จะสวยเป๊ะทั้งที ต้องเตรียมตัวก่อนดูดไขมันยังไงบ้างนะ?

        การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เรามีความพร้อมในการดูดไขมัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย และทำให้เราดูแลตัวเองได้ง่ายขึ้นด้วย วันนี้ หมอไอซ์ AMARA Liposuction Center จะพามาดูข้อปฏิบัติตัวก่อนดูดไขมันแบบละเอียดกันครับ

ข้อปฏิบัติตัวก่อนดูดไขมัน 1 สัปดาห์

• ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการดูดไขมันให้ละเอียด

  การดูดไขมันนั้นมีข้อควรรู้หลายอย่างเลยครับ ก่อนจะตัดสินใจ เราจึงต้องทำความเข้าใจกับมันก่อน เพื่อให้การเตรียมตัวก่อนดูดไขมันของเรา เป็นแหล่งข้อมูลที่สามารถรับมือกับผลลัพธ์ ผลข้างเคียง ขั้นตอน หรือกระบวนการอื่น ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา รายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้เราได้เข้าใจการดูดไขมันมากยิ่งขึ้น

  อีกอย่างหนึ่งที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดกันก็คือ การดูดไขมันไม่ใช่การลดน้ำหนัก แต่เป็นการลดสัดส่วนอย่างเดียวครับ และถึงแม้จะลด ก็ไม่ได้ลงเยอะขนาดนั้น เพราะมวลไขมันมีน้ำหนักน้อยเมื่อเทียบกับขนาด หลังดูดไขมันจึงอาจจะไม่ได้น้ำหนักเท่าที่หวังเอาไว้ แต่สัดส่วนมันเปลี่ยนชัดเจนแน่นอน

• เตรียมข้อมูลส่วนตัวเพื่อวางแผนการดูดไขมัน

  ในส่วนนี้ต้องเตรียมข้อมูลหลายอย่างเลยครับ ทั้งประวัติทางสุขภาพ การใช้ชีวิตประจำวัน อาหารที่ทานบ่อย ๆ งานที่ทำ หรืออื่น ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลประกอบการวางแผนและประเมินการดูดไขมันต่อไป ดังนี้

• ตรวจสุขภาพสำหรับเข้ารับการผ่าตัด
• ประวัติโรคประจำตัวหรือโรคร้ายแรง
• ประวัติการใช้ยาต่าง ๆ เป็นประจำ
• ประวัติการเข้ารับการผ่าตัดก่อนหน้า
• ประวัติการแพ้ยาหรืออาหาร

• ปรับอาหารและอื่น ๆ ก่อนดูดไขมัน

  ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เราจะต้องปรับการกินกันสักนิดนึงครับ โดยเฉพาะผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นประจำ จะต้องงดไปก่อนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะสารต่าง ๆ อาจจะไปยับยั้งระบบการทำงานอื่น ๆ ซี่งส่งผลให้ฟื้นตัวช้าในภายหลัง

  นอกจากนี้ เราอาจจะต้องงดการทานยาและอาหารเสริมบางชนิด ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดด้วย ยกตัวอย่างเช่น ยาแก้ปวด แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ยาละลายลิ่มเลือด ยาต้านซึมเศร้า วิตามินอี วิตามินซี วิตามินดี น้ำมันตับปลา และอื่น ๆ (ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนดูดไขมัน) ระหว่างนี้แนะนำให้ดื่มน้ำให้เพียงพอ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยให้เซลล์แข็งแรง เน้นโปรตีนก็ได้ครับ

• วางแผนการพักฟื้นให้เรียบร้อย

  หากเราดูดไขมันไปแล้ว ไม่ใช่ว่าเราจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติเลยนะครับ เพราะร่างกายจะยังมีการอักเสบอยู่บ้าง ทำให้มีอาการบวมหลังดูดไขมันในช่วง 1-3 วันแรก ดังนั้น เราจึงต้องวางแผนเพื่อจัดสรรเวลาพักฟื้นให้ดี โดยเฉพาะคนที่ต้องไปทำงานข้างนอก

