Lipocube คือเทคโนโลยีที่ใช้ในการสกัดและเตรียมไขมันเพื่อนำไปฉีดเสริมในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า หน้าอก หรือก้น โดยกระบวนการนี้จะช่วยให้ได้เซลล์ไขมันที่มีคุณภาพ สมบูรณ์ และอัตราการอยู่รอดหลังฉีดสูงขึ้น! ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน หลายคนอาจจะมีความสงสัยว่าค่าใช้จ่ายของ LipoCube ราคาอยู่ที่เท่าไหร่ เพราะมักมีคำพูดว่า LipoCube นั้นแพงมาก! บทความนี้จะพาทุกคนไปเจาะลึกทุกแง่มุมเกี่ยวกับราคาของ Lipocube เริ่มต้นเท่าไหร่? แพงเกินไปจริงไหม? คุ้มค่าหรือไม่? ไปดูพร้อม ๆ กันเลย!
Lipocube เติมตำแหน่งไหนได้บ้าง?
LipoCube สามารถใช้เติมไขมันในตำแหน่งต่าง ๆ ของร่างกายได้หลากหลาย ทั้งเพื่อบำรุงผิวให้สุขภาพดี ไปจนถึงการปรับสัดส่วนร่างกายให้ตรงกับความต้องการมากยิ่งขึ้น ซึ่งตำแหน่งที่นิยมเติมไขมันด้วย Lipocube ได้แก่
- ใบหน้า เช่น ร่องแก้ม หน้าผาก ใต้ตา หรือขมับ ช่วยเสริม ปรับสัดส่วน และเติมเต็มใบหน้าให้มีความอิ่มเอิบและสมส่วนมากยิ่งขึ้น
- หน้าอก เพิ่มขนาดหน้าอกให้ดูสมบูรณ์ มีทรวดทรงมากยิ่งขึ้น และสามารถเติมร่วมกับการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน เพื่อกลบไม่ให้ขอบซิลิโคนเห็นชัด ทำให้ได้หน้าอกที่เนียนสมจริงมากยิ่งขึ้น
- ก้น ปรับรูปทรงก้นให้ได้สัดส่วน หรือแก้ไขปัญหาสะโพกบุ๋ม สะโพกไม่เต็ม
- มือ โดยเฉพาะบริเวณหลังมือ เพื่อให้ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น หรือร่องรอยแผลเป็นจากผ่าตัดที่ไม่สม่ำเสมอ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาของการเติมไขมัน LipoCube
ค่าใช้จ่ายในการเติมไขมันแบบใช้ LipoCube นั้น ราคารวมไม่ได้มีมาตรฐานตายตัว ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรักษาและสถานพยาบาลที่ให้บริการ โดยปัจจัยหลัก ๆ ที่ส่งผลต่อราคา ยกตัวอย่างเช่น
1. เงื่อนไขเฉพาะสถานพยาบาลแต่ละแห่ง
สถานพยาบาลแต่ละแห่งไม่ว่าจะเป็นคลินิกหรือโรงพยาบาลย่อมมีราคาค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างปัจจัยเช่น ความน่าเชื่อถือของสถานพยาบาลนั้น ๆ หากมีชื่อเสียงและได้รับการรับรองจากองค์กรที่เป็นทางการ มักมีราคาสูงกว่ามาก เพราะมีมาตรฐานการบริการและความปลอดภัยที่สูง
นอกจากนี้ สถานพยาบาลที่ใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ทันสมัย มีคุณภาพสูงก็อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วย รวมไปถึงทำเลที่ตั้งของสถานพยาบาลก็อาจมีผลต่อราคา เช่น คลินิกในพื้นที่ใจกลางเมืองหรือแหล่งธุรกิจมักมีราคาสูงกว่าคลินิกในพื้นที่ห่างไกล เป็นต้น
2. ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์
แพทย์ที่มีประสบการณ์มาก เคยดูดไขมัน-เติมไขมันมาหลากหลายเคส และมีความชำนาญเฉพาะทางมักมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า เนื่องจากทักษะและเทคนิคการฉีดไขมันของแพทย์เหล่านี้จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ทั้งความชำนาญและประสบการณ์ดังกล่าวยังสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนได้อีกด้วย ดังนั้น ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจึงมักสัมพันธ์กับคุณภาพและความปลอดภัยของการรักษานั่นเอง
3. คุณภาพและตำแหน่งที่จะฉีดไขมัน
ตำแหน่งที่เราเลือกจะฉีดไขมันนั้นส่งผลให้ราคาแตกต่างกันอย่างชัดเจน เนื่องจากแต่ละตำแหน่งมีความซับซ้อนและความยากง่ายในการฉีดต่างกัน หรือหากต้องการเติมหลายตำแหน่งย่อมมีราคาสูงขึ้นตามลำดับ ยกตัวอย่างเช่น การฉีดไขมันที่ใบหน้าต้องใช้ความละเอียดและความแม่นยำสูงจึงอาจมีค่าบริการสูง เป็นต้น (ส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขด้านราคาที่สถานพยาบาลแต่ละแห่งกำหนด)
นอกจากนี้ คุณภาพของไขมันก็มีผลต่อราคาเช่นกัน การสกัดและเตรียมไขมันด้วย Lipocube ราคามักจะสูงเพราะ LipoCube เป็นอุปกรณ์แบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง หากต้องการเติมไขมันคุณภาพสูงก็ต้องอาศัยการคัดกรองจาก LipoCube เพื่อรักษาระดับของผลลัพธ์ที่ได้ด้วย
4. รูปแบบของอุปกรณ์ที่ใช้เติมไขมัน LipoCube
การเติมไขมันที่สกัดจาก LipoCube นั้นมีด้วยกันทั้งหมด 2 อุปกรณ์คือ LipoCube Nano (กล่องสีขาว) และ LipoCube SVF (กล่องสีดำ) ซึ่งมีผลต่อราคาอย่างมากเช่นกัน โดย LipoCube Nano จะเป็นกล่องแบบมาตรฐานซึ่งมีราคาต่ำกว่าเพราะเป็นกล่องสำหรับตัดเซลล์ไขมันให้มีขนาดตามต้องการเท่านั้น ในขณะที่ Lipocube SVF นอกจากจะตัดเซลล์ไขมันแล้วยังช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ต้นกำเนิดหรือ SVF จะมีราคาที่สูงกว่ามาก ซึ่งก็แลกมาด้วยผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น เพราะได้เซลล์ไขมันที่มีคุณภาพสูงและมีโอกาสรอดชีวิตหลังเติมกลับเข้าไปในร่างกายมากขึ้น
นอกจากนี้ กระบวนการอื่น ๆ ในระหว่างเติมไขมัน โดยเฉพาะขั้นตอนการดูไขมันก็มีอุปกรณ์อื่น ๆ ที่หลากหลายด้วยเช่นกัน ซึ่งรูปแบบและคุณภาพของอุปกรณ์เหล่านี้ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ของเราออกมาตรงความต้องการ ยกตัวอย่างเช่น การใช้เครื่องดูดไขมันที่ไม่ก่อให้เกิดความร้อนเพื่อให้อัตราการอยู่รอดของเซลล์ไขมันมีมากขึ้นและมีคุณภาพมากพอสำหรับการนำไปคัดกรองด้วย LipoCube เป็นต้น
5. การดูแลหลังการรักษา
บางคลินิกอาจรวมค่าใช้จ่ายในการดูแลหลังการรักษาไว้ในราคารวมของการเติมไขมัน LipoCube เช่น การนัดตรวจติดตามผลหลังการรักษา หรือการให้คำแนะนำและการดูแลเพิ่มเติม เช่น ชุดกระชับหลังดูดไขมัน ยาทานหรือยาทาหลังเติมไขมัน หรือจะเป็นบริการเสริมสำหรับดูแลหลังทำโดยเฉพาะที่ต้องอาศัยอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ามาช่วยคงประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ยกตัวอย่างเช่น การทำเลเซอร์เพื่อลดรอยแผลเป็น หรือการฉายแสงเพื่อลดอาการบวม ซึ่งจะเป็นอุปกรณ์ประเภทใดก็ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานพยาบาลด้วย ดังนั้น การดูแลหลังเติมไขมันที่ครอบคลุมอาจทำให้ราคาสูงขึ้น แต่ก็ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและอยู่ได้นานมากขึ้น
6. โปรโมชั่นหรือแพ็กเกจ
บางสถานพยาบาลอาจมีโปรโมชั่นหรือแพ็กเกจที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่งได้ เช่น แพ็กเกจเหมาเติมไขมันหลายตำแหน่ง หรือโปรโมชั่นช่วงเทศกาลที่ช่วยลดราคาหรือมีส่วนลดพิเศษเฉพาะช่วงเวลาที่กำหนด ดังนั้น การติดตามโปรโมชั่นหรือแพ็กเกจต่าง ๆ ก็อาจช่วยให้เราไม่จำเป็นต้องเสียค่าบริการเติมไขมันสูงเท่าที่คาดเอาไว้ก็ได้
LipoCube ราคาเท่าไหร่? AMARA มีคำตอบ!
AMARA เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียว! ในการนำอุปกรณ์อย่าง LipoCube เข้ามาช่วยในการคัดกรองไขมันให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยการเติมไขมันจาก LipoCube ราคาจะเริ่มต้นอยู่ที่ 39,000 บาท โดยจะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบอื่น ๆ ในการเติมไขมัน ตั้งแต่อุปกรณ์ที่ใช้ แพทย์ที่ทำการเติมไขมัน ค่าบริการเกี่ยวกับห้องผ่าตัดและการวางยาสลบ ฯลฯ
ตำแหน่ง | LipoCube Nano | LipoCube SVF |
เติมไขมันหน้า | 49,900 | 79,900 |
เติมไขมันหน้าอก | 79,900 | 99,900 |
เติมไขมันก้น/สะโพก | ||
เติมไขมันมือ | 39,900 | 69,900 |
หมายเหตุ : ราคาและเงื่อนไขอาจมีการเปลี่ยนแปลง สามารถสอบถามเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านช่องทางติดต่อด้านล่าง
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น การผลิตคอลลาเจน การสมานแผล หรือสร้างเส้นเลือดจะทำงานได้ไม่เต็มที่เหมือนคนวัยหนุ่มสาว ซึ่งการที่เราเติมไขมันเข้าไป ร่างกายจะต้องมีการสร้างเส้นเลือดขึ้นมาเพื่อหล่อเลี้ยงสารอาหารมาให้เซลล์ไขมันดังกล่าว หากส่วนนี้ทำงานได้ไม่ดี ก็มีโอกาสที่เซลล์ไขมันจะถูกดูดซึมกลับเข้าร่างกายสูงกว่า การเติมพร้อม SVF จะช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดให้แข็งแรงมากขึ้น อัตราการอยู่รอดของเซลล์ไขมันจึงสูงกว่านั่นเอง
LipoCube คุ้มไหม? เติมไขมันหน้าด้วย LipoCube ดีจริงหรือเปล่า?
LipoCube ถือเป็นเทคโนโลยีที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการเติมไขมันหน้าเพื่อความสวยงามและความอ่อนเยาว์ เนื่องจากกระบวนการของ Lipocube ช่วยสกัดและเตรียมไขมันให้มีคุณภาพสูง มีเซลล์ไขมันที่สมบูรณ์ และมีโอกาสรอดชีวิตหลังการฉีดมากขึ้น ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน นอกจากนี้ Lipocube ยังช่วยลดปัญหาการดูดซึมไขมันกลับคืน เนื่องจากเซลล์ไขมันถูกบีบอัดจากการเติมเผื่อยุบบวมจนไม่สามารถอยู่รอดได้ ซึ่งมักเกิดขึ้นในวิธีการฉีดไขมันแบบดั้งเดิม การเข้ามาของเซลล์ต้นกำเนิดที่ช่วยฟื้นฟูผิวและกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดด้วย LipoCube
อย่างไรก็ตาม การเติมไขมันหน้าด้วย LipoCube อาจมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ เช่น การฉีดฟิลเลอร์หรือการนำ PRP มาผสมกับเซลล์ไขมันที่ต้องการเติม ดังนั้น แนะนำให้พิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัยว่าตัวเราเหมาะกับการฉีดไขมันแบบไหน และมีความต้องการผลลัพธ์แบบใด สามารถปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมได้
ข้อควรระวังในการเลือกคลินิกที่ให้บริการฉีดไขมัน
การฉีดไขมันเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและความปลอดภัยสูง ดังนั้น การเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด! เพื่อป้องกันความเสี่ยงและให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี มาเช็กกันว่าเราต้องระวังอะไรบ้าง
1. มาตรฐานและความน่าเชื่อถือของคลินิก
คลินิกที่ให้บริการควรได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลที่ถูกต้อง และมีแพทย์ที่มีประสบการณ์โดยตรง นอกจากนี้ ควรมีเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยและได้มาตรฐานด้วย
2. ความปลอดภัยและความสะอาดของห้องผ่าตัด
คลินิกต้องมีระบบปลอดเชื้อที่เข้มงวด ห้องผ่าตัดควรเป็นแบบ Positive Pressure ซึ่งช่วยไล่เชื้อโรคออกจากห้องผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อระหว่างการดูดไขมัน-เติมไขมัน นอกจากนี้ ยังรวมถึงระบบความปลอดภัยภายในห้องผ่าตัด จำเป็นต้องมีระบบไฟสำรองฉุกเฉินเพื่อป้องกันเหตุอันไม่คาดคิดระหว่างการดูดไขมัน-เติมไขมัน เช่น ไฟตก หรือไฟดับ เป็นต้น
3. คุณภาพของสารเติมเต็มที่ใช้
ในปัจจุบันมีการใช้สารเติมเต็มหลากหลายชนิด โดยหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมคือ PRP (Platelet-Rich Plasma) ซึ่งมีราคาที่ถูกกว่า Lipocube SVF แต่อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้สารเติมเต็มไม่ควรพิจารณาจากราคาเพียงอย่างเดียว เนื่องจาก Lipocube SVF ประกอบไปด้วย Regenerative Cells หรือเซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูและกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ที่ดีกว่า Growth Factor จากเกร็ดเลือดมาก
อีกทั้ง LipoCube ที่สามารถสกัด SVF ออกมาได้ยังให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและระยะเวลาคงอยู่นานกว่า เพราะเป็นการกระตุ้นการสร้างเส้นเลือด ให้ผิวแข็งแรงในระยะยาว ถึงแม้ว่า PRP จะเป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่าก็จริง แต่เราควรพิจารณาความต้องการส่วนตัวของเราเป็นหลักว่าอยากได้ผลลัพธ์แบบไหน เพื่อให้เลือกวิธีที่เหมาะกับเรามากที่สุด
4. ประสบการณ์ของแพทย์ผู้ให้บริการ
แพทย์ผู้ให้บริการดูดไขมัน-เติมไขมัน ควรมีความชำนาญเฉพาะทางในด้านศัลยกรรมความงามและมีประสบการณ์ในการทำหัตถการฉีดไขมันโดยเฉพาะ ควรสอบถามประวัติการรักษาและผลงานที่ผ่านมาของแพทย์เพิ่มเติมก่อนตัดสินใจทุกครั้ง นอกจากนี้ ควรสอบถามว่าคลินิกใช้เทคนิคการฉีดไขมันแบบใด เพราะหากฉีดผิดชั้นผิวหรือใช้กระบวนการเติมไขมันที่ไม่เหมาะสม อาจเสี่ยงทำให้อัตราการอยู่รอดของเซลล์ไขมันเหลือน้อย หรือเซลล์ไขมันตายเป็นบางส่วน อันอาจนำไปสู่การเกิดพังผืดหรือเกิดหินปูนหลังเติมไขมัน (Fat necrosis) ได้ด้วย
5. การให้ข้อมูลและการดูแลหลังการรักษา
คลินิกที่ดีควรมีการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับขั้นตอนการรักษา ความเสี่ยง และวิธีดูแลตัวเองหลังเติมไขมันอย่างชัดเจนที่สุด รวมถึงมีการติดตามผลและให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะใช้บริการไปแล้ว หรือบางคลินิกอาจมีการรับประกันผลลัพธ์ หรือให้บริการดูแลหลังฉีดไขมันด้วยโปรแกรมเฉพาะด้วย เช่น การติดตามผลโดยตรงจากคุณหมอ การทำแผล การตัดไหม การฉายแสงลดการอักเสบ การเลเซอร์รอยแผลเป็น ฯลฯ ขึ้นอยู่กับบริการที่สถานพยาบาลกำหนดให้มี
6. ความโปร่งใสในเรื่องค่าใช้จ่าย
คลินิกควรมีการแจ้งค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน ไม่มีค่าใช้จ่ายแฝง และมีการอธิบายรายละเอียดค่าใช้จ่ายแต่ละรายการอย่างครบถ้วน เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่าการดูดไขมัน-เติมไขมัน หรือแม้กระทั่งการศัลยกรรมแบบอื่น ๆ มักจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ไม่ได้แจ้งไว้ตั้งแต่แรกอยู่ด้วย อันเป็นความไม่โปร่งใสในการบริการ แนะนำให้ศึกษารายละเอียดและดูรีวิวของคลินิกนั้น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับการบริการอย่างจริงใจที่สุดจริง ๆ (อยากรู้เรื่องกลโกงของคลินิกดูดไขมัน-เติมไขมัน ลองอ่านได้ที่ : แฉ! วงการคลินิกดูดไขมัน เปิดกลโกง เผยความจริง! จากหมอไอซ์ AMARA)
7. รีวิวจริงจากผู้ใช้บริการจริง
ควรศึกษาประสบการณ์ของคนที่เคยเข้ารับบริการจากคลินิกที่สนใจ ทั้งจากรีวิวในออนไลน์และรูป Before-After เพื่อดูว่าผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจหรือไม่ แนะนำให้เลือกคลินิกที่ประกอบด้วยภาพ วิดีโอ หรือสื่อรูปแบบอื่น ๆ ที่ทำให้เห็นชัดเจนว่ารูปรีวิวไม่ได้ผ่านการตกแต่งมากเกินไป โดยเฉพาะคลินิกที่มีการไลฟ์สดให้ดูบ่อย ๆ
ทำไมต้องฉีดไขมัน LipoCube ที่ AMARA
การฉีดไขมัน เติมไขมันที่ AMARA เราเป็นเจ้าแรกเจ้าเดียวที่นำเข้า LipoCube ทั้งสองแบบเข้ามาใช้ยกระดับการดูดไขมัน-เติมไขมัน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาแลดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยเราให้ความสำคัญตั้งแต่ขั้นตอนแรกสุด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเครื่องดูดไขมันแบบ Water-assisted liposuction (WAL) ซึ่งจะใช้พลังงานน้ำในการแยกเซลล์ไขมันออกจากกัน โดยไม่ก่อให้เกิดความร้อน จึงทำให้อัตราการอยู่รอดของเซลล์ไขมันสูงขึ้น
นอกจากการใช้ LipoCube เพื่อกระตุ้นการสร้างสเต็มเซลล์ไขมันแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้แพทย์สามารถกำหนดความละเอียดของเซลล์ไขมันที่จะนำไปเติมได้ ตั้งแต่ระดับ Milli Fat, Micro Fat และ Nano Fat ทำให้ได้เซลล์ไขมันที่มีความละเอียดสูง เปรียบเสมือนการเลือกความเหลวของเนื้อฟิลเลอร์ พร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ช่วยในการเติมไขมันเข้าไปในชั้นผิวอย่างสม่ำเสมอคือ Maft Gun ที่ออกแบบมาให้ใช้กับสารเติมเต็มหลากหลายชนิด ช่วยให้ได้หยดไขมันเท่ากันทุกหยด!
สำหรับคนที่มีความกังวลว่าหลังทำแล้วจะปลอดภัยหรือไม่ จะทิ้งเคสหรือเปล่า? AMARA เรามีการจัดโปรแกรมดูแลร่างกายหลังดูดไขมัน-เติมไขมันโดยเฉพาะ รวมอยู่ในบริการ After Care ยกตัวอย่างเช่น การฉายแสง LED ลดบวม, การทำ Pico Laser เพื่อลดรอยแผลเป็นจากการดูดไขมัน, Mocktail เครื่องดื่มสูตรเฉพาะเพื่อลดการอักเสบ หรือจะเป็นบริการนวดเดรนน้ำเหลืองด้วย Venus Legacy เพื่อป้องกันการเกิดก้อนไตหลังดูดไขมัน ทำให้ผิวเรียบเนียน กระชับสัดส่วนมากยิ่งขึ้น และอื่น ๆ อีกมากมาย!

สรุป
แม้สเต็มเซลล์ไขมันที่ได้จาก LipoCube จะมีราคาค่อนข้างสูงมาก แต่คุณภาพของเทคโนโลยีและมาตรฐานการรักษาก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของสารเติมเต็มหรือสารอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกันซึ่งมีหลากหลายประเภทให้เลือก การใช้ PRP ที่มีราคาถูกกว่า LipoCube SVF อาจไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและคงอยู่ได้นานเท่า
อย่างไรก็ตาม หากต้องการเติมไขมันหน้าพร้อมองค์ประกอบอื่น ๆ ที่ช่วยให้ไขมันที่ฉีดเข้าไปติดดีขึ้น แนะนำให้เปรียบเทียบความต้องการ ความคาดหวังในผลลัพธ์ งบประมาณ และเวลาเพิ่มเติม พร้อมทั้งปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อเลือกแนวทางที่เหมาะกับตัวเราที่สุดจะดีกว่า
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB
ติดต่อเบอร์โทร :
062-789-1999⇒ สาขา รัชโยธิน กด 1
⇒ สาขา ราชพฤกษ์ กด 2