1. ไม่กินข้าวเช้า น้ำหนักเพิ่มง่าย

ยิ่งอดข้าวเช้า = ยิ่งอ้วนขึ้น เรื่องนี้เป็นหนึ่งในผลเสียหลังอดข้าวเช้า ที่ได้รับการวิจัยและศึกษาจากนักโภชนาการทั่วโลกเลยค่ะ อย่างคุณ Mary Sabat, RD, LD ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและโรคอ้วน เธอได้กล่าวว่า

“ในกลุ่มคนที่ไม่กินมื้อเช้า พวกเขามีแนวโน้มที่จะกินมากเกินไปในช่วงเย็น
หรือตอนกลางคืน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ ร่างกายของคนเราไม่ต้องการแคลอรี่ส่วนเกินที่มากขนาดนั้น
ทำให้เกิดเป็นปัญหาไขมันและโรคอ้วนในอนาคต” 
(Cr. Mary Sabat, RD, LD)

ใครที่ไม่เคยกินข้าวเช้าเลย หรือ รู้สึกไม่หิวข้าวเช้า แล้วพบว่าน้ำหนักตัวลดยากมาก ๆ หรือกินอะไรไปนิดเดียวน้ำหนักตัวก็เพิ่มขึ้นสะแล้ว นั่นอาจมีสาเหตุมาจากการอดอาหารในมื้อที่สำคัญของร่างกายไปนั่นเองค่ะ ทำให้พฤติกรรมการกินตลอดวันผิดเพี้ยนและไปหนักมื้อเย็นแทน สุดท้ายก็วนมาเป็นปัญหาในมื้อเช้าถัดไป วนลูปเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ

2. ส่งผลต่อการเผาผลาญของร่างกาย

ไม่กินข้าวเช้า ผลเสียให้ปริมาณเมตาบอลิซึม (Metabolism) ในร่างกายน้อยลง ทำให้ระบบเผาผลาญภายในร่างกายเกิดการบกพร่อง ร่างกายจึงย่อยอาหารได้ไม่ดี และเป็นผลให้เกิดปัญหาโรคท้องผูกที่รุนแรงขึ้นในอนาคตได้ ดังนั้นการเริ่มต้นวันด้วยการกินมื้อเช้า จะช่วยให้ร่างกายมีพลังงานมากเพียงพอที่ระบบต่าง ๆ จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นค่ะ 

3. ไม่กินข้าวเช้ามีผลเสียต่อหัวใจ

การไม่กินข้าวเช้าสามารถส่งผลเสียต่อหัวใจอย่างมาก จากการศึกษาของของ Journal of the American Medical Association (JAMA) พบว่าผู้ที่ไม่กินข้าวเช้ามีโอกาสที่จะเกิดปัญหาหัวใจวายได้มากกว่าคนที่ทานมื้อเช้าเป็นประจำถึง 27% นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อร่างกายไม่ได้รับสารอาหารในตอนเช้า คอร์ติซอลในร่างกายจะเพิ่มมากขึ้น ทำให้ความดันโลหิตสูง จนเกิดเป็นปัญหาเส้นเลือดอุดตันและก่อให้เกิดโรคหัวใจในอนาคตได้

4. นาฬิกาชีวิตพัง 

คนเรามีนาฬิกาชีวิตเป็นของตัวเองจริง ๆ ค่ะ ในทางการแพทย์เราเรียกสิ่งนี้ว่า Body-Clock ซึ่งเป็นนาฬิกาที่บ่งบอกถึงการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย ซึ่งนาฬิกาชีวิตของคนเราที่พร้อมสำหรับการรับสารอาหารคือช่วงเวลา 07.00-09.00 น. ซึ่งถือเป็นเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการกินอาหารเช้า เมื่อร่างกายของเราข้ามมื้อนี้ไป จะทำให้ร่างกายดูดซึมของเสียไปใช้งานในระหว่างวัน ทำให้ร่างกายไม่สดใส และยังมีผลกระทบต่อการทำงานของนาฬิกาชีวิต หลายคนที่มีพฤติกรรมไม่กินข้าวเช้าจึงส่งผลเสียต่อนาฬิกาชีวิตได้นั่นเองค่ะ 

อ่านเพิ่ม…นาฬิกาชีวิต สำคัญต่อร่างกายอย่างไร? 

5. มีโอกาสเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 

สำหรับสาว ๆ ที่ไม่ชอบการกินข้าวเช้า หรือ ในชีวิตนี้ไม่เคยกินข้าวเช้าเลย ขอเตือนเลยว่านี้เป็นไลฟ์สไตล์ที่อันตรายมาก ๆ ค่ะ เพราะในผู้หญิงที่ไม่กินมื้อเช้ามีโอกาสที่จะเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มากกว่าเพศชาย จากการศึกษาของ Harvard University School of Public Health ได้ทดลองในผู้หญิงจำนวน 46,289 คนที่ไม่กินข้าวเช้ามานาน พบว่าปริมาณการหลั่งของอินซูลิน (Insulin) ในร่างกายมีปริมาณที่มากขึ้นกว่าปกติ ทำให้หิวระหว่างวันบ่อยขึ้น ติดหวาน และกลายเป็นเบาหวานในอนาคตได้ค่ะ 

6. อ่อนล้า อ่านเพลียระหว่างวันง่าย

ยิ่งอดข้าวเช้ายิ่งทำให้พลังงานระหว่างวันลดน้อยลงตามไปด้วยค่ะ แม้ว่าเราจะมาทานเยอะในมื้อกลางวันแล้วก็ตาม นั่นเป็นเพราะว่าในช่วงเช้าที่ร่างกายอดอาหารมานานหลายชั่วโมง ทำให้ร่างกายหลังตื่นนอนเป็นช่วงที่ร่างกายจะดูดซึมสารอาหารไปใช้ระหว่างวันได้ดีที่สุด เมื่อเราไม่กินข้าวเช้า ร่างกายจะดูดสารอาหารจากกากใยอาหารที่ยังไม่ได้ถ่ายไปใช้แทน ทำให้สมองไม่สดชื่น ร่างกายอ่อนเพลีย และรู้สึกไม่แจ่มใสตลอดทั้งวัน 

7. เสี่ยงต่อโรคมะเร็ง

ไม่กินข้าวเช้า ผลเสียเสี่ยงเป็นมะเร็ง เกินจริงไปไหม! ขอบอกเลยว่าไม่เกินจริงและเป็นเรื่องที่มีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมากเลยค่ะ โดยจุดเริ่มต้นของความเสี่ยงนี้มาจากการที่คุณอดข้าวเช้า ส่งผลให้อินซูลินเพิ่มขึ้น หิวระหว่างวันบ่อยขึ้น กินจุกจิก ไม่เป็นเวลา เมื่อยังไม่ปรับพฤติกรรมนี้จะส่งผลให้เกิดโรคอ้วน ซึ่งในกลุ่มคนที่มีน้ำหนักตัวเข้าเกณฑ์โรคอ้วนมีงานวิจัยหลายตัวที่รับรองว่า คนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดเป็นโรคมะเร็งได้มากกว่าคนทั่วไปนั่นเองค่ะ เรียกว่าน้ำผึ้งหยดเดียวแต่กระทบเป็นวงกว้างได้เลยค่ะ 

เช็กด่วน!…อาการที่สื่อว่าคุณกำลังอยู่ใน “ภาวะโรคอ้วน”

8. ผมร่วง

การไม่ทานอาหารเช้าสามารถทำให้อาการผมร่วงแย่ลงได้ เนื่องจากโปรตีนในเลือดจะน้อยลง ทำให้เคราตินในเส้นผมที่มีองค์ประกอบหลักจากโปรตีนน้องลงตามไปด้วย ส่งผลเส้นผมขาดและหลุดร่วงได้ง่ายยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ ใครที่ไม่อยากให้ผมร่วงจนเต็มพื้นห้องก็ต้องลองหันมาทานมื้อเช้ากันให้มากขึ้นนะคะ 

9. ผิวโทรม ดูแก่ก่อนวัย

ไม่กินข้าวเช้าหน้าแก่! อีกผลเสียจากการไม่กินข้าวเช้า ที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงก็คือ ปัญหาผิวที่เสื่อมโทรมมากขึ้น สาเหตุที่ทำให้ผิวของเราดูไม่สดใสจากการไม่กินมื้อเช้าเป็นเพราะว่า ในผู้ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้มักมีปัญหาท้องผูก หรือ ขับถ่ายไม่เป็นเวลา ทำให้ร่างกายที่จะต้องดูดซึมสารอาหารที่ดีไปเลี้ยงผิวหนัง หรือ ผลิตคอลลาเจน ไม่สามารถทำหน้าที่ตรงนี้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดการดูดซึมของเสียมาใช้แทน ผิวหนังจึงดูโทรมลงได้นั่นเองค่ะ

เกร็ดน่ารู้! กินผลไม้แทนข้าวเช้า ดีไหม? 

      การเลือกกินผลไม้แทนข้าวเช้าแบบ 100% ถือเป็นสิ่งที่แพทย์ไม่แนะนำเท่าที่ควร เนื่องจากในผลไม้มีความเป็นกรดสูงสามารถส่งผลต่อกระเพราะอาหารที่ว่างจากอาหารได้ ทำให้เกิดอาการท้องอืดหรือท้องเสียได้ แต่ควรเลือกกินมื้อเช้าที่มีโปรตีนและคาร์บเป็นหลัก เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานที่เพียงพอต่อวัน และอาจเสริมด้วยผักได้เล็กน้อย ดังนั้นมื้ออาหารที่แนะนำสำหรับมื้อเช้าหลัก ๆ มีดังนี้

• โปรตีนจากไข่และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน 
• กล้วยหอมกับนม
• ธัญพืชและแป้งไม่ขัดสี

เวลาช่วงเช้าที่ทั้งเร่งรีบและมีน้อยนิด จนทำให้หลายคนเลือกที่จะอดอาหารในมื้อเช้าไป ซึ่งแม้ว่าพฤติกรรมนี้จะดูเหมือนตรงกับคำแปล Breakfast ในภาษาอังกฤษ  ที่หากแปลง่าย ๆ แล้วให้ความหมายว่าช่วงเวลาแห่งการอดอาหาร แต่จริง ๆ แล้วคำว่า “Breakfast” ต้องการสื่อถึง การทำลายช่วงเวลาที่ต้องอดอาหารมานานหลายชั่วโมงจากการนอน อีกทั้งมื้อนี้ยังเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวันและช่วยเสริมสร้างพลังให้กับร่างกายและจิตใจได้อย่างมากเลยค่ะ

ประโยชน์จากการกินข้าวเช้า

• ช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานที่เพียงพอต่อวัน 
• ร่างกายสามารถดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในตลอดวันได้อย่างเต็มที่
• รักษาสภาวะของน้ำหนักตัว น้ำหนักขึ้นยาก 
• ช่วยลดปัญหาท้องผูก รักษาระบบการขับถ่ายที่ดี
• ลดความหิวระหว่างวันได้เยอะ 
• ช่วยเสริมสร้างและพัฒนาการทำงานของสมอง 
• ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายในอนาคต 
• ผิวหนังมีสุขภาพที่ดี ไม่เสื่อมโทรมเร็วกว่าวัย 
• จิตใจแจ่มใสพร้อมเริ่มวันใหม่