เคยไหมครับที่เรามักได้รับข้อความสูตรลดน้ำหนักด้วยผลไม้ต่าง ๆ เด้งเข้ามาในมือถือเป็นจำนวนมาก ส่วนตัวหมอได้รับบ่อยมาก ๆ เลยครับ และหนึ่งในสูตรลดน้ำหนักที่ถูกพูดถึงและถกเถียงกันอยู่บ่อย ๆ ก็คือ “กินแตงโม ลดน้ำหนัก” ใครที่เคยได้ยินหัวข้อนี้คงรู้สึกสงสัยไม่น้อยเลยใช่ไหมครับ ว่าแตงโมช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม? แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าจะไม่มีผลข้างเคียงและไม่ทำให้อ้วน? เพื่อให้ทุกคนคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับ กินแตงโม อ้วนไหม
วันนี้ หมอไอซ์ AMARA จึงอยากพาทุกคนไปทำความเข้าใจถึงประโยชน์ของแตงโมและข้อควรระวังให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งตอบปัญหาคาใจเกี่ยวกับ “กินแตงโม อ้วนไหม” และทำอย่างไรถึงจะลดหุ่นได้อย่างที่ต้องการ หากใครที่แบกไขมันจำนวนมากมาเป็นเวลานาน จนอยากจะกำจัดออกไปให้หมดสิ้น ในบทความนี้หมอมีเทคนิคกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปภายใน 1 สัปดาห์มาฝากกันด้วยครับ – หมอไอซ์ AMARA
เช็กให้ชัวร์ ‘กินแตงโม อ้วนไหม’ กินอย่างไรถึงดีต่อสุขภาพ
กินแตงโมอ้วนไหม? แตงโม เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีแคลอรี่ที่ต่ำ โดยแตงโม 100 กรัม มีปริมาณแคลอรี่อยู่ที่ 30.4 kcal เท่านั้นครับ การกินแตงโมไม่เกิน 100 kcal ต่อวันจะไม่ทำให้อ้วน และยังช่วยให้รู้สึกอิ่มได้เท่ากับการทานขนมหวานที่มีแคลอรี่ 600 kcal อีกด้วยครับ เนื่องจากแตงโมเป็นผลไม้ที่มีน้ำเยอะจึงทำให้เวลากินเข้าไปช่วง 1-2 ชั่วโมง จะมีความรู้สึกอิ่มท้องและลดความหิวได้ระดับหนึ่งเลยครับ
ใครที่เริ่มเห็นตัวเลขในเครื่องชั่งน้ำหนักเพิ่มขึ้นทุกวันไม่หยุด คงเป็นไปได้ยากที่เราจะสามารถนิ่งนอนใจกับตัวเลขเหล่านั้นได้ การควบคุมอาหารและลดน้ำหนักด้วยสูตรต่าง ๆ จึงเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การลดน้ำหนักแบบคีโต การทำ IF หรือ การนับแคล ซึ่งแต่ละวิธีก็มีประโยชน์และโทษที่แตกต่างกันไป และหนึ่งในวิธีลดน้ำหนักที่ถูกบอกต่อกันเป็นจำนวนมากคือ การกินแตงโมลดน้ำหนัก แต่ทั้งนี้การกินแตงโมเพื่อลดน้ำหนักก็ยังมีเรื่องที่คุณต้องระวังเช่นกันครับ
กินแตงโม อ้วนไหม? กินแตงโมเป็นลูกทุกวันต้องระวัง!
แต่หากใครที่ทานแตงโมเป็นลูกแทนอาหารมื้อหลักติดต่อกันทุกวัน ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างมากครับ เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นแล้ว ยังทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลจากแตงโมมากเกินไปอีกด้วยครับ ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงในอนาคตได้ครับ ดังนั้นการบริโภคทุกอย่างแต่พอดีจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนกว่าครับ
ประโยชน์ของแตงโม
- ช่วยควบคุมน้ำหนักได้ หากทานอย่างเหมาะสม
- ช่วยป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำ
- มีวิตามิน C และ E เสริมสร้างผิวให้แข็งแรง
- ช่วยเสริมสร้างการผลิตคอลลาเจน
- เพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิวหนัง
- แตงโมมีไลโคปีน ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
- แตงโมมีกรดอะมิโน ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ
- แคโรทีนอยด์อย่างเบต้า-คริปโตแซนทีน (Beta-Cryptoxanthin) ในแตงโม อาจทำให้ข้อต่อแข็งแรงขึ้น
- กรดอะมิโนซิทรูลีน (Citrulline) ในแตงโม อาจช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อได้
ข้อควรระวังในการทานแตงโม
- การทานแตงโมในปริมาณที่แนะนำคือ 280 กรัมต่อวัน เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่เหมาะสม
- ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยงแตงโมที่มีการปรุงแต่งและเพิ่มความหวาน เนื่องจากแตงโมมีดัชนีน้ำตาลสูง ซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินมาตรฐาน
- การทานแตงโมสดเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลและรับประทานผลไม้ที่ปลอดภัย
- ใครที่สงสัยว่ากินแตงโม อ้วนไหม? สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องน้ำหนัก การทานแตงโมเกินปริมาณที่แนะนำอาจส่งผลต่อน้ำหนักตัวได้
ตอนเย็นกินแตงโม อ้วนไหม?
สำหรับใครที่มักกินแตงโมในช่วงตอนเย็น หมอขอแนะนำให้เปลี่ยนไปทานในช่วงเวลา 11.00 – 13.00 น. จะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดครับ เนื่องจากน้ำของแตงโมสามารถไปลดประสิทธิภาพของระบบย่อยได้ ทำให้ร่างกายฉี่บ่อยและในบางคนอาจมีอาการท้องผูก ดังนั้นการกินแตงโมตอนเย็นเป็นจำนวนมากจะไม่ช่วยลดน้ำหนัก และเพิ่มโอกาสให้น้ำหนักขึ้นได้เนื่องจากระบบเผาผลาญทำงานได้ไม่สมบูรณ์ครับ
สำหรับผลไม้แคลต่ำที่เหมาะสำหรับกินในมื้อเย็น มีดังนี้
- แอปเปิ้ล
- กีวี่
- แก้วมังกร
- อะโวคาโด
- กล้วยหอม
- มะเขือเทศ
การทานผลไม้ที่ดีควรเลือกทานอย่างเหมาะสม และไม่ควรทานผลไม้แทนมื้อเย็นแต่ควรทานควบคู่กันไปในปริมาณที่พออิ่ม
กินแตงโมทุกวันได้ไหม?
กินแตงโมทุกวันสามารถทำได้ แต่ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากแตงโมมีน้ำตาลธรรมชาติที่สูง การรับประทานแตงโมในปริมาณ 280 กรัมต่อวันเป็นที่แนะนำเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากสารอาหาร เช่น วิตามิน A และ C โดยไม่เพิ่มน้ำตาลในร่างกายมากเกินไป หากกินแตงโมทุกวัน ข้อเสียคืออาจส่งผลต่อน้ำหนักและระดับน้ำตาลในเลือดได้
เป็นเบาหวานกินแตงโมได้ไหม?
ผู้ที่เป็นเบาหวานสามารถกินแตงโมได้ แต่ควรระวังปริมาณที่บริโภค เนื่องจากแตงโมมีดัชนีน้ำตาลสูง การทานในปริมาณเล็กน้อยและเลือกรับประทานแตงโมสดที่ไม่มีการปรุงแต่งหรือเพิ่มความหวานเป็นวิธีที่ดีที่สุด
หลังคลอดกินแตงโมได้ไหม?
ถ้าถามว่าแตงโมช่วยอะไรผู้หญิงได้บ้าง? คำตอบคือผู้หญิงหลังคลอดสามารถกินแตงโมได้ เพราะแตงโมมีน้ำและสารอาหารที่ช่วยในการฟื้นฟูร่างกาย เช่น วิตามิน C และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นและการฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อไม่ให้ได้รับน้ำตาลมากเกินไป
ปริมาณน้ำตาลในแตงโมมีเท่าไร? แตงโมกี่แคล?
ในแตงโม 100 กรัม ให้พลังงานทั้งหมด 30 กิโลแคลอรี่ มีน้ำตาลธรรมชาติอยู่ประมาณ 6 กรัม ซึ่งถือว่าสูงพอสมควรในแง่ของดัชนีน้ำตาล สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลหรือดูแลน้ำหนัก จึงควรบริโภคแตงโมในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากน้ำตาลในร่างกาย
วิธีควบคุมอาหารที่เหมาะสม
หลายคนน่าจะหายสงสัยปัญหาการ กินแตงโม อ้วนไหม กันมากขึ้นแล้วนะครับ แต่ถ้าหากไม่กินแตงโมแทนมื้อหลัก เราจะสามารถคุมน้ำหนักด้วยวิธีไหนได้บ้าง? หมอขอแนะนำว่าการควบคุมน้ำหนักที่ดีคือไม่ควรอดอาหารนะครับ แต่ควรลดปริมาณของแต่ละมื้อให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ โดยแบ่งเป็น ผักผลไม้ 2 ส่วน คาร์โบไฮเดรต 1 ส่วน เนื้อสัตว์และโปรตีน 1 ส่วน หรือที่เราเรียกกันว่าสูตรคุมอาหาร 2:1:1 ซึ่งการคุมอาหารวิธีนี้จะช่วยให้ร่างกายได้รับปริมาณของสารอาหารที่ครบถ้วน ไม่หนักเกินไปจนร่างกายเผาผลาญไม่หมดและเกิดเป็นไขมันส่วนเกินได้ และหากใครที่ชอบทานแตงโมสามารถจัดให้แตงโมอยู่ในสัดส่วนของผักผลไม้ในช่วงมื้อเที่ยงได้ครับ เท่านี้ร่างกายเราก็จะอิ่มอย่างพอดีและไม่ทรมานจนทำให้ล้มเลิกไปกลางทาง
ฝึกวินัยการกินให้ดีขึ้นด้วย Amara Pen ตัวช่วยของคนรักการกิน
หากใครที่รู้สึกว่าการคุมน้ำหนักด้วยวิธีที่หมอเพิ่งกล่าวไปข้างต้น เป็นเรื่องยากเพราะติดนิสัยกินจุกจิกไม่เป็นเวลา หมอขอแนะนำเป็น Amara Pen ทางเลือกของคนชอบกิน ที่จะหยุดนิสัยการกินที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพและรูปร่าง
Amara Pen หรือ ปากกาลดน้ำหนักมีตัวยา GLP-1 Analogue ซึ่งมีความสามารถในการช่วยควบคุมไม่ให้ร่างกายของเรากินมากเกินไป โดยตัวยาจะเข้าไปควบคุมสั่งการให้ ศูนย์หิว-ศูนย์อิ่ม รู้สึกหิวน้อยลงและหิวเป็นเวลามากขึ้น ใครที่ชอบทานจุกจิกหรือทานแบบจัดหนักทุกมื้อ ก็จะสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินได้ดีขึ้น กระเพาะที่เคยขยายใหญ่ตามปริมาณของอาหารที่กินเข้าไปก็จะหดตัวเล็กลง จึงทำให้คนที่ใช้ Amara Pen ลดน้ำหนักได้อย่างเห็นผลและไม่ทรมานกลับการอดอาหาร อีกทั้งการใช้ Amara Pen ยังมีคุณหมอที่มีความชำนาญคอยให้คำแนะนำตลอดการใช้งานและตัวยาได้รับการรับรองจาก อย. สหรัฐอเมริกา (U.S. FDA), ประเทศไทย (Thai FDA) และเกาหลีใต้ (KFDA) อีกด้วยครับ
อันตราย หากใช้ปากกาลดน้ำหนักปลอม!!
การใช้ปากกาลดน้ำหนักถือว่ามีความเสี่ยงหากไม่มีการดูแลโดยแพทย์ เนื่องจากตัวยามีผลต่อระบบสั่งการของสมอง การซื้อปากกาลดน้ำหนักตามอินเทอร์เน็ตมาใช้เองจึงมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ ดังนั้นหากใครที่มีภาวะโรคอ้วนแล้วต้องการปรับพฤติกรรมการกิน หมอแนะนำให้มาพบแพทย์ด้านโภชนาการเพื่อรับคำแนะนำ หรือเข้ามาปรึกษากับทาง Amara Clinic เพื่อวิเคราะห์ถึงปัญหาและรับการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไปครับ
ลดไขมัน ปรับรูปร่างให้เล็กลง ที่ Amara Clinic
“การดูดไขมัน” ถือว่าเป็นทางลัดของผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปโดยไม่ต้องใช้เวลานาน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกายแต่ต้องการลดไขมันในร่างกาย และผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงลุคของตัวเองให้ดูดีขึ้นอย่างเร่งด่วน ซึ่งการดูดไขมันกับ หมอไอซ์ ที่ Amara Clinic จะมีความแตกต่างจากคลินิกอื่น ๆ ตรงที่หมอมีความชำนาญสูงในด้านนี้และมีเทคนิคพิเศษเยอะ อีกทั้งหมอยังได้คัดสรรเครื่องมือดูดไขมันที่มีประสิทธิภาพ และมีเครื่องมือหลากหลายแบบให้เลือกใช้เหมาะกับทุกเคส อาทิ เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ เครื่องดูดไขมันคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ และเครื่องดูดไขมันพลังงานกล จึงทำให้คนไข้ที่เข้ามาดูดไขมันกับหมอมีเครื่องมือที่ตอบโจทย์กับทุกปัญหาอย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น หนุ่ม-สาวไซส์ใหญ่ คนอ้วนลงพุง และ คนที่ผอมแต่มีพุง และอื่น ๆ อีกมากมาย
หากใครที่รู้สึกว่าการคุมอาหารเป็นเรื่องที่รอผลลัพธ์นานเกินไป เพราะอยากจะมีหุ่นสวย ๆ จนกล้าใส่ชุดบิกินี่ไปอวดหุ่นที่ทะเลเต็มทน Amara Clinic เรามีบริการลดไขมันกระชับสัดส่วนด้วย การดูดไขมัน ที่มีจำนวนเคสรีวิวแน่น และเรายังมีบริการ After Care หลังดูดไขมันที่ครับครัน ทำให้ผิวหลังดูดไขมันกระชับสวยงามยิ่งขึ้น อีกทั้งหมอพร้อมนำเทคนิค Sexy Line และ การทำเอวเอส มาช่วยในการปรับรูปร่างของคนไข้ให้มีส่วนเว้าโค้งที่น่ามองยิ่งขึ้น ทำให้การดูดไขมันของ Amara Clinic ไม่แค่การนำไขมันออกแล้วจบ แต่ต้องเอาไขมันออกอย่างเหมาะสมและสร้างสัดส่วนให้มีมิติสวยงาม
ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ รับรองโดยกระทรวงสาธารณสุข!!
ห้องผ่าตัด อีกปัจจัยสำคัญของการดูดไขมันที่มีประสิทธิภาพ!! Amara Clinic เราให้ความใส่ใจต่อทุกขั้นตอนในการให้บริการ จึงได้สร้างห้องผ่าตัดขึ้นมาใหม่โดยติดตั้งระบบ Positive Pressure ที่เป็นมาตราฐานของผ่าตัดที่ดี เนื่องจากภายในห้องจะถูกควบคุมให้อากาศเป็นบวกอยู่เสมอ จึงสามารถป้องกันไม่ให้อากาศจากภายนอกห้องผ่าตัดไหลเข้ามาได้ แผลของคนไข้จึงไม่เกิดการสัมผัสกับเชื้อโรคและสิ่งสกปรก ทำให้หลังดูดไขมันร่างกายจะฟื้นฟูตัวเองได้ดีในระเวลาที่เหมาะสม ไม่เสี่ยงติดเชื้อหรือเกิดการอักเสบของแผล และที่สำคัญห้องผ่าตัดของเราได้ผ่านการรับรองโดยกระทรวงสาธารณสุข
องค์ประกอบอื่น ๆ ที่ทำให้ห้องผ่าตัด Positive Pressure ดีต่อตัวคนไข้ มีดังนี้
- ประตู Compact Laminate ระบบ Hermatic Seal ป้องกันเชื้อโรคไม่ให้เข้ามาภายในห้อง
- ฝ้า ผนัง เพดาน และพื้น สร้างจากวัสดุ Compact Laminate ง่ายต่อการทำความสะอาด และไม่สะสมเชื้อโรค
- ผนังกระจกอบแก๊สพิเศษ ช่วยควบคุมความดัน ป้องกันเชื้อโรค
- ระบบกรองอากาศ HEPA Filter ที่สามารถกรองอากาศให้สะอาดได้มากถึง 99.97%
- ระบบออกซิเจน Pipeline
- ระบบ Lamina Airflow ควบคุมทิศทางการไหลของอากาศภายในห้อง
- ระบบ Scavenger ช่วยระบายแก๊สส่วนเกิน กำจัดแก๊สดมยาสลบ และป้องกันการรั่วไหลของแก๊ส
- ระบบไฟฟ้าสำรอง สามารถดูดไขมันต่อไปได้แม้ว่าไฟดับ
- กล้อง FLIR SCAN ช่วยสแกนอุณหภูมิผิวของคนไข้ระหว่างดูดไขมัน
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
หลายคนน่าจะคลายความสงสัยเกี่ยวกับปัญหา “กินแตงโม อ้วนไหม” ไปบ้างแล้วนะครับ ก็อย่างที่หมอได้กล่าวไปข้างต้นว่าการทานแตงโมที่พอเหมาะไม่ทำให้อ้วน แต่หากกินมากเกินไปหรือกินแทนมื้อหลักก็จะทำให้น้ำตาลในร่างกายสูง และส่งผลเสียต่อระบบเผาผลาญได้ครับ ดังนั้นควรเลือกทานอาหารที่หลากหลายและอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม สุดท้ายนี้หากใครที่สนใจปรึกษาปัญหารูปร่าง กระชับสัดส่วน และดูดไขมัน สามารถนัดคิวกับหมอหรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE : @amaraclinic
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic