หลายคนที่กำลังจะดูดไขมันต้นขาหรือคนที่ดูดไขมันต้นขาไปแล้ว คงอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้างหลังดูดไขมันต้นขา และทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เจ้าไขมันกลับมาเกาะติดตามต้นขาได้อีก วันนี้เราจะมาดูกันว่า “หลังดูดไขมันต้นขา” ไปแล้วจะมีอะไรที่เราต้องเจอกันบ้าง เช่น อาการหลังดูดไขมันต้นขา ผลข้างเคียงอื่น ๆ รวมไปถึงคำแนะนำดี ๆ มาบอกต่อเพื่อเรียวขาที่สวยได้อย่างยาวนานครับ
ไขมันต้นขา เป็นอีกหนึ่งส่วนในร่างกายที่ลดได้ยากเย็นแสนเข็ญ หลายคนถึงกับกุมขมับ เพราะคิดว่าการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารจะเป็นหนทางที่จะช่วยให้ไขมันต้นขาหมดไป แต่ในความจริงแล้วคุณอาจยังไม่ทราบว่าที่มาของ “ขาใหญ่” เกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ รวมไปถึงวิธีที่กำลังใช้เพื่อลดไขมันต้นขาอยู่อาจยังไม่ตอบโจทย์ จนทำให้หลายคนเกิดความท้อแท้ในการลดไขมันต้นขามานักต่อนักแล้วครับ ก่อนอื่น เราลองมาเช็คกันดูก่อนว่า ขาใหญ่ ๆ ขาตัน ๆ ของเรามันเกิดมาจากสาเหตุอะไรกันบ้างครับ (อ่านเพิ่มเติม : 4 ท่าออกกำลังกาย “ลดต้นขา” )
ขาใหญ่เพราะ “กล้ามเนื้อ”
มีวิธีสังเกตง่าย ๆ คือ ให้ลองยืดขาออกไป แล้วใช้มือจับที่ต้นขา ถ้าจับแล้วมันแข็ง ๆ ก็แสดงว่ามีมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแรงมากกว่าไขมันนั่นเอง สาเหตุอาจเกิดได้จากกรรมพันธุ์ และพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดการออกแรงที่ขามาก ๆ เช่น การยืน-เดินนาน ๆ, การออกกำลังกายอย่างหนักหรือผิดท่าบ่อย ๆ รวมไปถึงสาว ๆ ที่ชอบใส่รองเท้าส้นสูงเดินเป็นเวลานาน ๆ อีกด้วย
วิธีแก้ไข ควรลดใช้งานของขาที่หนักเกินไปครับ เช่น ในการเดินหรือวิ่งเพื่อออกกำลังกาย ให้เราเลือกสถานที่ที่ไม่ขรุขระ เลือกรองเท้ากีฬาให้เหมาะสม และในการเดิน-วิ่งให้ใช้ส้นเท้าลงพื้นก่อนปลายเท้าเสมอ, นั่งพักขาในระหว่างวันที่ต้องยืน-เดินนาน ๆ และเลือกรองเท้าส้นเตี้ยใส่แทนรองเท้าส้นสูง แต่หากเป็นปัญหาขาใหญ่จากกล้ามเนื้อที่มาจากกรรมพันธุ์ ก็สามารถแก้ไขด้วยวิธีทางการแพทย์ ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจแนะนำวิธีการฉีดโบท็oกซ์เพื่อคลายกล้ามเนื้อและทำให้กล้ามเนื้อเล็กลงได้ครับ
ขาใหญ่เพราะ “ไขมัน”
ขาใหญ่จาก “ไขมัน” เกิดจากการรับประทานอาหารจำพวกแป้งและไขมัน ทานอาหารที่แคลอรี่สูง และไม่ออกกำลังกาย เลยทำให้เกิดเป็นไขมันสะสม สังเกตว่าเรามีไขมันต้นขาหรือเปล่า ให้ลองนั่งเหยียดขาแล้วใช้มือบีบบริเวณต้นขาแล้วดึงออกมา ถ้าจับแล้วมันเป็นก้อน ๆ หนา ๆ ก็แสดงว่าต้นขามีไขมันสะสมอยู่เยอะ
วิธีแก้ไข อันดับเแรกเลยคือ ต้องใส่ใจกับอาหารการกินให้มาก ลดปริมาณแป้งและไขมัน รวมไปถึงการออกกำลังกาย อย่างเช่น ว่ายน้ำหรือการปั่นจักรยาน รวมไปถึงวิธีดูดไขมันซึ่งเป็นวิธีทางการแพทย์ที่ปลอดภัย เห็นผลไว เห็นผลจริง
ขาใหญ่เพราะ “มีไขมัน+ผิวย้วย”
ขาใหญ่เพราะมีไขมันสะสมพร้อมกับมีผิวหนังที่หย่อนคล้อย พบได้บ่อยในกรณีของคนที่มีอายุที่เยอะขึ้น, คนที่สูบบุหรี่ หรือแม้กระทั่งในรายที่เคยลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว จนทำให้ผิวหนังทั่วร่างกายรวมไปถึงบริเวณต้นขามีความย้วย ถ้าอยากรู้ว่าเรามีไขมันต้นขา+ผิวหย่อนคล้อยหรือเปล่า ให้ลองจับยืดผิวหนังต้นขาแล้วสังเกตว่าผิวมันเด้งกลับไหม ถ้าจับยืดแล้วมีไขมันหนา ๆ และผิวไม่เด้งกลับ ยืดแล้วไม่หด นั่นก็แสดงว่าเราอาจมีไขมันต้นขาและมีผิวหนังต้นขาที่หย่อนคล้อยร่วมด้วย
วิธีแก้ไข การออกกำลังกายควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดไขมันต้นขาพร้อมกระชับผิวหนังได้ แต่ในบางคนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง หรือทำแล้วแต่ไขมันก็ยังอยู่ ผิวหนังยังหย่อนย้วย การดูดไขมันพร้อมยกกระชับผิวให้เต่งตึงเรียบเนียนด้วยโปรแกรม Plasma Jet ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์ผู้ที่มีไขมันต้นขาและมีผิวย้วยได้ดีครับ
สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าขาใหญ่ ๆ ของเราเกิดจากสาเหตุอะไร รวมไปถึงคนที่ลดไขมันต้นขาด้วยวิธีที่ทำเองแล้วไม่ได้ผล ก็สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวิเคราะห์และหาวิธีแก้ไขอย่างเหมาะสมและความปลอดภัย ซึ่งที่ Amara Clinic ได้มีการนำเทคโนโลยีการดูดไขมันที่ทันสมัย ปลอดภัย ได้มาตรฐานหลากหลายเทคโนโลยีมาใช้ในการดูดไขมันต้นขา อาทิ เครื่องดูดไขมัน Body Jet ที่ใช้พลังงานน้ำที่ช่วยให้เซลล์ไขมันแตกตัวออกและดูดออกอย่างง่ายดาย, เครื่อง Vaser ดูดไขมันด้วยคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ที่ดูดไขมันต้นขาได้ดี ดูดได้เยอะ ดูดได้เร็ว และเครื่อง Ultra Z สลายไขมันด้วยคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์โดยใช้ความร้อนในการสลายไขมันให้กลายเป็นน้ำมันและดูดออกมาได้ง่าย รวมถึงยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ให้ผิวยกกระชับอีกด้วยครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- รวมทุกสิ่งที่คุณอยากรู้ ดูดไขมันต้นขา
- เครื่องดูดไขมันแต่ละแบบ แตกต่างกันอย่างไร
- Plama Jet โปรแกรมดูดไขมันพร้อมยกกระชับผิว เทคนิคดูดไขมันต้นขาพร้อมแก้ปัญหาผิวย้วย
อาการหลังดูดไขมันต้นขาที่พบได้บ่อย
หลังดูดไขมันต้นขา อาจทำให้คนไข้มีอาการบางอย่างได้ครับ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อยหลังดูดไขมันต้นขา ส่วนใครจะเป็นมากเป็นน้อยก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เครื่องดูดไขมัน, เทคนิคการดูดไขมัน, ปริมาณไขมัน, การใช้ยาระงับความเจ็บปวดระหว่างดูดไขมันต้นขา รวมไปถึงสภาพร่างกายของคนไข้แต่ละรายครับ ซึ่งอาการหลังดูดไขมันต้นขานั่นก็คือ
อาการที่เกิดขึ้นทันทีหลังดูดไขมันต้นขา
- เวียนศีรษะ หน้ามืด เกิดได้จากร่างกายสูญเสียน้ำ, การใช้ยาชา หรือยาสลบในการดูดไขมันต้นขา รวมไปถึงคนไข้อาจเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือเกิดอาการคลื่นไส้เนื่องจากพักผ่อนน้อย แนะนำว่าให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ 2-3 ลิตรหลังดูดไขมันต้นขา 6 ชั่วโมงแรก
- อาการปวด ซึ่งถือว่าเป็นอาการหลังดูดไขมันที่พบได้ปกติ ไม่ว่าจะเลือกดูดไขมันต้นขาด้วยเครื่องไหน เพียงแต่ว่าจะเจ็บมากเจ็บน้อยแล้วแต่สภาพร่างกายของแต่ละคน รวมไปถึงเครื่องดูดไขมันที่ใช้ด้วยครับ แต่ส่วนมากแล้ว เทคโนโลยีดูดไขมันที่ใช้ในปัจจุบันมีความทันสมัยสูง มีความอ่อนโยน ทำให้อาการปวดไม่มากนัก โดยเฉลี่ยไม่เกิน 2-7 วันครับ
- อาการบวมช้ำ เป็นอีกหนึ่งอาการที่พบได้บ่อยครับ โดยเฉพาะการดูดไขมันต้นขาด้วย Body Jet เพราะมีการใส่น้ำเพื่อสลายเซลล์ไขมันมันให้แตกตัว รวมไปถึงการใช้ Tumescent (ประกอบด้วยยาชา, น้ำเกลือ และยาที่ทำให้เส้นเลือดหดตัว) แต่อาการบวมเนื่องจากน้ำค้างในชั้นผิวจะค่อย ๆ หายไปตามกลไกร่างกาย เช่น ถูกขับออกมาทางปัสสาวะ, ซึมเข้าเส้นเลือด และซึมออกมาทางแผลดูดไขมันต้นขา
- ภาวะ Seroma คือ ภาวะที่ร่างกายสร้างน้ำขึ้นมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างหลังดูดไขมันต้นขาออกไป หากมีน้ำสะสมอยู่น้อย การใส่ชุดยกกระชับก็ช่วยได้ และหากมีน้ำค้างอยู่มาก แพทย์อาจจะใช้วิธีเจาะออกได้ครับ
อาการที่เกิดขึ้นหลังตัดไหม
- ผิวเป็นคลื่น ผิวเป็นไตแข็ง อาการนี้มักจะเกิดกับหลังดูดไขมันต้นขาด้วยพลังงานความร้อนและคนไข้ที่ไม่ได้ใส่ชุดยกกระชับ แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการนวดกระชับผิวด้วยคลื่น RF เพื่อให้ผิวหลังดูดไขมันต้นขากลับเรียบเนียนยิ่งขึ้น
- อาการชา เป็นอาการหลังดูดไขมันต้นขาที่อาจทำให้กระทบต่อเส้นประสาทขนาดเล็ก ซึ่งอาการชาหลังดูดไขมันต้นขาจะมีอยู่ประมาณ 4-8 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ดีขึ้น
ดูแลหลังดูดไขมันต้นขา ไม่ให้ไขมันกลับมาอีก
หลังดูดไขมันต้นขา คนไข้หลายคนถามว่า “ไขมันจะกลับมาอีกไหมคะ” ซึ่งหมอตอบได้เลยครับว่า ไขมันจะกลับมาหรือไม่กลับมาต้องขึ้นอยู่กับตัวคนไข้เองนะครับ ซึ่งการดูแลตัวเองหลังดูดไขมันต้นขาเป็นสิ่งที่หมอแนะนำคนไข้อยู่เสมอ โดยแบ่งการดูแลตัวเองหลังดูดไขมันต้นขาออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงหนึ่งเดือนแรก (เพื่อดูแลอาการข้างเคียงหลังดูดไขมันให้หายเร็วขึ้น สัดส่วนต้นขาเข้าที่ไว) และช่วงหลังจากนั้น (เพื่อดูแลอย่างต่อเนื่อง ป้องกันไม่ให้ไขมันต้นขากลับมาอีกภายหลัง)
หลังดูดไขมันต้นขา 1 เดือนแรก ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ, หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลหลังดูดไขมันต้นขาโดนน้ำ, สวมชุดกระชับต้นขาวันละ 18-20 ชั่วโมง, ดื่มน้ำวันละประมาณ 1-2 ลิตร, งดอาหารแสลง อาหารเค็ม อาหารหมักดอง อาหารไม่สุก และอาหารที่มีน้ำตาลสูง, งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่, รับประทานยาตามแพทย์สั่ง, งดยาและอาหารเสริม ที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด 2 สัปดาห์, ทาน Vitamin C และ Vitamin B Complex เพื่อให้แผลสมานตัวเร็วขึ้น และเข้ามารับบริการ After Care เป็นประจำ
เมื่อพ้นระยะเวลาเดือนแรกหลังดูดไขมันต้นขาไปแล้ว เราก็ควรดูแลตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ (ถ้าทำได้ตลอดไปจะดีมากเลยครับ) เพื่อไม่ให้เจ้าไขมัน Come Back มาได้อีกนะครับ โดยเริ่มต้นด้วยการควบคุมอาหารหลังดูดไขมันและการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันใหม่ ดังนี้
อาหารหลังดูดไขมันมัน
อย่างที่เรารู้กันว่าการสะสมของไขมันต้นขาเกิดได้จากการรับประทานอาหาร ดังนั้นเราลดปริมาณอาหารจำพวกไขมัน แป้ง และน้ำตาล ยิ่งอาหารทอด ของมัน ขนมของหวาน เลี่ยงได้เลี่ยง ลดได้ลดครับ! เพราะนอกจากจะส่งผลให้หุ่นกลับพัง ไขมันต้นขากลับมาใหม่แล้ว ยังทำให้เสี่ยงที่จะเกิดไขมันอุดตันเส้นเลือดได้อีกด้วย
สวมชุดยกกระชับ
การใส่ชุดยกกระชับหลังดูดไขมันต้นขาเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลย เพราะนอกจากจะช่วยให้ต้นขาได้สัดส่วนเข้าที่ไวแล้ว ลดความบวมช้ำได้ดี เพื่อผิวเรียบเนียน ลดโอกาสการเกิดแผลนูน (คีลอยด์) ซึ่งแนะนำให้คนไข้ใส่ชุดยกกระชับในเดือนแรกหลังดูดไขมันต้นขา และให้ใส่ต่อเนื่องไปอีก 1-2 เดือน โดยลดชั่วโมงการใส่ลง เหลือ 12 ชั่วโมงต่อวันครับ (ทั้งนี้ จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ในแต่ละเคสอีกครั้ง)
การนับแคลอรี่
อีกหนึ่งสิ่งที่แนะนำให้คนไข้หลังดูดไขมันต้นขาทำอย่างต่อเนื่อง นั่นก็คือ “การนับแคลอรี่” หลังดูดไขมัน โดยการคำนวณพลังงานในอาหารที่ร่างกายนำไปเผาผลาญได้ ซึ่งในผู้ชายควรได้รับพลังงานไม่เกิน 2,500 กิโลแคลอรี่/วัน และผู้หญิงได้รับไม่เกิน 2,000 กิโลแคลอรี่/วัน การนับแคลอรี่ส่งผลดีต่อรูปร่าง และยังดีกับระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ส่งผลให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ลดโอกาสเสี่ยงต่อโรคร้ายอื่น ๆ อีกด้วยนะครับ เรียกได้ว่า การนับแคลอรี่ส่งผลดีกับรูปร่างและสุขภาพแบบองค์รวมแบบยั่งยืนครับ
การออกกำลังกาย
หลังดูดไขมันต้นขาไปแล้วประมาณ 1 เดือน สามารถเริ่มออกกำลังกายแบบเบา ๆ ไปจนถึงหนักเพื่อกระตุ้นการเผาผลาญไขมันได้เลยนะครับ หรือหลังดูดไขมันต้นขาไปแล้วรู้สึกว่าไขมันมันเริ่มกลับมาแล้ว ก็สามารถใช้การออกกำลังกายเพื่อลดต้นขาได้เลยครับ อย่างการเดินวันละ 30 นาที, เปลี่ยนจากการใช้ลิฟท์เป็นการขึ้น-ลงบันได, กระโดดเชือก, ปั่นจักรยาน, เต้นแอโรบิค รวมไปถึงการบริหารร่างกายที่เน้นท่าออกกำลังกายลดต้นขาโดยเฉพาะ ซึ่งเวลาในการออกกำลังกายที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 30-60 นาทีต่อครั้งครับ
ดูดไขมันขาที่ Amara ขาเรียวสวยเกินคาด!
อายุขึ้นเลขสี่ก็ขาเรียวเหมือนสาว ๆ ได้ค่ะ
“พี่หยกดูดไขมันกับคุณหมอไอซ์ ผลลัพธ์หลังทำประทับใจมากค่ะก่อนออกจากบ้านลูกชายชมว่าคุณแม่สวยจังเลย คุณสามีก็ชมนะคะ คิดไม่ผิดเลยค่ะที่เลือกเอมาร่า” (อ่านเพิ่มเติม..รีวิวดูดไขมัน)
บทความที่เกี่ยวข้อง
- หลังดูดไขมันต้นขาห้ามกินอะไรบ้าง หาคำตอบได้จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- การนับแคลอรี่ ลดน้ำหนักหลังดูดไขมันต้นขา
สรุป
ถ้าอยากให้เรียวขาสวยอยู่คู่กับเราไปนาน ๆ หลังดูดไขมันต้นขา เราต้องเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานและการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งการควบคุมอาหารหลังดูดไขมัน การออกกำลังกาย การใส่ชุดยกกระชับ เพื่อไม่ให้ไขมันต้นขา รวมไปถึงไขมันส่วนอื่น ๆ ตามร่างกายกลับมาทำให้เราหมดความมั่นใจนะครับ
อยากดูดไขมันส่วนอื่นๆ ดูรายละเอียดได้เลย
- ดูดไขมันเหนียง บอกลาคางสองชั้น
- เปลี่ยนแขนใหญ่ด้วยการ ดูดไขมันต้นแขน
- อยากลดเนื้อปลิ้นข้างรักแร้ต้อง ดูดไขมันนมน้อย
- ดูดไขมันหน้าท้อง ปรับรูปร่าง ท้องแบนแฟนไม่ทิ้ง
- เปลี่ยนตัวหนาเป็นเพรียวบาง ดูดไขมันหลัง
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB
ติดต่อเบอร์โทร :
062-789-1999⇒ สาขา รัชโยธิน กด 1
⇒ สาขา ราชพฤกษ์ กด 2
นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)
KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet