หมอไอซ์ขอสรุปให้! ฉีดไขมันหน้าอก คืออะไร? ช่วยให้อกเนียนสวยธรรมชาติได้จริงไหม?
- การฉีดไขมันหน้าอก (Breast Fat Grafting) คือ การเสริมหน้าอกด้วยไขมันของตัวเราเอง โดยย้ายไขมันจากส่วนอื่นของร่างกายมาเติมหน้าอกเพื่อเพิ่มขนาดและทำให้หน้าอกเต่งตึง เนียนสวยแบบธรรมชาติมากยิ่งขึ้น โดยหลังทำจะไม่เห็นขอบชัดเจนเนื่องจากไม่ใช่การเสริมซิลิโคน
- ข้อดีของการเสริมหน้าอกด้วยวิธีนี้ จะช่วยให้เราได้ไซซ์หน้าอกที่ต้องการ ลดความห่างของหน้าอกได้ โดยผลลัพธ์จะออกมาแลดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน ทั้งยังให้สัมผัสที่นิ่มนวลคล้ายหน้าอกจริง ๆ เนื่องจากหน้าอกของเรามีไขมันเป็นทุนเดิมอยู่แล้วครับ
- การฉีดไขมันหน้าอกมี 3 ขั้นตอนหลัก ๆ ได้แก่ ดูดไขมันออกมา การคัดแยกเซลล์ไขมัน และการฉีดไขมัน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด และมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด ทุกอย่างจะต้องทำตามมาตรฐานที่ตั้งไว้ครับ
- ที่ AMARA เราใช้เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ Body-Jet เป็นเครื่องดูดไขมันที่สลายเซลล์ไขมันได้อ่อนโยนที่สุด และทำให้เซลล์ไขมันบาดเจ็บน้อยที่สุด จึงทำให้เลือดออกน้อย เซลล์ไขมันตายน้อย ได้เซลล์ไขมันคุณภาพเพียบ เพิ่มโอกาสติดสูงครับ
หน้าอกสวย ๆ ย่อมเป็นของคู่ใจของสาว ๆ ทุกคน เพราะจะช่วยเสริมรับกับการแต่งตัว ทำให้เราดูดีและมีความมั่นใจมากขึ้น การฉีดไขมันหน้าอก หรือที่เรียกว่า ฉีดนม, ฉีดไขมันเสริมอก, เติมไขมันนม เป็นหนึ่งในวิธีอัพไซซ์หน้าอกที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ทั้งในเรื่องของความสวยงาม ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และยังทำให้สัดส่วนเราเล็กลงได้ด้วยครับ สำหรับสาว ๆ หน้าอกเล็ก หรือคนที่ไม่มีเนินหน้าอก อยากอัพไซซ์แต่ไม่ชอบซิลิโคน ลองมาทำความรู้จักการเติมไขมันหน้าอกกันดูนะครับ
ฉีดไขมันหน้าอก คืออะไร?
การฉีดไขมันหน้าอก (Breast Fat Grafting) คือ การเสริมหน้าอกด้วยไขมันของตัวเราเอง โดยย้ายไขมันจากส่วนอื่นของร่างกายมาเติมหน้าอกเพื่อเพิ่มขนาดและทำให้หน้าอกเต่งตึง เนียนสวยแบบธรรมชาติมากยิ่งขึ้น โดยหลังทำจะไม่เห็นขอบชัดเจนเนื่องจากไม่ใช่การเสริมซิลิโคน ซึ่งการเพิ่มไขมันเข้าไปในหน้า นอกจากจะช่วยขยับไซซ์ให้คัพใหญ่ขึ้นแล้วยังช่วยลดขนาดสัดส่วนที่ไม่ต้องการจากการดูดไขมันทำให้ได้ผลลัพธ์สองต่อในครั้งเดียวครับ
ตัวอย่างเคสฉีดไขมันหน้าอก เติมไขมันนมที่ AMARA
เติมไขมันหน้าอก ดีไหม เป็นธรรมชาติหรือเปล่า?
ฉีดไขมันหน้าอกดีไหม? การเติมไขมันหน้าอกดีแน่นอน สำหรับคนที่อยากแก้ปัญหาหน้าอกเล็ก เนินอกหาย หรือหน้าอกหย่อนคล้อยหลังให้นมลูก และคนที่ไม่ชอบการเสริมซิลิโคน การเพิ่มไขมันหน้าอกจะช่วยให้เราได้ไซซ์หน้าอกที่ต้องการ ลดความห่างของหน้าอกได้ โดยผลลัพธ์จะออกมาแลดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน ทั้งยังให้สัมผัสที่นิ่มนวลคล้ายหน้าอกจริง ๆ เนื่องจากหน้าอกของเรามีไขมันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงเป็นเหมือนการเพิ่มปริมาณไขมันให้มากขึ้นนั่นเองครับ
ฉีดไขมันหน้าอกเหมาะกับใคร?
- คนที่อยากเพิ่มขนาดหน้าอก
- คนที่ไม่ชอบการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน
- คนที่ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย
- คนที่เนินหน้าอกหาย หลังให้นมลูก
- คนที่อยากลดส่วนเกิน และเพิ่มหน้าอก
- คนที่มีขนาดหน้าอกทั้งสองข้างไม่เท่ากัน
- คนที่เสริมซิลิโคนมาแล้ว หน้าอกไม่เป็นธรรมชาติ
เติมไขมันหน้าอก VS การเสริมหน้าอกซิลิโคน ต่างกันยังไง ตอบโดยคุณหมอ!
เสริมหน้าอก มีกี่วิธี แต่ละวิธีแตกต่างกันอย่างไร?
การเสริมหน้าอกในปี 2022 จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 วิธี คือ การฉีดไขมันหน้าอก, การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน และการเสริมหน้าอกแบบไฮบริด (เติมไขมันหน้าอก + เสริมซิลิโคน) แต่ละวิธีก็จะเหมาะกับความต้องการของคนไข้ที่แตกต่างกันไปครับ ทำให้คนที่สนใจเสริมหน้าอก เกิดความสับสนว่าจะเสริมหน้าอกด้วยวิธีไหนดี เราต้องการแบบนี้ จะเหมาะกับการเสริมหน้าอกแบบไหนมากที่สุด? เราลองมาอ่านความแตกต่างของการเสริมหน้าอกทั้ง 3 แบบกัน! (อ่านเพิ่มเติม : เลือกซิลิโคน หรือฉีดไขมันหน้าอกดี?)
1.ฉีดไขมันหน้าอก
การฉีดไขมันหน้าอก หนึ่งในวิธีเสริมหน้าอก ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้การเสริมซิลิโคนเลยนะครับ เคสส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่ไม่ชอบซิลิโคน รู้สึกกลัวการใส่ซิลิโคนเข้าไปไม่อยากผ่าตัดใหญ่ เป็นคุณแม่หลังคลอด และเป็นคนที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินเป็นหลัก ใครที่อยากเพิ่มขนาดหน้าอกไม่เยอะ เน้นความธรรมชาติ จับแล้วไม่มีก้อนซิลิโคนด้านใน หมอก็แนะนำวิธีนี้เลยครับ
2.เสริมหน้าอกซิลิโคน
เสริมหน้าอกซิลิโคน จำเป็นต้องเปิดแผลผ่าตัดขนาด 2-3 ซม. เพื่อให้สามารถใส่ซิลิโคนเข้าไปได้ ทำให้มีแผลใหญ่กว่าการฉีดไขมัน โดยการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนจะเหมาะกับคนที่ไม่ได้มีไขมันเยอะ หรืออยากอัพไซซ์หน้าอกให้ใหญ่ขึ้นมาก ๆ ทั้งนี้ทั้งนั้น หากจะต้องเลือกการเสริมด้วยซิลิโคน หมอแนะนำให้เลือกแพทย์ที่มีความชำนาญและประสบการณ์หลากหลาย เพื่อให้สามารถประเมินผลลัพธ์และความต้องการให้เหมาะกับรูปร่างของเรามากที่สุดครับ
3.เสริมหน้าอกไฮบริด
เสริมหน้าอกไฮบริด จะเป็นการผสานระหว่างการฉีดไขมัน และการเสริมซิลิโคน เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาสวยตรงใจ สำหรับคนที่อยากให้หน้าอกใหญ่ขึ้น และมีความเป็นธรรมชาติ การเติมไขมันหน้าอกเข้าไปเพิ่ม จะช่วยกลบขอบซิลิโคนได้ อีกทั้งยังทำให้หน้าอกมีลักษณะเนียนเด้ง ฟูนุ่ม เหมือนหน้าอกจริง ทำให้มีความเป็นธรรมชาติมาก
การเสริมหน้าอกไฮบริดจะมีอยู่ 3 ขั้นตอน คือ
- ดูดไขมันจากส่วนอื่นของร่างกายออกมา
- เปิดแผลใต้ราวนมเพื่อใส่ซิลิโคน
- ฉีดไขมันเข้าไปใต้ผิวหนังรอบ ๆ ขอบซิลิโคนเพื่อความเรียบเนียน
สำหรับใครที่ยังเลือกไม่ถูกว่าจะเสริมหน้าอกแบบไหนดี ลองเข้ามาพูดคุย ปรึกษากับหมอก่อนได้นะครับ (ฟรีค่าปรึกษา) หมอยินดีให้คำแนะนำ และประเมินอย่างตรงจุดครับ ที่ Amara Clinic จะมีทั้งการเติมไขมันหน้าอก การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน และการเสริมหน้าอกไฮบริดเลยครับ ทำโดยอาจารย์แพทย์ด้านการดูดไขมันเติมไขมัน และศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง ปลอดภัยทุกเคสแน่นอนครับ
ข้อดีของการฉีดไขมันหน้าอก
- ฉีดนมช่วยเพิ่มขนาดหน้าอกแบบธรรมชาติที่สุด
- เนินหน้าอกชิดขึ้น มีความเนียนเด้งสวย
- ช่วยแก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยได้
- ปลอดภัย ไม่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกาย
- ไม่ต้องเปิดแผลใหญ่ เหมือนเสริมซิลิโคน
- แผลเล็กเท่าหัวปากกา 1-2 มิลลิเมตรเท่านั้น
- เสียเลือดน้อยมาก ทำให้ใช้เวลาพักฟื้นน้อย
- เจ็บน้อย บวมช้ำน้อย ไม่มีเลือดค้างในหน้าอก
- หน้าอกใหญ่ขึ้น พร้อมกับลดส่วนเกินได้
- ถ้าไขมันติดแล้ว ก็จะเป็นหน้าอกเราเลย
เติมไขมันหน้าอกข้อเสียคือ
- ไม่สามารถทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นหลายคัพได้
- ปริมาณจะขึ้นกับฐานหน้าอกของคนไข้แต่ละคน
- ไขมันอาจยุบตัวลง 10-30% (หมอจะฉีดเผื่อไขมันยุบตัวอยู่แล้วครับ)
- ต้องใช้เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet ดูดไขมันออกมาเท่านั้น
- ไขมันที่นำมาเติมจะต้องเก็บในระบบปิด และผ่านการคัดกรองเท่านั้น
- หากมีการลดน้ำหนัก หน้าอกอาจมีขนาดเล็กลงได้ (เป็นปกติของร่างกาย แม้ไม่ได้ฉีดไขมันก็สามารถเกิดขึ้นได้)
ฉีดไขมันหน้าอก เติมไขมันนม ที่ AMARA ดีอย่างไร?
AMARA เป็นศูนย์การสอนดูดไขมัน-เติมไขมัน ด้วยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ ประจำประเทศไทย (Body-jet Education Center) นำโดยทีมแพทย์มากประสบการณ์ ระดับอาจารย์แพทย์ คุณหมอไอซ์-คุณหมอมะปราง ที่เป็นอาจารย์สอนแพทย์ในการดูดไขมันพลังน้ำ และการฉีดไขมัน ประจำประเทศไทย การันตีด้วยรางวัล The Most body-jet Users (คลินิกที่นี่เคสดูดไขมันพลังน้ำ เยอะที่สุดในประเทศไทย) มั่นใจได้เลยว่าเติมไขมันหน้าอกที่ AMARA เห็นผลแน่นอน (ดูข้อมูลเพิ่มเติม : ทีมแพทย์ AMARA)
- ศูนย์ดูดไขมันพลังน้ำ และฉีดไขมันเฉพาะทาง
- ได้รับการรับรองจากบริษัทเครื่องมือชั้นนำ
- ทำโดยอาจารย์แพทย์สอนฉีดไขมัน
- แพทย์มากด้วยประสบการณ์ฉีดไขมัน
- มีรีวิวฉีดเติมไขมันหน้าอกเยอะที่สุดในไทย
- ทุกอย่างสูงกว่ามาตรฐาน และปลอดเชื้อ
- มีห้องผ่าตัดมาตรฐานโรงพยาบาล
- มีทีมวิสัญญีแพทย์และพยาบาล
- ราคาอยู่ในระดับเหมาะสม
- มี After Care หลังฉีดไขมันครบครัน
6 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนการเสริมหน้าอก ด้วยไขมันตัวเอง
เสริมหน้าอก ด้วยไขมันตัวเอง เป็นหัตถการที่ต้องเน้นย้ำด้านความปลอดเชื้อของไขมันเป็นที่สุด เพราะเราต้องฉีดไขมันกลับไปในร่างกาย หากไขมันไม่ได้อยู่ในระบบปลอดเชื้อ (เก็บในภาชนะสุญญากาศ) อาจจะทำให้ไขมันเจือปนกับเชื้อโรคได้ เมื่อฉีดเติมไขมันหน้าอกเข้าไปแล้ว ก็ส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียงต่าง ๆ รวมไปถึงเซลล์ไขมันจะอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ และเสี่ยงติดเชื้อได้ ดังนั้น เรามาดูกันครับว่าก่อนจะเลือกสถานพยาบาลเพื่อเสริมหน้าอกด้วยเซลล์ไขมัน เราต้องพิจารณาอะไรบ้าง
1. ความชำนาญและประสบการณ์ของแพทย์
แพทย์ที่ทำการดูดไขมันและเติมไขมันหน้าอกให้กับเรา จะต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านนี้ ต้องรู้ว่าควรฉีดไขมันในผิวชั้นไหน ต้องใช้ขนาดของเซลล์ไขมันเท่าไหร่ และมีการวางเซลล์ไขมันอย่างไร เพื่อให้ไขมันติดทนนาน ออกมาสวยงาม และช่วยแก้ปัญหาที่คนไข้กังวลใจได้มากที่สุด นอกจากนี้ ให้ตรวจสอบแพทย์ด้วยว่ามีใบประกอบวิชาชีพจริงหรือไม่ มีประสบการณ์มากน้อยเพียงใด เพื่อความปลอดภัยของตัวเราด้วยครับ
2. เครื่องดูดไขมัน
จากที่หมอกล่าวไปว่าหน้าอกของเรามีไขมันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สำหรับคนที่ไขมันน้อย เนื้อหน้าอกน้อย จะต้องใช้ปริมาณไขมันหลายร้อย CC และไม่ใช่ว่าไขมันที่ดูดออกมาได้ทั้งหมด จะสามารถนำไปฉีดเติมเต็มให้ได้ปริมาณที่ต้องการ เพราะเซลล์ไขมันที่ถูกดูดออกมา จะต้องไปผ่านกระบวนต่าง ๆ ก่อน เซลล์ไขมันที่ได้จึงอาจจะเหลือน้อยกว่าปริมาณที่เราดูดออกมาในตอนแรก ซึ่งการดูดไขมันในปริมาณมาก จะต้องใช้เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet เท่านั้น ถ้าใช้เครื่องอื่น ๆ เช่น Vaser รับรองว่ายังไงก็ไม่ติดครับเพราะไขมันได้ตายไปแล้ว (อ่านเพิ่มเติม : เครื่องดูดไขมัน)
3. รีวิวฉีดไขมันหน้าอก
รีวิวเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถบ่งบอกประสบการณ์ และผลงานของแพทย์ได้ดี ยิ่งเรามีเคสรีวิวให้ดูเยอะและหลากหลาย ก็แปลว่าเราไม่ใช่เคสลองมือของแพทย์แน่ ๆ และยังช่วยให้เรามั่นใจได้อีกด้วยว่า การทำกับแพทย์ท่านนี้ จะทำให้หน้าอกเราสวยแบบในรีวิว และมีความปลอดภัยแน่นอน (อ่านเพิ่มเติม : รีวิวฉีดไขมันหน้าอก)
4. มาตรฐานด้านความสะอาด
คลินิกฉีดไขมันที่รักษาความสะอาดเป็นอย่างดี มีการฆ่าเชื้อโรคเป็นประจำ ย่อมทำให้เรารู้สึกดีและอุ่นใจ ที่จะเข้ารับบริการที่นี่อยู่แล้ว แต่เราก็ไม่ควรมองข้ามความสะอาดของเครื่องมือและอุปกรณ์ด้วยนะครับ จำเป็นต้องมีการฆ่าเชื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทุกชิ้น ที่เกี่ยวข้องกับการทำหัตถการทั้งก่อนและหลังอย่างดีที่สุด
5. ห้องผ่าตัดต้องปลอดเชื้อ
เก็บไขมันอย่างปลอดเชื้อแล้ว ก็ควรจะทำให้ห้องผ่าตัดที่ปลอดเชื้อด้วยเช่นกันลองเช็กและสอบถาม รวมไปถึงสังเกตด้วยตัวเองให้ดีว่า คลินิกฉีดไขมันที่กำลังสนใจอยู่มีการใช้ระบบกรองอากาศ เพื่อให้ภายในห้องผ่าตัดปลอดเชื้อจริง ๆ หรือไม่ โดยระบบที่ห้องผ่าตัดของโรงพยาบาลใหญ่ ๆ มักจะใช้กันคือ ระบบกรองอากาศด้วยแผ่นกรองแบบสามชั้น HEPA ที่ช่วยกรองอากาศให้ปลอดเชื้อได้ถึง 99.99% นอกจากนี้ ภายในห้องผ่าตัดยังต้องมีระบบต่าง ๆ และเครื่องมือช่วยชีวิตฉุกเฉินอย่างครบครันด้วย (อ่านเพิ่มเติม : ห้องผ่าตัด)
6. วิสัญญีแพทย์วิชาชีพ
การดูดไขมันด้วยเครื่อง body-jet และการฉีดไขมันหน้าอก ไม่ได้ทำให้เกิดความเจ็บมาก จึงนิยมทำโดยวิธีฉีดยาชา แต่ในเคสที่ฉีดไขมันนมแบบวางยาสลบ แนะนำให้ตรวจสอบวิสัญญีแพทย์ด้วย เพราะผู้ที่จะให้ยาสลบเราแบบปลอดภัยได้ คือวิสัญญีแพทย์วิชาชีพเท่านั้น พยาบาลและแพทย์ผ่าตัดไม่สามารถทำได้ครับ เนื่องจาก มีบางคลินิกหลอกลวงว่ามีวิสัญญีแพทย์ แต่จริง ๆ แล้วไม่มี และมีการบวกราคาวางยาสลบถูกมาก กรณีแบบนี้ให้สงสัยและตรวจเช็กไว้ก่อน เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ (อ่านพิ่มเติม : ฉีดไขมันวางยาสลบ)
การเตรียมตัวก่อนเติมไขมันหน้าอก
- ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมิน และวางแผนการรักษา
- ตรวจแมมโมแกรม (Mammogram) และตรวจอัลตร้าซาวด์ เพื่อดูความผิดปกติของหน้าอก
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง
- งดอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิด อย่างน้อย 8 ชั่วโมง
- งดสูบบุหรี่ทุกชนิด อย่างน้อย 8 ชั่วโมง
- งดยาและอาหารเสริมตามแพทย์สั่ง
- สวมเสื้อผ้าหลวม ๆ ที่ใส่แล้วรู้สึกสบายตัว
- สวมเสื้อผ้าสีเข้ม เพราะหลังทำอาจมีน้ำซึมออกมาเปื้อนชุดได้
- ล้างสีเล็บและตัดเล็บให้สั้นอย่างน้อย 1 นิ้ว
- ไม่สวมเครื่องประดับทุกชนิดในวันผ่าตัด
- งดทาครีมหรือแต่งหน้า ในวันผ่าตัด
- แจ้งให้แพทย์หากมีฟันโยกภายในช่องปาก
- ห้ามขับรถกลับเอง ต้องมีเพื่อนหรือญาติมาด้วย
ขั้นตอนการเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง
ขั้นตอนฉีดไขมันหน้าอก จะประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ๆ คือการดูดไขมันออกมา การคัดแยกเซลล์ไขมัน และการฉีดไขมันเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด และมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด ทุกอย่างจะต้องทำตามมาตรฐานที่ตั้งไว้ครับ
ขั้นตอนที่ 1 การดูดไขมัน
ขั้นตอนที่ 1 คือการดูดไขมันออกมา จากบริเวณที่มีปริมาณไขมันเยอะ หรือบริเวณที่คนไข้กังวลใจมากที่สุดครับ อาทิ ดูดไขมันหน้าท้อง, ดูดไขมันเอวเอส หรือดูดไขมันต้นขา เป็นต้น ซึ่งสามตำแหน่งนี้เป็นบริเวณที่มีการสะสมของไขมันค่อนข้างเยอะ ทำให้เป็นตำแหน่งที่แพทย์มักแนะนำให้เลือกดูดออกมาใช้เติมไขมันต่อ
เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet คือ?
เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet เป็นเครื่องดูดไขมันที่สลายเซลล์ไขมันได้อ่อนโยนที่สุด และทำให้เซลล์ไขมันบาดเจ็บน้อยที่สุด มีความแตกต่างจากเครื่องดูดไขมันเครื่องอื่น ๆ ที่เครื่อง body-jet ใช้พลังงานน้ำฉีดพ่นเข้าไปแยกเซลล์ไขมันนั่นเอง ทำให้เลือดออกน้อย เซลล์ไขมันตายน้อย ได้ไขมันที่มีคุณภาพอีกเพียบ นอกจากนี้ ยังช่วยให้คนไข้รู้สึกเจ็บน้อย มีอาการบวมช้ำน้อย และหายไวที่สุด เมื่อเทียบกับการดูดไขมันด้วยเครื่องอื่น ๆ (ดูคลิป : body-jet เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ)
ขั้นตอนที่ 2 คัดแยกเซลล์ไขมัน
เซลล์ไขมันที่ได้มา จะมีทั้งเซลล์ไขมันที่ยังมีชีวิตอยู่ และเซลล์ไขมันที่ตายไปแล้วปะปนกันไป เพื่อให้ได้เซลล์ไขมันที่มีคุณภาพจริง ๆ เติมแล้วติดจริง ไม่ใช่ว่าดูดออกมาแล้วฉีดเข้าไปได้เลย หมอต้องเอาเซลล์ไขมันไปคัดแยกก่อน เพื่อเลือกเฉพาะเซลล์ไขมันที่ดีจริง ๆ มาก จากนั้นหมอก็จะเอาไขมันไปเข้ากระบวนการปั่นเซลล์ไขมัน เพื่อให้ไขมันมีขนาดเล็กลงตามที่หมอต้องการ (การฉีดในแต่ละบริเวณ จะใช้ขนาดของเซลล์ไขมันต่างกัน)
ขั้นตอนที่ 3 ฉีดไขมันหน้าอก
ที่ AMARA หมอจะใช้เทคนิคจากเกาหลี มีการวางเซลล์ไขมันในตำแหน่งที่เหมาะสม แก้ไขปัญหาหน้าอกอย่างตรงจุดในแต่ละเคส เช่นเคสที่หน้าอกหย่อนคล้อย หมอก็จะเน้นฉีดไขมันหน้าอกในตำแหน่งที่ช่วยเพิ่มความเต่งตึง ลดความหย่อนคล้อยได้ หรือในเคสที่ต้องการหน้าอกใหญ่ขึ้น หมอก็จะฉีดนมด้วยไขมันในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด เมื่อฉีดไขมันเสร็จแล้ว หมอก็จะแนะนำวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น และให้คนไข้นอนพักผ่อน ก่อนเดินทางกลับบ้านครับ
หลังฉีดไขมันหน้าอก มีอาการอย่างไร?
อาการที่เกิดขึ้นหลังฉีดไขมันจริง ๆ จะมีนิดเดียวเท่านั้นครับ คืออาการคัดเต้านม คล้าย ๆ กับตอนที่มีประจำเดือน รู้สึกแน่น ๆ ตึง ๆ เจ็บได้บ้างในช่วงแรก ๆ นอกจากนี้ก็จะเป็นอาการจากการที่เราดูดไขมันร่วมด้วยครับ เช่น อาการเวียนหัวคลื่นไส้หลังทำทันที (ดื่มน้ำมาก ๆ อาการจะดีขึ้น), มีน้ำไหลออกมาจากแผลดูดไขมันเยอะ (เป็นปกติครับ เพราะหมอใช้น้ำในการสลายไขมันเลยมีน้ำค้างอยู่ใต้ผิวได้บ้าง น้ำจะซึมออกจากแผลจนหมดภายใน 1-2 วันครับ) และจะมีอาการบวมช้ำ ฟกช้ำ เจ็บ ในบริเวณที่ดูดไขมัน
ฉีดไขมันหน้าอก ใช้ไขมันส่วนไหน?
ตอนที่คนไข้เข้ามาปรึกษา หมอจะสอบถามคนไข้ว่ามีความกังวลในส่วนไหนบ้าง พร้อมกับประเมินความต้องการของคนไข้ว่าอยากได้หน้าอกไซซ์เท่าไหร่ มีไขมันเพียงพอสำหรับนำไปเติมเสริมหน้าอกไหม และคนไข้มีฐานหน้าอกใหญ่ขนาดไหน เพราะการฉีดไขมันที่หน้าอก จะฉีดเข้าไปได้เท่าที่ฐานคนไข้สามารถรองรับได้เท่านั้น เคสคุณแม่หลักคลอดจึงสามารถฉีดนมด้วยไขมันได้มากกว่า เคสที่ยังไม่มีลูก เพราะฐานหน้าอกยังไม่ขยายตัว
ตำแหน่งที่นิยมดูดไขมัน
- ดูดไขมันหน้าท้อง
- ดูดไขมันเอวเอส
- ดูดไขมันต้นขาด้านใน
- ดูดไขมันต้นขาด้านนอก
ถ้าไขมันจากตำแหน่งเดียวไม่พอ หมอก็จะพิจารณาสัดส่วนอื่นเพิ่มเติม และแจ้งคนไข้ว่าต้องดูดไขมันจากส่วนอื่นด้วย ไขมันจึงจะเพียงพอต่อการนำไปฉีดเติม เมื่อตกลงและวางแผนเสร็จแล้ว หมอก็จะให้คนไข้ไปเตรียมร่างกายให้พร้อมและมาพบกันอีกครั้งในวันผ่าตัด
การดูแลตัวเองหลังฉีดไขมันเสริมอก
การดูแลตัวเองในช่วง 1 เดือนแรก หลังฉีดไขมันหน้าอก ต้องดูแลตัวเองให้ดีเป็นพิเศษนะครับ เพราะไขมันที่ฉีดเข้าไปจะติดมากติดน้อย สลายไปเยอะแค่ไหน เหลืออยู่เยอะแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้ด้วย นอกจากนี้ การกินอาหารที่หมอห้าม ยังทำให้แผลเสี่ยงติดเชื้อได้ด้วยนะครับ (อ่านเพิ่มเติม : วิธีดูแลตัวเองหลังเติมไขมัน)
- ทำความสะอาดแผลทุกวัน จนกว่าจะตัดไหม
- หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหน้า และนอนตะแคง
- งดบีบจับหน้าอก และป้องกันไม่ให้หน้าอกโดนแรงกระแทก
- ให้ใช้ซิลิโคนแปะหัวนม แทนการสวมบรา ในช่วง 1-3 วันแรก
- ไม่ใส่ชุดชั้นใน หรือเสื้อที่รัดช่วงอก (อาจทำให้ไขมันตายได้)
- หลังตัดไหม สามารถอาบน้ำและทาครีมได้ตามปกติ
- ช่วงที่ยังไม่ตัดไหมแผลดูดไขมัน งดให้แผลโดนน้ำ
- งดอาหารมักดอง อาหารไม่สุก อาหารทะเล อาหารแสลง
- ห้ามออกกำลังกาย และลดน้ำหนัก เพราะไขมันจะหายไปได้
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะส่งผลต่อการติดของไขมัน
- หลีกเลี่ยงไม่ให้หน้าอกอยู่ในที่ ๆ มีอุณหภูมิร้อนจัด หรือเย็นจัด
ฉีดไขมันหน้าอก ต้องนวดนมไหม?
การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน จะมีการนวดนมเพราะป้องกันพังผืดหดรัด และทำให้นมแข็งครับ หลังทำห้ามบีบนวดหรือขย้ำหน้าอกเด็ดขาด! เพราะไขมันที่ยังปลูกถ่ายไม่สำเร็จอาจจะตายได้ ดังนั้นในช่วง 1 เดือนแรก ที่รอให้เซลล์ไขมันติดเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเรา ต้องป้องกันไม่ให้หน้าอกของเราได้รับการกระทบกระเทือนนะครับ โดยเฉพาะการนอนต้องระวังให้มาก ห้ามนอนคว่ำหรือนอนตะแคง แนะนำให้นอนหงายไปก่อนนะครับ
ฉีดไขมันหน้าอกอยู่ได้นานไหม?
การฉีดไขมันหน้าอก ฉีดนม จะมีระยะเวลาในการปลูกถ่ายเซลล์ไขมันประมาณ 1 เดือน ในระหว่างนี้ไขมันอาจจะยุบลงไปได้บ้าง ประมาณ 10-30% โดยจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของเราด้วย หลังจาก 1 เดือนแล้ว ไขมันที่ปลูกถ่ายสำเร็จแล้ว ติดแล้ว ก็จะอยู่กับเราไปได้ตลอดชีวิต กลายเป็นเต้านมปกติของเราเลย ทั้งนี้ หมอก็จะมีการฉีดเผื่อไว้สำหรับหน้าอกจะยุบตัวอยู่แล้วนะครับ ไม่ต้องกังวล และสำหรับเคสที่อยากให้หน้าอกใหญ่ขึ้นอีกเรื่อย ๆ ก็สามารถเข้ามาฉีดซ้ำได้ครับ
ทำไมบางคนฉีดไขมันหน้าอกไม่ติด?
ในแต่ละบุคคลจะมีคุณภาพของเซลล์ไขมัน และพฤติกรรมการใช้ชีวิตแตกต่างกันครับ ถ้าให้พูดจากปัจจัยในฝั่งของคลินิก คือการเอาเซลล์ไขมันที่ไม่มีคุณภาพ หรือดูดจากเครื่องพลังความร้อนมาฉีดเข้าไปครับ และการดูแลตัวเองในช่วงหนึ่งเดือนแรกหลังฉีดนม ตามที่หมอได้แนะนำไปก็สำคัญมากครับ ที่สำคัญคือการที่เราออกกำลังกายลดน้ำหนัก หรือทำอะไรเพื่อให้เกิดการเผาผลาญของร่างกาย แน่นอนว่าไขมันบริเวณหน้าอกที่เราฉีดเข้าไป มีสิทธิ์ที่จะสลายไป เช่นเดียวกับไขมันในตำแหน่งอื่น ๆ ของร่างกายเหมือนกันครับ
เสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง มีแผลตรงไหนบ้าง?
แผลฉีดไขมันหน้าอกที่อยู่ใต้ฐานหน้าอก เล็ก ๆ เท่าหัวปากกา มีสองจุดใต้เต้านมทั้งสองข้าง และแผลจากการดูดไขมันออกมา ซึ่งแผลดูดไขมันจะมีขนาดประมาณ 3-4 มิลลิเมตร และมีจำนวนที่ขึ้นอยู่กับว่าเราดูดไขมันจากตรงไหนออกมานะครับ
เคสคนไข้ของหมอดูแลเรื่องแผลเต็มที่ ไม่มีทิ้งรอยแผลเป็นไว้แน่นอนครับ หมอมีทั้ง Pico Laser สำหรับเลเซอร์รอยดำ, IPL Laser เลเซอร์ลดรอยแดง, ฉีดลดคีย์ลอยด์ รวมไปถึงมีเจ้าหน้าที่คอยทำความสะอาดแผล และตัดไหมให้ทุกวันครับ
ฉีดไขมันหน้าอกได้เยอะไหม? กี่ซีซี?
ฉีดเติมไขมันหน้าอกจะไม่ได้ทำให้หน้าอกของเราใหญ่ขึ้นมากนะครับ หมอจะดูว่าฐานหน้าอกของคนไข้มีขนาดเท่าไหร่ก่อน จึงจะไปคำนวณปริมาณไขมันที่สามารถฉีดเข้าไปได้ โดยส่วนใหญ่แล้วการฉีดไขมันเพื่อเสริมหน้าอกจะใช้ไขมันประมาณ 200-300 ซีซี ต่อข้างครับ เคสคุณแม่ที่มีการให้นมลูกแล้ว จะสามารถฉีดหน้าอกได้เยอะกว่า เพราะมีการขยายตัวของฐานหน้าอกมาแล้วครับ ส่วนเคสที่ยังไม่มีลูก อาจจะฉีดหน้าอกได้น้อยกว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละเคสครับ ลองเข้ามาให้หมอประเมินได้นะครับ (แอดไลน์ : @amaraclinic)
เติมไขมันหน้าอกอันตรายไหม?
ฉีดไขมันหน้าอกอันตรายไหม? หมอขอตอบเลยว่าไม่อันตรายครับ ถ้าคนไข้เลือกฉีดหน้าอกกับคลินิกที่ได้มาตรฐานจริง ๆ การฉีดนมด้วยไขมัน หมอจะใช้แค่ไขมันของคนไข้ฉีดเข้าไปที่หน้าอกเท่านั้น ไม่ได้ใส่สารแปลกปลอมอื่น ๆ ของร่างกายเข้าไป ถ้าใช้ไขมันของตัวคนไข้เอง ที่มีอยู่เดิมในร่างกาย หมอรับรองว่าไม่เกิดการแพ้ใด ๆ แน่นอนครับ และเป็นเหตุผลว่าทำไม เราถึงไม่สามารถเอาไขมันจากคนอื่นมากเติมเต็มได้ เพราะร่างกายของเราจะถือว่าไขมันดังกล่าว เป็นสิ่งแปลกปลอมของร่างกาย และจะทำให้เราเกิดอาการแพ้ หรือติดเชื้อขึ้นมาได้ครับ
ในสมัยก่อนอาจจะมีเคสฉีดไขมันแล้วเสียชีวิต แต่ในปัจจุบันแทบไม่มีแล้วนะครับ ถ้าคลินิกมีการฆ่าเชื้อ ใช้เครื่องมือที่ถูกต้อง และมีวิสัญญีแพทย์ ก็ไม่มีความอันตรายใด ๆ เลยครับ แต่ในสมัยก่อนที่อันตรายมาก เพราะมีความล้าสมัยในเรื่องของเครื่องดูดไขมัน, วิธีการเก็บไขมัน, เทคนิคดูดไขมัน, เทคนิคฉีดไขมัน, ไม่มีการใช้ Tumescent และไม่มีการให้ยาระงับความเจ็บ แบบในปัจจุบันครับ
ฉีดไขมันหน้าอก ราคาเท่าไหร่?
ฉีดหน้าอก ฉีดนมที่ Amara Clinic จะเริ่มต้นที่ 49,900 บาท ซึ่งราคาดังกล่าวจะแปรผันไปตามสัดส่วน และจำนวนตำแหน่งในการดูดไขมันของแต่ละเคส โดยจะคิดเป็นราคาดูดไขมันพลังน้ำ body-jet เริ่มต้นที่ตำแหน่งละ 39,900 บาท (ถ้าคนไข้มีปริมาณไขมันเยอะ เป็นคนไซซ์ใหญ่ ราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามไซซ์) และราคาฉีดไขมันหน้าอก บวกเพิ่มจากราคาดูดไขมัน 10,000 บาท สอบถามโปรโมชั่นฉีดไขมันหน้าอกได้ที่ LINE : @amaraclinic
ราคาฉีดไขมันหน้าอก ล่าสุด
เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet | ราคาเริ่มต้น |
ดูดไขมันหน้าท้อง ราคา | 39,900 บาท |
ดูดไขมันเอวเอส ราคา | 39,900 บาท |
ดูดไขมันต้นขาด้านใน ราคา | 39,900 บาท |
ดูดไขมันต้นขาด้านนอก ราคา | 39,900 บาท |
ฉีดไขมันหน้าอก ราคา | +10,000 บาท |
หากต้องการฉีดไขมันหน้าอกกับคลินิกอื่น ๆ แนะนำให้ลองศึกษาข้อมูล และสอบถามราคาให้ดีว่า ราคานี้รวมค่าอะไรบ้าง? ต้องจ่ายอะไรเพิ่มบ้าง? เพราะมีหลายคลินิกที่ใช้ราคาถูกล่อลวงลูกค้า เมื่อเข้าไปแล้วต้องจ่ายค่าบริการอื่น ๆ อีกมากมาย ราคาไม่ตรงปก อีกทั้งยังไม่มีมาตรฐานอีกด้วย
ฉีดไขมันหน้าอกที่ไหนดี?
อันดับแรกเลยไม่ควรเลือกคลินิกดูดไขมัน หรือคลินิกฉีดไขมันที่ราคาเป็นหลัก หมอเข้าใจนะครับว่าหลาย ๆ คน อยากฉีดไขมันหน้าอกด้วยราคาที่ดีที่สุด ถูกที่สุด แต่ราคาที่ดีก็ควรจะมาควบคู่กับมาตรฐาน และผลลัพธ์ที่ดีครับ ถ้าราคาถูก แต่ทำให้หน้าอกเราเสียหาย ติดเชื้อ นมพัง แบบนี้ไม่ได้เลยนะครับ ควรพิจารณาจากหัวข้อต่าง ๆ ที่หมอได้พูดไป ในหัวข้อ “สิ่งที่ต้องรู้ก่อนฉีดไขมัน” แนะนำให้เข้าไปปรึกษา เพื่อดูความน่าเชื่อถือของแพทย์ และการบริการของเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมครับ
ทำไมต้องฉีดไขมันหน้าอก ที่ Amara
“หมอเป็นเจ้าของ AMARA ครับ ไม่ใช่นักธุรกิจที่จ้างแพทย์มาดูดไขมันหรือฉีดไขมันหน้าอก ดังนั้นหมอจึงเลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุด สำหรับคนไข้ของหมอทุกเคสอยู่แล้วครับ หมอลงทุนเต็มที่ เลือกใช้แต่เครื่องมือที่มีความทันสมัย เทคโนโลยีใหม่เป็นเครื่องรุ่นใหม่ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองด้านผลลัพธ์และความปลอดภัยครับ และเราจะไม่ยอมลดมาตรฐานทุกอย่างลงแน่นอน” — หมอไอซ์ —
AMARA ศูนย์ดูดไขมัน ฉีดไขมัน ปรับรูปร่าง กระชับสัดส่วนเฉพาะทาง นำโดยคุณหมอไอซ์ และคุณหมอมะปราง ที่เป็น KOL อาจารย์แพทย์ด้านการดูดไขมันเติมไขมัน ด้วยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet ประจำประเทศไทย ซึ่งทีมแพทย์ AMARA จบหลักสูตรการฉีดไขมันระดับสูงจากประเทศเกาหลี มีความละเอียดประณีตสูง และมีเทคนิคแบบเฉพาะตัวอีกด้วย
AMARA ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ เว็บไซต์ และบริษัทต่าง ๆ มากมาย เราเป็น Body-jet Education Center หรือศูนย์การสอนดูดไขมัน-เติมไขมัน ด้วยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet ที่ไม่ว่าคลินิกดูดไขมันที่ไหนก็ตาม ที่ต้องการใช้เครื่อง body-jet ในการดูดไขมันหรือฉีดไขมัน จะต้องมีการเรียนรู้กับเราเท่านั้น
ความพิเศษของ Amara
- รับประกันผลงาน การันตีผลลัพธ์
- เน้นความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- แพทย์ออกแบบรูปร่างเฉพาะบุคคล
- แพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางโดยตรง
- แพทย์ติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง
- ห้องผ่าตัดมาตรฐานโรงพยาบาล
- ฆ่าเชื้อเครื่องมืออย่างดีที่สุด
- เครื่องมือทันสมัยมากที่สุด
- มีบริการ After Care ครบครัน
- มีทีมวิสัญญีแพทย์และพยาบาล
- มีรีวิวฉีดไขมันหน้าอกเยอะที่สุดในไทย
รีวิวฉีดไขมันหน้าอก ที่ AMARA Clinic
แชร์ประสบการณ์ฉีดไขมันหน้าอก เสริมหน้าอกให้มีขนาดใหญ่ เต่งตึง รูปทรงสวย ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
ต้องการปรึกษาแพทย์ฟรี!
SCan OR Code เพื่อแอดไลน์ หรือ
สาขา รัชโยธิน กด 1
สาขา ราชพฤกษ์ กด 2
สรุปเรื่องฉีดไขมันหน้าอก
หวังว่าบทความนี้จะช่วยประกอบการตัดสินใจเลือกฉีดไขมันหน้าอก และคลายข้อสงสัยในเรื่องต่าง ๆ เช่น เติมไขมันหน้าอกดีไหม? ฉีดนมราคาเท่าไหร่? เสริมหน้าอกด้วยไขมันตนเองควรทำที่ไหนดี? หรือฉีดแล้วอยู่ได้นานไหม? ให้กับหลาย ๆ คนได้นะครับ ใครที่อยากรู้ว่าเราเหมาะกับการเติมไขมันหน้าอกรึเปล่า หรือจะเสริมหน้าอกซิลิโคนเลยดี ลองเข้ามาปรึกษาหมอก่อนได้นะครับ หมอยินดีให้คำปรึกษาฟรีทุกเคสครับ
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB
ติดต่อเบอร์โทร :
062-789-1999⇒ สาขา รัชโยธิน กด 1
⇒ สาขา ราชพฤกษ์ กด 2
นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)
KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet