เช็ค! อาการปวดหลังส่วนล่าง พร้อมวิธีการรักษาที่ตรงจุด!

คนที่นั่งทำงานหน้าคอมในท่าเดิมนาน ๆ หรืออยู่ในอริยาบทที่ไม่เอื้ออำนวยต่อกล้ามเนื้อหลังและกระดูกสันหลังเป็นเวลานาน อาจจะมีอาการปวดหลังส่วนล่างได้ ซึ่งบางคนอาจจะปวดหลังล่างแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น แต่บางคนก็อาจจะมีอาการปวดหลังส่วนล่างเรื้อรังนานร่วมเดือนก็เป็นได้ ทั้งนี้ ความรุนแรงของอาการจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและสภาพร่างกายของแต่ละคน ใครที่กำลังมีปัญหาเรื่องนี้อยู่ หรือปวดหลังส่วนล่างไม่หายสักที ต้องไม่พลาดบทความนี้เลยครับ  หมอได้รวบรวมข้อมูลของสาเหตุ ลักษณะของอาการ และวิธีการรักษามาอธิบายให้อ่านกันแล้ว! – หมอไปร์ท Amara Clinic

กล้ามเนื้อหลัง (Multifidus) จัดอยู่ในกลุ่มของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core Muscle) ที่มีความสำคัญกับร่างกายอย่างยิ่ง หน้าที่ของกล้ามเนื้อหลังคือช่วยพยุงกระดูกสันหลังไม่ให้เคลื่อนตัวไปมาหรือเคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิม เพื่อให้กระดูกสันหลังแต่ละข้อทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อกระดูกสันหลังอยู่ในสภาวะปกติ จะทำให้บุคลิกภาพของเราดูดี ทำให้เราเดินหลังตรงทรงตัวดี และช่วยให้ร่างกายของเรามีความสมดุลด้วยครับ (คนที่กระดูกสันหลังคดหรือเบี้ยว จะส่งผลให้ลำตัวและช่วงเอวเบี้ยวตามไปด้วย)

สาเหตุที่ทำให้มีปัญหาปวดหลังส่วนล่าง หมอจะแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ คือพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล สภาพร่างกายที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา และอาการข้างเคียงจากโรคบางชนิดครับ

1.พฤติกรรมการใช้ชีวิต

พฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราก็คือสิ่งที่เราเลือกกระทำเอง หมอจะยกตัวเองเคสของอาการออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) ที่คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันชอบเป็นกันมาให้ผู้อ่านเห็นภาพที่ชัดขึ้นนะครับ คนที่เป็นพนักงงานออฟฟิศหรือคนที่ต้องนั่งอยู่กับที่นานติดต่อกันหลายชั่วโมง และเลือกนั่งในอริยาบทที่ไม่ถูกต้อง เช่น การนั่งหลังค่อม หรือนั่งในท่าทางที่ทำให้กระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อหลังอักเสบ ก็จะส่งผลให้มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกายต่าง ๆ ตามมา โดยเฉพาะอาการปวดหลังส่วนล่าง ซึ่งสามารถพบได้ทั้งปวดหลังส่วนล่าง ผู้หญิงและผู้ชาย รวมถึงทุกช่วงวัยที่มีพฤติกรรมเสี่ยงแบบนี้ครับ

นอกจากพฤติกรรมที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบทำให้เรามีอาการปวดหลังส่วนล่างในอนาคตอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการก้มยกของหนัก, การยืนนาน ๆ , การไม่ออกกำลังกาย ไม่บริหารกล้ามเนื้อ หรือการเล่นกีฬาที่หักโหมเกินไป เป็นต้นครับ

2.สภาพร่างกายที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา

คนเราอายุเพิ่มมากขึ้นทุกวัน สิ่งที่เห็นได้ชัดมากที่สุดจากการเปลี่ยนของร่างกายคือสภาพผิวหย่อนคล้อย ผิวขาดความกระชับเต่งตึง มีริ้วรอยความเหี่ยวย่นต่าง ๆ ในขณะเดียวกันสิ่งที่เรามองไม่เห็นได้ด้วยตาแต่รับรู้ได้ด้วยความรู้สึกและอาการต่าง ๆ ก็คือการที่กล้ามเนื้อหลังส่วนล่างในร่างกายของเรามันไม่หนาแน่นเท่าเดิม และกระดูกสันหลังภายในร่างกายเสื่อมสภาพลงไป อาจทำให้เส้นประสาทบริเวณหลังถูกกดทับได้ จึงอาจเป็นหนึ่งที่มาของอาการปวดหลังส่วนล่างนั่นเอง

ก่อนอื่นเลยแนะนำให้เข้าไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางหรือนักกายภาพบำบัด เพื่อตรวจเช็คว่าปัญหาปวดหลังส่วนล่างของเรานั้นมีสาเหตุมาจากอะไร แล้วจึงจะทราบได้ว่าควรรักษาอย่างไรถึงจะตรงจุดมากที่สุด 

1. กล้ามเนื้อหลังส่วนล่างอักเสบ สามารถบรรเทาอาการปวดหลังส่วนล่างได้โดยการฉีดยาลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ ทานยาคลายกล้ามเนื้อ และการกายภาพบำบัด
2. กระดูกสันหลังหรือข้อต่อกระดูกมีปัญหา อาจจะต้องรักษาโดยการฉีดยา ทานยา และรวมไปถึงการผ่าตัดแก้ไขกระดูกสันหลัง เพื่อให้กระดูกสันหลังกลับมาอยู่ในสภาวะปกติให้ได้มากที่สุด
3. หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท จะมีการฉีดยารักษาในช่วงหนึ่ง หากการให้ยาไม่ได้ผลอย่างที่ต้องการ คนไข้อาจจะต้องเริ่มทำกายภาพบำบัด หรืออย่างมากที่สุดคือการผ่าตัดครับ dolore magna aliquam erat volutpat.

• นั่งหลังตรง ไม่นั่งหลังคล่อม เมื่อมองจากมุมด้านข้างแล้ว ตำแหน่งของหัวไหล่ หู และสะโพกควรอยู่ในระนาบเดียวกัน จากนั้นให้วางเท้าลงที่พื้นแบบตั้งฉาก 90 องศา
• พยายามเปลี่ยนท่าทางในการนั่งบ่อย ๆ ไม่อยู่ในบริบทเดิมนานจนเกินไป
• ออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงทนทานมากขึ้น
• หลีกเลี่ยงการก้มยกของนาน ๆ หรือมีการยกของหนัก หากจำเป็นต้องยกของหนักให้กางขาออกทั้งสองข้าง ยืนให้มั่นคง ยืดหลังตรง และย่อเข่าข้างใดข้างหนึ่งลงยกของ
• หากจำเป็นต้องยืนนาน ๆ ให้ค่อย ๆ เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง เพื่อปรับให้กล้ามเนื้อรองรับน้ำหนักของกระดูกสันหลัง และปล่อยน้ำหนักลงบนเท้าหนึ่งข้าง โดยการวางเท้าบนขั้นบันไดหรือเก้าอี้เตี้ย

TESLA Former Chair คือเก้าอี้ที่จะช่วยลดอาการปวดหลังส่วนล่างของเราอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะอยู่ในหมวดของการรักษาแบบกายภาพบำบัด โดยการปล่อยพลังคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมากระตุ้นกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง รวมไปถึงกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวอื่น ๆ TESLA Former Chair จะมีการติดตั้งอุปกรณ์ปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง คือบริเวณเบาะที่นั่งด้านหลังและใต้เบาะที่นั่งส่วนล่าง ดังนั้น กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานก็จะถูกกระตุ้นร่วมด้วย

พลังคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะทำให้กล้ามเนื้อหลังส่วนล่างที่มีปัญหาอาการปวดหลังล่าง ถูกกระตุ้นทำให้หดเกร็งติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ภายใน 30 นาที กล้ามเนื้อจะหดเกร็งได้ถึง 50,000 ครั้ง ซึ่งเครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในปัจจุบันก็มีอยู่หลายเครื่องนะครับ แต่มีน้อยเครื่องมากที่จะสามารถทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็งได้เต็มที่ถึง 100% อย่าง TESLA Former Chair

การที่กล้ามเนื้อหดเกร็งเต็มที่ 100% เราจะเรียกว่า Supra Maximum Contraction ครับ โดยข้อดีของภาวะนี้ก็คือกล้ามเนื้อจะถูกกระตุ้นและเร่งการสร้างขึ้นมาใหม่ ทำให้กล้ามเนื้อหลังส่วนล่างมีความแข็งแรง ทนทาน และหนาแน่นขึ้นนั่นเอง อาการปวดหลังส่วนล่างก็จะค่อย ๆ ลดลง ทั้งนี้ ควรทำต่อเนื่องประมาณ  8-10 ครั้ง (1 คอร์ส) ขึ้นไปเพื่อให้เห็นผลที่ชัดเจนยิ่งขึ้นครับ