อย่างที่เราทราบกันว่าในปี 2024 นี้ เครื่องดูดไขมันมีให้เลือกมากมาย มีหลากหลายเครื่องเลยนะครับ ทั้งเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ และเครื่องดูดไขมันพลังความร้อน วันนี้หมอไอซ์ AMARA (เอมาร่าคลินิก) จะมาอาสาเปรียบเทียบความต่างของเครื่องดูดไขมัน 2 แบบนี้ให้อ่านกันครับ ใครที่อยากดูดไขมันห้ามพลาด!
เครื่องดูดไขมันทั้งสองแบบ ต่างกันยังไง?
เครื่องดูดไขมันแต่ละเครื่อง ก็จะมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไปนะครับ ทั้งในเรื่องของกระบวนการดูดไขมัน, ความเหมาะสมกับแต่ละเคส, งบประมาณของคนไข้, ผลลัพธ์ที่ต้องการหลังทำ, ระยะเวลาในการพักฟื้น, อาการเจ็บ ความบวมช้ำ รวมไปถึงความยากง่ายของเคสด้วยเช่นกันครับ
อีกทั้งหมอจะมาอธิบายเพิ่มเติม ว่าเครื่องดูดไขมันทั้งสองแบบนี้ ดีกว่ากันและด้อยกว่ากันในด้านไหนบ้าง รวมไปถึงคลายข้อสงสัยต่าง ๆ เช่น เซลล์ไขมันที่ได้เหมือนกันมั้ย?, ลักษณะของเซลล์ไขมันเป็นยังไง?, ใช้เวลาพักฟื้นหลังดูดไขมันเท่ากันรึเปล่า? หรือดูดไขมันแล้วผิวกระชับมั้ย? เป็นต้นนะครับ
ดูดไขมันพลังน้ำ VS ดูดไขมันพลังความร้อน
ก่อนอื่นเลยนะครับ เรามาทำความรู้จักกับเจ้าเครื่องดูดไขมันกันแบบพื้นฐานกันเลยว่า ทำไมต้องแบ่งเครื่องดูดไขมันเป็นพลังน้ำกับพลังความร้อน? ซึ่งคำตอบก็คือ มันใช้วิธีการสลายไขมันที่แตกต่างกันนั่นเองครับ
โดยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ (Water Jet, body-jet) จะใช้พลังงานน้ำในการสลายไขมัน ให้แตกตัวออกจากกันอย่างอ่อนโยน ไม่เกิดความร้อนในระหว่างดูดไขมัน จึงเอาไขมันไปเติมต่อได้ ส่วนเครื่องดูดไขมันพลังความร้อน (Vaser Smooth 2.2, Ultra Z) จะใช้พลังงานต่าง ๆ เข้ามาช่วยสร้างพลังความร้อน และทำลายเซลล์ไขมันให้ตาย ก่อนที่จะดูดออกมาครับ
ทำความรู้จักเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ
การดูดไขมันพลังน้ำ (Water Jet Assisted Liposuction) ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ในวงการดูดไขมัน เพราะใช้พลังงานน้ำเข้าไปสลายไขมันอย่างอ่อนโยน อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนครับ เกิดจากแนวคิดที่ว่า “ดูดไขมันอย่างไร ถึงจะไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง” จึงเกิดเป็นเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ นวัตกรรมใหม่จากเยอรมนี อย่าง body-jet ขึ้นมาครับ
เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ ทำงานอย่างไร?
หลังจากที่แพทย์ฉีดยาชา และเปิดแผลผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว แพทย์ใช้เครื่องดูดไขมันพลังน้ำในการใส่ Tumescent (น้ำที่ประกอบไปด้วยน้ำเกลือ, ยาชา และยาที่ทำให้เส้นเลือดหดตัว) เข้าไปที่ชั้นไขมันก่อน เพื่อระงับความเจ็บปวดจากภายในครับ
จากนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นท่อดูดไขมัน ซึ่งท่อดูดไขมันก็จะฉีดน้ำออกมาในรูปแบบของพัด (Fan Shape) และค่อย ๆ เซาะบรรดาเซลล์ไขมันที่เกาะตัวติดกันอยู่ ให้สลายออกจากกันและลอยอยู่ภายในชั้นไขมัน และในระหว่างเดียวกันนี้ ท่อดูดไขมันก็จะค่อย ๆ ดูดไขมันออกไปด้วย
รีวิว ดูดไขมันเครื่อง Body-jet
เอาไขมันไปเติมส่วนอื่นได้
เนื่องจากการใช้น้ำสลายไขมัน ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อน จึงทำให้ไม่มีการทำลายเซลล์ไขมัน เซลล์ไขมันส่วนใหญ่ที่ถูกดูดออกมา จึงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ หรือเรียกว่ายังมีชีวิตอยู่ เซลล์ไขมันจะเป็นสีเหลืองนวลสวย เราจึงสามารถนำเซลล์ไขมันทีได้จากเครื่องดูดไขมันพลังน้ำนี้ ไปเติมไขมัน เติมเต็มในส่วนต่าง ๆ บนร่างกายได้ครับ เช่น
- ฉีดไขมันหน้าเด็ก ลดริ้วร้อยตื้นลึก
- ฉีดไขมันหน้าอก เพิ่มขนาด เพิ่มเนิน
- เติมไขมันหลังมือ แก้ปัญหามือเหี่ยว
- ฉีดไขมันสะโพก เสริมก้นเด้งสวย
- เติมไขมันน้องสาว เพิ่มโหนกนูน
โดยก่อนที่จะเติมไขมัน แพทย์จะต้องเอาไขมันไปปั่นคัดแยก ให้เหลือเฉพาะเซลล์ไขมันที่มีคุณภาพจริง ๆ และปั่นให้เล็กตามโมเลกุลที่เหมาะสมกับแต่ละตำแหน่งครับ โดยหลังจากที่เติมไขมันแล้ว ผิวบริเวณดังกล่าวจะเนียนนุ่ม เต่งตึง ดูมีน้ำมีนวล และสุขภาพดีขึ้นอย่างชัดเจน
ข้อดีของเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ
- ไม่เกิดการเผาไหม้หรือการทำลาย ทำให้เลือดออกน้อย
- ผิวไม่ไหม้ และลดโอกาสในการเกิดแผลคีลอยด์
- ระหว่างดูดไขมันจะรู้สึกเจ็บปวดน้อย
- สามารถดูดไขมันได้ทุกบริเวณในร่างกาย
- หลังดูดไขมันจะมีความระบม บอบช้ำเขียวน้อย
- ไม่ต้องวางยาสลบ ใช้เพียงยาชาก็เอาอยู่
- แผลมีขนาดเล็ก เพียง 4-5 มิลลิเมตร
- ดูดไขมันเสร็จแล้ว คนไข้สามารถกลับบ้านได้เลย
- ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้น และการฟื้นตัวของร่างกายน้อย
- หลังดูดไขมันผิวจะเรียบ ไม่เป็นคลื่น ไม่ขรุขระ ไม่เป็นผิวส้ม ไม่มีพังผืด
- เซลล์ไขมันที่ได้ยังมีชีวิต มีคุณภาพ และมีสเต็มเชลล์ สามารถนำไปเติมต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อเสียของเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ
- ใช้เวลาในการดูดไขมันนานกว่าปกติ
- หลังดูดไขมันเสร็จทันทีจะยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง
- สัดส่วนจะเริ่มเข้าที่หลังดูดไขมันไปแล้ว ประมาณหนึ่งเดือนครึ่ง
- หลังดูดไขมันเสร็จ ในช่วง 1-3 วันแรก จะมีน้ำไหลออกมาจากแผลเยอะ อาจทำให้เตียงนอนเปื้อนได้
อาการที่เกิดขึ้นหลังดูดไขมันพลังน้ำ
เคสที่ดูดไขมันพลังน้ำ โดยรวมแล้วจะมีอาการช้ำเขียวน้อยกว่า และฟื้นตัวได้เร็วกกว่าเคสที่ดูดด้วยเครื่องพลังความร้อนครับ แต่จะใช้ระยะเวลาในการเข้ารูปสวยนานกว่า เพราะหลังจากที่ดูดไขมันพลังน้ำแล้ว จะมีน้ำค้างอยู่ใต้ผิวจำนวนมาก ทำให้มีอาการบวมจากน้ำที่ใส่เข้าไปตอนดูดไขมัน ซึ่งส่งผลให้สัดส่วนของคนไข้ดูไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก
น้ำจะค่อย ๆ ทยอยหายไป (ผ่านการขับปัสสาวะ, ดูดซึมเข้าเส้นเลือด และซึมออกทางแผล ทั้งนี้หลังดูดไขมันเสร็จทันที ทางเอมาร่าคลินิกจะมีการรีดน้ำออกให้ด้วย) จนประมาณวันที่ 3 อาการบวมที่เกิดขึ้น จะเป็นอาการบวมเพราะการอักเสบจากภายใน อาการบวมช้ำเขียวจะค่อย ๆ หายไปใน 2 สัปดาห์
จากนั้นสัดส่วนจะค่อย ๆ เข้ารูปสวยหลังจากที่ดูดไปแล้วประมาณหนึ่งเดือนครึ่ง (ช่วงนี้เหมาะแก่การวัด Size ว่าเล็กลงไปมากแค่ไหน) ซึ่งหุ่นจะสวยเข้ารูปเต็มที่หลังจากทำไปแล้วประมาณ 3-6 เดือนครับ
ทำรู้จักเครื่องดูดไขมันพลังความร้อน
เครื่องดูดไขมันพลังความร้อนนั้น มีหลายเครื่องให้เลือกเลยทีเดียวนะครับ เนื่องจากพลังงานที่ใช้ในการสร้างความร้อนมีหลายพลังงาน เช่น พลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์, พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ หรือพลังงานเลเซอร์ เป็นต้น
ซึ่งแต่ละเครื่องก็จะสามารถสร้างระดับความร้อนได้แตกต่างกันไป แต่มีหลักการเหมือนกันคือ การทำลายเซลล์ไขมันให้ตายไปนั่นเองครับ โดยเครื่องดูดไขมันพลังความร้อน ที่หมอเลือกใช้คือเครื่อง Ultra Z จากเกาหลี และเครื่อง Vaser Smooth 2.2 ครับ
เครื่องดูดไขมันพลังความร้อน ทำงานอย่างไร?
หมอจะมีการฉีดยาชาเข้าไป ในบริเวณที่จะดูดไขมันและเปิดแผลผ่าตัด จากนั้นก็จะส่งท่อดูดไขมันลงไปที่ชั้นไขมัน และเริ่มกระบวนการทำลายเซลล์ไขมันครับ ซึ่งในขณะเดียวก็จะดูดไขมันออกมาด้วย
และด้วยพลังการทำลายล้างที่สูง แน่นอนว่าจะมีการกระทบต่อเส้นเลือด, เส้นประสาท และเนื้อเยื่อข้างเคียงได้มากกว่าพลังน้ำ ทำให้ในระหว่างที่ดูดไขมันคนไข้จะรู้สึกเจ็บมากกว่า มีการอักเสบมากกว่า และเกิดอาการบวมช้ำเป็นปื้นสีแดงม่วงมากกว่าและนานกว่าครับ
แต่หลังจากที่ดูดไขมันเสร็จแล้ว จะยังมีความร้อนหลงเหลืออยู่เล็กน้อยภายใต้ผิว ตรงนี้เป็นข้อดีที่ว่า ความร้อนจะเข้าไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ทำให้หลังดูดไขมันผิวมีความกระชับตัว หรือเต่งตึงขึ้นในระดับหนึ่ง (สำหรับเคสที่มีสภาพผิวไม่หย่อนคล้อย)
ส่วนเซลล์ไขมันที่ได้จะไม่สามารถนำไปเติมเต็มได้ เพราะไขมันที่ได้จากการใช้ความร้อน เซลล์จะถูกทำลายและตายไปแล้ว ไขมันจะมีลักษณะเหลวเป็นน้ำ มีสีแดงอมส้ม เนื่องจากพลังความร้อนทำให้เลือดออกมากกว่าพลังน้ำนั่นเองครับ
รีวิว ดูดไขมันเครื่อง Ultra Z
ข้อดีของเครื่องดูดไขมันพลังความร้อน
- ดูดไขมันได้เยอะ สลายไขมันได้ไว
- ใช้ระยะเวลาในการดูดไขมันไม่นาน
- ดูดไขมันได้ทุกสัดส่วนในร่างกาย
- เห็นความเปลี่ยนแปลงหลังดูดไขมันเสร็จทันที
- มีการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว ช่วยให้ผิวกระชับตัวขึ้นหลังดูดไขมัน
ข้อเสียของเครื่องดูดไขมันพลังความร้อน
- ระหว่างดูดไขมันจะมีความรู้สึกเจ็บมากกว่า
- หลังดูดไขมันจะมีการอักเสบและความบอบช้ำมากกว่า
- ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนานกว่า
- มีโอกาสเกิดแผลคีลอยด์ได้มากกว่า
- หลังดูดไขมันอาจเกิดพังผืดและมีก้อนแข็งได้
- หลังดูดไขมันผิวอาจไม่เรียบเนียน เป็นคลื่น หรือขรุขระได้
- ไม่สามารถนำไขมันที่ได้ ไปเติมเต็มต่อได้
- ถ้าแพทย์ที่ดูดไขมันไม่เชี่ยวชาญ อาจทำให้ท่อดูดไขมันสัมผัสกับผิว และเกิดแผลเป็นได้
อาการที่เกิดขึ้นหลังดูดไขมันพลังความร้อน
หลังดูดไขมันด้วยเครื่องพลังความร้อน จะมีน้ำค้างอยู่ใต้ผิวน้อยมาก ทำให้ช่วง 1-3 วันแรกมีอาการบวมน้อย และเห็นได้ชัดเจนว่าสัดส่วนเล็กลง แต่ในช่วงวันที่ 4-7 จะมีความอักเสบมากขึ้น ทำให้มีอาการบวมมากกว่าเดิม จะมีความบอบช้ำระบมเป็นปื้น ๆ สีแดงอมม่วง (เนื่องจากมีเม็ดเลือดกองอยู่ในบริเวณนี้มาก)
อาการช้ำและอาการเจ็บจะค่อย ๆ หายไปภายใน 2 สัปดาห์ และสัดส่วนจะเริ่มเข้าที่ในช่วง 1 เดือนหลังดูดไขมัน (ช่วงนี้เหมาะแก่การวัดสัดส่วน) สำหรับคนที่ไม่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย สัดส่วนจะเริ่มสวยเป๊ะหลังจากดูดไขมันไปแล้ว 1-2 เดือนครับ
ช่วงถาม-ตอบ คำถามที่หลาย ๆ คนสงสัย
A : ผลลัพธ์หลังดูดไขมันจะดูดออกมาได้สวยขนาดไหน ตรงนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่องดูดไขมันเป็นหลัก แต่ขึ้นอยู่กับฝีมือของแพทย์ เทคนิค รวมไปถึงความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้วย ก่อนดูดไขมันแพทย์จะมีการประเมิน และออกแบบสัดส่วนของคนไข้ว่าควรดูดจุดไหนบ้างถึงจะออกมาสวยที่สุดครับ
A : ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแบบไหน สามารถดูดไขมันออกมาได้มากเหมือนกัน แต่จะใช้ระยะเวลาที่แตกต่างกัน อย่างพลังความร้อนจะใช้ระยะเวลาในการสลายไขมันเร็วกว่าเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน ตำแหน่งที่จะดูด และร่างกายของคนไข้ด้วยครับ (อ่านเพิ่มเติม : ดูดไขมันใช้เวลานานไหม?)
A : แน่นอนกว่าเครื่องดูดไขมันพลังความร้อน จะช่วยให้ผิวกระชับขึ้นได้มากกว่าเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ เพราะความร้อนจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และช่วยให้ผิวกระชับตัวขึ้นนะครับ แต่ต้องบอกก่อนว่า การที่ผิวกระชับขึ้นหลังดูดไขมันนั้นเป็นผลพลอยได้มากกว่า กระชับขึ้นนิดเดียวเท่านั้น
สำหรับใครที่แพทย์ประเมินว่ามีผิวหย่อนคล้อยมาก การดูดไขมันเพียงอย่างเดียว จะช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินได้ แต่ไม่ได้ช่วยให้ผิวกระชับตัวขึ้นได้อย่างที่หลาย ๆ คนต้องการ หากต้องการให้ผิวกระชับเต่งตึงขึ้นอย่างชัดเจน ควรทำการยกกระชับผิวด้วย J Plasma ร่วมด้วยครับ
A : หากดูดไขมันด้วยเครื่องพลังความร้อน จะไม่สามารถเอาไขมันไปเติมต่อได้นะครับ เพราะเซลล์ไขมันได้ตายไปแล้ว หากเอาไปเติมต่อก็อาจคล้ายกับการที่เราเอาน้ำมันไปเติม ซึ่งไม่ได้ช่วยให้บริเวณที่เติมเต่งตึงขึ้น อาจจะบวมขึ้นในวันแรก ๆ แต่หลังจากนั้นก็จะหายไปในเวลาอันรวดเร็ว (เนื่องจากเซลล์ไขมันได้ตายแล้ว จึงไม่ประสานติดกับเนื้อเยื่อที่อยู่บริเวณที่ถูกเติมเข้าไป)
สำหรับคนที่ต้องการเอาไขมันไปเติมต่อ แนะนำให้ดูดด้วยเครื่องพลังน้ำ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมามีประสิทธิภาพสูงสุด ไขมันจะได้ติดไวและติดทนนานครับ
A : เนื่องจากการดูดไขมันด้วยเครื่องพลังความร้อน มีการทำลายล้างมากกว่า จึงทำให้คนไข้มีความระบม เจ็บช้ำจากภายในเยอะกว่าในเคสที่ดูดด้วยเครื่องพลังน้ำ ส่งผลให้เคสที่ดูดไขมันพลังน้ำฟื้นตัวได้เร็วกว่า และใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นไม่นาน (บางเคสดูดไขมันแล้ว สามารถไปทำงานต่อในวันถัดไปได้เลย)
A : การดูดไขมันด้วยเครื่องพลังความร้อน จะมีโอกาสในการเกิดแผลคีลอยด์มากกว่า แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมของคนไข้ด้วย ซึ่งส่วนมากคนที่เป็นแผลคีลอยด์ง่าย มักจะมีคนในครอบครัวเป็นมาก่อนครับ แต่ถ้าใครกังวลมากหมอก็แนะนำเครื่องดูดไขมันพลังน้ำเลย
นอกจากนี้ ที่ Amara Clinic เรายังมีบริการดูแลแผลหลังดูดไขมันให้อย่างเต็มที่อีกด้วยครับ ทั้งเลเซอร์รอยดำ เลเซอร์รอยแดง ฉายแสงฟื้นฟูแผล ทำความสะอาดแผล ตัดไหม รวมไปถึงการฉีดลดคีลอยด์ต่าง ๆ ด้วยครับ
สรุป
ใครที่อยากเติมไขมันด้วย แน่นอนครับต้องเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet เลย ส่วนใครที่อยากดูดไขมันลดสัดส่วนธรรมดา ก็ใช้ได้ทั้งสองเครื่องเลยครับ ส่วนเรื่องความเหมาะสมและงบประมาณ ลองเข้ามาคุยกับหมอก่อนได้เลยครับ ปรึกษาฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic
9 เหตุผลที่คุณควรดูดไขมันที่ Amara Clinic
- เราเป็นศูนย์การสอนดูดไขมันเฉพาะทาง
- เรามีทีมแพทย์ระดับอาจารย์สอนดูดไขมัน
- เรามีเคสดูดไขมันเยอะที่สุดในประเทศไทย
- วางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์วิชาชีพ
- ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ มาตรฐานสากล
- เครื่องมือทันสมัย เลือกใช้เทคโนโลยีใหม่
- ดูแลใส่ใจเต็มที่ จนกว่าหุ่นจะสวยเป๊ะ
- มี After Care ดูแลหลังทำครบครัน
- มีรีวิวดูดไขมันทุกสัดส่วน ทุกไซซ์