ในสมัยนี้ผู้หญิงก็หันมาดูแลรูปร่างกันมากขึ้นนะครับ ไม่ใช่แค่การทำรูปร่างให้ผอมลง หรือทำให้หุ่นดูเพรียวแค่อย่างเดียว แต่เป็นการทำให้หุ่นดูเฟิร์มขึ้นด้วย เพื่อให้รูปร่างดู Sexy ขึ้น และอินเทรนด์กับการเป็นสาวรักสุขภาพนั่นเองครับ เมื่อพูดถึงหุ่นที่เฟิร์มคนส่วนใหญ่จะคิดถึงการออกกำลังกายเป็นอันดับแรกแน่นอน ซึ่งหมอก็เข้าใจดีนะครับว่า ไม่ใช่สาว ๆ ทุกคนที่จะสะดวกออกกำลังกาย ดังนั้น หมอเลยจะมาแนะนำวิธีปั้นหุ่นเฟิร์มแบบที่ไม่ต้องเสียแรงออกกำลังกายเลยครับ เหมาะกับคนที่เวลาน้อย ไม่สะดวกออกกำลังกาย และอยากได้หุ่นสวย ๆ ในเวลา 1 เดือนมาก ๆ – โดยหมอไอซ์ Amara Clinic
หุ่นเฟิร์มคืออะไร?
หุ่นเฟิร์ม คือหุ่นที่มีความกระชับดูสุขภาพดี ไม่ใช่ว่าหุ่นเฟิร์มคือคนที่มีรูปร่างผอม หรือน้ำหนักน้อย อย่างที่ใครหลาย ๆ คนเข้าใจกันนะครับ ซึ่งความเฟิร์มนี้จะสั่งเกตได้ว่า เวลาเรามองแล้วมันดูมีความกระชับ มีกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แข็งแรงจากภายใน สุขภาพผิวดี เต่งตึง ไม่หย่อนคล้อยหรือมีปัญหาผิวย้วย อีกทั้งยังทำให้ดูเป็นคนที่มีสุขภาพที่ดีด้วย ส่วนใหญ่คนจะเน้นความเฟิร์มบริเวณหน้าท้องเป็นหลัก เนื่องจากเป็นจุดที่เห็นได้อย่างชัดเจน หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักเป็นอย่างดีก็คือ กล้ามหน้าท้องผู้หญิง, Sexy Line หรือร่อง 11 นั่นเองครับ
ทั้งนี้ หุ่นเฟิร์มก็มีอยู่หลายแบบครับ แล้วแต่ว่าคนแต่ละคนจะมองและนิยามคำว่า “หุ่นที่เฟิร์ม” ในแบบฉบับของตัวเองอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น หุ่นเฟิร์มแบบที่ 1 คือคนที่ตัวเล็ก รูปร่างดูเพรียว แต่หน้าท้องเฟิร์มกระชับ เผยกล้ามหน้าท้องหรือวีไลน์แบบเบา ๆ , แบบที่ 2 คือคนที่มีรูปร่างสมส่วน สัดส่วนกระชับ ไม่ผอมเกินไป ไม่อ้วนเกินไป หรือแบบที่ 3 คือ คนที่มีกล้ามเนื้อหน้าท้องแบบแน่น ๆ มีซิกแพคชัดเจน และผิวลีนกระชับมาก เป็นต้นครับ
ข้อดีของการมีหุ่นเฟิร์มรูปร่างดี
- ดูเป็นคนรักสุขภาพ ใส่ใจในรูปร่าง
- เพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเอง ดู Sexy ขึ้น
- หุ่นเฟิร์มกระชับ น่าหลงใหล
- หน้าท้องแบนราบ มีเอวเอส
- มีกล้ามหน้าท้องแบบสวย ๆ
สร้างหุ่นเฟิร์มด้วยการดูดไขมัน
การดูดไขมัน (Liposuction) ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการสร้างหุ่นสุดเฟิร์มแบบประหยัดเวลานะครับ คือหมอสามารถทำให้หน้าท้องแบนราบ ไม่มีไขมัน และสร้างร่อง 11 ให้คนไข้ได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งการดูดไขมันหน้าท้อง มันทำให้หุ่นดูเฟิร์มได้อย่างไร? ต้องขอบอกว่าขึ้นอยู่กับแต่ละคนครับ ต้องเข้ามาให้หมอประเมินก่อนว่าสามารถทำได้ไหม หมอจะยกตัวอย่างเคสดูดไขมันของคนไข้หมอให้เห็นกันชัด ๆ นะครับ แบบเคสแบบไหนที่สามารถดูดไขมันปั้นหุ่นเฟิร์มได้ หรือเคสแบบไหนที่ยังไม่เหมาะสมในตอนนี้บ้าง
เคสเหมาะกับการดูดไขมันหุ่นเฟิร์ม
เคสที่สามารถดูดไขมัน สำหรับปั้นหุ่นให้เฟิร์ม ๆ ได้เลย มักจะเป็นเคสที่ตัวเล็กอยู่แล้ว แต่อาจจะมีพุงหมาน้อย หรือไขมันส่วนเกินอยู่, เคสที่เป็นสาวอวบ มีผิวเต่งตึงสุขภาพดีไม่ย้วย หรือเคสที่ออกกำลังกายแล้ว ไขมันหน้าท้องไม่หายไป เลยทำให้หุ่นดูไม่เป๊ะเป็นต้น
เคสคนตัวใหญ ทำหุ่นเฟิร์มได้ไหม?
เคสที่ตัวใหญ่มาก ๆ เพราะมีไขมันสะสมที่หน้าท้องเยอะ หมอจะดูดไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ออกมาก่อน เพื่อให้หน้าท้องเล็กลง หรือรอบเอวมีขนาดเล็กลง แต่ถ้าคนไข้ต้องการกล้ามหน้าท้อง หรือหุ่นเฟิร์มมาก ๆ อาจจะยากนิดนึงครับ เนื่องจากยิ่งดูดไขมันหน้าท้องออกมาได้เยอะแค่ไหน ก็อาจจะทำให้ผิวมีความหย่อนคล้อยมากเท่านั้น (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิมของคนไข้ และเครื่องมือที่ใช้ด้วยครับ)
ถ้าคนไข้อยากจะได้ Sexy Line หรือร่อง 11 แบบเป๊ะ ๆ เลย จะต้องอาศัยผิวที่ตึงกระชับ และไม่มีไขมันส่วนเกินหลงเหลืออยู่เลย ไม่งั้นมันจะดูไม่สวย และไม่เป็นธรรมชาติได้ครับ ประกอบกับบางเคสอาจจะมีไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ที่ไม่สามารถดูดไขมันออกมาได้ร่วมด้วย (เคสที่มีไขมันในช่องท้อง หน้าท้องมักจะไม่ได้แบนราบลงไปเหมือนคนตัวเล็ก จะยังมีความป่อง ๆ อยู่)
ดังนั้น ตัวช่วยที่จะทำให้หุ่นเฟิร์มของเคสนี้แบบนี้ ได้คือการยกกระชับผิวที่ย้วยให้เฟิร์มขึ้นด้วย J Plasma (เดี๋ยวหมอจะอธิบายในหัวข้อถัดไปนะครับ ว่า J Plasma มันคืออะไร) หรือการดูดไขมันหน้าท้องออกไปก่อน จากนั้นคนไข้ก็จะต้องหมั่นปรับพฤติกรรมการกิน หรือออกกำลังกายร่วมด้วย เพื่อลดไขมันในช่องท้อง และสร้างหุ่นสุดเฟิร์มแบบธรรมชาติ เป็นต้น (หรือจะมาทำ J Plasma ก็ได้นะครับ)
แนะนำเครื่องดูดไขมันปั้นหุ่นเฟิร์ม
- Body-jet เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ สำหรับคนที่อยากเติมไขมันด้วย
- Vaser Smooth 2.2 เครื่องดูดไขมัน Vaser รุ่นใหม่ล่าสุด
- Ultra Z เครื่องดูดไขมันยอดฮิต จากประเทศเกาหลี
ข้อดีของการดูดไขมัน
- สัดส่วนมีขนาดเล็กลงทันทีหลังทำ
- เห็นผลชัดเจน หุ่นเปลี่ยนไปจริง
- ใช้เวลาในการดูดไขมันไม่กี่ชั่วโมง
- หากวางยาสลบ จะไม่รู้สึกเจ็บเลย
- ไม่ต้องเหนื่อยออกกำลังกายนาน ๆ
- เสื้อผ้าเล็กลง อย่างน้อย 1 ไซซ์
ข้อเสียของการดูดไขมัน
- ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นหลายวัน
- มีอาการเจ็บ ระบมช้ำ ในช่วงแรก
- คนไข้ดูแลตัวเองหลังดูดไขมันต่อ
- ต้องเข้ามาทำ After Care ตามนัด
- ค่าใช้จ่ายแตกต่างกันในแต่ละเคส
- ต้องเลือกคลินิกดูดไขมันที่มีมาตรฐาน
บทความที่เกี่ยวข้อง
- อยากฉีดไขมัน แต่กลัวพัง ไม่ปลอดภัย! อ่านคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ ฉีดไขมันที่ไหนดี
ปั้นหุ่นเฟิร์มด้วยการทำ J Plasma
การทำ J Plasma (เจพลาสมา) เป็นการยกกระชับผิว หรือทำให้ผิวมีความเต่งตึงขึ้นในทันที ไม่ได้ช่วยในการดูดไขมันออกมา แต่สามารถทำร่วมกับการดูดไขมันได้เลย (ถ้าใช้ J Plasma ร่วมกับ Body-jet จะเรียกว่าเทคนิค Plasma Jet ครับ) โดยไม่ต้องเปิดแผลผ่าตัดเพิ่ม ช่วยปรับสภาพผิวที่หย่อนคล้อย มีความเหี่ยวย่นในระดับปานกลาง ให้กลายเป็นความเต่งตึง ซึ่งความตึงของผิวนี้แหละครับ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณผู้หญิงหุ่นดีขึ้นได้ในทันที
เครื่อง J Plasma นี้นะครับ นับเป็นนวัตกรรมใหม่ของวงการศัลยกรรมเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวโดยตรง ใหม่ล่าสุด ใช้พลังงานและได้ผลลัพธ์หลังทำที่ไม่เหมือนเครื่องมืออื่น ๆ เลย คือการผสานตัวกันระหว่างคลื่นความถี่วิทยุ (RF) และ แก๊สเฉื่อยที่มีความเย็น (Helium Plasma) ดังนั้น จึงทำให้เครื่อง J Plasma สามารถผลิตความร้อนได้สูงถึง 85°C อย่างที่ไม่เคยมีเครื่องไหนทำได้มาก่อน
ซึ่งพลังงานความร้อนนี้ จะถูกยิงตรงไปที่เส้นใยภายใต้ผิว (เส้นใยที่ยึดผิวให้ติดกัน ซึ่งในคนผิวย้วย จะมีเส้นใยนี้แบบหลวม ๆ เหมือนภาพซ้ายมือครับ) เมื่อพลังงานสัมผัสกับเส้นใย เส้นใยจะหดตัวลง ทำให้ผิวกระชับขึ้นในทันที ส่งผลทำให้รูปร่างเฟิร์มได้ตามที่ต้องการ แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าความร้อนสูงขนาดนี้ จะทำให้ผิวไหม้ไหมนะครับ เพราะว่าหลังจากยิงพลังงานเสร็จ ตัวท่อจะลดอุณหภูมิลงในเสี้ยววิ เลยไม่ต้องเสี้ยวผิวเบิร์นหรือผิวไหม้เลย อีกทั้งจากการวิจัยจริงยังบอกอีกว่า หลังทำ J Plasma จะได้ผลลัพธ์เทียบเท่ากับ 80% ของการตัดหนังหน้าท้องเลย
J Plasma ไม่ได้มาแทนทีการตัดหนังหน้าท้อง (Tummy Tuck) นะครับ เคสที่ย้วยมาก ๆ หมอก็แนะนำให้ตัดหน้าท้องมากกว่า ซึ่งตัวนี้จะเป็นการลดข้อเสียของการผ่าตัดหนังหน้าท้องลงมากกว่าครับ ทั้งเรื่องของขนาดแผล การเสียเลือด ความเจ็บ และระยะเวลาในการฟื้นตัวลง นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มข้อดีในการทำกระชับผิวจากภายในอย่างตรงจุดโดยเฉพาะ ไม่เหมือนเครื่องดูดไขมันกระชับผิวที่สามารถกระชับผิวในชั้นตื้น ๆ ได้เท่านั้น
ข้อดีของการทำ J Plasma
- ผิวกระชับ หุ่นกระชับขึ้นทันที 10-30%
- ผิวค่อย ๆ กระชับขึ้นตลอด 3-6 เดือน
- กระชับผิวได้ทุกสัดส่วนในร่างกาย
- แผลเล็กเพียง 3-4 มิลลิเมตรเท่านั้น
- กระชับแล้วกระชับเลย ไม่ต้องทำซ้ำ
- ผลลัพธ์อยู่ได้หลายปี จนถึงถาวร
- ลดผลข้างเคียงของการดูดไขมันได้
ข้อเสียของการทำ J Plasma
- ค่าใช้จ่ายปานกลาง-สูง เนื่องจากต้นทุนสูง
- อุปกรณ์ใช้ครั้งเดียวทิ้ง เพื่อความปลอดภัย
- มีข้อจำกัดสำหรับคนที่มีโรคประจำตัวบางโรค
ปั้นหุ่นเฟิร์มด้วย J Plasma เหมาะกับใคร?
- เคสคนตัวเล็ก ออกกำลังกายมานาน แต่กล้ามหน้าท้องไม่ขึ้น
- เคสคุณแม่หลังคลอด มีผิวหย่อนคล้อยจากการตั้งครรภ์
- เคสที่เคยเป็นคนอ้วน หรือมีน้ำหนักตัวมาก ๆ มาก่อน
- เคสที่ดูดไขมันออกไปเยอะ และมีแนวโน้มที่ผิวจะย้วย
เสริมหุ่นเฟิร์มด้วยวิธีอื่น ๆ
- การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ควบคู่กับเวทเทรนนิ่ง
- ออกกำลังกายแบบไม่หักโหม หยุดพักกล้ามเนื้อสัปดาห์ละ 1 วัน
- ปรับพฤติกรรมการกินอาหารใหม่ เลือกกินมากขึ้น
- กินเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เพิ่มโปรตีนในการสร้างกล้ามเนื้อ
- ลดการกินแป้ง น้ำตาล หรืออาหารที่มีไขมันร้าย
- กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสม
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง
สรุปวิธีสร้างหุ่นเฟิร์มแบบเร่งด่วน
ใครที่อยากหุ่นที่ดูเฟิร์มแบบเร่งด่วนทันใจ โดยที่ไม่ต้องเหนื่อยออกกำลังกายเลย หมอก็แนะนำการดูดไขมัน (เช่น การดูดไขมันหน้าท้อง, ดูดไขมันเอวเอส และทำ Sexy Line ร่วมด้วย) และการยกกระชับผิวให้เฟิร์มมากกว่าเดิมด้วย J Plasma เลยครับ ใช้เวลาในการทำเพียง 2-3 ชั่วโมง และใช้เวลาในการเข้าที่เพียง 1 เดือนเท่านั้นเอง ถือว่ารวดเร็วและเห็นผลชัดมาก ๆ ครับ ทั้งนี้ ตัวอย่างและวิธีการรักษาที่หมอได้พูดไป เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ถ้าอยากรู้รายละเอียดในการรักษา แบบเจาะจงเฉพาะเคสของเรา คนไข้จะต้องเข้ามาประเมินกับหมอโดยตรงนะครับ หมอถึงจะสามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสมที่สุด และประเมินค่าใช้จ่ายให้ได้นั่นเอง
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic