สาว ๆ ทุกคน ใครล่ะอยากจะมีหน้าอกหย่อนคล้อย จริงไหมครับ!? ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย นมคล้อย นมยาน หน้าอกไม่กระชับ ไม่ว่าหน้าอกเล็กหรือหน้าอกใหญ่ก็ สามารถประสบปัญหานี้ได้ทั้งนั้นเลยนะครับ ดังนั้น วันนี้หมอไอซ์ Amara Clinic จะมาให้สาระความรู้เกี่ยวกับสาเหตุของหน้าอกหย่อนคล้อย ไม่กระชับ พร้อมข้อมูล 4 วิธีกู้หน้าอกยานให้กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง ซึ่งเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมมาก ทำแล้วเห็นผลลัพธ์รวดเร็วและเห็นผลชัวร์ ซึ่งแต่ละวิธีจะมีอะไรบ้าง เหมาะกับใคร ทำแล้วดีจริงไหม ทั้งหมดมีอยู่ในบทความวันนี้แล้วครับ ก่อนอื่น เดี๋ยวเราไปดูกันก่อนว่า หน้าอกหย่อนคล้อย เกิดจากอะไร
หน้าอกหย่อนคล้อย เกิดจากอะไร?
ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย จะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาตินะครับ ซึ่งหน้าอกยานนั้น เกิดได้ทั้วจากการยืดตัวของเนื้อบริเวณหน้าอก ทำให้หน้าอกเสียรูปทรง สูญเสียความแน่นกระชับ โดยมีสาเหตุที่เกิดได้จากหลายปัจจัยประกอบรวมกัน แต่ปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยคืออายุ และแรงโน้มถ่วงของโลกครับ (เพราะสาเหตุหลักอีกคือการที่ผิวขาดคอลลาเจนนั่นเอง)
คอลลาเจนส่งผลให้นมยานยังไง?
คอลลาเจน (Collagen) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง สามารถพบได้มากที่สุดในร่างกาย คอลลาเจนจะมีลักษณะเป็นสายเกลียว ร้อยเรียงกันเป็นเส้นใย ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของกรดอะมิโนหลาย ๆ ชนิด ต่อกันเป็นสายยาว (โพรลีนและไกลซีน) ครับ
คอลลาเจนนั้น เปรียบเสมือนกาว เพราะคอลลาเจนคอยทำหน้าที่เชื่อมเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายให้ติดกัน หรือเป็นการยึดเซลล์ผิวหนัง เอ็น ข้อต่อ พังผืด กล้ามเนื้อ รวมถึงผนังหลอดเลือดให้เชื่อมติดกัน เมื่อผิวขาดคอลลาเจน สิ่งที่ตามมาก็คือ ผิวหย่อนคล้อย, ผิวแห้งกร้าน, ผิวไม่กระชับ, ผิวไม่เต่งตึง, มีริ้วรอย ดูแก่กว่าวัย เป็นต้น
ต่อไปหมอจะพาไปดูสาเหตุอื่น ๆ ทั้งที่มาจากการสูญเสียคอลลาเจน และปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้หน้าอกหย่อนคล้อย หน้าอกไม่กระชับ พร้อมคำอธิบายกันที่ด้านล่างนี้เลยครับ
อายุ ทำให้การผลิตคอลลาเจนน้อยลง
“อายุ” เป็นหนึ่งในปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยนะครับ คนเราแก่ขึ้นอยู่ทุกวัน ก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่เมื่อเราอายุมากขึ้น ประสิทธิภาพในการทำงานของร่างกายก็จะค่อย ๆ น้อยลง รวมถึงประสิทธิภาพในการผลิตคอลลาเจนเช่นกัน
เมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนลดลงปีละ 1% ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่ ผิวก็จะยิ่งขาดความชุ่มชื้น ขาดความเต่งตึง เดิมที่หน้าอกเต่งตึง ก็จะกลายเป็นหน้าอกคล้อย หน้าอกยาน ยิ่งเป็นคนที่มีอายุมาก ๆ ปัญหานมยานก็ยิ่งมากขึ้น
แรงโน้มถ่วงของโลก ทำให้อกหย่อนคล้อย
อย่างที่เราทราบกันดีว่าโลกของเรานั้น มีแรงโน้มถ่วงที่จะดึงทุกสิ่งที่ลอยได้ให้ตกลงมาได้ เมื่ออายุมากขึ้น ผิวก็จะสูญเสียคอลลาเจนและความยืดหยุ่นเต่งตึง ทำให้ผิวที่สูญเสียความกระชับตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงโลก และทำให้ผิวของเราค่อย ๆ หย่อนคล้อยมากขึ้นเรื่อย ๆ
ดังนั้น ยิ่งเรามีหน้าอกใหญ่มากเท่าไร หน้าอกก็ของเราก็หย่อนลงมามากขึ้นเท่านั้น เพราะน้ำหนักของหน้าอกที่มาก ทำให้เกิดการห้อยลงไปด้านล่างตลอดเวลา เป็นผลให้หน้าอกหย่อนคล้อย หน้าอกยาน หน้าอกไม่กระชับนั่นเอง
การตั้งครรภ์ และให้นมลูกหลังคลอด
คุณแม่หลังคลอดหลายคนนะครับ ที่เจอกับปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยหลังคลอด หรือนมยานหลังจากให้นมลูกไป ซึ่งช่วงที่ตั้งครรภ์ หน้าอกจะใหญ่ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด บางคนก่อนตั้งครรภ์หน้าอกมีขนาดคัพ A แต่พอตั้งครรภ์หน้าอกก็จะขยายตัวใหญ่ขึ้น เพิ่มขึ้นเป็นคัพ C ดูเต่งตึงสวย ดูแน่นมาก ๆ เลยใช่ไหมครับ
แต่เมื่อเลิกให้นมบุตรแล้ว หรือน้ำนมแห้งแล้ว หน้าอกก็จะเล็กลง เนินหน้าอกและเนื้อหน้าอกก็จะหายไป จึงทำให้หน้าอกที่เคยอวบอึ๋ม มีขนาดใหญ่ หน้าอกเต่งตึง กลายเป็นนิ่มเหลว หน้าอกหย่อนคล้อยลงมา หน้าอกไม่กระชับ ส่งผลให้ใส่เสื้อผ้าไม่สวยงาม ซึ่งปัญหาหน้าอกหลังคลอดนี้ เป็นสิ่งที่คุณแม่หลีกเลี่ยงได้ยากครับ
สำหรับคุณแม่ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกิน และกำลังหาวิธีลดหน้าท้องหลังคลอดอยู่ ลองดูเรื่องการดูดไขมันหลังคลอด หรือดูดไขมันหน้าท้องเพิ่มเติมได้นะครับ ซึ่งคนไข้หมอเยอะมาก ที่เข้ามาดูดไขมันหน้าท้อง พร้อมกับฉีดไขมันหน้าอก เพื่อแก้ปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยและไขมันส่วนเกินไปพร้อม ๆ กันครับ
การลดน้ำหนักแบบผิดวิธี หรือลดอย่างรวดเร็ว
การลดน้ำหนัก หรือการสูญเสียน้ำหนักอย่างรวดเร็ว จะทำให้เนื้อหน้าอกหรือเนินหน้าอกหายไป จึงทำให้หน้าอกหย่อนคล้อยได้ เนื่องจากหน้าอกของเราประกอบไปด้วยไขมัน และโปรตีน เมื่อเราลดน้ำหนักลง ร่างกายจะดึงพลังงานสะสมในร่างกายมาใช้ก่อน
ดังนั้นสิ่งแรกที่จะลดลงคือไขมัน โดยที่เราไม่สามารถเลือกได้ว่าจะให้ร่างกายดึงไขมันจากส่วนไหนมาใช้ ทำให้ไขมันที่อยู่บริเวณเนินอกได้รับผลกระทบ และค่อย ๆ หายไป ทำให้หน้าอกหย่อนคล้อย หรือหน้าอกยานลงมาได้ (อ่านเพิ่มเติม : การลดน้ำหนักแบบนับแคลอรี่)
พฤติกรรม และบุคลิกภาพของแต่ละคน
พฤติกรรมหรือบุคลิกบางอย่างของสาว ๆ อาจส่งผลทำให้กล้ามเนื้อหน้าอกเสื่อมสภาพลงได้นะครับ รวมทั้งอาจส่งผลกับเส้นยึดเต้านมขาดความยืดหยุ่น ทำให้หน้าอกไม่กระชับ เต่งตึงดังเดิม
พฤติกรรมดังกล่าวได้แก่ การนั่งห่อไหล่ และนั่ง ยืน เดินหลังค่อม และรู้หรือไม่ว่า การนอนก็สามารถทำให้หน้าอกเหี่ยวและนมยานได้! การนอนคว่ำ หรือนอนตะแคง เป็นเวลานาน จะทำให้หน้าอกมีแรงกดทับ ทำให้หน้าอกเสียรูปทรง และมีความหย่อนคล้อยมากขึ้นครับ
การสวมบราที่มีขนาดไม่พอดีกับหน้าอก
การเลือกขนาดบราก็สำคัญเช่นกัน หากเลือกบราที่มีขนาดเล็กเกินไป ก็จะทำให้การไหลเวียนโลหิตไม่ดี การเลือกบราที่มีขนาดใหญ่เกินไป ใส่เสื้อในไม่เต็มคัพ ไม่กระชับพอดีกับหน้าอก ใส่แล้วหลวม ทำให้หน้าอกยานลงมาได้ครับ
บราที่ดี ควรเลือกบราที่มีขนาดพอดีกับหน้าอก ช่วยยกกระชับหน้าอกขึ้นเล็กน้อย พร้อมประคับประคองเต้านมไว้ ไม่ให้หน้าอกหย่อนคล้อยลงตามแรงโน้มถ่วงของโลกมากขึ้น
ระดับความหย่อนคล้อยของหน้าอก
หน้าอกหย่อยคล้อยมีอยู่หลายระดับเลยนะครับ ทั้งน้อย มาก ไปจนถึงรุนแรง ซึ่งระดับของหน้าอกหย่อนคล้อยนี่แหละ ที่จะช่วยให้หมอพิจารณาได้ว่าคนไข้ควรแก้หน้าอกหย่อนคล้อย หรือแก้นมยานด้วยวิธีใด รักษาแบบไหนเห็นผลชัด และออกมาสวยงามตรงใจคนไข้มากที่สุด
โดยทั่วไปเต้านมของคนเราจะไม่เลยเส้นบริเวณฐานหน้าอก (เส้นใต้ราวนม) ลงมานะครับ หากเต้านมเริ่มคล้อยลงมาใต้ฐานหน้าอก อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าหน้าอกของคุณกำลังจะหย่อนคล้อยก็เป็นได้ครับ ซึ่งระดับความหย่อนคล้อยของหน้าอก สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ ดังนี้ครับ
ระดับที่ 1 ระดับเริ่มต้น หัวนมหรือปานนม อยู่เสมอกับเส้นใต้ราวนม
ระดับที่ 2 ระดับปานกลาง หัวนมหรือปานนม คล้อยต่ำลงมากว่าเส้นใต้ราวนม 1-3 เซนติเมตร
ระดับที่ 3 ระดับคล้อยมาก หัวนม ปานนม หรือเต้านม คล้อยต่ำลงมาใต้ฐานหน้าอก 3 เซนติเมตรขึ้นไป
4 วิธีแก้หน้าอกหย่อนคล้อย
วิธีแก้ไขหน้าอกคล้อย แก้นมยาน ในปัจจุบันสามารถทำได้หลายวิธีครับ ทั้งการผ่าตัดยกกระชับหน้าอก ทำให้หน้าอกกระชับขึ้นได้ในทันที, การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน, การยกกระชับหน้าอกด้วย J Plasma รวมไปถึงการฉีดไขมันหน้าอก ซึ่งเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน เพราะไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ไม่มีแผลเป็น หน้าอกกระชับ เป็นทรงธรรมชาติได้ด้วยไขมันตัวเอง และที่สำคัญเลยคือ ไม่มีสิ่งแปลกปลอมครับ
แต่ก่อนอื่นเลย ใครที่อยากหน้าอกสวย แต่ยังกล้า ๆ กลัวอยู่ ไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยด้วยวิธีไหนดี เดี๋ยวเรามาดูรายละเอียดของแต่ละเทคนิคยกกระชับหน้าอก แก้ไขปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยกันครับ
1.การผ่าตัดยกกระชับหน้าอก (Breast Lift)
การผ่าตัดยกกระชับหน้าอก (Breast Lift) เหมาะกับคนที่มีความหย่อนคล้อยของหน้าอกในระดับรุนแรง หรือหน้าอกหย่อนคล้อยมาก วิธีนี้มีข้อดีคือสามารถยกกระชับหน้าอกได้ในทันที เห็นผลชัดเจน แต่ข้อเสียคือมีแผลเป็น มีความเสี่ยงจากการดมยาสลบ หากไม่มีวิสัญญีแพทย์คอยดูแล และมีความเจ็บมากกว่าวิธีอื่น ๆ
โดยการผ่าตัดยกกระชับหน้าอกนี้ สามารถผ่าตัดได้ 3 วิธี คือการเปิดแผลผ่าตัดรอบปานนม (Donut), การเปิดแผลรอบปานนม และยาวลงมาเต้านมด้านล่าง (Lolipop) และการเปิดแผลเป็นรูปตัว T (Inverted T) ซึ่งจะมีแผลรอบปานนม กรีดยาวลงมาเป็นเส้นตรง และแผลกรีดยาวที่เส้นขอบเต้านมด้วยครับ
2.การเสริมหน้าอกซิลิโคน
การเสริมหน้าอก สามารถแก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยได้เช่นกัน ซึ่งวิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับเคสที่อยากแก้หน้าอกหย่อนคล้อย ควบคู่กับการเพิ่มขนาดหน้าอกครับ จะเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนเพียงอย่างเดียว หรือจะผ่าตัดยกกระชับด้วยก็ได้ หรืออีกวิธีหนึ่งที่นิยมมาก ๆ ก็คือการเสริมหน้าอกไฮบริด ที่เป็นการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน + ฉีดไขมันหน้าอกครับ
ใครที่สนใจผ่าตัดยกกระชับหน้าอก หรือเสริมหน้าอก เพื่อแก้ปัญหาหน้าอกยาน ทาง Amara Clinic ก็มีคุณหมอวี ที่เป็นศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง (Plastic Surgery) คอยให้คำปรึกษาเรื่องหน้าอกฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ
3.การยกกระชับหน้าอกด้วย J Plasma
J Plasma (เจพลาสมา) เป็นนวัตกรรมในการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ให้เรียบตึง จากสหรัฐอเมริกา โดยใช้พลังงานฮีเลียมพลาสมา ร่วมกับพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ เข้ามาสร้างพลังงานความร้อนสูงถึง 85 องศาเซลเซียส และสามารถส่งพลังงานเข้าไปในบริเวณที่หย่อนคล้อยได้อย่างตรงจุด ทำให้ผิวหนังกระชับหดตัวขึ้นในทันที แต่มีข้อเสียคือราคาที่ค่อนข้างสูงครับ
ทั้งนี้เคสที่อยากจะแก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยด้วยเจพลาสมา หมอแนะนำให้เข้ามาให้แพทย์ประเมินอีกครั้งนึงก่อนนะครับ เพราะการรักษาแต่ละวิธี เพราะกับเคสที่แตกต่างกันออกไปครับ
4.การเติมไขมันหน้าอก (Fat Grafting)
การเติมไขมันหน้าอก หรือการฉีดไขมันหน้าอก (Fat Grafting, Fat Transfer, Fat Filler, Lipofilling) เป็นการนำไขมันของตัวคนไข้เองมาเติมเต็มบริเวณหน้าอก โดยการดูดไขมันลดสัดส่วน และนำไขมันที่ดูดออกมานั้น เติมกลับเข้าไปที่หน้าอกของเราครับ (ย้ายเซลล์ไขมันไปปลูกถ่ายที่หน้าอก) วิธีนี้จะเน้นการเพิ่มเนินหน้าอก ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ หน้าอกมีสัมผัสที่เนียนเด้ง ซึ่งคุณแม่หลังคลอดชอบวิธีนี้มากครับ
สรุป
หมอขอสรุปว่าปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยนั้น มีวิธีแก้ไขหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็จะเหมาะสมกับแต่ละคนไปนะครับ ทั้งความต้องการของคนไข้, ผลลัพธ์ที่ได้, งบประมาณ รวมไปถึงการประเมินของหมอครับ ทาง Amara Clinic มีวิธีแก้หน้าอกหย่อนคล้อยอย่างครบวงจรครับ ลองสอบถามเจ้าหน้าที่เรื่องบริการ โปรโมชั่น หรือราคาได้เลยนะครับ ปรึกษาหมอฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic
ฉีดไขมันหน้าอก แก้หน้าอกหย่อนคล้อย
การฉีดไขมันหน้าอกนั้น นอกจากจะทำให้สัดส่วนจะเล็กลงแล้ว หน้าอกยังมีขนาดใหญ่ขึ้น สวยงามขึ้นอีกด้วย หลังการฉีดไขมันหน้าอก หน้าอกเต่งตึงขึ้นอย่างชัดเจน หน้าอกชิด เป็นทรงสวย และดูเป็นธรรมชาติมาก ซึ่งจะมีแผลบริเวณที่ดูดไขมัน (ขนาดแผลเล็กเพียง 4 มิลลิเมตร) และแผลจุดเล็ก ๆ บริเวณใต้ราวนม (ขนาดเท่าหัวปากกา) ครับ
การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง พูดง่าย ๆ ว่าเป็นการนำไขมันของตัวเราเองมาเติมเต็ม จะไม่มีสิ่งแปลกปลอม จึงมีความปลอดภัยสูง ที่สำคัญคือช่วยให้สัดส่วนบริเวณที่มีไขมันส่วนเกินมากเล็กลงได้ ใครที่สงสัยว่าการฉีดไขมันเสริมอกดีไหม? หมอบอกได้เลยว่าดีนะครับ
ขั้นตอนการเติมไขมันหน้าอก
1. ดูดไขมัน (Liposuction)
เริ่มจากการที่หมอดูดไขมันส่วนเกิน ออกมาจากจุดที่คนไข้กังวลใจ โดยใช้เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet ในการสลายไขมันอย่างอ่อนโยนครับ ซึ่งจะต้องใช้เครื่องนี้เครื่องเดียวเท่านั้นนะครับ การดูดไขมันด้วยเครื่องความร้อนอย่าง Vaser จะเป็นการดูดไขมันทิ้งเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถเอาไขมันไปเติมได้ครับ
การดูดไขมันพลังน้ำ จะใช้พลังน้ำฉีดพ่นเข้าไปที่ชั้นไขมัน เพื่อให้ไขมันที่ติดแน่นกันอยู่ แยกตัวออกจากกันอย่างอ่อนโยน ข้อดีของการสลายไขมันโดยใช้เครื่องดูดไขมันพลังน้ำคือ เซลล์ไขมันที่ได้ไม่ถูกทำลาย เซลล์ไขมันยังมีชีวิตอยู่ มีคุณภาพดี และมีประสิทธิภาพในการนำไขมันไปปลูกถ่ายในบริเวณอื่นต่อ ช่วยให้ไขมันที่เติมเข้าไปติดเร็ว และติดทนนาน
เราสามารถดูดไขมันตรงไหนได้บ้าง?
- ดูดไขมันเหนียง / ดูดไขมันแก้ม
- ดูดไขมันหน้าท้อง / ดูดไขมันนมน้อย
- ดูดไขมันเอวเอส / ดูดไขมันปีกหลัง
- ดูดไขมันต้นแขน / ดูดไขมันแผ่นหลัง
- ดูดไขมันต้นขา / ดูดไขมันสะโพก
- ดูดไขมันน่อง / ดูดไขมันข้อเท้า
ทั้งนี้ แต่ละบุคคลมีปริมาณไขมันในแต่ละบริเวณไม่เหมือนกันนะครับ ก่อนดูดไขมันจะมีการประเมินโดยแพทย์ ว่าในเคสนั้น ๆ ต้องดูดไขมันกี่จุด จึงจะเพียงพอต่อการฉีดไขมันหน้าอก โดยส่วนมากจะดูดไขมันหน้าท้อง และต้นขามาเติมไขมันหน้าอกครับ เพราะเป็นบริเวณที่มีไขมันสะสมอยู่มาก
2. การคัดแยกเซลล์ไขมัน
กระบวนการคัดแยกเซลล์ไขมัน คือการนำเซลล์ไขมันที่ได้จากการดูดไขมันพลังน้ำ มาปั่นคัดแยก เอาน้ำเกลือ, ยาชา, เลือด และเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกไป เพื่อให้ได้เฉพาะเซลล์ไขมันดี และมีประสิทธิภาพสำหรับเอามาฉีดไขมันหน้าอก แก้ปัญหาหน้าอกหย่นคล้อยครับ
3. เติมไขมันหน้าอก
เมื่อปั่นคัดแยกเซลล์ไขมันแล้ว หมอจะฉีดไขมันหน้าอกในชั้นใต้ต่อมน้ำนม (Subglandular) โดยใช้เทคนิคพิเศษจากเกาหลีในการจัดวาง จัดเรียงไขมัน ให้ทำตัวเหมือนเป็น Volume Lift ทำให้หน้าอกกระชับตัวขึ้นมา และหน้าอกเต่งตึงขึ้นทันที
ส่วนใหญ่หมอจะเน้นเติมไขมันหน้าอกในบริเวณเนินอก และบริเวณอกชิด เพื่อเพิ่มให้หน้าอกเต็มคัพมากขึ้น ซึ่งการเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเองนี้ จะทำให้หน้าอกของเราดูเต็มขึ้น ฟูขึ้น เป็นทรงสวยงาม อกแนบชิดติดกัน ผิวสัมผัสบริเวณหน้าอกก็จะเนียน นุ่ม ผิวดูเด็กมากยิ่งขึ้นครับ
ระยะเวลาในการเติมไขมันหน้าอก
ระยะเวลาในการฉีดไขมันหน้าอกจะอยู่ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง (ไม่รวมกับเวลาในการดูดไขมัน และคัดแยกเซลล์ไขมัน โดยระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ดูด และปริมาณไขมันของคนไข้แต่ละคน)
หลังเติมไขมันหน้าอกจะเจ็บไหม?
หลังฉีดไขมันหน้าอก จะไม่เจ็บปวดทรมานแบบการผ่าตัดยกกระชับหน้าอก แต่จะมีอาการเจ็บเล็ก ๆ คล้ายกับอาการคัดเต้านมเวลามีประจำเดือนเท่านั้น เซลล์ไขมันไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมของร่างกาย หากผ่านกระบวนการเก็บไขมัน (ดูดไขมัน) ถูกต้อง ปลอดเชื้อ เก็บไขมันในระบบปิด มีการฆ่าเชื้อที่ดี ก็จะไม่เกิดอันตรายต่อร่างกาย
ฉีดไขมันหน้าอกอยู่ได้นานไหม?
การเติมไขมันหน้าอก คล้ายกับการปลูกถ่ายอวัยวะ แต่เป็นการปลูกถ่ายเซลล์ไขมัน เมื่อไขมันติดแล้ว ก็จะติดเลย กลายเป็นหน้าอกปกติของเรา แต่ความหนาแน่นของมวลไขมันในร่างกาย ไม่ว่าจะบริเวณใดก็ตาม จะแปรเปลี่ยนไปตามอายุ และน้ำหนัก เมื่อน้ำหนักขึ้น (อ้วนขึ้น) ไขมันก็จะใหญ่ขึ้นตามไปด้วย และเมื่อเราอายุมากขึ้นไขมันก็จะค่อย ๆ หายไปตามธรรมชาติ
ทำไมต้องเติมไขมัน ฉีดไขมัน ที่ Amara Clinic
- ศูนย์ดูดไขมัน-เติมไขมันเฉพาะทาง
- แพทย์เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปร่าง
- แพทย์เป็นอาจารย์สอนดูดไขมัน-เติมไขมัน
- มีศัลยแพทย์สำหรับเคสศัลยกรรมหน้าอก
- ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ มาตรฐานสากล
- วางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์วิชาชีพ
- มีทีมพยาบาลวิชาชีพ คอยดูแลเคส
- เครื่องมือทันสมัย ได้มาตรฐาน
- เน้นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และปลอดภัยสูงที่สุด
- มี After Care ดูแลหลังผ่าตัดครบครัน
ทีมแพทย์มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์สูง
ทีมแพทย์ของเอมาร่าคลินิก เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการดูดไขมัน และการเติมไขมัน โดนเฉพาะ จบหลักสูตรการดูดไขมันและเติมไขมันระดับพื้นฐาน (Basic Liposuction) และการดูดไขมันระดับสูง (Advance Liposuction) จากประเทศเกาหลีใต้ อีกทั้งทีมแพทย์ยังเข้าร่วมการประชุม เกี่ยวกับการดูดไขมันระดับนานาชาติ (FATS: Forum of Adipose Tissue and Stem Ce||) เพื่ออัพเดทความรู้ และเทคนิคใหม่ ๆ อยู่เสมอ
นอกจากนี้ยังเป็นอาจารย์แพทย์สอนเรื่อง การดูดไขมันและเติมไขมันของ body-jet ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก Technical biomed (ผู้ผลิตเครื่องดูดไขมัน จากประเทศเยอรมัน) และยังมีประสบการณ์หลายพันเคส การันตีด้วยรางวัล The Most Body-jet User คลินิกที่มีเคสดูดไขมันพลังน้ำเยอะที่สุดในประเทศไทย
เซลล์ไขมันที่นำมาเติม เป็นเซลล์ไขมันที่มีคุณภาพสูง
เอมาร่าคลินิก เลือกใช้เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ หรือ body-jet ในการทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวออกจากกันอย่างอ่อนโยนด้วยพลังน้ำ และนำเซลล์ไขมันออกมาในสภาพดี มีชีวิตอยู่ สามารถนำไปเติมเต็มได้ เซลล์ไขมันที่นำไปเติมเต็ม จะติดไว ติดทน สลายตัวช้า อีกทั้งในระหว่างที่ดูดไขมันคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ มีอาการบวมช้ำหลังดูดไขมันน้อย และใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นไม่นาน
เทคนิคการซ่อนแผล จากประเทศเกาหลี
ทีมแพทย์เอมาร่าคลินิก ใช้เทคนิคการซ่อนแผล และเทคนิคการเปิดแผลขนาดเล็ก หลังการดูดไขมัน หรือฉีดไขมัน เติมไขมัน จากประเทศเกาหลีใต้ ทำให้หลังการรักษาแทบมองไม่เห็นแผล คนไข้สามารถสวมเสื้อผ้า โชว์สัดส่วนได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ยังมีความละเอียด และปราณีตสูงอีกด้วย
เทคนิคการเติมไขมันหน้าอกเฉพาะตัว
ทีมแพทย์เอมาร่าคลินิก มีเทคนิคในการฉีดไขมันหน้าอกเฉพาะตัว โดยการค่อย ๆ วางไขมันเป็นเส้นและเรียงจุดเล็ก ๆ เพื่อความสวยงาม และเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มอัตราการติดของไขมัน ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษ เฉพาะที่ Amara Clinic เท่านั้น
ดูแลอย่างใกล้ชิด เสมือนคนในครอบครัว
เจ้าหน้าที่ และทีมพยาบาล พร้อมให้คำแนะนำในการดูดไขมัน-เติมไขมันอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นก่อนดูดไขมัน การดูแลระหว่างดูดไขมัน และการติดตามอาการหลังดูดไขมันอย่างใกล้ชิด เราดูแลและใส่ใจ เสมือนเพื่อนสนิท และคนในครอบครัว