หนังตาตก! สัญญาณ “ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง” ปัญหาที่ห้ามมองข้าม!

ตอนเรียนก็อ่านหนังสือจนดึก พอเข้าสู่วัยทำงานเราต่างก็ต้องจ้องหน้าคอมอยู่ตลอดทั้งวัน ยังไม่รวมเวลาที่เราจ้องมือถืออีก ในหนึ่งของวันของคนยุคใหม่ จึงเรียกได้ว่าใช้งานดวงตากันอย่างดุเดือดสุด ๆ เลยครับ นี่จึงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิด “ปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หรือ หนังตาตก” กันมากยิ่งขึ้น 

วันนี้หมอวี ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง ที่ Amara Clinic ขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสาเหตุ ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis) ที่กำลังคุกคามการมองเห็นของหนุ่ม-สาววัยทำงานกันมากขึ้น พร้อมวิธีแก้ไขปัญหาหนังตาตก และคำแนะนำในการดูแลสุขภาพดวงตาที่ทุกคนไม่ควรละเลย

สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง จะแบ่งสาเหตุออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ กลุ่มที่หนังตาตกตั้งแต่กำเนิด และ หนังตาตกที่เกิดขึ้นภายหลัง

1.หนังตาตกตั้งแต่กำเนิด (Congenital ptosis)

ปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง สามารถเกิดขึ้นได้จากปัจจัยทางพันธุกรรม หากในกรณีที่คนในครอบครัว เช่น พ่อแม่ หรือ ญาติผู้ใหญ่ มีปัญหาหนังตาตกแต่เกิด ก็มีโอกาสที่เราจะได้รับความผิดปกตินี้มาตั้งแต่เกิดเช่นกันครับ ซึ่งในเคสที่มีปัญหาหนังตาตกตั้งแต่เกิด มักเกิดจากความผิดปกติของเส้นใยในกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อบริเวณหนังตาจึงไม่แข็งแรงพอที่จะลืมตาได้อย่างเต็มที่ ในกรณีนี้การแก้ไขด้วยการทำศัลยกรรมสามารถช่วยได้ แต่อาจไม่เห็นผลดี 100% เท่ากับผู้ที่มีปัญหาหนังตาตกภายหลัง

2.หนังตาตกที่เกิดขึ้นภายหลัง (Acquired ptosis) 

กว่า 40 % ของผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง สาเหตุส่วนใหญ่มาจากกิจวัตรประจำวัน อายุ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น 

• อายุที่เพิ่มมากขึ้น กล้ามเนื้อตาอ่อนแอลง
• การใช้สายตาหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน 
• การจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน
• การนอนดึกเป็นประจำ หรือ พักผ่อนไม่เพียงพอ
• การทำตาสองชั้นที่ผิดวิธี
• ผลข้างเคียงของการฉีดโบที่หน้าผากหรือบริเวณใกล้ดวงตา
• การใส่คอนแทคเลนส์ทุกวัน
• การหลั่งสารสื่อประสาทที่ผิดปกติ หรือ โรค MG
• การเกิดอุบัติเหตุที่ดวงตา

อาการของปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่พบเห็นได้ชัดเจนคือ ช่วงเปลือกตาบนมีการหย่อนคล้อยลงมากว่าปกติ ลืมตาไม่ค่อยขึ้น หลายคนมักเผลอใช้วิธีเลิกคิ้วในการพยายามเบิ่งตา คิ้วเลยดูโก้งขึ้นกว่าเก่า เมื่อจ้องอะไรนาน ๆ จะเริ่มรู้สึกหนักตา มีอาการตาล้าบ่อยอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก มักมีชั้นตาไม่เท่ากัน ตาดูหนาขึ้น หากใครที่มีอาการเหล่านี้เกิน 2 ข้อขึ้นไป อาจต้องเริ่มคิดแล้วครับ ว่าเรากำลังมีปัญหากล้ามเนื้อตาหรือไม่! ซึ่งปัญหานี้มีระดับความรุนแรงที่ต่างกันไป 3 ระดับด้วยกันครับ เราไปดูกันเลยครับว่าปัญหาของเรากำลังอยู่ในระดับความรุนแรงไหน 

ระดับความรุนแรงของอาการหนังตาตก อ่อนแรง

1. ระดับเล็กน้อย ขอบล่างของหนังตาย้อยลงมาปิดตาดำประมาณ 1-2 มม.
2. ระดับปานกลาง ขอบล่างของหนังตาตกลงมาปิดตาดำและม่านตาในบางส่วน
3. ระดับรุนแรง ขอบล่างของหนังตาหย่อนคล้อยหนักจนปิดตาดำเกินครึ่งอย่างชัดเจน

Amara Clinic (เอมาร่าคลินิก) หลายคนอาจรู้จักเราในด้านการดูดไขมัน-เติมไขมัน ซึ่งต้องบอกว่าเราไม่เพียงแค่เชี่ยวชาญในด้านการปรับรูปร่างเท่านั้น แต่ในด้านการทำศัลยกรรมและดูแลปัญหาผิว ที่นี่เราก็ครบครันไม่แพ้กันเลยครับ สำหรับการทำศัลยกรรมแก้ไขปัญหารอบดวงตาที่เอมาร่า เรามี นพ.วีรกานต์ สถิตนิรามัย (หมอวี) ที่เป็นศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง (Plastic Surgeon) ที่มีทั้งทักษะและประสบการณ์ในด้านศัลยกรรมตกแต่งรอบดวงตาโดยตรง ให้การดูแลทุกท่านในด้านนี้โดยเฉพาะ พร้อมแก้ทุกปัญหารอบดวงตา ไม่ว่าจะเป็น 

• การผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis correction)
• ศัลยกรรมตาสองชั้น (Blepharoplasty)
• ศัลยกรรมจัดเรียงไขมัน (Fat repositioning)
• ศัลยกรรมตัดหนังตาส่วนเกิน (Skin hooding excision)
• ศัลยกรรมเปิดหัวตา (Medial epicanthoplasty)
• ศัลยกรรมแก้ไขตาสองชั้น (Reoperated cases)

นอกจากนี้การผ่าตัดที่ Amara Clinic เรายังมีห้องผ่าตัดขนาดใหญ่ ที่พร้อมรองรับการผ่าตัดอย่างดีเยี่ยม ผ่านการรับรองโดยกระทรวงสาธารณสุข พร้อมติดตั้งระบบ Positive Pressure ทำให้ภายในห้องผ่าตัดของเราปลอดเชื้อกว่าคนผ่าตัดทั่วไป เพื่อความปลอดภัยของคนไข้ทุกท่าน ทางเรายังมีการติดตั้งระบบไฟฟ้าสำรอง และอุปกรณ์ทางการแพทย์ครบครัน พร้อมรองรับทุกสถานการณ์อย่างมืออาชีพ