ความลับ ที่ไม่ควรละเลย! จุดซ่อนเร้นหมองคล้ำ จิมิดำ แปลกไหมที่เป็น?

จิมิดำ - Causes of vaginal darkening

ความดำคล้ำของผิวหนังสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับ “ปัญหาจิมิดำ” ที่แม้ฟังดูแล้วจะเป็นเรื่องลับที่ไม่อยากพูดคุยกับใคร แต่ว่าในทางการแพทย์มีงานวิจัยหลายชิ้นที่สนับสนุนว่า ปัญหาจุดซ่อนเร้นดำเกิดขึ้นได้กับทุกคนเลยค่ะ พอเกิดปัญหานี้ขึ้นมาแน่นอนว่าสาว ๆ ก็ต่างเสียความมั่นใจและเริ่มมองหาวิธีการต่าง ๆ ใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะเป็น การทาครีม การเลเซอร์ หรือ ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งต่าง ๆ แต่ว่าวิธีไหนดีที่สุดกันนะ? วันนี้หมอมะปราง Amara Clinic จึงขอนำทริคดูแลน้องสาวให้ขาวกระจ่างใสมาฝากสาว ๆ ที่กำลังมีปัญหานี้ พร้อมวิธีป้องกันไม่ให้ผิวจุดซ้อนเร้นกลับมาหมองคล้ำได้อีก! อยากรู้ว่าจะมีวิธีไหนตอบโจทย์บ้างตามมาดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

Causes of vaginal darkening

สาเหตุที่ทำให้จิมิดำ น้องสาวดำคล้ำ เกิดได้ทั้งจากฮอร์โมนภายในร่างกายและพฤติกรรมของตัวเราเอง จากงานศึกษาของ Dr. Hadley King แพทย์ผิวหนังจากแมนฮันตัน ได้กล่าวว่า “การที่จุดซ่อนเร้นดำขึ้นจะพบมากขึ้นในช่วงที่ร่างกายเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น โดยผิวหนังบริเวณนี้จะมีมีความดำคล้ำได้มากกว่าผิวหนังบริเวณอื่น ๆ ซึ่งปัญหานี้เรียกว่า Hyperpigmentation” ดังนั้นสาเหตุหลัก ๆ ของปัญหาน้องสาวดำจึงแบ่งออกได้ 5 สาเหตุหลัก ดังนี้

  1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนส่งผลให้จิมิดำ

    เมื่อร่างกายเริ่มเข้าสู่การเปลี่ยแปลง ไม่ว่าจะเป็น ช่วงวัยรุ่นตอนต้น ช่วงการตั้งครรภ์ และช่วงวัยชรา หรือ วัยทอง ล้วนมีระดับฮอร์โมนในร่างกายที่เกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ “เมลานิน ” ที่มีความไวต่อฮอร์โมนส์เกิดกระบวนการ เมลาโนไซต์ (melanocyte) ที่บริเวณจุดซ้อนเร้นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ขาหนีบ น้องสาว ข้อพับ และรักแร้ จึงเกิดเป็นความหมองคล้ำขึ้นมาได้ค่ะ ดังนั้นพอเริ่มเข้าวัยรุ่นน้องสาวของหลายคนจึงเริ่มมีสีที่ดำขึ้นนั่นเองค่ะ ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ 

  2. อายุที่เพิ่มมากขึ้น

    อย่างที่หมอได้เกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่า “อายุ” ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สีผิวและการผลิตเมลานินที่บริเวณจุดซ่อนเร้นมีมากขึ้น ทำให้ผิวหนังเกิดความดำคล้ำขึ้นมา นอกจากนี้ยังทำให้เกิดปัญหาน้องสาวไม่กระชับ น้องสาวแบนแฟ่บ ได้อีกด้วยค่ะ ดังนั้นต้องทำความเข้าใจถึงธรรมชาติของร่างกายว่ามีช่วงสดใสก็ต้องมีช่วงเสื่อมโทรมเป็นธรรมดาค่ะ 

  3. กรรมพันธุ์

    จากการศึกษาของแพทย์ผิวหนังหลายประเทศ ล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สีผิวหนัง สามารถส่งทอดทางกรรมพันธุ์ได้ ในคนที่มีสีผิวเข้มมักมีสีผิวที่จุดซ้อนเร้นดำคล้ำมากกว่าคนที่มีผิวขาว นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมสาว ๆ หลายคนถึงได้มีปัญหาในจุดนี้แตกต่างกัน 

  4. จิมิดำเพราะการเสียดสีของผิวหนัง

    การเสียดสีของผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็น การสวมการเกงที่เสียดสีผิว หรือ การที่น้ำหนักขึ้นจนขาเบียดเสียดสี ล้วนนำมาสู่ปัญหาน้องสาวดำคล้ำ เนื่องจากผิวหนังบริเวณนี้เป็นผิวที่มีความอ่อนโยนและระคายเคืองง่าย ดังนั้นการถูกทำให้เกิดการเสียดสีเป็นประจำ จะส่งผลให้ผิวถลอกและกลายเป็นสีเข้มขึ้นได้ค่ะ

  5. การติดเชื้อของแบคทีเรีย

    ในบางเคสการที่มีปัญหาจุดซ่อนเร้นดำคล้ำขึ้นอาจสื่อถึงปัญหาสุขภาพได้ค่ะ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย ติดเชื้อยีนต์ การมีขนคุดที่น้องสาว ล้วนทำให้เกิดการสร้างเมลานินและทิ้งรอยดำคล้ำไว้ได้ค่ะ อย่างที่เราทราบกันว่าผิวหนังบริเวณนี้ง่ายต่อการสะสมของเชื้อแบคที่เรีย และมีความอับชื้นง่ายกว่าส่วนอื่น ๆ ดังนั้นการดูแลน้องสาวให้สะอาดและไม่อับชื้นจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลยนะคะ

มี Sex บ่อยทำให้น้องสาวดำ จริงไหม?

การมีเพศสัมพันธ์และสิ่งที่มาพร้อมกับกิจกรรมนี้ สามารถส่งผลให้เกิดปัญหาน้องสาวดำขึ้นได้ แม้จะไม่ใช้สาเหตุหลักที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนและรุนแรง แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าสิ่งนี้ถือเป็นการก่อความระคายเคืองให้กับผิวหนังได้ เหนือกว่าเรื่องของสีผิวการดูแลสุขลักษณะที่ดีถือเป็นหัวข้อใหญ่ที่มีความสำคัญที่สุดค่ะ

จุดซ่อนเร้นหมองคล้ำ (จิมิดำ) ทำยังไงให้ขาวขึ้น?

สำหรับคนที่ไม่มั่นใจในสีผิวของจุดซ่อนเร้น ต้องการทำให้น้องสาวดูขาวสว่างขึ้น การรีบไป Cf ครีมในออนไลน์อาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดนะคะ เพราะวิธีนี้มันรุนแรงกับผิวเกินไป อย่างที่หมอได้บอกไปว่าผิวตรงนี้อ่อนโยนมาก ๆ ดังนั้นการนำครีมที่มีสารผลัดเซลล์ผิวรุนแรงมาใช้ นอกจากจะไม่ขาวขึ้นแล้วจะยิ่งทำให้ผิวน้องสาวเสียหายได้ง่าย ๆ เลยค่ะ เดี๋ยวเราไปดูทริคในการดูแลน้องสาว ลดความหมองคล้ำ ที่ถูกต้องและปลอดภัยกับสาว ๆ กันเลยค่ะ

บำรุงผิวด้วยมอยซ์เจอร์ไรเซอร์

มอยเจอร์ไรเซอร์ ถือเป็น Hero ที่จะช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรง ชุ่มชื้น และไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง หลาย ๆ คนมักมองข้ามความเก่งกาจของมอยเจอร์ไรเซอร์ไปเพียงเพราะส่วนผสมตัวนี้ให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างช้า แต่หมอก็อยากจะย้ำว่า “ช้าแต่ชัวร์” ยังไงก็ดีกว่าเร็วแต่พังนะคะ การบำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำจะช่วยให้ผิวเนียนนุ่มและดูสดใสขึ้น (แต่ในเรื่องความขาวอันนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาและคุณภาพมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ใช้ค่ะ)

vaginal treatment

เลเซอร์จิมิขาว

สำหรับคนที่อยากให้น้องสาวสว่างขึ้นเร็ว ๆ การเลเซอร์จิมิขาว ถือเป็นการทำหัตถการที่นิยมทำควบคู่ไปกับการกำจัดขนน้องสาว เรียกว่าทำครั้งเดียวได้X2 เพราะในแสงเลเซอร์มีความสามารถในการกำจัดขน ลดการสร้างเมลานิน และช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ดังนั้นหลังทำเลเซอร์ผิวน้องจึงมีความเด็กขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์หลังทำ (ย้ำว่าต้องทำ 3-5 ครั้งขึ้นไปจะได้รับผลลัพธ์ที่หน้าพึงพอใจยิ่งขึ้นค่ะ)

ทำหัตถการเติมไขมันน้องสาว

เติมไขมันน้องสาว ช่วยทำให้จิมิหายดำได้ด้วยจริงเหรอ? เรื่องนี้จริงมาก ๆ ค่ะ แน่นอนว่าการเติมไขมันน้องสาวไม่ได้ไปช่วยลดเม็ดสีเมลานินเหมือนกับการทำเลเซอร์ แต่ว่าเมื่อน้องสาวที่เคยดำคล้ำเพราะผิวหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น กลับมาเต่งตึงด้วยไขมันที่เติมอีกครั้ง น้องจากขนาดที่เปลี่ยนไปแล้ว ในเรื่องของสีผิวจุดที่ดูหมอง ๆ ก็จะดูสว่างเท่ากับสีผิวเดิมของตัวคนไข้ได้ด้วยค่ะ (ดูรีวิวเติมไขมันน้องสาวได้ที่ Line : )

vaginal treatment

วิธีป้องกันไม่ให้จุดซ่อนเร้นดำคล้ำ

สำหรับวิธีการป้องกันและดูแลน้องสาวไม่ให้ดำคล้ำ สามารถทำได้อย่างไรบ้าง? จริง ๆ มีหลายวิธีเลยค่ะแถมยังไม่ต้องใช้เงิรเยอะแยะอีกด้วย เพียงแค่ต้องมีการปรับพฤติกรรมที่ไม่ดีเหล่านี้ค่ะ

หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่น

การไม่สวมเสื้อผ้าหรือการเกงที่รัดแน่นตลอดเวลาจะช่วยป้องกันไม่ให้น้องสาวดำได้มากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น การใส่การเกงยีนส์ การสวมชุดชั้นในที่รัดแน่น ล้วนทำให้เกิดการเสียดสีของผิวหนังได้ ดังนั้นถ้าไม่อยากให้น้องสาวดำขึ้น หมอแนะนำให้หาเสื้อผ้าพอดีตัวที่ระบายอากาศได้ง่ายมาใส่แทนค่ะ หรือ จะเลือกใส่เป็นกระโปรงก็ช่วยได้เยอะเลยค่ะ

ลดน้ำหนัก

น้ำหนักตัวที่มากเกินเกณฑ์ สามารถส่งผลให้ต้นขาด้านในใหญ่ขึ้นจนเกิดการเสียดสีที่ขาหนีบและทำให้น้องสาวดำคล้ำขึ้นได้ การลดน้ำหนักตัวให้อยู่ตามเกณฑ์จะช่วยให้ปัญหานี้บรรเทากว่าเดิม ผิวไม่ดำไปกว่าเดิม และช่วยให้คนไข้มีรูปร่างและสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้นได้ด้วยค่ะ ซึ่งการลดน้ำหนักก็มีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การทำ IF  การทำ Water Fasting และ การใช้ปากกาลดน้ำหนัก เป็นต้น

ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีสูง

ไม่ว่าจะเป็น มูสโฟม ครีมกำจัดขน หรือ ครีมเร่งขาวต่าง ๆ ล้วนมีสารเคมีรุนแรง ทำให้ผิวหนังระคายเคือง เกิดอาการแพ้ คัน และกลายเป็นรอยดำได้ ดังนั้นการป้องกันไม่เกิดปัญหาจิมิดำควรหนีให้ห่างครีมที่มีสารเคมีรุนแรง หากต้องการใช้ผลิคภัณฑ์ที่บริเวณจุดซ้อนเร้น ควรรับคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญหรือเภสัชก่อนซื้อทุกครั้ง

สรุป

     หลังจากทราบกันอย่างคร่าว ๆ แล้วว่าหมูกระทะกี่แคล กินได้แค่ไหนต่อวัน หนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่สงสัยว่ากินหมูกระทะยังไงไม่ให้อ้วน ก็ต้องปรับสัดส่วนการกินแบบพอดีพอเหมาะ เพื่อเลี่ยงให้ร่างกายไม่ต้องได้รับไขมันมากเกินไป แต่ทางที่ดีคือไม่ต้องกินบ่อย อย่างน้อยแค่สัปดาห์ละครั้งก็พอค่ะ เพราะนอกจากไขมันและคอเลสเตอรอลที่สูงแล้ว หมูกระทะยังอาจก่อให้เกิดมะเร็งและโรคอื่น ๆ ได้ง่าย และสำหรับใครที่กินบ่อยเกินจนมีไขมันสะสม ติดการกินหมูกระทะไปแล้ว กำลังหาแนวทางลดน้ำหนักหรือสัดส่วน แต่ไม่มีเวลาออกกำลังกายหรือคุมอาหารแล้วไม่สำเร็จ สามารถเข้ามาปรึกษาหมอเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมกับตัวเองได้ตามช่องทางด้านล่างนะคะ

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic

KOL Trainer
แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet

พญ.กรพร สถิตวิทยานันท์ (หมอมะปราง)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


              บทความนี้ จัดทำขึ้นโดย Amara Clinic (เอมาร่า คลินิก) ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ คัดลอก ทำซ้ำ หรือเผยแพร่บทความนี้ในนามอื่น (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, ข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนก็ตาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย