ฟิลเลอร์จมูก ควรทำไหม? ทำแล้วจะอันตรายรึเปล่า?

ฟิลเลอร์จมูก

อยากจมูกสวย ดั้งโด่ง มีปลายทรงหยดน้ำ “ฟิลเลอร์จมูก” คือคำตอบหรือไม่มาดูกัน! สำหรับใครที่อยากมีจมูกสวย ๆ อย่าเพิ่งตัดสินใจทำฉีดฟิลเลอร์จมูกนะคะ ควรอ่านบทความนี้กันก่อน! วันนี้หมอจะมาพูดถึงการใช้ฟิลเลอร์ในการปั้นแต่งทรงจมูกให้ดูเป็นทรงสวยงามขึ้น ว่าวิธีนี้มันเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและตอบโจทย์รึเปล่า? มันมีข้อดีและข้อเสียอย่างไร? ฟิลเลอร์จมูกอันตรายไหม? ถ้าจัดเสริมจมูกเราควรเลือกอะไรดี ระหว่างฟิลเลอร์กับซิลิโคน? และอีกสารพัดคำถามเลยล่ะค่ะ ถ้าอยากรู้แล้วเราไปอ่านทำความเข้าใจกันได้เลย

ฉีดฟิลเลอร์จมูกช่วยให้จมูกโด่งขึ้นได้จริงเหรอ?

ฉีดฟิลเลอร์จมูกช่วยให้จมูกโด่งและเป็นทรงที่ต้องการได้จริง เพราะฟิลเลอร์สามารถปั้นแต่งทรงได้ แต่ฟิลเลอร์ก็มีหลายยี่ห้อและหลายระดับความแข็งค่ะ หากแพทย์มีการใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับบริเวณจมูก ก็ลดปัญหาหรือความเสี่ยงที่ฟิลเลอร์จะเปลี่ยนรูปทรงไปได้มาก

ฟิลเลอร์ (Filler) เป็นหนึ่งในสารเติมเต็มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้เลยนะคะ เพราะเราสามารถนำมันไปฉีดเติมเต็มในบริเวณที่เป็นหลุม ยุบ หรือตอบได้ ทั่วทั้งใบหน้าและลำตัว แต่ส่วนใหญ่จะนิยมที่ใบหน้ามากกว่า เพราะราคาค่อนข้างสูงค่ะ โดยสารเติมเต็มที่ชื่อว่าฟิลเลอร์คือ Hyaluronic acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่สร้างมาจากคอลลาเจนที่อยู่ในร่างกายของเรา มีลักษณะเป็นของเหลว เมื่อเราดื่มน้ำอย่างเพียงพอฟิลเลอร์จะยิ่งฟูสวย ใช้ระยะเวลาในการฉีดและปั้นแต่งทรงไม่นาน ไม่เกิน 30 นาทีก็เสร็จแล้ว แถมเจ็บน้อย แทบไม่ทิ้งรอยแผลอีก จึงไม่ต้องแปลกใจเลยนะคะ ว่าทำไมคนถึงชอบฉีดฟิลเลอร์กันมาก

ฟิลเลอร์จมูก

ในปัจจุบันนี้ถ้าถามว่าการฟิลเลอร์จมูกยังได้รับความนิยมอยู่หรือไม่? ต้องบอกว่าน้อยลงกว่าเดิมมาก ส่วนใหญ่จะหันไปเสริมจมูกแทนค่ะ การฟิลเลอร์จมูกจึงไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่นักในปัจจุบันนี้ นอกเหนือจากเรื่องของการเสริมจมูกแล้ว เหตุผลที่การฟิลเลอร์จมูกได้รับความนิยมต่ำลง คงไม่พ้นเรื่องของการมีเคสที่ไปฉีดฟิลเลอร์จมูกมาแล้วจมูกพัง เพราะฉีดโดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญและใช้สารเหลว จึงทำให้จมูกผิดรูป เนื้อตายจนต้องตัดทิ้ง และอื่น ๆ อีกมากมาย หลาย ๆ คนจึงมีความกลัวกันค่ะ

อีกทั้งการฉีดฟิลเลอร์จมูกมันไม่ได้ทำครั้งเดียวจบ มันต้องมีการเติมเพิ่มเรื่อย ๆ ทุก ๆ 1-2 ปี เพราะสารฟิลเลอร์แท้สามารถสลายหายไปได้ โดยไม่เกิดอันตรายต่อร่างกายนั่นเอง สำหรับบริเวณอื่น ๆ ที่นิยมฉีดฟิลเลอร์กันก็จะเป็นการฉีดฟิลเลอร์คาง, ปาก, ใต้ตา, หน้าผาก, ขมับ และร่องแก้มค่ะ

อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์จมูก

ใครที่สงสัยว่าฟิลเลอร์จมูกอันตรายไหม หมอจะอธิบายให้อ่านกันค่ะ ก่อนอื่นเลยเราจะมาพูดถึงการทำหัตการบนใบหน้า เนื่องจากใบหน้าของเราเป็นส่วนที่มีเส้นประสาทอยู่เยอะมาก ก่อนที่จะทำอะไรเราต้องคิดดี ๆ ค่ะ เพราะถ้าแพทย์ไม่เชี่ยวชาญจริง ฉีดหรือจิ้มเข็มลงไปผิดจุด ทำให้เส้นประสาทเสียหาย ผลกระทบที่ตามมาก็มีตั้งแต่ใบหน้าเบี้ยว ไร้ความรู้สึก เกิดการอักเสบจากภายใน หรือถึงขั้นตาบอดได้ค่ะ เนื่องจากบริเวณข้าง ๆ สันจมูกจะมีเส้นเลือดที่เชื่อมต่อเข้ากับลูกตาอยู่ หากแพทย์พลั้งมือไปโดนเข้า ตาอาจสูญเสียการมองเห็นได้นั่นเอง

เห็นไหมคะว่าถึงจะใช้ฟิลเลอร์แท้ แต่เลือกหมอผิด ชีวิตก็เปลี่ยนได้เลย อีกทั้งฟิลเลอร์เป็นสารที่อาจเคลื่อนตัวได้ โดยเฉพาะกับฟิลเลอร์ที่มีความเหลวมาก มันอาจไหลลงต่ำทำให้จมูกย้อยเหมือนแม่มด หรือทำให้ใบหน้าคล้อยลงได้ (ส่วนใหญ่จะเกิดจากการที่แพทย์เลือกชนิดของฟิลเลอร์ผิด หรือไม่ก็ใช้สารเหลวค่ะ)

ฟิลเลอร์จมูก

ก่อนฟิลเลอร์จมูกต้องดูอะไรบ้าง?

ก่อนฟิลเลอร์จมูกควรพิจารณาปัจจัยเรื่องต่าง ๆ ตามนี้ก่อนค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้เราพลาดไปเลือกคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือเสี่ยงจมูกพัง และไม่ปลอดภัย! สำหรับสิ่งที่ต้องเช็คก่อนฉีดฟิลเลอร์ทุกตำแหน่ง หมอขอฝากไว้ 3 เรื่องหลัก ๆ ดังนี้

1.เช็คฟิลเลอร์ว่าแท้หรือเทียม

ควรเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน สามารถนำกล่องมาตรวจสอบได้ และมีราคาที่เหมาะสม หากพบว่าคลินิกใดมีราคาฟิลเลอร์จมูกที่ถูกมากจนเกินไป (ถูกกว่าคลินิกอื่น ๆ ค่อนข้างมาก) แนะนำให้สอบถามให้แน่ชัดก่อน หรือดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงประกอบค่ะ

2.สอบถามรุ่นของฟิลเลอร์ให้แน่ใจ

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะมีให้เลือกหลายรุ่น ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นจะมีความเหมาะสมกับตำแหน่งที่ฉีดแตกต่างกัน สำหรับการฉีดฟิลเลอร์จมูกและคาง จะต้องใช้เป็นฟิลเลอร์ที่มความคงตัวสูง เพื่อให้เวลาที่ฉีดเข้าไปแล้ว ปั้นทรงแล้ว มันอยู่ด้วยไม่บานออกหรือไม่เปลี่ยนรูป ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ในส่วนอื่นของใบหน้า จะต้องใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่มีความเหลวมากกว่า เพื่อให้เกิดลักษณะผิวที่มีความยืดหยุ่นเต่งตึงนั่นเอง

3.ดูความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์

รู้จัก “หมอกระเป๋า” ไหมคะ? หมอกระเป๋าเป็นชื่อเรียกของคนที่ไม่ใช่แพทย์จริง ๆ อาจจะเคยเป็นคนที่มีความรู้ในด้านนี้ หรือเคยเป็นผู้ช่วยแพทย์มาก่อน แล้วออกมารับจ้างหาเงินเพิ่มเติม โดยการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งในสมัยก่อนจะมีการพกฟิลเลอร์หรือตัวสารต่าง ๆ ใส่ในกระเป๋า แล้วนำไปฉีดให้กับลูกค้าตามบ้านหรือสถานที่ที่นัดแนะนำไว้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตัวยาปลอมที่มีความอันตรายสูงมาก ราคาถูกค่ะเลยทำให้คนชอบฉีดกัน

เมื่อฉีดเข้าไปตอนแรกอาจจะไม่ได้รู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัยนัก เพราะตอนแรกที่ฉีดเข้าไปมันยังไม่เกิดอาการอะไรขึ้น เป็นทรงสวยปกติ แต่พอปล่อยไปสักพัก ร่างกายของบางคนอาจจะเกิดการต่อต้านได้ ทำให้มีอาการอักเสบ บวมแดง หรือเป็นหนองเกิดขึ้น อาการที่ร้ายแรงคือเนื้อเราถูกกินจนเน่าและต้องตัดออกเลยนี่แหละค่ะ ส่วนใครที่ไม่เกิดการแพ้ในช่วงแรก มักจะเจอกับปัญหาซิลิโคนเหลวห้อยย้อย ทำให้หน้าผิดรูป คล้อยเหลวลงมา จนเสียโฉมได้เลย เห็นไหมคะว่าราคาถูกและสะดวกจริง จริงแต่ไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องเสียไปค่ะ แนะนำให้ไปหาหมอในคลินิกที่น่าเชื่อถือจะดีกว่า

นอกจากปัญหาที่กล่าวไปแล้ว ความเชี่ยวชาญของแพทย์สำคัญอย่างไร? สำคัญตรงที่แพทย์ที่มีประสบการณ์สูงหรือเชี่ยวชาญจริง ๆ จะรู้ว่าควรฉีดอะไรยังไง ในตำแหน่งไหน หรือที่ชั้นผิวไหนค่ะ จึงทำให้มีโอกาสผิดพลาดน้อยมาก! และเราสามารถไว้วางใจได้เลยว่าจะไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน

ฟิลเลอร์จมูก VS เสริมจมูก เลือกแบบไหนดี?

ระหว่างฟิลเลอร์จมูกกับเสริมจมูก หมอแนะนำให้เลือกการเสริมจมูกมากกว่าค่ะ เพราะการเสริมจมูกมีหลายเทคนิค เราสามารถเลือกทรงของจมูกได้เช่นกัน อีกทั้งยังสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องโครงสร้างจมูกจากภายในได้อีกด้วย นอกจากนี้ เรื่องของวัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูกก็ไม่ได้มีซิลิโคนเพียงอย่างเดียว ยังมีสิ่งที่อยู่ในร่างกายของเราอย่างกระดูกก้นกบหรือกระดูกซี่โครงอีกด้วย ไม่เพียงเท่านี้ ถ้าใครอยากเลือกใช้เป็นเนื้อเยื่อเทียมก็สามารถทำได้ค่ะ

หากต้องการฉีดฟิลเลอร์ หมอขอแนะนำให้ฉีดเป็นตำแหน่งอื่นแทนการฟิลเลอร์จมูกดีกว่าค่ะ อาทิ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อแก้ปัญหาตาลึกตาโบ๋, การฉีดฟิลเลอร์ขมับ ร่องแก้ม หรือร่องน้ำหมาก เพื่อให้ใบหน้ามีความเต่งตึงขึ้น, การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เพื่อทำให้รอยย่นหน้าผากหายไป เผยใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ลง หรือการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพิ่มความอิ่มอิ่มให้ปากดูน่าจุ้บมากยิ่งขึ้น

จมูกสวยอย่างปลอดภัยที่ Amara Clinic

Amara Clinic (เอมาร่าคลินิก) เป็นคลินิกเสริมความงามที่มีบริการครอบคลุม ทั้งการฉีดฟิลเลอร์ โบท็อก ดูแลผิวพรรณ ดูดไขมัน เติมไขมัน ยกกระชับ เสริมจมูก และการศัลยกรรมทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าหรือลำตัว หากคุณกำลังลังเลใจว่าจะแก้ปัญหาเรื่องจมูกไม่สวยงามด้วยวิธีไหนดี? ฟิลเลอร์จมูกเหมาะไหม? หรือจะเสริมจมูกไปเลยแทน? สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางก่อนได้เลยค่ะ

  • ฉีดฟิลเลอร์จมูก โดยแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง และ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านการฉีดฟิลเลอร์ (Local Mentor Trainer ของ Galderma)
  • เลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐานและได้รับความนิมสูง อย่าง Restylane จากสวีเดน และ Juvederm จากอเมริกา
  • เสริมจมูก โดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง (Plastic Surgery)
  • แพทย์ชำนาญการเฉพาะทาง มีประสบการณ์สูง มีรีวิวให้ชม วางแผนอย่างเหมาะสม และเน้นความธรรมชาติ
  • ห้องผ่าตัดใหญ่ มีระบบ Positive Pressure ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณะสุข
  • มีการติดตามอาการหรือ Follow-up เคสแต่ละเคสอย่างใกล้ชิด
  • บริการ After Care หลังทำจมูกครบครัน ทั้งคุณภาพและปริมาณ

บทความที่เกี่ยวข้อง

สงสัย! จมูกติดเชื้อ อาการเป็นยังไง? ต้องแก้จมูกหรือเปล่า?

อ่านเพิ่มเติม

จบปัญหาหน้าผากย่น ไม่เรียบเนียนที่ Amara Clinic

อ่านเพิ่มเติม

รอยย่นระหว่างคิ้วจัดการได้! วิธีไหนดีสุด? มาหาคำตอบกัน!

อ่านเพิ่มเติม

สรุป

          ถ้าจมูกของเราเปลี่ยนทรง แน่นอนว่าใบหน้าของเราก็จะดูแตกต่างไปจากเดิมด้วยเช่นกัน ใคร ๆ ก็อยากที่จะดูดีขึ้นนะคะ โดยเฉพาะสาว ๆ ทั้งหลาย ก่อนที่จะตัดสินใจเสริมแต่งจมูก ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์จมูกหรือเสริมจมูกก็ตาม ควรหาข้อมูลว่าแต่ละวิธีมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร อย่างการฟิลเลอร์จมูกนั้น หากฉีดมาแล้วต้องการเสริมจมูกอีก เราจะต้องเสียเงินค่าขูดฟิลเลอร์ออกก่อนนะคะ แม้จะฉีดมานานแล้วก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการทำจมูกก็จะสูงขึ้นได้ค่ะ นอกจากนี้ การเข้าไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำก่อนก็เป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่งเลยค่ะ สำหรับบทความนี้หมอขอจบเพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ ^^

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic

แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง

พญ.ภคกมล ตุ้มสุทธิ (หมอตวง)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


              บทความนี้ จัดทำขึ้นโดย Amara Clinic (เอมาร่า คลินิก) ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ คัดลอก ทำซ้ำ หรือเผยแพร่บทความนี้ในนามอื่น (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, ข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนก็ตาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย