ประโยชน์ของน้ำมันปลา ตัวช่วยบำรุงสุขภาพที่ทุกคนต้องรู้

fish-oil-benefits-health-cover

น้ำมันปลา ถือเป็นหนึ่งในอาหารเสริมยอดนิยมที่หลายคนเลือกทานเพื่อบำรุงสุขภาพ เนื่องจากมีประโยชน์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมอง ลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ และช่วยลดอาการอักเสบต่าง ๆ การทาน น้ำมันปลา อย่างเหมาะสมสามารถช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ 

แต่คำถามสำคัญคือ น้ำมันปลากินตอนไหน ถึงจะได้ประโยชน์สูงสุด? ปริมาณน้ำมันปลาที่ควรทานอยู่ที่เท่าไหร่และ น้ำมันปลาช่วยอะไร ต่อสุขภาพบ้าง? บทความนี้หมอจะพาทุกคนไปรู้จักกับคุณประโยชน์ของน้ำมันปลาและการทานอย่างถูกวิธีเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นกันครับ

ประโยชน์ของน้ำมันปลา ตัวช่วยบำรุงสุขภาพที่ทุกคนต้องรู้

น้ำมันปลาคืออะไร

น้ำมันปลา คือ น้ำมันที่สกัดจากเนื้อของปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และปลาแมคเคอเรล โดยน้ำมันเหล่านี้มีส่วนประกอบสำคัญ คือ กรดไขมันโอเมก้า-3 (Omega-3) ซึ่งแบ่งออกเป็น EPA และ DHA ที่เป็นตัวสำคัญในการบำรุงสุขภาพ โดยเฉพาะการช่วยลดไขมันเลว และไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ

 องค์ประกอบสำคัญของน้ำมันปลา

  • EPA (Eicosapentaenoic Acid) : กรดไขมันโอเมก้า-3 ที่มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและภาวะหลอดเลือด
  • DHA (Docosahexaenoic Acid) : มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาการของสมองและสายตา โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุ

แหล่งที่มาของน้ำมันปลา

น้ำมันปลามาจากปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และปลาแมคเคอเรล ซึ่งมีความเข้มข้นของกรดไขมันโอเมก้า-3 สูง การทานปลาทะเลเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพได้ดี หรือหากไม่สามารถทานปลาได้มากพอ การเลือกทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีน้ำมันปลาก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งครับ

 ประโยชน์ของน้ำมันปลาต่อสุขภาพ

ประโยชน์ของน้ำมันปลาต่อสุขภาพ

น้ำมันปลามีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า มาดูกันครับว่าน้ำมันปลาช่วยอะไรบ้าง

1. บำรุงสมองและระบบประสาท

น้ำมันปลาช่วยในการพัฒนาสมองและระบบประสาท โดยเฉพาะในเด็กที่ยังอยู่ในระยะการเจริญเติบโต ช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคจิตเภทและโรคอัลไซเมอร์ในผู้ใหญ่

2. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

หนึ่งในประโยชน์หลักของน้ำมันปลา คือการช่วยลดไขมัน ลดระดับ LDL หรือ ไขมันเลว และช่วยปรับสมดุลของระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะหลอดเลือดตีบ

3. ช่วยลดอาการอักเสบ

น้ำมันปลามีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการปวดข้อและโรคข้อเสื่อม ลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่มีปัญหาข้อเข่าและโรคข้ออักเสบ

4. บำรุงสายตา

กรดโอเมก้า-3 ในน้ำมันปลาช่วยอะไรบ้าง คำตอบคือ ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของสายตาและลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อม การบริโภคน้ำมันปลาอย่างเพียงพอจะช่วยรักษาสุขภาพสายตาให้คมชัดและลดความเสี่ยงของการสูญเสียการมองเห็นในวัยสูงอายุได้

5. ส่งเสริมสุขภาพผิวและเส้นผม

กรดไขมันโอเมก้า-3 ในน้ำมันปลาช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ลดการสูญเสียความชุ่มชื้น และช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งมีสุขภาพดี นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง ลดปัญหาผมร่วงได้อีกด้วย

ปริมาณน้ำมันปลาที่ควรทาน

ปริมาณน้ำมันปลาที่ควรทาน

การบริโภคน้ำมันปลาควรเป็นไปตามปริมาณที่แนะนำครับ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดและหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง คำแนะนำทั่วไปคือการบริโภคประมาณ 250-500 มิลลิกรัมของ EPA และ DHA ต่อวัน ซึ่งสามารถได้จากการรับประทานปลาทะเล 2-3 มื้อต่อสัปดาห์ สำหรับผู้ใหญ่ และสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเฉพาะควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคครับ

แล้วน้ำมันปลากินตอนไหนดีที่สุด? คำตอบคือ ควรรับประทานพร้อมอาหารมื้อ เพื่อเพิ่มการดูดซึมและลดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น คลื่นไส้ หรือกลิ่นคาวปลา

ข้อควรระวังในการบริโภคน้ำมันปลา

แม้ว่าน้ำมันปลาจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังสำหรับบางกลุ่มคน เช่น 

  • ผู้ที่แพ้อาหารทะเลควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
  • ผู้ที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือดควรระมัดระวัง เนื่องจากน้ำมันปลาอาจเพิ่มฤทธิ์ของยา

การบริโภคเกินขนาดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น เลือดออกง่าย ความดันโลหิตสูง หรือปัญหาการย่อย นอกจากนี้ ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังใช้ยาบางชนิดควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภค

สรุปบทความ


น้ำมันปลา เป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่มีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ น้ำมันปลาช่วยอะไรไม่ว่าจะเป็นการบำรุงสมอง ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ต้านการอักเสบ อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อกำหนดปริมาณที่เหมาะสม เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการใส่ใจดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี

แต่ถ้าใครที่ต้องการการกำจัดไขมันแบบทางลัด การดูดไขมันถือว่าตอบโจทย์อย่างมากครับ เหมาะกับผู้ที่ออกกำลังกายและคุมอาหารแล้วสัดส่วนไม่ลด (หรือที่เรียกว่าภาวะไขมันดื้อ : Stubborn Fat) รวมทั้งผู้ที่มีส่วนเกินเฉพาะจุด มีปัญหารูปร่างไม่สมส่วน 

สำหรับใครที่มีไขมันสะสมเยอะ แนะนำให้ใช้ ปากกาลดน้ำหนัก AMARA Pen ก่อน เป็นนวัตกรรมควบคุมน้ำหนักโดยใช้ หลักการของ GLP-1 Analogue ซึ่งเลียนแบบการทำงานของฮอร์โมน GLP-1 ในร่างกาย ช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วและนานขึ้น ลดความอยากอาหาร และควบคุมการรับประทานอาหารได้ดีขึ้น ช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารในคราวเดียว ที่สำคัญยังมีความปลอดภัย  ได้รับการรับรองจาก FDA ด้วย แต่จะต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น

ส่วนใครที่สนใจวิธีลดไขมันทั้งตัว หรือ เทคโนโลยีสร้างกล้ามเนื้อพร้อมเบิร์นไขมัน TESLA Former สามารถเข้ามาพูดคุยกับหมอได้ที่ AMARA ทั้ง 2 สาขา (รัชโยธินและราชพฤกษ์) หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่

สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB

ติดต่อเบอร์โทร : 

062-789-1999

⇒ สาขา รัชโยธิน กด 1
⇒ สาขา ราชพฤกษ์ กด 2

นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)

KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!