ทำนมเจ็บไหม? เจ็บแค่ไหนจะทนไหวรึเปล่า?

อยากหน้าอกสวยและเพิ่มเนินหน้าอกให้อึ๋มเต็มคัพ ต้องพึ่งการศัลยกรรมเสริมหน้าอกนี่แหละครับ ตรงโจทย์ เหมาะสม และเห็นผลชัดมากที่สุด สำหรับสาว ๆ ที่กำลังหาข้อมูลดูว่าทำนมเจ็บไหม? ทำนมเจ็บเหมือนล้อสิบล้อทับจริงรึเปล่า? จะมีอาการหลังเสริมอกยังไงบ้าง? เพื่อที่เราจะได้เตรียมตัวและเตรียมใจก่อนผ่าตัดใช่ไหมครับ วันนี้หมอ (หมอวี ศัลยแพทย์ตกแต่งที่ AMARA) จะมาอธิบายสาเหตุที่ทำให้เราอาจจะรู้สึกเจ็บได้หลังเสริมหน้าอก วิธีดูแลตัวเองหลังเสริมหน้าอกเพื่อให้รู้สึกเจ็บน้อยที่สุด และเฉลยให้นะครับว่าในปัจจุบันนี้ทำนมเจ็บไหม?

หมอเข้าใจถึงความสับสนที่หลายคนกำลังกังวลนะครับ เพราะคนไข้เสริมหน้าอกของหมอบางคนอาจจะไม่เคยศัลยกรรมมาก่อน หรือไม่เคยดมยาสลบมาเลย ทำให้ก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอกมีความกังวลสูงมาก เพื่อให้สาว ๆ ทุกคนได้มีความมั่นใจในการเสริมหน้าอกมากขึ้น หมอเลยคิดว่าหมอต้องเขียนอธิบายว่าทำนมเจ็บมั้ย จะมีอาการอะไรบ้าง และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตรงนี้แหละครับที่เป็นที่มาที่ไปของบทความนี้

ระหว่างทำนมเจ็บไหม? ถ้าไม่ได้ดมยาสลบเจ็บแน่นอนครับ สมัยก่อนถือว่าเจ็บและอันตรายสุด ๆ เพราะตอนนั้นมันยังไม่มีการใช้ยาสลบครับ เทคนิคและเครื่องมือไม่ได้ทันสมัยอย่างทุกวันนี้ ระหว่างที่เสริมหน้าอกคนไข้จะเจ็บมากเพราะเสียเลือดเยอะ เลยทำให้มีการเสียชีวิตเกิดขึ้นได้ในอดีต (ไม่เพียงแต่การเสริมหน้าอกอย่างเดียวนะครับ รวมไปถึงการศัลยกรรมอื่น ๆ อย่างการดูดไขมัน การผ่าตัดยกกระชับสัดส่วนต่าง ๆ  หรือการผ่าตัดหน้าท้องด้วยเช่นกัน)

ดังนั้น เคสเสริมหน้าอกทุกเคสจึงต้องมีการดมยาสลบ เพื่อไม่ให้คนไข้รู้สึกเจ็บระหว่างทำนั้นเอง (วิสัญญีแพทย์ให้ยาสลบแปปเดียวก็หลับแล้วครับ รู้สึกตัวอีกทีหน้าอกก็สวยแล้ว) พอหมอพูดถึงการดมยาสลบก็ต้องมีคนกลัวในจุดนี้อีกใช่มั้ยครับ ว่าเสริมหน้าอกอันตรายไหม? ทำนมแล้วจะตายไม่ฟื้นรึเปล่า? เพื่อความมั่นใจต้องเช็คให้ชัวร์ว่าแพทย์ที่ดมยาสลบให้เราเนี่ย คือวิสัญญีแพทย์รึเปล่า? 

ส่วนหลังทำนมในปัจจุบันเจ็บไหม?​ ต้องยอมรับครับว่ายังไงมันก็ต้องเจ็บ แต่จะเจ็บมาก หรือเจ็บน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย อาทิ

• สภาพร่างกายหรือความอ่อนแอของร่างกายคนไข้ (บางคนขี้เจ็บ บางคนเจ็บยาก)
• การเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอกของคนไข้ (บางคนอาจจะกินยาลดบวมหรือยาลดความเจ็บกันไว้ก่อน)
• เทคนิคในการเสริมหน้าอกของศัลยแพทย์แต่ละคน (อย่างหมอเองก็จะมีเทคนิคในการหยุดเลือด หรือทำให้เลือดออกน้อยที่สุด แต่ศัลยแพทย์บางคนอาจจะไม่ได้ใช้เทคนิคนี้ครับ)
• การดูแลตัวเองหลังเสริมหน้าอกของคนไข้ ถ้าคนไข้มีการดูแลตัวเองเป็นอย่างดีตามที่หมอแนะนำ อาการต่าง ๆ ก็จะลดน้อยลง ส่งผลให้คนไข้รู้สึกเจ็บน้อยลงครับ

มาดูรีวิวเสริมหน้าอก หรือแชร์ประสบการณ์เสริมหน้าอกจากคนไข้หมอที่ AMARA กันครับ หมอยกมาให้ดู 2 เคสนะครับ เป็นเคสที่หมอใช้เทคนิค Hybrid Dual Plane ทั้งคู่ เทคนิคนี้คือการวางซิลิโคนเสริมหน้าอกไว้บนกล้ามเนื้อส่วนนึง และใต้กล้ามเนื้อส่วนนึง เพื่อให้หน้าอกเป็นทรงคล้อยด้านล่างเหมือนหน้าอกจริง และป้องกันการมองเห็นขอบซิลิโคนที่เนินอกด้านบน จากนั้นหมอก็จะเติมไขมันเข้าไปบริเวณเนินหน้าอก เพื่อเพิ่มความเป็นธรรมชาติครับ หากอยากอ่านแชร์ประสบการณ์ทำนมของเคสไหน คลิกที่ภาพได้เลยนะครับ

เพราะเป็นการผ่าตัดลงมีดและมีการเสียเลือด จึงเป็นปกติมากครับที่เราจะพบกับอาการหลังเสริมหน้าอก อาการในช่วงแรกที่คนไข้จะพบได้นั้น จะเป็นผลมาจากการผ่าตัดส่วนหนึ่งและการดมยาสลบอีกส่วนหนึ่งครับ โดยอาการที่พบได้เป็นปกติไม่อันตรายใด ๆ สามารถบรรเทาได้ด้วยการดูแลตัวเองเบื้องต้นตามที่หมอได้แจ้งไป มีดังนี้

• คลื่นไส้ เวียนหัว อยากอาเจียน เกิดจากการเมายาสลบ ให้ดื่มน้ำมากๆ
• รอบ ๆ หน้าอกมีอาการบวมช้ำ ระบม และรู้สึกเจ็บปวด
• แผลเสริมหน้าอก (ขึ้นอยู่กับเทคนิค วิธีการสมานแผล และตำแหน่งที่เปิดแผล)
• รู้สึกแน่นหน้าอก หนักหน้าอกเวลานอน และรู้สึกหายใจไม่สะดวก
• หน้าอกไวต่อความรู้สึกมากเป็นพิเศษ หรือบางกรณีอาจหัวนมชาชั่วคราว (2-3 เดือน)
• อาการเสียวแปล๊บ ๆ ในหน้าอก (ไม่กี่สัปดาห์ก็จะหายไปเอง)
• เนินหน้าอกเหมือนจะอยู่สูงกว่าปกติในช่วงแรก (ให้สวมซัพพอร์ตบราไว้นะครับ หน้าอกจะได้ไม่เคลื่อน)
• รู้สึกว่าต้นแขนอ่อนแรง ไม่มีแรง ยกไม่ขึ้น ยกแขนแล้วเจ็บหน้าอก หรือปวดระบมที่รักแร้

สำหรับใครที่เสริมหน้าอกไปแล้วรู้สึกว่ามีอาการแปลก ๆ ไม่ปกติ เช่น รู้สึกแสบร้อนที่หน้าอก นมแฝด แผลมีหนอง แผลบวมแดงมาก มีผื่นขึ้น หายใจลำบาก หน้าอกห่างกว่าปกติ มีก้อนแข็งใต้หน้าอก หน้าอกเป็นคลื่นริ้ว หน้าอกไม่เท่ากัน หรือหน้าอกเริ่มแข็งตัว ให้แจ้งแพทย์นะครับ

Amara Clinic เรามีบริการศัลยกรรมครบวงจรเลยนะครับ แน่นอนว่าหลาย ๆ คนน่าจะสงสัยแหละครับว่าหมอทำนมเจ็บไหม? เจ็บครับแต่เจ็บน้อยมาก อย่างมากแค่ 1-3 วันแรกเท่านั้นเอง (คนไข้ส่วนใหญ่เจ็บหน้าอกและพักฟื้นที่บ้านเพียง 1-2 วันเท่านั้น) อย่างหมอเองก็จะมีเทคนิคเสริมหน้าอกที่จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดี เสียเลือดน้อยที่สุด เปิดแผลให้เล็กที่สุด ดูธรรมชาติสไตล์ Natural Elegance และได้หน้าอกที่สวยตรงตามที่คนไข้แต่ละเคสต้องการครับ

• GF Scarless Technique หรือเทคนิคการใช้กาวปิดแผลเสริมหน้าอกโดยไม่ต้องเย็บ ทำให้ไม่มีรอยแผลตะขาบ เสมือนไร้รอยต่อ (Seamless Technique) และเทคนิคการใช้กรวยส่งซิลิโคนเข้าไป (Premium Breast Funnel Technique) เทคนิคนี้จะทำให้หมอไม่ต้องเปิดแผลใหญ่ และช่วยให้คนไข้เจ็บน้อยลงด้วยครับ
• Bloodless Technique หรือเทคนิคเสริมหน้าอกที่จะทำให้เกิดการเสียเลือดน้อยที่สุด หมอเลือกใช้เป็นมีดผ่าตัดแบบไฟฟ้า เพื่อให้ในระหว่างที่หมอเปิดแผลจะเกิดการห้ามหยุดเลือดไปในตัว พอคนไข้เสียเลือดน้อย ร่างกายก็จะไม่อ่อนเพลียมาก และใช้เวลาในการพักฟื้นไม่นานครับ

• Hybrid Dual Plane Technique หรือเทคนิคการเสริมหน้าอกที่สวยและดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด หมอได้อธิบายไปแล้วนะครับว่าเทคนิคนี้คืออะไร แต่เผื่อมีคนลืมหมอเลยจะอธิบายให้สั้น ๆ อีกครั้งนึงครับ เทคนิคนี้เป็นการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน (วางซิลิโคนระหว่างกล้ามเนื้อ) และเติมไขมันหน้าอกเพิ่มความเป็นธรรมชาติ