จบปัญหาพุงป่องเหมือนคนท้อง แบบปลอดภัย ไร้เสี่ยง

พุงป่องเหมือนคนท้องเกิดจากอะไร?

พุงป่องเหมือนคนท้องเกิดจากอะไร? สาเหตุที่ทำให้พุงป่องเหมือนคนท้อง ส่วนใหญ่จะพบว่าเป็นการสะสมของไขมันส่วนเกินครับ นอกจากไขมันส่วนเกินแล้ว ยังเกิดได้จากความผิดปกติของกระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อหน้าท้องอีกด้วย สำหรับคนที่พุงป่องเหมือนคนท้องเพราะไขมันส่วนเกิน ทราบไหมครับว่าไขมันหน้าท้องแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ นั่นก็คือไขมันในช่องท้องและไขมันใต้ชั้นผิวหนังนั่นเอง เราลองมาทำความรู้จักและทำความเข้าใจในเรื่องนี้กันก่อน แล้วหมอจะแนะนำวิธีลดพุงป่องเป็นลำดับถัดไปครับ

ไขมันในช่องท้อง

ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) เป็นไขมันที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก มักจะพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้ชายบางกลุ่ม โดยเฉพาะคนที่มีการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ไขมันในช่องท้องเป็นสิ่งที่ทำให้พุงป่องเหมือนคนท้องมากที่สุด เพราะเป็นไขมันที่อยู่ในช่องท้อง อยู่ใต้กล้ามเนื้อหน้าท้อง และพอกตัวอยู่ตามอวัยวะภายใน เมื่อมีเยอะ ๆ จะดันกล้ามเนื้อหน้าอกให้ยื่นป่องออกมา ดังนั้น หน้าท้องจะใหญ่และตึง หากเกิดกับผู้หญิงก็อาจจะถูกทักได้ว่าพุงป่องดูเหมือนคนท้องก็ได้ครับ

การที่เรามีไขมันในช่องท้องเยอะ ไม่เรื่องที่ควรไว้วางใจ เพราะไขมันในช่องท้องสามารถขัดขวางการไหลเวียนของเลือดได้ สะสมเข้าไปอยู่ในเส้นเลือดได้ ทำให้เรามีโอกาสเป็นโรคอ้วน และโรคแทรกซ้อนจากโรคอ้วนได้อีกแบบไม่รู้จบ ซึ่งเราสามารถตรวจเช็กเบื้องต้นได้ว่าตัวเรามีไขมันในช่องท้องอยู่เยอะไหม โดยการใช้มือหยิบหน้าท้องขึ้นมา ถ้าบีบได้ก้อนไขมันหนา ๆ แปลว่ามีไขมันในช่องท้องน้อย แต่ถ้าพุงป่องเหมือนคนท้อง อ้วนลงพุง แล้วหยิบไขมันไม่ขึ้นเลย นี่แหละครับคือลักษณะของคนที่มีไขมันในช่องท้องเยอะ

ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง

ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat) จะสะสมอยู่ใต้ชั้นผิวหนังที่อยู่เหนือกล้ามเนื้อหน้าท้องอีกทีครับ ดังนั้น ไขมันใต้ชั้นผิวหนังจึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคร้าย แต่ก็อาจจะทำให้เราเจอกับปัญหาพุงป่องดูเหมือนคนท้องได้ โดยลักษณะของหน้าท้องที่ใหญ่ขึ้นเพราะไขมันชนิดนี้ จะไม่ได้ทำให้หน้าท้องตึงมาก ๆ แบบไขมันในช่องท้องนะครับ แต่จะมีลักษณะแบบชั้น ๆ หรือนั่งแล้วพุงเป็นชั้นนั่นเอง

เมื่อใช้มือบีบที่หน้าท้อง แล้วชั้นผิวมันหนามาก ๆ บีบออกมาได้เยอะ แปลว่าคุณมีไขมันใต้ชั้นผิวหนังอยู่เยอะครับ อย่างที่บอกไปว่าไขมันชนิดนี้ไม่ได้เป็นอันตรายก็จริง แต่ก็อาจทำให้น้ำหนักเยอะเกินเกณฑ์ หรือไปอำพรางไขมันในช่องท้องแล้วทำให้เราไม่รู้ตัวอยู่ก็ได้ ถ้าไม่กำจัดออก อาจจะไม่ได้ส่งผลอะไรมากนัก นอกจากความสวยงามของรูปร่าง หุ่นที่ดูไม่สวยงาม และการที่มีหน้าท้องยื่นออกมาจนทำให้ไม่มั่นใจในตัวเอง

ภาวะกระดูกสันหลังแอ่น

ภาวะกระดูกสันหลังแอ่น (Lordosis) เป็นภาวะที่กระดูกสันหลังหรือกระดูกเชิงกรานของเราโค้งงอไปด้านหน้า ทำให้ดูเป็นคนมีหน้าท้องขึ้นมาก ซึ่งสามารถเกิดได้จากการตั้งครรภ์ พันธุกรรม หรือพฤติกรรมที่มีการเอนหลังไปด้านหน้าบ่อย ๆ เป็นต้น ภาวะนี้ต้องพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการกายภาพบำบัดครับ

ภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก

สำหรับคุณแม่ที่เคยมีลูกมาแล้ว บางคนอาจจะโดนทักว่า “พุงป่องเหมือนคนท้องเลย ท้องอีกรอบนึงเหรอ?” ได้ แต่สาเหตุมันไม่ได้มาจากไขมันส่วนเกินครับ แต่ท้องโตในผู้หญิงลักษณะนี้เป็น ภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกและอ่อนแรง (Diastasis recti) ภาวะนี้คุณแม่หลังคลอดเป็นกันเยอะ แม้จะคลอดลูกออกไปแล้ว หน้าท้องก็ยังจะดูป่องอยู่ ใช้เวลานานกว่าที่หน้าท้องจะยุบลงไป

เนื่องจากการตั้งครรภ์ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องที่เคยชิดกัน มันแยกตัวออกจากกัน ดังนั้น กล้ามเนื้อหน้าท้องจึงขาดความยืดหยุ่น ไม่เฟิร์มกระชับ และไม่แข็งแรงเหมือนเดิม อวัยวะภายในจึงถูกดันออกมาทำให้ท้องใหญ่เหมือนคนท้อง หรือพุงป่องดูเหมือนคนท้องนั่นเอง ทั้งนี้หากกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกมาก ๆ อาจทำให้มีปัญหาไส้เลื่อนร่วมด้วย

วิธีดูท้องป่องเเบบไหนเรียกว่าอ้วน เเบบไหนเรียกว่าท้อง

วิธีแยกท้องป่องจากภาวะอ้วน กับการตั้งครรภ์มีดังนี้

ท้องป่องจากภาวะอ้วน

• มีไขมันสะสมเป็นชั้น ๆ ชัดเจน
• ท้องมักจะนิ่มและหย่อนคล้อย
• มีรอยผิวหนังย่นเป็นคลื่นบริเวณหน้าท้อง
• ท้องป่องทั้งด้านบนและด้านล่าง
• เมื่อนอนราบ ท้องจะแผ่ออกด้านข้าง
• มักมีไขมันสะสมในส่วนอื่นของร่างกายด้วย
• น้ำหนักเพิ่มขึ้นทั่วร่างกาย
• เอวมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน

ท้องป่องจากการตั้งท้อง

• ท้องป่องเป็นทรงกลมชัดเจน
• ท้องแข็งและตึง โดยเฉพาะในช่วงท้องแก่
• ท้องขยายขนาดขึ้นตามอายุครรภ์
• มีการเติบโตเป็นไปตามระยะเวลา
• สามารถรู้สึกการเคลื่อนไหวของทารก
• ท้องป่องเฉพาะบริเวณมดลูก
• น้ำหนักเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์การตั้งครรภ์
• อาจมีรอยแตกลายที่ผิวหนังบริเวณท้อง

พุงป่องเหมือนคนท้องอันตรายไหม?

คนที่มีภาวะพุงป่องเหมือนคนท้อง หรือพุงป่อง ท้องแข็งในผู้หญิง จะอันตรายหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่มา หากเกิดจากไขมันใต้ชั้นผิวหนังก็ไม่ได้อันตรายอะไรครับ ส่วนภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกและภาวะกระดูกสันหลังแอ่น ไม่ได้ร้ายแรงนัก (แต่ก็ควรบำบัดรักษานะครับ) แต่ถ้าเกิดจากไขมันในช่องท้องอาจเป็นอันตรายได้ ยิ่งมีเยอะ ๆ ยิ่งเสี่ยงเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดอุดตัน โรคไขมันพอกตับ และอื่น ๆ อีกมากมายเลยล่ะครับ

อาการพุงป่องเหมือนคนท้องเสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง

อาการพุงป่องหรือท้องโตผิดปกติเหมือนคนท้อง อาจไม่ได้เกิดจากการรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว แต่เป็นสัญญาณที่ควรเฝ้าระวังเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพบางประการ เช่น

• อ้วนลงพุง

อ้วนลงพุงเกิดจากการสะสมไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง มักเป็นผลจากการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงและขาดการออกกำลังกาย ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด การลดน้ำหนักและควบคุมอาหารเป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้

• ท้องมาน

ภาวะท้องมานหรือการมีน้ำคั่งในช่องท้อง มักพบในผู้ที่เป็นโรคตับ เช่น ตับแข็ง การทำงานของตับที่ลดลงทำให้ร่างกายขาดโปรตีนที่ช่วยควบคุมการกักเก็บน้ำในร่างกาย ทำให้เกิดน้ำคั่งที่ช่องท้อง อาการมักมีขาบวมและปวดท้องร่วมด้วย

• มะเร็งรังไข่

มะเร็งรังไข่อาจทำให้พุงป่องได้ เนื่องจากการเจริญเติบโตของเนื้องอกในรังไข่ที่ลุกลามและทำให้ช่องท้องขยายตัว หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา เซลล์มะเร็งอาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ 

• เนื้องอกรังไข่

เนื้องอกรังไข่ทำให้เกิดอาการพุงป่องได้ เนื่องจากเนื้องอกขนาดใหญ่กดทับอวัยวะภายในช่องท้อง อาจรู้สึกปวดท้องน้อยและคลำเจอก้อนเนื้อที่ท้อง ดังนั้น ผู้หญิงที่ท้องโตผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจและทำการผ่าตัดหากจำเป็น

• ภาวะน้ำคั่งในช่องท้อง

ภาวะน้ำคั่งในช่องท้องสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคตับ โรคไต หรือการติดเชื้อในอวัยวะภายใน ความดันที่เพิ่มขึ้นในหลอดเลือดส่งผลให้น้ำรั่วเข้าสู่ช่องท้อง ทำให้พุงป่องอย่างผิดปกติ อาจต้องใช้ยาหรือการผ่าตัด

• ม้ามขึ้น

ตามหลักการแพทย์แผนจีน ภาวะม้ามขึ้นเกิดจากการทำงานของม้ามที่ผิดปกติ ส่งผลให้เกิดการคั่งน้ำและท้องใหญ่เหมือนคนท้อง อาจรู้สึกเหนื่อยล้า แขนขาอ่อนแรง และอาหารไม่ย่อย การปรับสมดุลม้ามด้วยวิธีการแพทย์แผนจีนสามารถช่วยลดอาการได้

• โรคไตอักเสบ

โรคไตอักเสบทำให้เกิดการบวมทั่วร่างกาย รวมถึงท้องเนื่องจากร่างกายสะสมของเหลวมากขึ้น อาการมักเริ่มจากบวมที่หน้าและตามด้วยขาและเท้า อาจมีอาการปวดหลังและเหนื่อยง่าย