  เบื้องต้น หมอแนะนำให้ลางานไปก่อนอย่างน้อย 3 วัน ระหว่างนี้แพทย์จะมีการจ่ายยาต่าง ๆ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีให้กลับไปทานที่บ้านด้วย และทำตามคำแนะนำของแพทย์เกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังดูดไขมันอย่างเคร่งครัด

• เตรียมชุดกระชับสำหรับใส่หลังดูดไขมันไว้ด้วย

  หลังดูดไขมัน ผิวของเราจะเกิดช่องว่าง และทำให้มีการผลิตน้ำออกมาใต้ผิว ซึ่งเป็นกระบวนการปกติของร่างกายครับ แต่ทั้งนี้ ถ้าเราปล่อยให้มีน้ำขังอยู่ระหว่างช่องว่างนั้น มันอาจจะทำให้ผิวเป็นคลื่น ไม่เรียบเนียน หรือกลายเป็นก้อนน้ำใต้ผิว (Seroma) ได้

  ดังนั้น ก่อนดูดไขมัน เตรียมตัวซื้อชุดกระชับสำหรับใส่หลังดูดไขมันเอาไว้ให้เรียบร้อย เพราะแพทย์จะต้องสวมใส่ให้ทันทีหลังการผ่าตัดเสร็จสิ้น และผู้เข้ารับบริการจะต้องใส่ชุดกระชับหลังดูดไขมันนี้ไปอีก 6 เดือน – 1 ปี (แต่จะมีการปรับให้ไม่รัดแน่นจนเกินไป) เพื่อให้สัดส่วนเข้าที่และไม่มีผลข้างเคียงดังกล่าวในอนาคตครับ

• อย่าลืมแจ้งแพทย์ หากมีปัญหา ข้อสงสัย หรือกังวล

  การดูดไขมันสำหรับคนที่ไม่ทราบข้อมูลมาก่อนและด้วยความที่การดูดไขมันยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ในไทย จึงอาจจะต้องใช้เวลาในการศึกษาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เราอาจจะมีความกังวล ความสงสัย หรือมีปัญหาอื่นใดที่หาคำตอบด้วยตัวเองไม่ได้

  ดังนั้น การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงจึงเป็นการเตรียมตัวก่อนดูดไขมันที่ทำได้โดยไม่ต้องเกรงใจครับ แพทย์ที่ชำนาญการดูดไขมันย่อมทราบดีว่า ผู้เข้ารับบริการอาจมีข้อสงสัยและความกังวลกันทุกคนอยู่แล้ว หากมีปัญหาก็แนะนำให้แจ้งรายละเอียดที่เราสงสัยได้เลยครับ

ต้องการปรึกษาแพทย์ฟรี!

SCan OR Code เพื่อแอดไลน์ หรือ

062 - 789 -1999

สาขา รัชโยธิน กด 1
สาขา ราชพฤกษ์ กด 2

การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน 1 คืน

• ทำความสะอาดร่างกายให้ทั่วถึง

  ก่อนดูดไขมัน เตรียมตัวอาบน้ำ สระผม ล้างหน้า แปรงฟัน (ห้ามกลืนน้ำ) และทำความสะอาดร่างกายอย่างทั่วถึงก่อนที่จะผ่าตัดนะครับ เพราะหลังดูดไขมันไปแล้วเราจะมีความยุ่งยากในการอาบน้ำมาก เนื่องจากแผลดูดไขมันจะเปียกน้ำไม่ได้ ซึ่งถ้าจะให้ดีที่สุด หมอแนะนำว่าก่อนดูดไขมัน เตรียมตัวรักษาความสะอาดของห้องที่ต้องนอนพักฟื้นไว้เป็นประจำด้วยเพื่อสุขอนามัยที่ดี

• งดน้ำและอาหารก่อนถึงเวลาอย่างน้อย 8 ชั่วโมง

  โดยเฉพาะผู้รับบริการดูดไขมันแบบเลือกวางยาสลบ จะต้องงดน้ำและอาหารอย่างเคร่งครัดก่อนถึงเวลาจริงอย่างน้อย 8 ชั่วโมงขึ้นไปครับ เพราะหากกระเพาะของเรามีอาหารหรือน้ำอยู่ อาจจะทำให้เกิดการสำลักระหว่างดูดไขมัน ซึ่งเป็นอันตรายมาก ๆ หากผู้เข้ารับบริการไม่ได้งดมาตามเวลาที่กำหนด ก็สมควรจะเลื่อนวันออกไปก่อนเพื่อความปลอดภัย

• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

  การพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายไม่อ่อนเพลียจนเกินไป ซึ่งก็จะส่งผลให้เรามีความสดชื่น สบายตัว พร้อมที่จะเข้ารับบริการอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังทำให้ฮอร์โมนสมดุล ฟื้นฟูร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น!

• เลือกเสื้อผ้าสีเข้มและหลวมหลังดูดไขมันเสร็จ

  หลังดูดไขมันไปแล้ว แพทย์จะไม่ได้เย็บปิดแผลสนิทเลยนะครับ เพราะจะต้องเปิดแผลไว้เล็กน้อยเพื่อให้ร่างกายได้ระบายของเหลวที่ผลิตขึ้นตามกระบวนการธรรมชาติออก ไม่อย่างนั้น ของเหลวเหล่านี้จะถูกกักอยู่ด้านในจนทำให้ผลลัพธ์ไม่ดีตามควร ดังนั้น จึงต้องเลือกเสื้อสีเข้มและหลวม เพื่อไม่ให้เห็นรอยเปียกและไม่อึดอัดเวลาใส่ด้วย

• นัดญาติหรือผู้ดูแลมาด้วยอย่างน้อย 1 คน

  โดยเฉพาะเคสวางยาสลบเช่นกัน แม้หลังดูดไขมันเสร็จแล้ว ผู้เข้ารับบริการจะถูกส่งตัวไปยังห้องพักฟื้นเพื่อสังเกตอาการและรอให้รู้สึกตัวหลังยาสลบหมดฤทธิ์ แต่หลังจากฟื้นแล้วก็อาจจะมีผลข้างเคียงอย่างอาการมึนงง หรือวิงเวียนจนไม่สามารถเดินทางกลับเองได้ ดังนั้น จะต้องพาญาติ ผู้ดูแล หรือผู้ที่ไว้ใจมารับกลับด้วยอย่างน้อย 1 คน ไม่เช่นนั้น หมอจะไม่อนุญาตให้กลับเองครับ

• เช็ดสีเล็บออกอย่างน้อย 1 เล็บ และตัดสั้นเท่านั้น

  เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ สำหรับเคสวางยาสลบครับ เพราะระหว่างที่ทำการดูดไขมัน วิสัญญีแพทย์หรือหมอดมยาประจำตัวเราจะต้องคอยเช็คค่าออกซิเจนในเลือดอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเครื่องที่ใช้จะเป็นอุปกรณ์ที่ยิงลำแสงผ่านปลายนิ้ว สีเล็บจึงอาจทำให้ค่าออกซิเจนเกิดความคลาดเคลื่อนได้

• งดแต่งหน้าและงดใช้สกินแคร์ใด ๆ

  เราเองอาจจะไม่ทราบเลยว่า เครื่องสำอางหรือสกินแคร์ต่าง ๆ สามารถมีส่วนประกอบที่อาจจะไปรบกวนการฆ่าเชื้อบนผิวได้ บางชนิดทำให้ผิวมัน สิ่งสกปรกเกาะตัวง่าย รวมไปถึงการสังเกตอาการบริเวณใบหน้าของผู้เข้ารับบริการ ซึ่งอาจทำได้ยากหากเครื่องสำอางบดบังผิวจริงอยู่ ทั้งนี้ แนะนำให้ไม่ใช้เลยจะดีกว่า เพราะหมอจะให้ทำความสะอาดร่างกายอีกครั้งก่อนเข้าห้องผ่าตัดอยู่ดีครับ

FAQs