“กลืนบอลลูน” อีกหนึ่งวิธีลดน้ำหนักโดยไม่ต้องผ่าตัด สำหรับคนไม่ชอบออกกำลังกาย

ในยุคที่การมีรูปร่างที่ดีและสุขภาพที่แข็งแรงเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ปรารถนา การลดน้ำหนักจึงกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของคนจำนวนมาก แต่สำหรับบางคน การควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างเคร่งครัดอาจเป็นเรื่องยาก นวัตกรรมการลดน้ำหนักใหม่ๆ จึงเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และหนึ่งในนั้นคือวิธีการ “กลืนบอลลูน” ซึ่งหมอไอซ์ AMARA ยกให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักโดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ชอบออกกำลังกายครับ

กลืนบอลลูน คืออะไร

การกลืนบอลลูนเพื่อลดน้ำหนัก หรือที่เรียกว่า Gastric Balloon เป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยแพทย์จะใช้การส่องกล้องเพื่อสอดบอลลูนซิลิโคนเข้าไปในกระเพาะอาหารผ่านทางปาก จากนั้นจะเติมน้ำเกลือประมาณ 400-700 มิลลิลิตรเข้าไปในบอลลูน ทำให้บอลลูนพองตัวและกินพื้นที่ในกระเพาะอาหาร ส่งผลให้ผู้ใช้วิธีนี้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น รับประทานอาหารได้น้อยลง และน้ำหนักลดลงในที่สุด

ประโยชน์ของการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร

• ไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่มีแผลและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ
• ไม่ต้องดมยาสลบ ใช้เพียงยานอนหลับเบาๆ
• สามารถนำบอลลูนออกได้เมื่อต้องการ
• ช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วและนานขึ้น
• ลดปริมาณอาหารที่รับประทานในแต่ละมื้อ
• ช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
• มีผลข้างเคียงน้อยเมื่อเทียบกับการผ่าตัดลดความอ้วน

กลืนบอลลูนเหมาะกับใคร

การกลืนบอลลูนไม่ใช่วิธีการลดน้ำหนักที่เหมาะสำหรับทุกคน แพทย์จะพิจารณาความเหมาะสมเป็นรายบุคคล โดยทั่วไปแล้ว วิธีนี้เหมาะสำหรับ

• ผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ตั้งแต่ 27 ขึ้นไป
• ผู้ที่พยายามลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นๆ แล้วไม่ประสบความสำเร็จ
• ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดลดความอ้วน
• ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
• ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักก่อนการผ่าตัดใหญ่

กลืนบอลลูนไม่เหมาะกับใคร

ในขณะเดียวกัน มีคนบางกลุ่มที่ไม่ควรใช้วิธีการกลืนบอลลูนเพื่อลดน้ำหนัก ได้แก่

• สตรีมีครรภ์หรือกำลังวางแผนตั้งครรภ์
• ผู้ที่เคยผ่าตัดกระเพาะอาหารมาก่อน
• ผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหารหรือลำไส้
• ผู้ที่มีภาวะกรดไหลย้อนรุนแรง
• ผู้ที่มีความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร
• ผู้ที่แพ้ซิลิโคน

กลืนบอลลูนที่ไหนดี

การกลืนบอลลูนเป็นหัตถการทางการแพทย์ที่ต้องดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำหัตถการนี้ โรงพยาบาลขนาดใหญ่หรือคลินิกเฉพาะทางด้านการลดน้ำหนักมักจะมีบริการนี้ ก่อนตัดสินใจ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมและความเสี่ยง รวมถึงสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ของทีมแพทย์ อัตราความสำเร็จ และการดูแลติดตามผลหลังการรักษาครับ

แนะนำวิธีลดไขมัน กระชับสัดส่วนอื่น ๆ

นอกจากการกลืนบอลลูนแล้ว ยังมีวิธีการอื่นๆ ที่ช่วยลดไขมันและกระชับสัดส่วนโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ได้แก่

1. ดูดไขมัน

การดูดไขมันเป็นวิธีการกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายโดยตรง โดยใช้เครื่องมือพิเศษสอดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อดูดไขมันออก วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก แม้จะเป็นการผ่าตัด แต่ก็เป็นการผ่าตัดแบบเล็กที่ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน ข้อดีคือเห็นผลลัพธ์ทันที แต่ต้องระวังเรื่องการเกิดรอยบุ๋มหรือผิวที่ไม่เรียบหลังการดูดไขมัน

2. เครื่องกระชับผิว

เครื่องกระชับผิวแบบไม่ผ่าตัดมีหลายรูปแบบ เช่น J Plasma, Ultraformer III, ACCUtite, Thermatight และ Morpheus8 โดยเครื่องมือเหล่านี้จะใช้พลังงานความร้อนเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวกระชับขึ้นและลดการหย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง ข้อดีคือไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล และใช้เวลาพักฟื้นน้อย

3. ฉีดสลายไขมันหน้าท้อง

การฉีดสลายไขมันหน้าท้องเป็นวิธีการลดไขมันเฉพาะจุดโดยการฉีดสารเข้าไปทำลายเซลล์ไขมัน สารที่ใช้มักเป็นกรดดีออกซีโคลิก (Deoxycholic acid) ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายผลิตขึ้นเองตามธรรมชาติเพื่อย่อยไขมัน วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องไม่มากนัก ข้อดีคือไม่ต้องผ่าตัด แต่อาจต้องทำหลายครั้งเพื่อให้เห็นผลชัดเจน และอาจมีอาการบวมหรือระคายเคืองบริเวณที่ฉีด

4. นวดสลายไขมันหน้าท้อง

การนวดสลายไขมันเป็นวิธีธรรมชาติที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ช่วยให้ร่างกายขับของเสียและไขมันส่วนเกินออกได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยกระชับกล้ามเนื้อและผิวหนัง ทำให้รูปร่างดูกระชับขึ้น วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวิธีธรรมชาติและไม่ชอบการใช้เครื่องมือหรือการแพทย์ ข้อดีคือปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอและใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล