ต้องรู้! ดูดไขมันอายุเท่าไหร่ถึงจะปลอดภัยหายห่วง!

ดูดไขมันอายุเท่าไหร่ดี?

       ปกติแล้ว การดูดไขมันไม่ได้มีการจำกัดอายุค่ะ เพราะการดูดไขมันเป็นเพียงการกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ใต้ชั้นผิวหนังออกเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับระบบภายในอื่น ๆ โดยตรง แต่ส่วนใหญ่ ความกังวลเกี่ยวกับอายุและการดูดไขมัน มักจะเป็นเรื่องของผิวมากกว่าค่ะ

เมื่อเราอายุมากขึ้น คอลลาเจนและอิลาสติในผิวของเราจะทำงานน้อยลง ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น ไม่กระชับเหมือนเดิม สำหรับเคสแบบนี้ ไม่ว่าจะดูดไขมันอายุเท่าไหร่ก็ตาม แต่ผิวหย่อนคล้อย ไม่ทำกระชับผิวต่อ ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่หย่อนคล้อยย้วยรุนแรงมากกว่าเดิมค่ะ

ทว่าในอีกมุมหนึ่ง สาเหตุของผิวหย่อนคล้อยไม่ได้เกิดจากอายุเพียงอย่างเดียวค่ะ มันยังมีสาเหตุอื่น ๆ ในกลุ่มที่อายุยังน้อยด้วย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมาจากการลดน้ำหนักที่รวดเร็วเกินไป ทำให้ผิวปรับตัวไม่ทันจนสูญเสียความยืดหยุ่น

แต่ทั้งนี้ เทคโนโลยีดูดไขมันในปัจจุบัน ก็มีตัวเลือกเพิ่มเติมหลายอย่างที่จะช่วยให้ผิวของเรากระชับ แม้จะผ่านการดูดไขมันในช่วงอายุที่ผิวมีความหย่อนคล้อยมาก ก็สามารถกลับมามีผิวที่เต่งตึงเท่า ๆ เดิมได้ เพียงแต่อาจจะต้องเลือกเครื่องมือที่แก้ปัญหาได้ตรงจุดกันหน่อยค่ะ

ข้อจำกัดอื่น ๆ ในการดูดไขมัน

       นอกจากจะมีข้อสงสัยว่าถ้าดูดไขมัน อายุเท่าไหร่ถึงจะเหมาะ ก็มีปัญหาอื่น ๆ ที่หลายคนเป็นกังวลค่ะ ดังนั้น หมอจึงขอรวบรวมข้อจำกัดต่าง ๆ ของการดูดไขมันมาให้เราได้ลองพิจารณากันว่าตัวเราเองเหมาะกับการดูดไขมันหรือไม่

• ความเสี่ยงจากใช้ยาชาและยาสลบ

  ตัวยาชาและยาสลบนั้นสามารถก่อให้เกิดอาการแพ้หรือมีผลข้างเคียงต่อร่างกายในระยะสั้นได้ค่ะ ดังนั้น ผู้ที่ต้องการดูดไขมันควรจะทำการตรวจสอบก่อนว่ามีอาการแพ้ยาชาหรือยาสลบหรือไม่ และจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลข้างเคียงของการดูดไขมันแบบวางยาสลบด้วย เช่น อาการมึนงง ง่วงนอน อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ คลื่นไส้ ปากแห้ง หนาวกว่าปกติ ซึ่งอาจมีอาการหลายชั่วโมง

• ผลข้างเคียงจากการผ่าตัด

  การผ่าตัดจะทำให้เกิดผลข้างเคียงหลายอย่าง เนื่องจากร่างกายได้รับบาดแผลและต้องฟื้นฟูตัวเอง เช่น เสียเลือด น้ำ และเกลือแร่ในร่างกายมากทำให้อ่อนเพลีย มีอาการปวดหรือเจ็บบริเวณแผลผ่าตัด นอกจากนี้ การที่ร่างกายมีบาดแผลจะทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย แต่หากได้รับการพยาบาลอย่างถูกต้องก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้มากอยู่แล้วค่ะ

• ระยะเวลาพักฟื้น

  อย่างที่กล่าวไปว่าหลังการผ่าตัด ร่างกายต้องฟื้นฟูตัวเองให้หายเร็ว ๆ ดังนั้น ช่วงระยะแรกหลังดูดไขมัน ผู้เข้ารับบริการจึงต้องใช้เวลาในการพักฟื้นอย่างน้อย 3-7 วัน ทำให้จำเป็นต้องหยุดงานเพื่อพักผ่อนและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ แผลปริ หรือผิวบริเวณที่ดูดไขมันได้รับการกระทบกระเทือนจนอักเสบกว่าเดิม

เราจะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองพร้อมดูดไขมัน?

       ร่างกายที่พร้อมสำหรับการดูดไขมัน คือร่างกายและจิตใจที่พร้อมรับมือกับผลข้างเคียงข้างต้นได้ค่ะ แต่ว่าร่างกายที่พร้อมเนี่ยจะต้องพร้อมแบบไหน ต้องเตรียมตัวก่อนดูดไขมันยังไงบ้าง? ลองเช็คคุณสมบัติเบื้องต้นดังนี้เลยค่ะ

คุณสมบัติเบื้องต้นสำหรับผู้ที่สามารถดูดไขมันได้อย่างปลอดภัย

• สุขภาพร่างกายและจิตใจแข็งแรงดี

   ร่างกายที่มีความแข็งแรงนั้นจะช่วยให้การผ่าตัดจนถึงกระบวนการฟื้นฟูตัวเองเป็นไปได้อย่างราบรื่นค่ะ ไม่ว่าจะเป็นระบบไหลเวียน การทำงานของเซลล์ หรือการสมานแผลตามธรรมชาติ

  นอกจากนี้ หากรวมกับสุขภาพจิตที่ดีแล้ว ก็จะทำให้พร้อมสำหรับแผนการรับมือผลข้างเคียงต่าง ๆ ได้ดีกว่าคนที่มีความวิตกกังวลสูง เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นก็จะไม่ตื่นตระหนกหรือเครียดจัด จนทำให้ร่างกายเครียดไปด้วย

• ไม่ได้สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ

   สารประกอบต่าง ๆ ในบุหรี่และแอลกอฮอล์ มีผลต่อการไหลเวียนของเลือดค่ะ ทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงบาดแผลได้ช้า แผลก็จะไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ เส้นเลือดไม่สามารถสร้างตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อสมานแผล นอกจากนี้ ยังทำให้แผลดูดไขมันอักเสบมากขึ้นด้วย

  ดังนั้น หากคุณเป็นคนติดบุหรี่หรือแอลกอฮอล์ จะต้องงดดูดไขมันจนกว่าจะเลิกติดได้จริง ๆ นะคะ เพราะอาการติดบุหรี่และแอลกอฮอล์นั้นจะทำให้เรายับยั้งใจได้ยาก มีโอกาสเผลอสูบหรือดื่มระหว่างฟื้นตัวสูง

• ไม่มีประวัติแพ้ยาชา ยาสลบ หรือยาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

   ดังที่อธิบายไปข้างต้นว่า การดูดไขมันย่อมมีผลข้างเคียงจากยาชา ยาสลบ แต่ยาอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการดูดไขมัน ดังนั้น ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาเหล่านี้จึงไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดดูดไขมันได้ค่ะ เพราะมีโอกาสเสียชีวิตได้หากแพ้อย่างรุนแรง

  สำหรับยาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง คือยาทานหลังดูดไขมันเสร็จสิ้นแล้วค่ะ โดยทั่วไปจะประกอบด้วยยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อ และยาแก้ปวด ซึ่งยาเหล่านี้ก็จะมีหลายประเภท หากมีประวัติแพ้ยากลุ่มนี้ ต้องแจ้งแพทย์อย่างละเอียดถึงชนิดที่แพ้ เพื่อให้แพทย์สามารถปรับการรักษาอย่างเหมาะสม

• มีผิวที่กระชับยืดหยุ่น ไม่หย่อนคล้อย

   กรณีที่ผู้เข้ารับบริการมีผิวหย่อนคล้อยปานกลางไปจนถึงระดับรุนแรงมาก แพทย์อาจจะต้องหาตัวเลือกอื่นเพิ่มเติมเพื่อให้ผิวหลังดูดไขมันมีความกระชับมากขึ้น เช่น การนวด การใช้เครื่องกระชับผิว หรือแนะนำการผ่าตัดเอาผิวหนังส่วนเกินออกค่ะ

  ส่วนใหญ่ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยจากตัวอย่างเคสของ AMARA มักจะเป็นคุณแม่หลังคลอดค่ะ เพราะหน้าท้องจะขยายอย่างรวดเร็วเมื่อตั้งท้อง และกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ยาก เคสแบบนี้อาจจะต้องผ่าตัดหนังหน้าท้องไปเลย ส่วนกรณีอื่น ๆ เช่น อายุเยอะหรือเคยลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วมาก่อน เราจะเสนอเป็นการนวดผิวหรือใช้ J-Plasma กระชับผิวต่อจากการดูดไขมันไปเลย

• เคยลองลดไขมันด้วยตัวเองแต่ไม่ได้ผล

   ไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวของเรามานาน ส่วนใหญ่จะค่อนข้างใช้เวลาในการกำจัดมากกว่าเวลาที่มันสะสมอีกค่ะ จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเราคุมอาหารหรือออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงแล้วมันไม่ได้ผลสักที จนเกิดเสียความตั้งใจ ท้อแท้ และล้มเลิกกันไป

  สาเหตุนี้ก็เป็นอีกที่มาของคำถาม ดูดไขมันอายุเท่าไหร่ดี ดูดไขมันตั้งแต่วัยรุ่นได้ไหม หรือดูดไขมันตอนแก่ได้ไหม คำตอบคือได้ค่ะ และเหมาะมาก ๆ ด้วย เพราะการดูดไขมันมีไว้เพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินที่เราลดเองได้ยาก!

• มีความเข้าใจเกี่ยวกับการดูดไขมันอย่างถูกต้อง

   ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูดไขมันที่ครบถ้วน จะช่วยให้เราเข้าใจระบบ ขั้นตอน กระบวนการ เครื่องมือ ผลข้างเคียง วิธีการรักษา การเตรียมตัว การดูแลตัวเอง และเข้าใจองค์ประกอบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีผลต่อการตัดสินใจและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของตัวเราเองด้วยค่ะ

  สมมติว่าหลังดูดไขมันต้นขา บริเวณกล้ามเนื้อด้านหลังต้นขามีรอยช้ำเป็นวงกว้าง หากเราทราบอยู่แล้วว่ามันคืออาการปกติและจะหายไปเอง ก็จะไม่เกิดความกังวล หรือถ้าเราทราบว่าหลังดูดไขมันจะมีความบวมช่วงแรกเป็นปกติและทราบวิธีช่วยลดบวม ก็จะทำให้เราหายเร็วขึ้น เป็นต้น

• ไม่ได้เป็นหรือมีแนวโน้มเป็นโรคร้ายแรง

   สำหรับกลุ่มโรคต่าง ๆ และกลุ่มโรคร้ายแรงที่ไม่ควรเข้ารับการดูดไขมันรวมถึงการผ่าตัดศัลยกรรมอื่น ๆ เบื้องต้นได้แก่ โรคมะเร็ง โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไต-ปอด-ตับ โรคลมชัก โรคไทรอยด์ และผู้ติดเชื้อ HIV

  ผู้ป่วยเหล่านี้จะมีความเสี่ยงหลายด้านที่ทำให้การดูดไขมันเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงเกี่ยวกับระบบเลือด การฟื้นตัว การหายใจ การรับยาชาและยาสลบ ไปจนถึงความแข็งแรงของร่างกายที่รับการดูดไขมันไหว ทั้งนี้ ไม่ว่าจะตัดสินใจดูดไขมันอายุเท่าไหร่ก็ตาม ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนหากมีโรคประจำตัวนะคะ

ดูดไขมันอายุเท่าไหร่ก็ปลอดภัยที่ AMARA Liposuction Center

      การดูดไขมันกับ AMARA Liposuction Center เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของตัวผู้เข้ารับบริการมาตลอดค่ะ เพราะความพร้อมของคุณคือความพร้อมของเรา หากไม่แน่ใจหรือมีข้อสงสัยก็สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย หากผ่านข้อจำกัดในการดูดไขมัน ไม่เข้าข่ายโรคที่กล่าวไปข้างต้น และยินดีสำหรับการเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน เราก็สแตนบายต้อนรับเสมอ!

สำหรับคนที่ตัดสินใจดูดไขมัน AMARA จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับข้อปฏิบัติตัวก่อนดูดไขมัน ให้กลับไปเตรียมตัวให้พร้อมก่อน และเมื่อถึงวันผ่าตัดจะมีบริการตรวจโรค ตรวจร่างกาย ตรวจเลือด และตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเข้ารับการผ่าตัดทุกเคส เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของทุกฝ่ายค่ะ

เครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้ ไปจนถึงกระบวนการดูดไขมัน จะต้องผ่านการพิจารณาเรื่องสุขภาพร่างกาย ปัญหาของผู้เข้ารับบริการ และความต้องการของผู้รับบริการก่อนเสมอ โดยจะประเมินแบบเคสต่อเคส ไม่ใช้แนวทางเหมือนกัน เพราะต่างปัญหาก็ต้องต่างวิธีแก้ หากกังวลเรื่องผิวหย่อนคล้อยก็สามารถเลือกทำ J-Plasma ร่วมด้วยได้ หรือถ้าอยากเอาไขมันไปเติมส่วนอื่น ก็สามารถเลือกบริการดูดไขมัน-เติมไขมันได้เช่นกัน

       นอกจากนี้ เรายังมีอุปกรณ์และตัวเลือกต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาหลังดูดไขมันได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น นั่นก็คือ After Care ที่รวมบริการต่าง ๆ เอาไว้รับมือกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น อาการบวม รอยแดง รอยแผลเป็น หรือความไม่เรียบเนียนของผิว สามารถเข้ารับการดูแลที่คลินิกได้เป็นประจำ ไม่ต้องไปหาซื้อคอร์สที่อื่นให้เสียเวลาค่ะ