เรื่องที่ต้องรู้! “หลังผ่าตัดห้ามกินอะไรบ้าง?”

หลังผ่าตัดห้ามกินอะไร

        เรามักจะพบเห็นกันได้บ่อย ๆ เลยนะครับว่าหลังจากที่ผ่าตัดทำศัลยกรรมมาแล้วเนี่ย จะมีอาการต่าง ๆ หรือที่เราเรียกว่าผลข้างเคียงเกิดขึ้น กว่าที่รูปร่างหรือบริเวณที่เราทำศัลยกรรมไปจะสวยเข้าที่ มันย่อมต้องผ่านช่วงเวลาผลข้างเคียงมันแสดงออกมาก่อนครับ ไม่ว่าจะเป็นอาการบวม ความเจ็บ การฟื้นตัว ฯลฯ รู้หรือไม่ครับว่าอาหารก็ส่งผลกับช่วงนี้เหมือนกัน เพื่อไม่ให้ผู้อ่านเผลอไปกินอาหารที่ไม่ควร เรามาดูกันครับว่าหลังผ่าตัดห้ามกินอะไร? อาหารแบบไหนไม่ควรกินในช่วงที่ฟื้นตัวจากการศัลยกรรม

ทำไมหลังผ่าตัดถึงกินอาหารตามใจปากไม่ได้?

        หลังผ่าตัดห้ามกินอะไร? ทำไมต้องห้ามด้วยล่ะ อยากกินตามใจปากไม่ได้เหรอ? หมอต้องบอกแบบนี้ครับว่าอาหารมีหลากหลายมาก แต่ละคนจะมีความชื่นชอบในเมนูอาหารที่แตกต่างกัน บางคนชอบกินอาหารทะเลมาก บางคนขอเป็นอาหารอีสาน ส้มตำปูปลาร้า มีอะไรจัดมาให้หมด หรือบางคนอาจจะชอบกินของหมักดองเป็นประจำทุกวัน ซึ่งอาหารมันก็จะมีทั้งเมนูที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และเมนูที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย โดยเฉพาะช่วงที่ร่างกายอ่อนแอหลังศัลยกรรม หากเราเผลอกินเข้าไปโดยที่ไม่รู้ หรือรู้แล้วแต่ยังดื้อที่จะกิน อาเกิดผลเสียต่อร่างกายได้ ร้ายแรงคือทำให้แผลติดเชื้อ อักเสบ บวมแดง เน่า และเสียโฉมไปได้เลย

ยกตัวอย่างในกรณีของเคสที่ดูดไขมันกันครับ เราทราบอยู่แล้วว่าคนที่มาดูดไขมันคือคนที่มีปัญหาเรื่องส่วนเกิน ตัวใหญ่หรืออ้วนขึ้นเพราะไขมัน อันมาจากพฤติกรรมการกินอาหารที่ตามใจปาก เอ็นจอยอีทติ้ง อยากกินอะไรก็กินหมด โดยที่ไม่ได้สนใจว่ามันจะทำให้เราอ้วนขึ้นหรือไม่ เมื่อเราดูดไขมันออกไปแล้ว ตัวเล็กลง หน้าท้องยุบ และมีรูปร่างที่สวยแล้ว เราดันมีพฤติกรรมการกินเหมือนเดิมเลย แน่นอนว่าไขมันส่วนเกินก็สามารถกลับมาสะสมและทำให้อ้วนขึ้นได้อีกครับ ดังนั้น ถ้าถามว่าหลังผ่าตัดห้ามกินอะไรในเคสของคนไข้ที่ดูดไขมันเนี่ย คำตอบคืออาหารที่ทำให้อ้วนขึ้นนั่นแหละครับ

สอบถามฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี
หลังผ่าตัดห้ามกินอะไร

หลังผ่าตัดห้ามกินอะไร? เพราะเหตุใด?

        หลังจากที่ทำศัลยกรรมมาแล้ว คลินิกเสริมความงามบางแห่งก็จะมีข้อมูลการดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมมาให้ หรือรวมไปถึงข้อมูลแจกแจงรายละเอียดว่าหลังผ่าตัดห้ามกินอะไรบ้างและควรกินอะไรบ้าง บางแห่งอาจจะอธิบายเพิ่มเติมว่าทำให้ต้องห้ามไม่ให้กิน แต่บางแห่งก็อาจจะไม่มีอธิบายก็ได้ เพื่อคลายข้อสงสัยในเรื่องนี้ หมอจึงเขียนอธิบายให้ทำความเข้าใจกันตามนี้เลย!

อาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังผ่าตัดเกิดจากการที่เส้นเลือด เส้นประสาท และเนื้อเยื่อภายใต้ผิวถูกทำลาย พอเกิดเป็นแผลก็จะตามมาด้วยความเจ็บปวด จากนั้นเลือดจะไหลออกมา ทำให้ร่างกายเสียเลือด มีอาการฟกช้ำดำเขียวเกิดขึ้น ร่างกายอ่อนแอ ทำอะไรก็ไม่สะดวกเหมือนเดิม เรี่ยวแรงน้อยลง ขยับแล้วเจ็บ ทำอะไรก็ลำบากไปหมด สิ่งที่เราต้องการคือทำอะไรก็ได้ ให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น ซึ่งการที่ร่างกายจะฟื้นตัวเร็วขึ้นได้นั้น มาจากการที่เรามีอาการบวมช้ำน้อยลง เนื้อเยื้อที่เสียหายถูกฟื้นฟู เลือดหดตัวกลับเข้าเส้นเลือด แผลสมานตัวหรือเริ่มแห้ง และความเจ็บทุเลาลง

ถ้าเราไปกินอาหารที่กระตุ้นให้เลือดออกมาเยอะขึ้น กินอาหารที่ทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้น หรือกินอาหารที่อุดมไปด้วยเชื้อโรคและแบคทีเรีย ภายในร่างกายของเราก็จะฟื้นตัวได้ช้าลง อาหารที่เป็นอยู่แล้วก็จะหนักขึ้น และลามไปถึงปัญหาเรื่องการติดเชื้ออย่างที่หมอเคยเกริ่นไปนั่นเองครับ สำหรับคำถาม “หลังผ่าตัดห้ามกินอะไร? ของแสลงหลังผ่าตัด มีอะไรบ้าง?” เรามาดูกันว่ามีของที่ผู้อ่านชื่นชอบอยู่รึเปล่า!? (ส่วนใหญ่ระยะเวลาที่ควรงดคือ 1 เดือน หรืออย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด)

อาหารห้ามกินหลังผ่าตัด
  1. อาหารที่มีโซเดียมสูง
    อาหารที่มีโซเดียมสูง มีรสชาติเค็ม หรือปรุงด้วยเครื่องปรุงเยอะ ๆ อย่างอาหารทะเล ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็งรูป อาหารแช่แข็ง ฯลฯ จะทำให้มีอาการบวมมากขึ้นกว่าเดิม จากที่อาหารบวมกำลังค่อย ๆ ยุบลง กลับบวมและอักเสบมากขึ้น ยิ่งบวมเท่าไหร่ ระยะเวลาที่ผลลัพธ์จะเข้าที่และเห็นผลยิ่งยืดยาวออกไป
  2. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์จะทำให้เลือดสูบฉีดมากขึ้น หากเส้นเลือดที่ถูกทำลายไปยังไม่สมานตัวกันดี อาจทำให้เลือดออกเพิ่มมากขึ้นได้ การอักเสบจะมาขึ้นกว่าเดิม รอบฟกซ้ำจะเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้แผลหายช้าลง และอาจจะติดเชื้อได้ นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ก็ควรงดเช่นเดียวกัน เพราะสารประกอบมีส่วนไปยั้บยั้งการฟื้นฟูเซลล์ผิว
  3. อาหารแสลง
    อาหารแสลงต่าง ๆ รวมไปถึงอาหารหมักดองทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นส้มตำ ปูปลาร้า อาหารรสจัด ซาซิมิ หรือรวมไปถึงบรรดาอาหารที่ไม่ได้ถูกปรุงให้สุก 100% อาจมีการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ หากเรากินเข้าไปตอนที่ร่างกายยังอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง อาจทำให้ร่างกายมีการซ่อมแซมตัวเองช้าลง แผลหายช้า และเสี่ยงติดเชื้อสูง
  4. อาหารเสริมหรือยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
    อาหารเสริม วิตามิน หรือยาบางชนิด (Aspirin, Wafarin, Vitamin E, Fish Oil หรือ Ginko เป็นต้น) ส่งผลทำให้อัตราการแข็งตัวของเลือดต่ำลง ทำให้แผลหายช้ากว่าเดิม หรือเลือดไหลไม่หยุดได้
อาหารหลังผ่าตัด

อยากฟื้นตัวไว หลังผ่าตัดควรกินอะไรบ้าง?

       เราก็ทราบกันแล้วนะครับว่าหลังผ่าตัดห้ามกินอะไรบ้าง? และของแสลงสำหรับคนผ่าตัดมีอะไรบ้าง? ทีนี้เรามาดูกันว่าหลังผ่าตัดศัลยกรรมต้องกินอะไรกัน! (กินในปริมาณที่เหมาะสมนะครับ เพราะอาหารบางอย่างกินมากเกินไปก็ส่งผลเสียต่อร่างกายได้)

  1. น้ำเปล่า
    น้ำเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกายอยู่แล้ว หากร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอ ระบบต่าง ๆ ของร่างกายก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง “น้ำ” ยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญต่อกระบวนการฟื้นฟูเซลล์ในร่างกาย และการสมานแผลหลังการผ่าตัดอีกด้วย หลังจากผ่าตัดมาแล้ว เราควรดื่มน้ำ 1-2 ลิตร/วัน
  2. Vitamin C และ Vitamin B Complex
    การกิน Vitamin C หลังศัลยกรรมจะช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง เพื่อแทนที่เลือดที่เราเสียไปในระหว่างผ่าตัด รวมไปถึงช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของผนังหลอดเลือดได้อีกด้วย ส่วนวิตามินบีรวมจะช่วยบำรุงระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยผสานเซลล์ทำให้แผลหายเร็วขึ้น เรียกได้ว่าใครอยากให้ผลข้างเคียงต่าง ๆ หลังผ่าตัดมันมีอาการดีขึ้น ให้ทานวิตามินสองตัวนี้เลย!
  3. โปรตีน
    การผ่าตัดจะทำให้เนื้อเยื่อบางส่วนได้รับความเสียหาย สารอาหารประเภทโปรตีนจะเข้ามาช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ให้กลับไปแข็งแรงดังเดิม แนะนำให้เลือกทานโปรตีนจากเนื้อปลา ถั่วเหลือง ไข่ และธัญพืชต่าง ๆ 
  4. คาร์โบไฮเดรตและไขมันดี
    คาร์โบไฮเดรตจากบรรดาข้าว ขนมปัง แป้ง ฯลฯ และ ไขมันดีที่ได้จากเนื้อสัตว์ ชีส นม น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก อะโวคาโด ฯลฯ ช่วยลดอาการอักเสบติดเชื้อลงได้ มีส่วนช่วยทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น แผลหายเร็วขึ้น และยังทำให้อาการบวมลดลงเร็วกว่าเดิมอีกด้วย
  5. อาหารที่ช่วยลดอาการบวม
    ใครที่เคยหาข้อมูลหรือดูรีวิวการไปศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลี คงจะพบว่าที่นู้นเค้าฮิตกินผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากฟักทองอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำฟักทอง ขนมฟักทอง หรือจะเป็นโจ๊กฟักทองก็ตาม เพราะฟักทองช่วยลดอาหารบวมได้ดีทีเดียว แต่ถ้าใครหาฟักทองมาทานไม่ได้ อาจจะทานเป็นน้ำมะพร้าว (มะพร้าวอ่อน ช่วยได้ดีกว่ามะพร้าวแก่) หรือหาแคปซูลใบบัวบักมาทานก็ได้เช่นกัน
  6. รับประทานยาตามอาการ
    ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังศัลยกรรมที่พบได้แทบจะทุกเคสและทุกบริการเลย คงไม่พ้นอาการเจ็บและปวดระบม หลังจากที่ยาชาหมดฤทธิ์ไปแล้ว แนะนำให้ทานยาแก้ปวดตามแพทย์แนะนำ รวมไปถึงการทานยาฆ่าเชื้อติดต่อกันทุกวันจนหมด รวมไปถึงยาอื่น ๆ ที่แพทย์จ่ายให้อย่างเคร่งครัดด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง

ยาลดน้ำหนักเร่งด่วนเห็นผลจริงเหรอ? คุ้มไหม?

อ่านเพิ่มเติม

สุดยอดอาหารแคลน้อยครบ 3 มื้อ กินอะไรดีมาดูกัน!

อ่านเพิ่มเติม

กินกล้วยอ้วนไหม? ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือเป็นแค่ความเชื่อ!?

อ่านเพิ่มเติม

สรุป


        การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดเป็นเรื่องสำคัญมาก เราควรดูแลตัวเองให้ดี ทั้งการปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ การเข้าไปรับบริการต่าง ๆ ที่คลินิก (After Care) และรวมไปถึงการใส่ใจเรื่องอาหารการกินด้วย ซึ่งในบทความนี้เราก็ได้ทราบแล้วนะครับว่าหลังผ่าตัดห้ามกินอะไร? ของแสลงหลังผ่าตัดมีอะไรบ้าง? และหลังผ่าตัดควรกินอาหารแบบไหน เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวและเข้าที่สวยในที่สุด ใครที่กำลังมองหาคลินิกศัลยกรรมความงาม แต่ไม่รู้ว่าจะไปทำที่ไหนดี ยังไงลองเข้ามาปรึกษาแพทย์ที่ Amara Clinic ได้เลย เรามีแพทย์ชำนาญการเฉพาะทางโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นศัลยแพทย์เฉพาะทาง หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอื่น ๆ ก็ตาม

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่

ติดต่อเบอร์โทร : 

062-789-1999

สาขารัชโยธิน กด 1
สาขาราชพฤกษ์ กด 2

สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB

ศัลยแพทย์เฉพาะทาง

นพ. ฤทธิกร พรไพศาลสกุล (หมอนิว)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


              บทความนี้ จัดทำขึ้นโดย Amara Clinic (เอมาร่า คลินิก) ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ คัดลอก ทำซ้ำ หรือเผยแพร่บทความนี้ในนามอื่น (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, ข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนก็ตาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย