ปัญหาสิวไม่เพียงแค่ทิ้งรอยดำรอยแดงไว้เท่านั้น แต่อาจลุกลามไปถึงการเป็นหลุมสิว แค่คิดว่าจะต้องมีหลุมสิวทั่วหน้าก็อดที่จะวิตกกังวลไม่ได้เลยจริง ๆ ใช่ไหมคะ แต่ถ้าหากท่านใดที่ป้องกันไม่ทันจนหน้ามีหลุมแล้วละก็ วันนี้หมอมะปรางจะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจกับ สาเหตุของหลุมสิวและแนวทางแก้ปัญหาอย่างถูกวิธี ที่ไม่ว่าจะเป็นหลุมสิวประเภทไหนก็สามารถแก้ไขให้หายไปพร้อมเผยผิวหน้าเนียนใสอีกครั้ง ด้วยเทคโนโลยีด้านความงามที่สามารถแก้ไขปัญหาหลุมสิวได้อย่างเห็นผลและไม่ส่งผลกระทบข้างเคียงต่อผิวหนัง – หมอมะปราง Amara Clinic

หลุมสิว คือ แผลเป็นชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นหลุมยุบลงไป ซึ่งเป็นร่องรอยที่เกิดขึ้นหลังจากอาการสิวอักเสบหายไป หลุมสิวถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวที่รักษาได้ยากและใช้เวลานาน คนส่วนใหญ่จึงนิยมพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการรักษา ซึ่งหลุมสิวจะมีหลายประเภทด้วยกันค่ะ ซึ่งแต่ละประเภทจะมีความยากในการรักษาที่ต่างกันออกไป ประเภทของหลุมสิวสามารถแบ่งได้ 3 ประเภท ดังนี้

ประเภทของหลุมสิว

รอยแผลเป็น Rolling Scar (ระดับทั่วไป)

หลุมสิวความรุนแรงระดับแรก คือ รอยแผลเป็นแบบ Rolling Scar จะมีลักษณะเป็นหลุมตื้น เนื่องจากการอักเสบของสิวยังไม่ได้ลงไปลึกถึงชั้นหนังแท้ จึงทำให้หลุมสิวชนิดนี้รักษาได้ง่ายที่สุด สามารถใช้ยารักษาหลุมสิวจำพวกวิตามินเอหรือเติมฟิลเลอร์ในการรักษาได้ค่ะ

รอยหลุม Boxcar Scar (ระดับรุนแรงปานกลาง)

หลุมสิวความรุนแรงระดับกลาง คือ รอยหลุม Boxcar Scar จะมีลักษณะเป็นหลุมบ่อที่มีขอบ สามารถมองเห็นเป็นหลุมชัดเจนกว่าแบบแรก โดยหลุมสิวชนิดนี้จะมีขนาด 3-5 มม. การรักษาสามารถใช้ยารักษาหลุมสิวจำพวกวิตามินเอควบคู่ไปกับการทำเลเซอร์ 

รอยหลุม Ice pick Scar (ระดับรุนแรงที่สุด)

หลุมสิวความรุนแรงระดับสูง คือ รอยหลุม Ice pick Scar หรือ หลุมจิก จะมีลักษณะเป็นหลุมที่มีลักษณะแคบ หากมองด้วยตาเปล่าอาจรู้สึกว่าไม่รุนแรงเพราะเป็นหลุมสิวที่มีลักษณะไม่ใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้วหลุมสิวชนิดนี้จะยุบลึกลงไปถึงชั้นผิวหนังแท้ ทำให้การรักษาหายช้าและยากกว่าหลุมสิวชนิดอื่น หมอจึงขอแนะนำให้คนที่เป็นหลุมสิวชนิดนี้เข้าพบแพทย์ผิวหนังเพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมค่ะ

สำหรับปัญหาหลุมสิวมักเกิดจากการอักเสบของสิวหัวช้างหรือสิวอักเสบจนทำให้เกิด “โพรงหนอง” ใต้ชั้นผิวหนัง เมื่อสิวและหนองเหล่านั้นหายไป บริเวณที่เกิดโพรงจึงยุบตัวลงทำให้ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างเนื้อเยื่อเข้ามาทดแทนได้เพียงพอจึงเกิดเป็นหลุมสิว ซึ่งขนาดของหลุมจะมีความกว้างและลึกแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของสิวที่เกิด และการกระตุ้นให้ผิวอักเสบเพิ่มจากการรักษาสิวที่ไม่ถูกวิธี เช่น การแกะ การบีบ และการขัดหน้าในระหว่างที่มีสิว

• ป้องกันไม่ให้เกิดสิวอักเสบ
  สิวอักเสบถือเป็นสาเหตุหลักของการเกิดหลุมสิว ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาใหญ่ที่จะตามมา เมื่อมีสิวเกิดขึ้นบนใบหน้าหมอแนะนำให้ทุกคนมาพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการรักษาสิวอย่างถูกวิธี เพราะหากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมสามารถนำไปสู่การเป็นสิวอักเสบได้
• ไม่ แกะ หรือ บีบสิว
  การแกะหรือบีบสิวนอกจากจะเป็นพฤติกรรมที่ทำให้หน้าเกิดรอยแดงรอยดำจากสิวแล้ว ยังทำให้เกิดสิวอักเสบจนเป็นหลุมสิวได้ง่าย ๆ อีกด้วยค่ะ ดังนั้นใครที่มีพฤติกรรมนี้หมอแนะนำให้เลิกโดยเด็ดขาดเลยนะคะ เพราะมือของเรามีสิ่งสกปรกอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อไปสัมผัสกับผิวที่เป็นสิวจึงทำให้เกิดติดเชื้อและลุกลามจนเป็นสิวอักเสบซ้ำซากได้เลยค่ะ
• พบแพทย์ผิวหนัง
  การป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวที่ดีที่สุด คือ การเลือกมาพบแพทย์ผิวหนังเป็นประจำ เนื่องจากปัญหาจากมลภาวะและไลฟ์สไตล์ที่ส่งผลกระทบต่อผิวหนังได้ง่ายยิ่งขึ้น หมอจึงอยากแนะนำให้ทุกคนที่เริ่มมีปัญหาผิวไปพบแพทย์เพื่อหาแนวทางรักษาและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต