นอนกรนจนคนข้าง ๆ ทัก!! รู้ไหมครับว่าเวลาที่น้ำหนักของเราขึ้นจนฉุดไม่อยู่ ล้วนส่งผลให้อาการนอนกรนของเรารุนแรงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่หลายคนยังคงเลือกที่จะแก้ปัญหานี้กันที่ปลายเหตุ อย่างเช่นการใช้อุปกรณ์สำหรับลดการนอนกรนต่าง ๆ แม้ว่าจะช่วยบรรเทาปัญหาไปได้บ้าง แต่ปัญหาภายในร่างกายของเราที่ก่อให้เกิดปัญหานี้อย่างเช่น “ไขมัน” ก็ยังคงอยู่เช่นเดิม ซึ่งเจ้าไขมันอีกต้นเหตุที่ทำให้อาการนอนกรนรุนแรงขึ้นอย่างมากครับ แต่ก็คงมีหลายคนที่สงสัยว่า แท้จริงแล้วแค่การลดไขมันช่วยแก้นอนกรนได้เลยหรอ? วันนี้หมอไอซ์จึงพร้อมมาไข้ข้อสงสัยในจุดนี้ให้กับทุกคนแล้วครับ – หมอไอซ์ Amara Clinic
เช็กด่วน! คุณกำลังมีปัญหานอนกรนหรือไม่
ใครที่นอนคนเดียวอาจจะไม่แน่ใจว่าเรามีปัญหานอนกรนหรือไม่ ซึ่งจริง ๆ เราสามารถสังเกตอาการที่เกิดจากการนอนกรนได้ด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องรอคนข้าง ๆ ทักได้ครับ หากทุกคนเช็กจากอาการด้านล่างแล้วมีมากกว่า 3 ข้อขึ้นไป ก็สามารถตีความได้ว่าเมื่อคืนนี้เรามีอาการกรนครับ
- สะดุ้งตื่นกลางดึกเป็นประจำ
- รู้สึกปวดศรีษะเมื่อตื่นนอน
- อ่อนเพลียง่ายขึ้น
- ง่วงนอนในช่วงกลางวันมากกว่าปกติ
- คลื่นไส้หรืออาเจียน
- ความจำแย่ลง หรือ มีอาการหลงลืมบ่อย
ปัญหานอนกรนถือเป็นเรื่องที่ไม่ว่าจะเพศไหนหรือวัยใดก็เป็นกันได้ แต่โดยเฉพาะในกลุ่มของคนที่มีค่า BMI สูงเกินมาตรฐาน หรือ กลุ่มคนพลัสไซซ์ จะเป็นผู้ที่มีปัญหานี้ที่มีความรุนแรงกว่าคนที่ค่า BMI ไม่เยอะ หากสงสัยว่าทำไมคนพลัสไซซ์ถึงมีปัญหานอนกรน? แล้วไขมันมีผลต่อการนอนของเราอย่างไร? เราไปอ่านกันต่อที่หัวข้อถัดไปเลยครับ (เช็กค่า BMI)
นอนกรน..เกิดจากความอ้วน จริงไหม
ความอ้วนกับการนอนกรนถือเป็นสิ่งคู่กันที่เราได้ยินอยู่เป็นเรื่องทั่วไป แต่ก็ไม่แปลกเลยครับที่จะมีคนที่สงสัยว่า “ความอ้วนทำให้นอนกรนได้อย่างไร?” หมอขออธิบายให้ทุกคนเข้าใจง่ายขึ้นและเห็นภาพยิ่งขึ้นนะครับ
เปรียบเทียบทางเดินหายใจของคนทั่วไป VS คนนอนกรน
เมื่อร่างกายของเราเข้าสู่ภาวะความอ้วน ทำให้ลักษณะของใบหน้ามีลักษณะที่สั้นและขยายใหญ่ขึ้น ส่งผลให้ทางเดินหายใจแคบลง ทางเดินหายใจส่วนต้นบริเวณโคนลิ้น และแพดานปากหย่อนลง ทำให้ทางเดินหายใจถูกปิดกั้นมากขึ้น
เมื่อเรานอนหงายร่างกายจะพยายามดันอากาศออกมามากขึ้นผ่านช่องทางเดินหายใจที่แคบลง จนเกินเป็นเสียงกรนดังขึ้นมาทั้งแบบเป็นระยะและดังตลอดคืน ในคนที่อ้วนขึ้นมาก ๆ จะยิ่งมีความเสี่ยงต่อการหยุดหายใจขณะหลับได้ หรือ ภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่สรุปได้ว่า
การนอนกรนเกิดจากความอ้วนได้จริง ดังนั้นการลดไขมันภายในร่างกายเพื่อแก้นอนกรน นอนหลับไม่เต็มอิ่ม
จึงถือเป็นอีกส่วนที่ช่วยให้อาการของปัญหานี้ลดน้อยลงหรือหายได้อย่างถาวร
อาการนอนกรน ส่งผลเสียอะไรบ้าง? แก้อาการนอนกรนยังไงดี
ปัญหาการนอนกรนแน่นอนว่าส่งผลในเรื่องของเสียงรบกวน แต่ว่ายังมีปัญหาอีกหลากหลายด้านที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพเลยครับ ปัญหานี้จึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญและไม่ควรปล่อยผ่านไปอย่างยิ่งครับ เราไปดูกันดีกว่าครับว่าอาการนอนกรนส่งผลเสียด้านใดได้บ้าง
-
ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ
อาการนอนกรนส่งผลต่อคุณภาพของการนอนโดยตรงเลยครับ เนื่องจากร่างกายของเราจะได้ไม่รับออกซิเจนที่เพียงพอ บวกกับคนที่นอนกรนมักมีอาการสะดุ้งตื่นอยู่หลายรอบในทุก ๆ คืน จึงทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เมื่อตื่นขึ้นมาจะมีความเพลียและเหนื่อยง่ายขึ้น รวมทั้งยังส่งผลให้ง่วงในช่วงกลางวันมากขึ้น นาฬิกาชีวิตในโหมดการนอนจะมีความบกพร่องชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ
-
สมองทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
สืบเนื่องจากการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอจากการนอนกรน ส่งผลให้สมองไม่ได้รับการพักผ่อนและฟื้นฟูไปด้วย การทำงานและความจำต่าง ๆ ของสมองก็จะยิ่งทำงานได้แย่ลง หลายคนที่นอนกรนมาหลายปีจะสังเกตตัวเองได้ว่า มีปัญหาลืมเรื่องง่าย ๆ บ่อยขึ้นและจดจำสิ่งใหม่ ๆ ได้ไม่ดีเท่ากับเมื่อก่อน
-
น้ำหนักตัวเพิ่มง่าย
เคยไหมครับที่อยู่ ๆ เราก็อ้วนขึ้นโดยที่ไม่ได้กินอะไรเข้าไปเยอะเลย นั่นเป็นเพราะว่าโดยธรรมชาติร่างกายของเราจะมีการเผาผลาญไขมันในช่วงที่ร่างกายเราหลับ อย่างน้อย 42-95 แคลอรี่ต่อชั่วโมง ดังนั้นการที่เรานอนกรนมาก ๆ จนไปรบกวนการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย จึงทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นง่ายและมีส่วนเกินเยอะขึ้น
-
หัวใจทำงานผิดปกติ
อาการนอนกรนถือเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้หัวใจของเราทำงานผิดปกติและอ่อนแอมากขึ้น เพราะการที่ร่างกายไม่สามารถหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปได้มากพอในช่วงกลางคืน และมีอาการหายใจผิดจังหวะอยู่บ่อย ๆ ยิ่งทำให้ความดันโลหิตสูง ส่งผลต่อการสูบฉีดของเลือดและการทำงานของหัวใจ คนไข้จึงมีความรู้สึกแน่นหน้าอกบ่อย ๆ เหนื่อยง่าย และหายใจไม่ทันเมื่อเจออากาศร้อนหรือเวลาที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายเยอะ ๆ ในระยะยาวอาจส่งผลให้เกิดเป็นโรคหัวใจได้ นี้จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ควรแก้นอนกรนอย่างจริงจัง
-
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea)
สำหรับผลเสียในด้านนี้ถือเป็นความอันตรายที่ร้ายแรงของการนอนกรนอย่างมากครับ ในผู้ป่วยโรคอ้วนที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานและนอนกรนมาหลายปี บวกกับยังมีการใช้ชีวิตที่ทานอาหารไขมันสูงเป็นประจำ จะยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้ง่ายขึ้น บางคนอาจมีการหยุดหายใจไม่กี่วิในแต่ละคืน แต่หากยังไม่ได้รับการแก้นอนกรนในอนาคต อาจมีการหยุดหายใจขณะหลับจนถึงชีวิตได้เช่นกันครับ ดังนั้นปัญหานี้จึงควรให้ความสำคัญและแก้นอนกรนอย่างจริงจังครับ
นอนหลับไม่อิ่ม ส่งผลเสียต่อร่างกายกว่าที่คิด!
การนอนคือเรื่องใหญ่!! อันนี้เป็นเรื่องจริงมาก ๆ ครับ ดังนั้นใครที่มีปัญหาการนอนไม่อิ่ม จะยิ่งมีปัญหาในเรื่องของความสวยงามและสุขภาพอย่างมากครับ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาผิวโทรมและริ้วรอยที่เพิ่มมากขึ้น รูปร่างที่มีส่วนเกินเยอะขึ้น และระบบภายในทำงานได้แย่ลง อาจฟังดูเกินจริงแต่การนอนไม่อิ่ม ไม่พอ สามารถทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ได้จริง ๆ ครับ ดังนั้นใครที่มีพฤติกรรมการนอนที่ไม่เหมาะสมจึงควรปรับด่วน ๆ เลยครับ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหานอนกรน นอนน้อย หรือนอนหลับไม่สนิท หมอรับรองได้เลยว่าแค่เรานอนได้ดีขึ้นสุขภาพและความงามก็จะดีตามไปด้วยครับ
แก้นอนกรนด้วย “การดูดไขมัน” มากกว่าหุ่นสวยคือใช้ชีวิตง่ายขึ้น!
สำหรับหนุ่มสาวพลัสไซซ์ที่มีปัญหานอนกรนจากภาวะความอ้วน แล้วต้องการลดไขมันและแก้นอนกรน บางทีการคุมอาหารและออกกำลังกายอาจไม่ได้เหมาะกับคนทุกคน ดังนั้น “การดูดไขมัน” จึงเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการลดปัญหานี้อย่างเร่งด่วน เพราะการดูดไขมันไม่เพียงแค่ช่วยให้คนไข้มีหุ่นที่สวยได้สัดส่วนมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้คนไข้สามารถใช้ชีวิตในด้านอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้นอีกด้วยครับ
Amara Clinic เราเป็นศูนย์ดูดไขมัน-เติมไขมัน ที่ได้รับรางวัลรับรองคุณภาพและมาตรฐานจากสถาบันมีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งคุณหมอที่ดำเนินการดูดไขมันยังเป็น KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมันพลังน้ำ Water-jet
ดังนั้นทั้งในเรื่องความปลอดภัยและผลลัพธ์หลังทำจึงมีความสวยงามและเกิดผลข้างเคียงน้อย และที่สำคัญคือเรามีเครื่องดูดไขมันและอุปกรณ์ทางการแพทย์หลายแบบ จึงทำให้แพทย์สามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหาได้เหมาะกับคนทุกไซซ์
เทคนิคดูดไขมันพลัสไซซ์ Amara Clinic
สำหรับหนุ่มสาวพลัสไซซ์ถือเป็นเคสที่ต้องใช้ความชำนาญของแพทย์และประสบการณ์ที่สูง เพราะว่าหากแพทย์ทำการดูดไขมันออกได้ไม่เหมาะสม จะทำให้ไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงหรือถ้าดูดออกมามากเกินไปก็จะทำให้ผิวย้วยได้ครับ ที่ Amara Clinic เราจึงมีการประเมินสัดส่วนและไขมันของคนไข้อย่างละเอียดแบบ Case by case
และเรายังมีเครื่องดูดไขมัน Vaser Smooth 2.2 ที่มีพลังงานสูงดูดไขมันได้เยอะเหมาะสำหรับคนตัวใหญ่ที่ต้องการดูดทิ้งเท่านั้น หรือ เครื่องดูดไขมัน body-jet สำหรับเคสที่ต้องการดูดออกแล้วนำไปเติมไขมันหน้าเด็ก เติมหน้าอก หรือเติมก้นเด้งต่อได้อีกด้วยครับ
นอกจากนี้ที่ Amara Clinic เราใส่ใจต่อการดูแลคนไข้หลังทำอย่างมาก ทางคลินิกจึงมีการนำเครื่องยกกระชับผิว J Plasma และ เครื่องกู้ผิวยับ Morpheus8 เข้ามาเพื่อให้คนไข้พลัสไซซ์มีผิวที่เรียบตึง หมดกังวลเรื่องผิวย้วยหลังดูดไขมันไปเลยครับ พร้อมบริการ After Care ดูแลคนไข้ครอบคลุมในทุกปัญหาผิวมากถึง 30 รายการ ดังนั้นปัญหาผิวเป็นก้อนแข็งไต ผิวเป็นคลื่น และปัญหาผิวย้วยต่าง ๆ จึงเกิดได้ยากและน้อยมากครับ
ข้อดีหลังดูดไขมันที่หลายคนไม่รู้
ลดปัญหาไขมันสะสมใต้ชั้นผิวหนัง
การดูดไขมันเป็นวิธีที่ช่วยลดไขมันใต้ชั้นผิวหนังได้โดยตรงเลยครับ เพราะเวลาที่แพทย์ทำการดูดไขมัน ไขมันส่วนเกินที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังจะถูกดูดออกมาโดยเครื่องดูดไขมัน ทำให้ปัญหาไขมันส่วนนี้หายไปในทันทีหลังทำโดยไม่ต้องอดอาหารหรือออกกำลังกายเลยครับ แต่ทั้งนี้ไขมันในช่องท้องที่อยู่ลึกลงไปจากชั้นกล้ามเนื้อจะยังคงอยู่ ไขมันส่วนนี้แพทย์จะไม่สามารถดูดออกมาได้ แต่คนไข้จะต้องคุมอาหารและออกกำลังกายเพิ่มครับ ถึงจะทำให้ไขมันที่อยู่ในช่องท้องลดน้อยลงครับ(ไขมันในช่องท้องไม่สามารถจับได้ด้วยมือแต่จะมองเห็นเป็นลักษณะพุงที่ป่องออกมา)
เคลื่อนไหวง่ายขึ้น นอนหลับดียิ่งขึ้น
หลังดูดไขมันไปประมาณ 1 เดือน คนไข้ที่เป็นเคสพลัสไซซ์มักบอกกับหมอเสมอว่า หลังดูดไปใช้ชีวิตง่ายขึ้นเพราะเคลื่อนไหวตัวได้อย่างสะดวกคล่องตัว และสามารถนอนหลับได้ดียิ่งขึ้นนอนกรนน้อยลง บางเคสที่มีการไปออกกำลังกายเพิ่มยิ่งช่วยแก้นอนกรนได้จนแทบไม่มีปัญหานี้เลยครับ นี้จึงเป็นอีกข้อดีหลังดูดไขมันที่หลายคนอาจจะไม่ได้คาดถึง แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในทุกเคสเลยครับ
รูปร่างสวยได้สัดส่วน
แน่นอนว่าการดูดไขมันคือการลดไซซ์เพื่อความสวยงาม และสร้างสัดส่วนที่น่าประทับใจมีความเว้าโค้งยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะมีขนาดของสัดส่วนเท่าไหร่ก็สามารถเปลี่ยนได้ในทันทีหลังทำ ซึ่งนี้ถือเป็นข้อดีของการดูดไขมันอย่างหนึ่งที่ทำให้คนไข้หลายท่านตัดสินใจเลือกมาดูดไขมัน
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
การดูดไขมันเป็นทางเลือกอย่างหนึ่งที่ช่วยแก้นอนกรนได้ในส่วนหนึ่ง แต่ทั้งนี้คนไข้ยังคงต้องปรับพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตในด้านอื่น ๆ ด้วยนะครับ ถึงจะช่วยให้การแก้นอนกรนมีประสิทธิภาพและเห็นผลยิ่งขึ้น หากท่านใดที่กำลังคิดว่าการดูดไขมันเป็นทางเลือกที่เหมาะกับตัวเอง สามารถนัดคิวเข้ามาพูดคุยและปรึกษากับหมอที่ Amara Clinic ได้เลยครับ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูดไขมันสามารถสอบถามได้ที่ LINE : @amaraclinic
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic