ยาปฏิชีวนะ
• ยาแก้ซึมเศร้า

• ยาใช้รักษาโรคต่อมลูกหมาก
• ยารักษาโรคติดเชื้อ HIV
• ฮอร์โมนเพศหญิง (ยาคุมกำเนิด)
• ยารักษาโรคหัวใจ
• ยาลดอาการอาเจียน
• ยารักษามะเร็งเต้านม
• ยารักษามะเร็งต่อมลูกหมาก
• ยาจิตเวช
• ยาสร้างกล้ามเนื้อจำพวกสเตียรอยด์

        นอกจากยาดังกล่าวแล้ว สารเสพติดบางชนิด เช่น กัญชา, เฮโรอีน, ยาบ้า (Amphetamine) และสารประกอบของฝิ่น ก็สามารถทำให้สมดุลของฮอร์โมนเพศในร่างกายเปลี่ยนแปลงได้ โดยทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในเพศชายลดลงเมื่อเทียบกับฮอร์โมนเอสโตรเจนในเพศหญิง จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเต้านมโตในผู้ชาย

3. โรคประจำตัว

       นอกจาก Gynecomastia เกิดจากฮอร์โมนที่ไม่สมดุลและยา/สารเสพติดแล้ว การมีโรคประจำตัวก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หน้าอกโตในผู้ชายได้ด้วยครับ เพราะโรคประจำตัวบางอย่างนั้นส่งผลทำให้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในเพศชายลดลงจนต่ำเกินไป หรือเพิ่มปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเกินไป ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะเต้านมโตในผู้ชาย โรคที่มีความสัมพันธ์กับภาวะนี้ ได้แก่

• โรคตับ (Liver Disease) : ตับแข็งหรือโรคตับอักเสบ ทำให้การกำจัดฮอร์โมนเพศชายลดลงและอาจทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิด Gynecomastia

• โรคไตเรื้อรัง (Chronic kidney disease) : สามารถทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดฮอร์โมนออกจากระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล
• ภาวะขาดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน : ภาวะที่ร่างกายขาดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนหรือภาวะ Hypogonadism ทำให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงและส่งผลให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีอิทธิพลมากขึ้น ทำให้เกิด Gynecomastia
• ภาวะไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism) : เป็นภาวะที่ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ จึงอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย
• โรคเบาหวาน (Diabetes) : ในบางกรณี โรคเบาหวานอาจส่งผลกระทบต่อระบบฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนและนำไปสู่การเกิด Gynecomastia
• เนื้องอกบางชนิด : เช่น เนื้องอกบริเวณลูกอัณฑะ, เนื้องอกต่อมหมวกไต หรือเนื้องอกต่อมใต้สมอง
• โรคอ้วน (Obesity) : ทำให้หน้าอกมีไขมันสะสมมากเกินไป จนเกิดความหย่อนคล้อย เต้านมขยายขนาด

4. ทานอาหารที่มีผลต่อฮอร์โมน

       อาหารบางประเภทมีสารเคมีที่ส่งเสริมการทำงานของเอนไซม์และกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนของเพศหญิง โดยกลไกของการเพิ่มเอสโตรเจนคือ มีสารประกอบไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) ที่มีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนพบได้ในพืชและสมุนไพร และอาหารบางอย่างมีฤทธิ์ยับยั้งการขับเอสโตรเจนออกจากร่างกาย โดยอาหารที่เป็นสาเหตุให้มีฮอร์โมนเพศหญิงมีมากเกินไป เช่น

• ผลไม้บางชนิด เช่น น้ำมะพร้าว, องุ่น, ลูกพรุน, ผลไม้ตระกูลเบอร์รี
• ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้, นมถั่วเหลือง, เทมเป้, ถั่วแระญี่ปุ่น
• ผักใบเขียว เช่น ผักกาด, ผักโขม, บร็อคโคลี
• เมล็ดงา เช่น งานดำ, งาขาว
• แคร์รอต
• กระเทียม
• ธัญพืช เช่น ข้าวโอ๊ต, ข้าวบาร์เลย์
• เมล็ดแฟลกซ์

5. ภาวะทางพันธุกรรม

       Gynecomastia เกิดจากหลายสาเหตุซึ่งพันธุกรรมก็เป็นหนึ่งในนั้น แม้ว่าจะเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับสาเหตุอื่น ๆ โดยสมาชิกผู้ชายในครอบครัวที่มีภาวะหน้าอกโตอาจมีพันธุกรรมที่ทำให้มีความเสี่ยงสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีโรคทางพันธุกรรมบางโรคที่ทำให้เกิด Gynecomastia เช่น Klinefelter Syndrome เป็นภาวะที่เกิดขึ้นในผู้ชายที่มีโครโมโซม X เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งตัว (XXY) ทำให้มีระดับเอสโตรเจนสูงและระดับเทสโทสเตอโรนต่ำ หรือการมีภาวะ Androgen Insensitivity Syndrome (AIS) เป็นอาการที่ร่างกายไม่สามารถตอบสนองต่อฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนได้อย่างเหมาะสม ทำให้มีลักษณะคล้ายกับเพศหญิงมากขึ้นรวมถึงการพัฒนาของเต้านมนั่นเอง

6. ไขมันสะสม

       การมีน้ำหนักเกินสามารถทำให้เกิด Gynecomastia ได้ ไขมันที่สะสมในหน้าอกเกิดจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูงมากเกินไป ไขมันนี้สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อเต้านมผ่านการเพิ่มระดับเอสโตรเจน และจะกลายเป็นเนื้อเยื่อแบบพังผืดที่ไม่สามารถกลับสู่สภาพเดิมได้ด้วยการลดน้ำหนัก ในทางกลับกันนั้น การลดน้ำหนักอาจทำให้เห็นลักษณะของเต้านมชัดเจนขึ้น เนื่องจากไขมันลดลงแต่เนื้อเยื่อเต้านมยังคงอยู่ วิธีแก้ไขที่มีประสิทธิภาพคือการผ่าตัดลดเต้านม

วิธีลดเต้านมโต คืนความมั่นใจ !

       รู้สึกไม่มั่นใจกับขนาดหน้าอกที่ใหญ่ผิดปกติใช่ไหมครับ ? ปัญหาเต้านมโตในผู้ชายเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย ส่งผลกระทบต่อจิตใจไม่น้อย แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะวันนี้หมอนำวิธีลดเต้านมโต มีทั้งการแก้ไขแบบธรรมชาติและการรักษาทางการแพทย์ เพื่อให้คุณสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองและกลับมามีความมั่นใจในรูปร่างอีกครั้งครับ

1. ทานอาหารเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย

   หากต้องการลดขนาดหน้าอกควรปรับพฤติกรรมหลายอย่าง เริ่มจากการทานอาหารเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งมีสารอาหารสำคัญ ได้แก่ โปรตีน, วิตามินดี และสังกะสี เช่น ไข่แดง, หอยนางรม, ปลาทูน่า, ทับทิม, เนื้อวัว ฯลฯ นอกจากนี้ควรทานอาหารที่มีโภชนาการครบถ้วนและไขมันต่ำเพื่อลดขนาดเต้านมที่มีไขมันสะสม 

2. ปรับเปลี่ยนการใช้ยา

   การใช้ยาบางชนิดเป็นสาเหตุที่ทำให้เต้านมโต เราสามารถปรึกษาแพทย์ หากแพทย์เห็นว่าส่งผลให้เกิด Gynecomastia จริง อาจเปลี่ยนหรือลดขนาดยาหรือสารบางชนิดที่อาจกระตุ้นให้เต้านมโตขึ้น หรืออาจใช้การบำบัดทดแทนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone replacement therapy – TRT) ในรูปแบบของการฉีด, เจลบำรุงผิว, แผ่นแปะ เพื่อช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย

3. การดูดไขมันหน้าอก

   การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นวิธีแก้ปัญหา Gynecomastia หรือภาวะเต้านมโตในผู้ชาย เนื่องจากสามารถกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ในบริเวณหน้าอกได้อย่างตรงจุด ช่วยลดขนาดและปรับรูปร่างของเต้านมให้ดูสมดุลและกระชับมากขึ้น การดูดไขมันจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดขนาดเต้านมและเพิ่มความมั่นใจในรูปร่างของตนเอง 

   ทาง Amara Clinic มีบริการดูดไขมันหน้าอกแก้ปัญหา Gynecomastia โดยเฉพาะ โดยเราใช้อุปกรณ์ Helixed Tri-Port III Cannulas ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับดูดไขมันหน้าอกที่เข้าถึงยาก หัวดูดแบบนี้จะยังคงความสวยงามของผิวเพราะแผลหลังดูดไขมันมีขนาดเล็กไม่เกิน 5 มิลลิเมตร ทั้งยังปลอดภัย ไม่กระทบเส้นเลือดหรือเส้นประสาทแต่อย่างใด

4. การผ่าตัดลดขนาดหน้าอก

   การผ่าตัดลดขนาดเต้านมเป็นวิธีรักษาในกรณีที่เนื้อเยื่อเต้านมมีความหนาแน่นมากหรือมีต่อมน้ำนมที่ต้องการกำจัดออก ขั้นตอนนี้อาจรวมถึงการตัดหนังหน้าอกออกด้วย เพราะในกรณีที่เต้านมโตมาก ๆ เมื่อดูดไขมันหรือนำเนื้อเยื่อออกแล้ว ผิวหนังอาจห้อยลงมา จึงต้องตัดผิวหนังส่วนเกินออกและย้ายตำแหน่งหัวนมเพื่อให้ได้รูปร่างที่เหมาะสม การผ่าตัดนี้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มี Gynecomastia ที่รุนแรงหรือไม่ได้ผลจากวิธีการรักษาอื่น ๆ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Gynecomastia เกิดจาก

       หลังจากผู้อ่านได้ทำความรู้จักว่า Gynecomastia เกิดจาก ? และวิธีการแก้ไขกันไปเรียบร้อยแล้ว หลายคนคงยังมีคำถามบางอย่างคาใจใช่ไหมครับ?  Gynecomastia เป็นภาวะที่ผู้ชายกว่าครึ่งหนึ่งเคยหรือกำลังประสบอยู่ ในหัวข้อนี้ เราจะมาตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับภาวะเต้านมโตเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องนี้อย่างละเอียดและชัดเจนมากยิ่งขึ้นครับ

Gynecomastia หายเองได้ไหม ?

อาจหายเองได้ในบางกรณีครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของภาวะนั้น ๆ ด้วย เช่น หากเป็น Gynecomastia ที่เกิดขึ้นในวัยรุ่นสามารถหายได้เองเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เพราะเมื่อโตขึ้นระดับฮอร์โมนกลับมาสมดุล หรือหากมีสาเหตุจากการใช้ยาหรือสารบางชนิด เมื่อหยุดใช้หรือเปลี่ยนยาอาจทำให้ภาวะนี้ดีขึ้นหรือหายไป แต่หากเป็นเพราะไขมันเยอะ สามารถออกกำลังกายลดไขมันได้ แต่ข้อเสียคือผิวหนังจะไม่กระชับตามเดิม ทำให้นมห้อยได้ครับ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจและการรักษาที่เหมาะสมเป็นรายบุคคลครับ

Gynecomastia อันตรายไหม ?

โดยทั่วไปไม่ถือเป็นภาวะอันตรายต่อสุขภาพชีวิตประจำวัน แต่สามารถส่งผลกระทบทางจิตใจได้ เช่น ความรู้สึกไม่มั่นใจหรือความวิตกกังวลเกี่ยวกับรูปร่างภายนอก แม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับมะเร็งเต้านม แต่การเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อเต้านมอาจทำให้ต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อความแน่ใจ หากภาวะนี้มีอาการที่รุนแรงหรือไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

การผ่าตัด Gynecomastia มีความเสี่ยงอะไรบ้าง ?

การผ่าตัด Gynecomastia เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็มีความเสี่ยงที่ควรพิจารณา เช่น การติดเชื้อที่แผลผ่าตัด ซึ่งอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษา, อาจมีเลือดออก, เกิดรอยแผลเป็นหรือการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อที่อาจต้องได้รับการดูแลเพิ่มเติม รวมทั้งอาการบวมหรือเจ็บปวดหลังการผ่าตัดซึ่งมักจะหายไปในระยะเวลาสั้น ๆ แต่ที่ Amara Clinic เรามี After Care โดยแพทย์และพยาบาลเพื่อดูแลผู้ใช้บริการอย่างใกล้ชิด เพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้อย่างเต็มที่ครับ