หลังดูดไขมันบวมกี่วัน? ดูดไขมัน ต้องทำยังไงบ้างถึงจะบวมน้อย เข้าที่ไว เห็นผลเร็ว

ดูดไขมันบวมกี่วัน

หมอคิดว่าที่หลาย ๆ คนยังกล้า ๆ กลัว ๆ ในการดูดไขมันอยู่ อาจเป็นเพราะกลัวว่าจะต้องพักฟื้นนาน ไม่แน่ใจว่าหลังดูดไขมันพักฟื้นกี่วัน หลังดูดไขมันบวมกี่วัน หรือต้องลางานหยุดหลาย ๆ วันรึเปล่า ทำให้ไม่กล้าที่จะดูดไขมันนะครับ ไม่ต้องห่วงเลย หมอไอซ์ Amara Liposuction Center ศูนย์ดูดไขมัน-เติมไขมันเฉพาะทาง มีวิธีลดอาการบวมหลังดูดไขมันให้น้อยลงมาฝากกันครับ

หลังดูดไขมันบวมกี่วัน?

หลังดูดไขมันจะมีอาการบวมมากที่สุดในช่วง 1-7 วันแรก หลังจากเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ร่างกายจะค่อย ๆ ยุบบวมและเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งระยะเวลาการบวมของแต่ละคนจะแตกต่างกันไปตาม ปริมาณไขมันที่ดูดออก เครื่องมือที่ใช้ สภาพร่างกาย เทคนิคของแพทย์ และการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด

ทำไมหลังดูดไขมันถึงบวม?

ในระหว่างการดูดไขมัน (Liposuction) แพทย์จะมีการขยับเข็มเข้าออก ควบคู่ไปกับการใช้พลังงานต่าง ๆ ในสลายเซลล์ไขมัน ยิ่งเป็นเครื่องดูดไขมันพลังความร้อน อย่างเช่นเครื่อง Ultra Z หรือ Vaser Smooth 2.2 ก็จะทำให้มีโอกาสเสียเลือดมากขึ้นเท่านั้น พอเส้นเลือดถูกทำลายมาก ๆ ก็จะทำให้เกิดความอักเสบ และอาการบวมหลังดูดไขมันขึ้นมานั่นเอง

แต่เทคโนโลยีการดูดไขมันก็พัฒนาขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทั้งแพทย์ และคนไข้ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ มีอาการบวมช้ำน้อยลง และพักฟื้นไวขึ้น เมื่อเทียบกับสมัยก่อน จึงช่วยลดปัญหาเหล่านี้ไปได้เยอะเลยล่ะครับ

ซึ่งช่วงเวลาที่ดูแย่ที่สุด หรือที่คนส่วนใหญ่ไม่ชอบที่สุดหลังดูดไขมันนั้น คงไม่พ้นช่วงที่สัดส่วนของเรามีความบวมช้ำมาก ทำให้บางคนคงจะกังวลไม่มากก็น้อยว่า หลังดูดไขมันบวมกี่วัน? (ดูดไขมันกี่วันหายบวม) ดูดไขมันพักฟื้นกี่วัน? ดูดไขมันกี่วันเห็นผล? บทความนี้จะมาให้ข้อมูลว่าหลังดูดไขมันจะมีอาการอะไรบ้าง ต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหนอาการบวมถึงหายไป สัดส่วนจะเข้าที่ และมีวิธีในการลดบวม ลดเขียวยังไงบ้าง!

สอบถามฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี

หลังดูดไขมัน ตอนไหนบวมมาก-บวมน้อย เมื่อไหร่จะเข้าที่?

ดูดไขมันบวมกี่วัน? หลังจากดูดไขมันเสร็จทันที จะยังมีอาการบวมอยู่ ซึ่งลักษณะและระยะเวลาในการบวม ของเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ กับเครื่องดูดไขมันพลังงานความร้อน จะไม่เหมือนกัน การเข้ารูปของสัดส่วน จะขึ้นอยู่กับการเลือกเครื่องดูดไขมันด้วยนะครับ โดยลักษณะอาการบวมหลังดูดไขมันในแต่ละวันจะมีรายละเอียดดังนี้

อาการบวมหลังดูดไขมัน

หลังดูดไขมัน 1-3 วันแรก

สำหรับเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ จะมีอาการบวมมากกว่าพลังความร้อน เพราะมีการใส่น้ำเข้าไปจำนวนมาก เพื่อพ่นสลายไขมันให้สลายออกจากกัน และมีการใส่ Tumescent (ยาชา, น้ำเกลือ และตัวยาอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก) ด้วย

จึงทำให้หลังดูดไขมันพลังน้ำใน 3 วันแรก จะมีอาการบวมมาก และสัดส่วนยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก สำหรับเครื่องดูดไขมันพลังความร้อน จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนได้หลังทำทันที เพราะมีน้ำค้างอยู่น้อยมาก จึงมีอาการบวมน้อยกว่ากลุ่มพลังน้ำครับ

หลังดูดไขมัน 3-7 วัน

สำหรับเครื่องดูดไขมันพลังน้ำนั้น น้ำจะทยอยซึมออกจนหมด และจะเกิดการอักเสบขึ้นในช่วงนี้ ทำให้มีอาการบวมขึ้นมาอีกได้ครับ สำหรับเครื่องดูดไขมันพลังความร้อน ช่วงนี้จะมีอาการอักเสบมาก ถ้าเป็นคนที่ช้ำง่าย บริเวณที่ดูดไขมันจะมีรอยช้ำ เป็นลักษณะปื้น ๆ สีแดงม่วง เพราะมีเม็ดเลือดไปกองอยู่ในบริเวณนี้มาก

หลังดูดไขมัน 2 สัปดาห์

บริเวณที่ดูดไขมันนั้น เมื่อผ่านไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ จากเดิมที่เป็นรอยช้ำสีม่วงแดง จะค่อย ๆ กลายเป็นสีเขียว ปนเหลืองจาง ๆ นะครับ แล้วก็จะจางหายไปได้เอง

สัปดาห์ที่ 3-4 หลังดูดไขมัน

ช่วงนี้ อาการบวมหลังดูดไขมันจะค่อย ๆ น้อยลง และสัดส่วนเริ่มเข้าที่มากขึ้น แต่ผิวหนังกับกล้ามเนื้อยังไม่แนบชิดติดกันดี สัดส่วนจึงยังไม่เฟิร์มกระชับครับ เวลามองด้วยตาเปล่าอาจจะรู้สึกว่ายังไม่มีความเปลี่ยนแปลงมาก แต่คนไข้จะรับรู้ว่าสัดส่วนเล็กลงได้จาก การวัดขนาดรอบสัดส่วน, การใส่เสื้อผ้าไซซ์เล็กลง, และการใส่ไซซ์ชุดกระชับหลังดูดไขมันเล็กลงครับ

สัปดาห์ที่ 4-8 หลังดูดไขมัน

ช่วงนี้ผิวเริ่มเข้ารูป สัดส่วนเริ่มเข้าที่ ถ้าคนไข้ดูดไขมันหน้าท้อง และดูดไขมันเอวเอส บริเวณหน้าท้องก็จะแบนเรียบ เอวเอส เอวคอด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิมของคนไข้ และไซซ์เดิมของคนไข้ก่อนดูดไขมันด้วย ในกรณีที่คนไข้มีผิวที่ย้วยมาก หรือไซซ์ใหญ่แล้วดูดไขมันออกมามาก ทำให้เกิดความย้วยมาก ในสัปดาห์ที่ 4-8 อาจจะยังไม่เห็นผลชัดเจน แต่จะไปเห็นผลในช่วงหลังสัปดาห์ที่ 8 หรือดูดไขมันออกมาแล้ว 2 เดือน

วิธีลดอาการบวมหลังดูดไขมัน

หลังจากที่ทราบแล้วว่าช่วงไหนเรามีอาการอะไร บวมมากในช่วงไหน อาการบวมเกิดจากอะไร เมื่อไหร่สัดส่วนจึงจะเข้าที่ และเห็นผลชัดเจน ส่วนต่อไปที่เราจะมาแชร์ก็คือวิธีลดบวม ลดเขียว และทำยังไงให้แผลหลังดูดไขมันหายไว ร่างกายพักฟื้นเร็ว ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันต่อได้เลย!

ช่วงเวลาบวมหลังดูดไขมัน เป็นช่วงเวลาที่คนมักไม่ต้องการเจอที่สุด เราจึงต้องหาวิธีว่า จะทำยังไง ให้ช่วงเวลาการบวมตรงนี้ น้อยที่สุด! โดยอาการบวมนั้น จะขึ้นอยู่กับคนไข้ของแต่ละคนด้วย ถ้าคนไข้เป็นคนเจ็บง่าย แพทย์ก็ต้องใส่ยาชาเยอะ ทำให้มีโอกาสที่จะบวมมมากขึ้นไปอีก ดังนั้น เรามาดูกันเลยดีกว่า ว่าจะมีวิธีอะไรบ้าง ที่สามารถช่วยลดอาการบวมได้!

อาหารที่ต้องงดของดูดไขมัน

1. การกินยาลดบวม

สำหรับใครที่มีอาการบวมช้ำง่าย หมอจะให้ยาไปกินก่อนดูดไขมัน 2-3 วันครับ โดยตัวยาจะทำมาจากสมุนไพร สารสกัดจากธรรมชาติ มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ทำให้ลดบวมเร็วขึ้น เช่นใบบัวบก น้ำฟักทอง น้ำมะพร้าว เป็นต้น รวมถึงหลังจากดูดไขมันเสร็จ ทางเอมาร่าคลินิกจะให้ยาลดบวมไปกินต่อที่บ้าน ทุกครั้งเมื่อมีอาการบวม

2. ลดอาหารเค็ม หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียม

โซเดียม จะทำหน้าที่ควบคุมความสมดุลของเหลวภายในร่างกาย เมื่อรับประทานอาหารเค็ม หรืออาหารที่มีโซเดียมสูง จะทำให้ระดับของโซเดียมเกินความจำเป็นของร่างกาย และร่างกายกักเก็บน้ำไว้ที่ชั้นผิวโดยอัตโนมัติ เพื่อรอขับโซเดียมส่วนเกินนี้ ออกทางไตครับ

ในระหว่างนี้เองทำให้ตัวเราบวมขึ้น หรือรู้สึกอึดอัดได้ สำหรับอาหารโซเดียมสูง ที่ควรหลีกเลี่ยงได้แก่ น้ำจิ้ม-ซอสปรุงรส, อาหารทะเล, อาหารหมักดอง, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, อาหารแห้ง, ขนมขบเคี้ยว, อาหารแปรรูป, ขนมที่มีส่วนประกอบของผงฟู, เนื้อแดง เช่นเนื้อวัว เนื้อหมู หรืออาหารรสจัด เป็นต้น

3. การรีดน้ำออกจากร่างกาย

หลังดูดไขมันเสร็จทันที การที่เรารีดน้ำออกไปจากร่างกายตั้งแต่ตอนแรก จะทำให้มีอาการบวมน้อยลง เกิดผลข้างเคียงของยาชาน้อยลง น้ำที่เรารีดออกไปคือยาชา น้ำเกลือ และเลือดนั่นเอง ดังนั้น หลังดูดไขมันที่เอมาร่าคลินิก จะมีการบีบนวดตัว เพื่อรีดน้ำดังกล่าวออกมาให้ก่อนใส่ชุดกระชับสัดส่วนครับ

4. ไม่หักโหม ทำอะไรหนัก ๆ

หลังจากดูดไขมันมาแล้วใน 2 สัปดาห์แรก งดทำกิจกรรมที่ต้องขยับเขยื้อนร่างกาย หรือยกของหนัก เพราะจะทำให้บวมมากกว่าเดิม หรือสัดส่วนเข้าที่ช้า เนื่องจากหลังดูดไขมัน จะมีช่องว่างภายใต้ผิว ระหว่างผิวหนังและกล้ามเนื้อ การขยับเขยื้อนร่างกาย จะทำให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อขยับ ทำให้การแนบสนิทของพื้นที่ดังกล่าวช้าลง มีการอักเสบมากขึ้น จึงทำให้อาการบวมหายช้านั่นเองครับ

วิธีลดอาการเขียว อาการช้ำ หลังดูดไขมัน

อาการช้ำเขียว มีสาเหตุมาจากเลือดที่หลุดออกมาจากเส้นเลือด โดยเกิดจากการดูดไขมัน ไม่ว่าจะดูดไขมันด้วยเครื่องอะไรก็ตาม ก็มีโอกาสที่ท่อดูดไขมันจะกระทบกับเส้นเลือดฝอย ในช่วงแรกบริเวณที่ดูดไขมันจะมีลักษณะเป็นสีแดงปนม่วง (สีแดงเกิดจากเส้นเลือดที่บาดเจ็บอยู่ตื้น ส่วนที่ม่วงเกิดจากเส้นเลือดที่บาดเจ็บอยู่ลึก) เมื่อแตกตัวออก จะโดนเม็ดเลือดขาวมากัดกิน จึงทำให้เปลี่ยนสีจากสีแดงม่วง เป็นสีเขียว เหลือง และจางหายไปในที่สุด

ช้ำหลังดูดไขมัน

หลักของการลดความเขียวช้ำ ก็คือการทำให้ลิ่มเลือดจางลง หรือละลายหายไป ซึ่งสามารถทำได้โดยการประคบหลังดูดไขมัน และที่สำคัญคือการสวมชุดกระชับตามคำแนะนำของแพทย์ แล้วต้องทำอะไรตอนไหน ยังไงบ้าง? เราไปอ่านกันต่อได้เลยครับ

ประคบร้อนหลังดูดไขมันกี่วัน ช่วยอะไรบ้าง?

ประคบร้อน

หลังจากดูดไขมันมาแล้ว 3 วัน ให้ประคบอุ่น โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดในบริเวณที่มีอาการเขียวช้ำ ความอุ่นหรือความร้อนในระดับไม่สูงมากนี้ จะช่วยทำให้เส้นเลือดขยายตัว และเลือดหดกลับเข้าไปในเส้นเลือด

การใส่ชุดกระชับหลังดูดไขมัน

การสวมชุดกระชับ ได้ผลดีที่สุดในการลดอาการเขียวช้ำ การสวมชุดกระชับ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูแลตัวเองหลังดูดไขมันเลยครับ นอกจากจะทำให้ผิวหนังแนบสนิทติดกับกล้ามเนื้อแล้ว ยังช่วยให้อาการช้ำเขียวของคนไข้ลดน้อยลงด้วย

เพราะการสวมชุดกระชับ จะทำให้เกิดการกดทับในบริเวณที่เลือดออก (บริเวณที่ดูดไขมัน แล้วกระทบกับเส้นเลือดฝอย) ทำให้เลือดหยุดไหล จึงช่วยลดเขียวได้ดี สำหรับใครที่สวมใส่ชุดกระชับตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เมื่อถอดออกจะเห็นว่ารอยช้ำเขียว เปลี่ยนเป็นสีเหลืองอย่างรวดเร็ว และจางหายไปในที่สุด

ระยะเวลาในการสวมชุดกระชับ (มาตรฐาน)

ในช่วงหลังดูดไขมัน 1 เดือนแรก ให้สวมชุดกระชับหลังดูดไขมันวันละ 18-20 ชั่วโมง ซึ่งในระหว่างวันให้ถอดชุดออกพักหรือปลดตะขอชุดออกให้คลายตัว ครั้งละ 30-60 นาที ทุก ๆ 4-6 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแผลกดทับ จากนั้นในช่วงเดือนที่ 2 เป็นต้นไป แพทย์อาจพิจารณาให้คนไข้ลดระยะเวลาในการสวมชุดกระชับลงเหลือวันละ 12 ชั่วโมง โดยคนไข้สามารถเลือกช่วงเวลาที่สะดวกได้ (กลางวัน/กลางคืน) ทั้งนี้ แพทย์จะพิจารณาเป็นเคส ๆ ไป

ชุดกระชับหลังดูดไขมัน

ดูดไขมันเหนียง รัดหน้ากี่วัน

นอกจากการดูดไขมันตามสัดส่วนอื่น ๆ แล้ว บริเวณเหนียง ยังเป็นอีกตำแหน่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันครับ ซึ่งแน่นอนว่าหลังดูดไขมันเหนียง ก็จะเกิดอาการบวมช้ำได้เหมือนบริเวณอื่น ๆ โดยจะเกิดขึ้นในสัปดาห์แรก และหลังจากนั้น อาการบวมช้ำจะค่อย ๆ บรรเทาลง การใส่ที่รัดหน้าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กับชุดกระชับสัดส่วนอื่น ๆ เพื่อให้กรอบหน้าเข้าที่สวยไว

ดูดไขมันบวมกี่วัน ผ้ารัดเหนียง

หลายคนสงสัยใช่ไหมครับว่า ดูดไขมันเหนียง รัดหน้ากี่วัน…ส่วนใหญ่แล้ว แพทย์จะแนะนำให้ใส่ที่รัดหน้าทันทีที่ดูดไขมันเสร็จ และให้ใช้ทุกวันต่อเนื่องประมาณ 1 เดือน (ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์) โดยเฉลี่ยให้ใส่ที่รัดหน้าประมาณ 18-20 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งควรถอดพักครั้งละครึ่งชั่วโมง ทุก ๆ 4-6 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแผลกดทับครับ

ทำยังไงให้ผิวกระชับตัวเร็ว และสัดส่วนเข้าที่เร็วขึ้น

การทำให้ผิวกระชับตัวเข้าที่เร็วขึ้น หลังการดูดไขมัน สามารถทำได้หลายวิธีเลยครับ จะควบคู่กับการสวมชุดกระชับหลังดูดไขมัน ตามคำแนะนำของแพทย์ก็ได้ โดยแต่ละวิธีจะมีผลลัพธ์ที่ชัดเจนแตกต่างกันไป

การนวดกระชับ RF

นวด RF เป็นการนวดกระชับผิว โดยใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Radio frequency) เข้ามาช่วยในการสลายไขมัน และยกกระชับผิว โดยจะใช้คลื่นความถี่ในระดับที่ปลอดภัย และส่งความร้อนลงสู่ชั้นไขมันใต้ผิวหนังครับ

การนวด RF ช่วยให้สัดส่วนกระชับตัวเข้าที่เร็วมากขึ้น, ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน และทำให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้น หลังการนวด RF คนไข้จะรู้สึกว่าผิวกระชับตัวขึ้นได้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยเครื่อง RF ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ และหมอแนะนำก็คือเครื่อง Venus Legacy ครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

การฉายแสง LED

แสงสีแดง ความยาวคลื่น 640 นาโนเมตร ช่วยให้ผิวกระชับตัวขึ้น เพราะมีส่วนช่วยให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายใต้ผิว ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น และยังช่วยลดการอักเสบของผิว รวมไปถึงแผลดูดไขมันอีกด้วยครับ

การยกกระชับด้วย J Plasma

การใช้ J Plasma ในการยกกระชับผิวให้เข้าที่เร็ว วิธีนี้ ถือว่าเป็นวิธียกกระชับผิวที่ได้ผลดี และมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่ง J Plasma นั้น เป็นการใช้พลังงานความร้อนสูงถึง 85 องศาเซียลเซียส ส่งผ่านท่อพลังงานไปยังบริเวณที่ต้องการยกกระชับ ช่วยให้เนื้อเยื่อในบริเวณดังกล่าวหดตัวลงทันที

หลังทำเจพลาสมา ผิวจะเฟิร์มกระชับขึ้นอย่างแม่นยำ ตรงจุด เมื่อผิวกระชับหดตัวลงอย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะทำให้เห็นสัดส่วนชัดเจนมากขึ้น และเข้าที่ไวขึ้น โดย J Plasma มีข้อดีคือสามารถยกกระชับได้อย่างตรงจุด, เจ็บน้อย, ผิวไม่ไหม้, แผลเล็กเพียง 4 มิลลิเมตร และมีข้อเสียคือราคาที่สูงกว่าวิธีอื่น ๆ ครับ

วิธีทำให้แผลผ่าตัดหายไว พักฟื้นไม่นาน

การดูแลแผลดูดไขมัน

ถ้าอยากให้แผลผ่าตัดหลังดูดไขมันสมานไว เราต้องดูแลให้ดีตั้งแต่แรกครับ อันดับแรกคือห้ามให้แผลผ่าตัดติดเชื้อ ห้ามเปียก ห้ามชื้น ห้ามโดนน้ำ เพราะแผลจะแฉะ และติดเชื้อได้ง่าย ถ้าถามว่าอาบน้ำได้ไหม? แนะนำให้เช็ดตัวทำความสะอาดร่างกายแทนการอาบน้ำ 5-7 วัน ก่อนตัดไหม

แต่ถ้ามีความจำเป็นจริง ๆ สามารถใช้พลาสเตอร์กันน้ำปิดแผลไว้ได้ ในระยะเวลาช่วงที่อาบน้ำเท่านั้น ไม่แนะนำให้ปิดพลาสเตอร์เป็นเวลานาน เพราะจะไปขัดขว้างการระบายออกของน้ำเกลือและยาชาได้ การปิดพลาสเตอร์ไว้ตลอด จะทำให้แผลเกิดการติดเชื้อ มีตุ่มคล้ายสิวเกิดขึ้นรอบแผลผ่าตัด

ขาใหญ่ ลดยังไง

การฟื้นฟูร่างกายหลังดูดไขมัน

หากควบคุมไม่ให้เกิดการอักเสบของแผลได้แล้ว ขั้นต่อมาคือการซ่อมแซมร่างกาย เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้ไว โดยคนไข้จะต้องรับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ ก็จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วมากขึ้นครับ

การลบรอยแผลดูดไขมัน

และหลังจากตัดไหมแล้ว แผลจะมีลักษณะเป็นแผลสีดำ/แดง หรือแผลนูน (เกิดได้น้อย) หากคนไข้มีแผลดำ หรือแผลแดง เรามีบริการเลเซอร์ลดรอยดำรอยแดงฟรี โดยใช้ Picosecond Laser และ IPL ในการกำจัดเม็ดสี

และสำหรับใครที่เกิดแผลนูน หรือคีลอยด์ ทางเอมาร่าคลินิกก็มีบริการฉีดลดคีลอยด์บริการเช่นกันครับ ทั้งนี้ หากคนไข้มีแผลในตำแหน่งที่โดนแดด จะต้องทากันแดดด้วย เพราะแผลมีโอกาสที่จะเข้มขึ้นได้นะครับ

การดูแลหลังดูดไขมัน

ดูดไขมันกี่เดือนเห็นผล?

หากคนไข้เป็นคนที่มีไขมันไม่มาก ผิวเดิมไม่มีความหย่อนคล้อย หรือมีความหย่อนคล้อยเล็กน้อย แล้วยกกระชับผิวด้วย J Plasma รวมถึงดูดไขมันแล้วสวมชุดกระชับตามที่หมอแนะนำอย่างเคร่งครัด พร้อมรับประทานยา และอาหารตามที่แพทย์แนะนำ ก็สามารถมีหุ่นที่สวยในระยะเวลาที่เร็วขึ้นได้ครับ

แต่ถ้าอยากให้สัดส่วนเข้าที่จริง ๆ ต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 1 เดือน สำหรับเครื่องดูดไขมันพลังงานความร้อน หรือระยะเวลาประมาณ 1 เดือนครึ่ง สำหรับเครื่องดูดไขมันพลังน้ำครับ

เห็นว่าการดูดไขมันต้องใช้ระยะเวลากว่าจะเข้าที่ และมีบรรดาอาการบวมแบบนี้ บางคนคงสงสัยว่าสรุปแล้วการดูดไขมันดีไหม? บอกได้แค่ว่ามันคุ้มค่ามากครับ ไม่ได้เจ็บทรมานอย่างที่คิด ยิ่งสมัยนี้เทคโยโลยีมันทันสมัยขึ้น และมีเทคนิคช่วยเหลือมากมาย หายไวแน่นอนครับ

สรุปดูดไขมันบวมกี่วัน?

หลังดูดไขมันบวมกี่วัน? จะเข้าที่เมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเลยนะครับ แต่ที่สำคัญที่สุดคือการดูแลตัวเองของคนไข้ และการเข้ามารับบริการ After Care ที่คลินิกครับ ส่วนใครที่ยังไม่รู้ว่าจะไปดูดไขมันที่ไหนดี ต้องเช็คมาตรฐานให้ดีก่อนตัดสินใจนะครับ จะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับอะไรหลาย ๆ อย่าง สุดท้ายนี้ สำหรับใครที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ต้องการเข้ามาปรึกษาหมอ หรือสอบถามเจ้าหน้าที่ สามารถติดต่อได้ที่ช่องทางด้านล่างนี้เลยครับ

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic

KOL Trainer
แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet

นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)

ทำไมต้องดูดไขมันที่ Amara Clinic ?

แพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

ทีมแพทย์ Amara Clinic เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านการดูดไขมันและการเติมไขมัน โดยตรงจากประเทศเกาหลีใต้ หลักสูตรการดูดไขมันระดับพื้นฐาน (Basic Liposuction ) และการดูดไขมันระดับสูง (Advance Liposuction) มีประสบการณ์ดูดไขมัน-เติมไขมันมาแล้ว หลายพันเคส ทำเฉพาะทางดูดไขมัน-เติมไขมันโดยตรง เน้นด้านการปรับรูปร่างโดยเฉพาะ จึงมีความเชี่ยวชาญมาก

อีกทั้งยังมีความละเอียดและปราณีตสูง ซึ่งคุณหมอมะปราง และ คุณหมอไอซ์ ยังเป็น KOL อาจารย์แพทย์สอนดูดไขมัน-เติมไขมัน ด้วยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet ประจำประเทศไทยอีกด้วย (Body-jet Education Center) มีประสบการณ์สูง การันตีด้วยรางวัล The Most body-jet Users

เทคนิคพิเศษจากเกาหลี

ทีมแพทย์ใช้เทคนิคเกาหลี ในการออกแบบเหลาสัดส่วนให้กับคนไข้ของเราทุกเคส ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการเติมไขมันให้เป็นธรรมชาติ ได้ผลลัพธ์ที่ดี, เทคนิคเหลาเอวเอส, เทคนิค Sexy Line แบบธรรมชาติ และเทคนิคซ่อนแผล ที่เปิดแผลขนาดเล็ก และซ่อนไว้บริเวณขอบบิกินีไลน์ เพื่อให้คนไข้สามารถสวมชุดว่ายน้ำได้อย่างมั่นใจ แทบมองไม่เห็นแผล

นอกจากนี้เรายังดูดไขมันในปริมาณที่พอเหมาะ เน้นเหลาสัดส่วนออกมาให้รับกับอีกตำแหน่ง เพื่อให้รูปร่างออกมาสวยงามที่สุด ไม่ดูดออกมากจนเกินไป ไม่ดูดออกน้อยจนเกินไป

เครื่องมือ-อุปกรณ์ ทันสมัย ได้มาตรฐาน

เราเลือกใช้เครื่องมือ-อุปกรณ์ที่เป็นของแท้ ได้มาตรฐาน ปลอดภัย รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นด้วยเช่นกัน ต้องผ่านการรับรองมาแล้วเท่านั้น เพื่อให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด นอกจากนี้เรายังเลือกใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนอีกด้วย เช่น

  • body-jet หรือเครื่องดูดไขมันพลังน้ำจากเยอรมัน ที่จะช่วยให้รู้สึกเจ็บน้อย ระบมช้ำน้อย ไม่ต้องพักฟื้นนาน
  • เครื่องดูดไขมันพลังคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ (Ultra Z, Vaser Smooth 2.2)
  • J Plasma ตัวช่วยในการยกกระชับผิวจากอเมริกา
  • HIFEM เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ เพียง 30 นาที ก็เหมือนซิทอัพมาแล้ว 20,000 ครั้ง
  • Venus Legacy เครื่องนวด RF กระชับผิว สลายไขมันส่วนเกิน

Amara Clinic เราเลือกใช้เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากเยอรมัน เหมาะกับเคสที่กลัวเจ็บ และมีเวลาพักฟื้นน้อย เพราะใช้น้ำในการสลายไขมัน ทำให้เจ็บน้อย บวมช้ำน้อย และแทบไม่ต้องพักฟื้น นอกจากนี้ยังสามารถนำไขมันไปเติมเต็มส่วนอื่น ๆ ต่อได้อีกด้วย เรามีเคสดูดไขมันพลังน้ำ เยอะที่สุดในประเทศไทย การันตีด้วยรางวัล The Most body-jet Users

ฉีดไขมัน เพิ่มขนาด

Ultra Zเครื่องดูดไขมันพลังคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์จากประเทศเกาหลี ใช้พลังความร้อนในการสลายไขมันอย่างตรงจุด ดูไขมันได้เยอะ ในเวลาสั้น ๆ เหมาะกับเคสดูดไขมันไซซ์เล็ก เช่นสาวไซซ์ S-M หรือเคสที่มีไขมันไม่หนามาก

Ultra Z

เครื่องดูดไขมันเวเซอร์ Vaser Smooth 2.2 เครื่องดูดไขมันพลังคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ ใช้พลังความร้อนในการสลายไขมัน นวัตกรรมใหม่จากประเทศอเมริกา สามารถสลายไขมันได้อย่างตรงจุด ดูดไขมันได้เยอะ ช่วยประหยัดเวลาในการดูดไขมันลงได้ และสามารถช่วยกำจัดเซลลูไลท์ เพื่อผิวที่เรียบเนียนขึ้นได้อีกด้วย เครื่องดูดไขมัน Vaser Smooth 2.2 เหมาะกับเคสที่มีชั้นไขมันหนา หรือคนไซซ์ L ขึ้นไป ปลอดภัย ผ่านการรับรองจาก U.S.FDA

เวเซอร์

J Plasma (เจพลาสมา) เครื่องยกกระชับผิวใหม่ล่าสุดจากอเมริกา ช่วยยกกระชับผิวได้อย่างตรงจุด ด้วยความร้อน 85°C แต่จะเย็นตัวลงในทันที ทำให้ผิวไม่ไหม้ และเจ็บน้อย J Plasma สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังทำ 10-30% ได้ผลลัพธ์ 80% ของการผ่าตัดหนังหน้าท้อง ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น ผิวกระชับ สัดส่วนเข้าที่เร็ว และช่วยลดผลข้างเคียงของการดูดไขมันได้อีกด้วย โดยเราเป็นคลินิกที่มีจำนวนเคสมากที่สุดในทวีปเอเชีย!

ห้องผ่าตัดระดับโรงพยาบาล มาตรฐานสากล

เรามีห้องผ่าตัดพิเศษ ที่ได้มาตรฐานสากล ดั่งโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศไทย เราใส่ใจดูแลรายละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อความปลอดภัย ปลอดเชื้อ และผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ห้องผ่าตัด Amara Clinic ประกอบไปด้วยระบบควบคุมอากาศภายในห้องผ่าตัด, ระบบควบคุมความดัน, ระบบควบคุมความชื้น, ระบบกรองอากาศ, ระบบเดินท่อออกซิเจน (Pipeline), ระบบระบายแก๊สส่วนเกิน (Scavenging) และระบบไฟฟ้าสำรอง

นอกจากนี้เรายังไม่ละเลยวัสดุที่นำมาใช้ในการทำผนัง พื้น ฝ้า เพดาน และประตู ทุกอย่างต้องดีที่สุด เหมาะสมที่สุด และปลอดภัยที่สุดครับ

วางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์

ท่านสามารถเลือกได้ว่าต้องการดูดไขมันด้วยการฉีดยาชา หรือวางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์ หากเลือกเป็นการวางยาสลบ เรามีทีมแพทย์วิสัญญีคอยดูแลตลอดการผ่าตัด ใช้วิสัญญีแพทย์จริง ไม่ใช่พยาบาล หรือแพทย์ผ่าตัด เพื่อความปลอดภัยสูงสุด วิสัญญีแพทย์จะคอยซักประวัติ และให้ความดูแลท่านตลอดเวลา ตั้งแต่ก่อนเริ่มวางยาสลบ ไปจนถึงการฟื้นตัวหลังวางยาสลบ ท่านจึงสามารถมั่นใจได้ว่า การดูดไขมันแบบวางยาสลบที่ Amara Clinic ปลอดภัยแน่นอน!

มีบริการ After Care หลังดูดไขมันเพียบ

Amara Clinic เรายินดีดูแลท่านจนกว่าสัดส่วนจะเข้าที่ หุ่นจะเป๊ะสวย ตั้งแต่ก่อนดูดไขมัน ระหว่างดูดไขมัน และหลังดูดไขมัน ซึ่งเรามีบริการ After Care หลังดูดไขมันอย่างครบครัน ทั้งห้องพักฟื้นสุดพิเศษ ระดับ VVIP (มีพยาบาลส่วนตัวคอลดูแลตลอด, มีผ้าห่มลมร้อน, มีเครื่องติดตามสัญญาณชีพ, และอุปกรณ์ช่วยชีวิตพื้นฐาน), มีชุดกระชับหลังดูดไขมันให้เลือกหลายแบบ, บริการทำแผล ตัดไหม, มีเช็ตอุปกรณ์ทำแผลเองที่บ้านให้, มียาฆ่าเชื้อ ยาแก้อักเสบ ยาลดบวม และยาแก้ปวดให้, บริการนวดกระชับผิว, บริการนวดสลายก้อนแข็ง, บริการฉีดลดคีลอยด์, บริการฉายแสงลดบวม, บริการเลเซอร์รอยดำ และบริการเลเซอร์รอยแดง

มีภาพรีวิว ก่อนทำ-หลังทำ จากคนไข้จริงเพียบ

Amara Clinic เรามีเคสดูดไขมันมาหลายพันเคส มีภาพรีวิวมากมาย ทั้งภาพรีวิวก่อน-หลังดูดไขมันทุกตำแหน่ง ภาพรีวิวเติมไขมัน หรือภาพรีวิวหลังยกกระชับผิวด้วย J Plasma สามารถชมภาพรีวิวก่อน-หลังได้ที่นี่ หรือชมแชร์ประสบการณ์จากเคสคนไข้จริงได้ที่นี่

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


              บทความนี้ จัดทำขึ้นโดย Amara Clinic (เอมาร่า คลินิก) ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ คัดลอก ทำซ้ำ หรือเผยแพร่บทความนี้ในนามอื่น (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, ข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนก็ตาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย