คุมอาหารลดพุง สูตรพุงยุบฉบับเร่งด่วน ไม่ต้องอดก็ลดพุงได้!

คุมอาหารลดพุง

หน้าท้องป่อง หน้าท้องยื่น ไขมันที่หน้าท้อง เป็นปัญหาที่หลายคนไม่อยากมีแต่หลีกเลี่ยงได้ยาก โดยเฉพาะพฤติกรรมการรับประทานอาหารและไลฟ์สไตล์ที่ทำให้เกิดไขมันหน้าท้อง เพราะว่าเราเคยชินกับมัน พอมารู้ตัวอีกที่หน้าท้องที่เคยแบนราบก็กลายเป็นชั้นหน้าท้องที่มีแต่ไขมันค่ะ หลายคนถึงกับต้องเปลี่ยนไซซ์กางเกงจาก S ขยับมา M, L กันอย่างไม่ทันระวังตัว แต่ไม่ต้องกังวลค่ะ เพียงแค่เรารู้ตัวได้ทัน และตั้งเป้าหมายที่จะลดหน้าท้องอย่างชัดเจน ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอค่ะ

วันนี้หมอได้รวบรวมข้อมูลที่คนไข้มักจะสอบถามหมอบ่อย ๆ ว่า วิธีลดพุงต้องทำอย่างไรบ้าง? คุณหมอมีวิธีลดพุงแบบที่ไม่ต้องอดอาหารไหม? อ้วนกรรมพันธุ์จะลดหน้าท้องได้ไหม? พร้อมข้อมูลอื่น ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการลดหน้าท้อง รวมไปถึงวิธีการคุมอาหารลดพุงฉบับเร่งด่วนที่ใคร ๆ ก็ทำได้และเห็นผลจริงมาฝากกันค่ะ

พุงป่องเกิดจากสาเหตุอะไร


หลายคนเข้าใจมาตลอดว่า พุงป่องเกิดจากไขมันได้อย่างเดียว แต่ในความเป็นจริงแล้ว สาเหตุของพุงป่องเกิดได้จากหลายสาเหตุ รวมไปถึงมีวิธีแก้ไขที่อาจแตกต่างกันบ้าง ก่อนอื่นหมออยากให้เราลองมาเช็คพุงป่องของตัวเองก่อนว่า พุงป่องเกิดจากอะไร จะได้แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดนั่นเองค่ะ

พุงป่องเพราะผิวหนังหย่อนคล้อย

พุงป่องชนิดแรกเกิดจากมีผิวหนังหน้าท้องที่หย่อนคล้อยมาก ๆ เช่น ในคุณแม่หลังคลอด หรือ คนที่ลดน้ำหนักเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่แล้วจะแก้ปัญหาได้ง่ายและยากนั้นขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของผิวหนังส่วนเกินที่ยื่นออกมา

วิธีรักษา : ระดับน้อย-ปานกลาง แก้ไขด้วยการออกกำลังกายกระชับผิวหน้าท้อง นวดกระชับหน้าท้องด้วยคลื่น RF, กระชับผิวหนังด้วย J Plasma / ระดับที่รุนแรง แก้ได้ด้วยการผ่าตัดหนังหน้าท้อง

พุงป่องเพราะกล้ามเนื้อ

คุณแม่หลังคลอดและคนที่มีน้ำหนักตัวมาก ๆ มักมีปัญหากล้ามเนื้อหน้าท้องแยก ทำให้ดูมีหน้าท้อง มีภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนแรง ไม่เฟิร์มกระชับ หย่อนคล้อย นั่นก็เป็นเพราะว่าหน้าท้องเกิดการขยายตัวอย่างมากจนดันอวัยวะภายในช่องท้องออกมา ทำให้หน้าท้องยื่นค่ะ

วิธีรักษา : ออกกำลังกาย (เน้นท่ากระชับกล้ามเนื้อหน้าท้อง), เย็บกล้ามเนื้อหน้าท้อง, กระตุ้นกล้ามเนื้อหน้าท้องด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและพลังงานไฟฟ้า, ใส่ผ้ารัดหน้าท้อง

ประสบการณ์ดูดไขมัน pantip รีวิวดูดไขมัน

พุงป่องเพราะไขมันใต้ชั้นผิวหนัง

พุงป่องชนิดนี้เกิดจากมีไขมันสะสมอยู่ตามสัดส่วนของร่างกาย เกิดจากการทานอาหารที่มีแคลอรี่สูงเกินกว่าที่ร่างกายต้องใช้เผาผลาญในแต่ละวัน และการทานอาหารจำพวกแป้ง, ไขมัน และน้ำตาลมากเกินไป รวมไปถึงขาดการออกกำลังกาย

วิธีรักษา : คุมอาหารลดพุง, นับแคลอรี่ลดน้ำหนัก, ออกกำลังกายสม่ำเสมอ, ดูดไขมันเพื่อกำจัดไขมันหน้าท้องออก

พุงป่องเพราะไขมันในช่องท้อง

พุงป่องจากไขมันในช่องท้อง เป็นไขมันที่อยู่ลึกกว่าชั้นผิวหนัง โดยจะถูกสะสมอยู่ภายในช่องท้องซึ่งจะไปเกาะรอบ ๆ อวัยวะในช่องท้อง เช่น กระเพาะอาหาร, ลำไส้ และตับ ซึ่งตับอาจเปลี่ยนไขมันให้กลายเป็นคอเลสเตอรอลและจะสะสมอยู่ตามหลอดเลือด จนทำให้เกิดความเสี่ยงของโรคร้ายแรงต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ, โรคเบาหวาน หรือโรคหลอดเลือดสมองค่ะ

วิธีรักษา : คุมอาหารลดพุง, นับแคลอรี่ลดน้ำหนัก, การออกกำลังกาย และรักษาด้วยปากกาลดน้ำหนัก เพื่อปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร

พุงป่องเพราะกระดูกสันหลัง

หลายคนอาจสงสัยว่า เอ๊ะ! พุงป่องที่เกิดจากกระดูกสันหลังมีด้วยหรือ? มีค่ะ เพราะสาเหตุจากภาวะหลังแอ่นผิดปกตินั่นเอง สังเกตไหมคะว่าคนที่หลังแอ่น เวลายืนหรือเดินจะทำให้หน้าท้องยื่นออกมาด้วย เมื่อกระดูกสันหลังเราโค้งไปด้านหลังจะทำให้อวัยวะในช่องท้องและหน้าท้องเราแอ่นมาด้านหน้าด้วยเช่นกันค่ะ

วิธีรักษา : ออกกำลังกาย (เน้นท่าบริหารกระดูกสันหลัง), จัดกระดูก, กายภาพบำบัด

คุมอาหารลดพุง แก้ได้ทุกปัญหาพุงป่อง


ไม่ว่าจะมีปัญหาพุงป่องที่เกิดจากสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่สำคัญในการลดหน้าท้องนั่นก็คือ ควบคุมแคลอรี่ หรือคุมอาหารลดพุง นั่นเองค่ะ เราต้องเริ่มต้นจากการลดหน้าท้องด้วยการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยหมอแนะนำให้เน้นการทานอาหารแบบลดแป้ง ลดไขมัน ลดน้ำตาล ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับการทานอาหารที่ลดคาร์โบไฮเดรต (Low Carb) เพียงแต่สูตรที่หมอจะแนะนำนี้ไม่เข้มงวดเท่า Low Carb Diet ค่ะ

Low Carb Diet คืออะไร

Low Carb Diet คือ การเลือกทานอาหารโดยลดหรือจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตให้เหลือประมาณ 5% หรือไม่เกิน 40 กรัมต่อวัน ไม่ว่าจะจากข้าว, แป้ง, ธัญพืช, ผักที่มีคาร์โบไฮเดรต รวมไปถึงลดอาหารและขนมต่าง ๆ ที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ โดยเป็นการเน้นทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เนื้อปลา และถั่ว แต่ทั้งนี้การทานอาหารแบบ Low Carb Diet ก็มีข้อเสีย นั่นก็คือ “ปวดหัว, อ่อนแรง, ท้องผูก เป็นอาการที่เกิดจากภาวะโพแทสเซียมต่ำ” โดยการทานอาหารแบบ Low Carb Diet จะแบ่งเป็น 4 ช่วง ดังนี้ค่ะ

  • ระยะ 14 วันแรก ทานคาร์โบไฮเดรตได้ไม่เกิน 20 กรัมต่อวัน ให้ทานผักที่มีคาร์โบไฮเดรตได้อย่างเดียว เช่น บร็อคโคลี, ผักกาดขาว, มะเขือเทศ ฯลฯ ทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน, เนื้อปลา, ถั่ว
  • ระยะสัปดาห์ที่ 4 ขึ้นไป ให้ทานคาร์โบไฮเดรตได้ประมาณ 30-35 กรัมต่อวัน และทานไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำหนักจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว และหากสังเกตว่าน้ำหนักตัวกลับมาเพิ่มอีก ให้กลับมาลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตลง 5-10 กรัมต่อ 1 มื้ออาหาร
  • ระยะรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ โดยให้เลือกทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง, ข้าวซ้อมมือ หรือแป้งที่มีธัญพืชเป็นส่วนประกอบ
  • ระยะควบคุมน้ำหนักไม่เพิ่มขึ้น ซึ่งในระยะนี้สามารถทานอาหารได้หลากหลายขึ้น แต่ต้องจำกัดการทานคาร์โบไฮเดรตเพื่อไม่ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอีก

สูตรประยุกต์จาก Low Carb Diet

ส่วนใครที่คิดว่า Low Carb Diet ทำได้ยาก หมอมีอีกหนึ่งวิธีลดหน้าท้องโดยการคุมอาหารลดพุงแบบประยุกต์จากสูตร Low Carb Diet โดยให้ลดปริมาณแป้ง, ไขมัน และน้ำตาลโดยไม่ต้องกะเกณฑ์ว่าต้องกินวันละกี่กรัม ที่หมอแนะนำอย่างนี้เนื่องจากการใช้สูตร Low Carb อาจส่งผลเสียหากใช้ในระยะยาว หรือลดน้ำหนักได้แล้วแต่ไม่สามารถหักห้ามใจจนเรากลับมาทานอาหารแบบเดิม น้ำหนักและไขมันหน้าท้องก็จะกลับมาอีก โดยการคุมอาหารลดพุงสูตรที่หมอแนะนำให้เน้นใจความหลัก ๆ ดังนี้ค่ะ

  • การนับแคลอรี่แทน 
  • ลดแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องรีบร้อน 
  • ใช้รหัสลดพุง 2:1:1 คือ การจัดสรรอาหารใน 1 จาน ให้มีผัก 2 ส่วน, ข้าว (ข้าวกล้อง, ข้าวซ้อมมือ) 1 ส่วน และเนื้อสัตว์ (เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ไม่ติดมันหรือเนื้อปลา) 1 ส่วน
  • งดหรือลดขนมหวานเบเกอร์รี่ที่มีน้ำตาลและไขมันทรานส์
  • ของว่างให้เลือกทานอาหารที่แคลอรี่ต่ำ เช่น ถั่วอบ (ไม่ใส่เกลือ ไม่ปรุงรส), โยเกิร์ตไขมันต่ำ, ผลไม้น้ำตาลน้อย (เช่น แก้วมังกร, ฝรั่ง, แอปเปิ้ลเขียว, ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่) ฯลฯ
  • เลือกทานอาหารไขมันดี เช่น อะโวคาโด, น้ำมันมะกอก, ไขมันจากปลา ฯลฯ
  • งดดื่มน้ำอัดลม ดื่มชา, กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่ใส่น้ำตาล
  • สูตรดื่มน้ำลดพุง คือ หลังตื่นนอน 1-2 แก้ว, ก่อนทานอาหาร (มื้อเช้า, กลางวัน, เย็น) 30 นาที 1 แก้ว, หลังอาหาร (มื้อเช้า, กลางวัน, เย็น) 1 ชั่วโมง 1 แก้ว, เวลาบ่าย 3 โมง 1-2 แก้ว, เวลา 1 ทุ่ม 1-2 แก้ว และก่อนนอน 1 ชั่วโมง 1 แก้ว
อาหารลดพุง ลดเอว เร่งด่วน

อาหารลดหน้าท้อง

อีกหนึ่งอาวุธเด็ดที่ช่วยลดหน้าท้องนั่นก็คือ อาหารลดหน้าท้อง 6 ชนิด ซึ่งมีสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ช่วยลดไขมันหน้าท้อง ทานได้ทานดี แคลอรี่น้อย มีสารอาหารบางชนิดที่มีส่วนช่วยในการเผาผลาญ หรือจะนำมาทานเป็นของว่างระหว่างวัน เพื่อให้อิ่มท้อง คุมหิว ลดการทานขนมจุกจิกที่ไม่มีประโยชน์ได้ค่ะ

  • กล้วยหอม อุดมไปด้วยโพแทสเซียมและแมกนีเซียมลดอาการท้องอืด ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน
  • ผลไม้รสเปรี้ยว อุดมไปด้วยโพแทสเซียมและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับการสะสมของไขมันหน้าท้อง
  • ข้าวโอ๊ต (รสธรรมชาติ ไม่ปรุงรส) มีเส้นใยชนิดที่ไม่ละลายในน้ำและมีคาร์โบไฮเดรตบางชนิดที่ช่วยควบคุมความหิว อิ่มได้นาน
  • ถั่วพัลส์ คือ ถั่วที่มีโปรตีนสูง, ไขมันต่ำไม่เกิน 4% และถูกเก็บเกี่ยวแบบเมล็ดแห้ง เช่น ถั่วขาว, ถั่วเขียว, ถั่วแดง ฯลฯ ซึ่งอุดมไปด้วยกรดอะมิโน ใยอาหาร แคลอรี่และไขมันต่ำ
  • ไข่ต้ม อุดมไปด้วยโปรตีน แคลอรี่และไขมันต่ำ และยังมีกรดอะมิโนลิวซีน (leucine) เป็นตัวเร่งปฎิกิริยาในการเผาผลาญไขมัน
  • ถั่วอบชนิดต่าง ๆ อุดมไปด้วยไขมันดี ทานแล้วอิ่มนาน และมีโอเมก้า 3 ช่วยเพิ่มพลังงานและเพิ่มการเผาผลาญ

เกร็ดความรู้ : ขมันดื้อ (Stubborn Fat) พบมากบริเวณหน้าท้อง ซึ่งเป็นไขมันที่กำจัดได้ยาก เพราะกลไกของร่างกายจะเลือกเก็บไขมันบริเวณนี้ไว้เพื่อเผาผลาญเป็นลำดับสุดท้าย โดยไม่ว่าจะออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร ไขมันส่วนหน้าท้องก็มักจะหลงเหลืออยู่ และเป็นไขมันชนิดอยู่ใต้ชั้นผิวหนังที่สามารถกำจัดออกได้ด้วยวิธีการดูดไขมัน เป็นวิธีลดพุงที่ตรงเข้าจัดการไขมันได้อย่างตรงจุด ซึ่งที่ Amara Clinic มีเครื่องดูดไขมันหลายชนิดครบครัน ซึ่งเครื่องดูดไขมันแต่ละชนิดสามารถตอบโจทย์คนที่มีขนาดตัวใหญ่ ชั้นไขมันหนา, คนตัวเล็กแต่มีไขมันหน้าท้อง หรือแม้กระทั่งคนที่อยากดูดไขมันและเติมไขมันในคราวเดียวกัน อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ดูดไขมัน

5 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับไขมันหน้าท้อง

Q : ระบบเผาผลาญไม่ดี ต้องลดพุงยังไง?

A : อัตราการเผาผลาญพลังงานของแต่ละคนไม่เท่ากันค่ะ บางคนโชคดีที่ถึงแม้ว่าจะทานอาหารแคลอรี่สูงเพียงใด ร่างกายก็สามารถเผาผลาญได้ดี แต่ในบางคนทานนิดทานหน่อยน้ำหนักก็ขึ้นแล้ว วิธีที่หมอแนะนำสำหรับคนที่มีระบบเผาผลาญช้านั่นก็คือ การแบ่งทานอาหารเป็นมื้อย่อย ๆ ทานทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยแบ่งเบาเว้นช่วงให้ระบบเผาผลาญทำงานได้เร็วขึ้น รวมไปถึงคุมอาหารลดพุง ลดปริมาณอาหารจำพวก แป้ง, ไขมัน และน้ำตาลค่ะ

A : หากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคอ้วนหรือมีไขมันหน้าท้อง เราจะมีโอกาสสูงที่จะเกิดภาวะโรคอ้วนและมีไขมันหน้าท้องเหมือนคนในครอบครัวหมอแนะนำว่าให้เราใส่ใจดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยการควบคุมอาหารลดพุง ตามสูตรที่หมอแนะนำไว้ด้านบนเลยค่ะ สิ่งสำคัญคือ ลดแป้ง, ไขมัน และน้ำตาล ดื่มน้ำเยอะ ๆ เลือกทานอาหารจำพวกไขมันที่ดีต่อสุขภาพแทนไขมันอิ่มตัวหรือไขมันทรานส์ค่ะ รวมไปถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 30-45 นาที 3-4 วันต่อสัปดาห์ค่ะ

A : ฮอร์โมนทุกชนิดนับเป็นส่วนสำคัญของการทำงานทุกระบบในร่างกาย ดังนั้น ฮอร์โมนต้องมีความสมดุลเป็นปกติ หากมีฮอร์โมนตัวใดตัวหนึ่ง ทำงานผิดปกติ ระบบในร่างกายย่อมมีการแปรปรวนซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย ยกตัวอย่างเช่น ฮอร์โมนอินซูลิน (ฮอร์โมนเผาผลาญน้ำตาล) และฮอร์โมนเลปติน (ฮอร์โมนอิ่ม) ถ้าฮอร์โมน 2 ชนิดนี้หลั่งได้น้อยลง ก็จะมีผลให้ร่างกายมีไขมันสะสมได้มากกว่าปกติค่ะ หรือแม้กระทั่งเวลาที่เรามีความเครียด ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งมีผลให้เรายิ่งหิวโหยอาหารประเภทแป้ง, ไขมัน และน้ำตาลมากกว่าปกตินั่นเองค่ะ ซึ่งความอ้วนหรือไขมันหน้าท้องที่เกิดจากฮอร์โมนเป็นเรื่องที่เราสามารถควบคุมดูแลได้ ด้วยการรับประทานอาหารที่ดีต่อร่างกาย ลดความเครียดพักผ่อนให้เพียงพอ      

แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ในปัจจุบันก็มีการลดน้ำหนัก ลดความอ้วน และลดไขมัน ด้วยการใช้ปากกาลดน้ำหนักภายใต้การดูแลจากแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เป็นตัวยาที่ช่วยควบคุมฮอร์โมนหิวและฮอร์โมนอิ่มได้อย่างตรงจุด ช่วยลดความหิว อิ่มได้นานขึ้น ซึ่งจะมีผลให้เราทานอาหารได้น้อยลง แคลอรี่ก็น้องลง จนทำให้น้ำหนักลดลงได้ภายใน 3 เดือน นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยลดหน้าท้องและลดน้ำหนักที่หมอแนะนำเลยค่ะ

A : เป็นไปได้แน่นอนค่ะ หากเราใส่ใจและใช้วิธีคุมอาหารลดพุงร่วมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและมีวินัยในตัวเอง หรือถ้าใครเคยทำทุกวิธีแล้ว ทั้งการคุมอาหารและออกกำลังกายแต่ยังมีไขมันดื้อบริเวณหน้าท้องหลงเหลืออยู่ ก็อาจพิจารณาวิธีลดพุงทางการแพทย์ได้ค่ะ เช่น การดูดไขมันหรือปากกาลดน้ำหนัก ฯลฯ แต่ทั้งนี้ หมอแนะนำให้ปรึกษาและเลือกรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นนะคะ เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจพร้อมความปลอดภัยทั้งในระยะสั้นและระยะยาวค่ะ

A : หลายคนใช้วิธีการอดอาหารเพื่อลดน้ำหนักและลดไขมันหน้าท้อง โดยเข้าใจว่าเมื่อไม่มีอาหารเข้าไปในร่างกายก็จะทำให้น้ำหนักลด แต่ในความเป็นจริงแล้วกลไกในร่างกายฉลาดมากค่ะ เมื่อไม่มีอาหารเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายจะมีกลไกป้องกันไม่ให้เราต้องอดตายไปเสียก่อน ด้วยการเก็บกักไขมันไว้เป็นพลังงานสำรอง ไม่ยอมดึงเอาออกมาเผาผลาญเป็นพลังงานค่ะ นอกจากนี้ การอดอาหารยังส่งผลให้เราเกิดความเครียดจากการทนอดอาหาร ตอนนั้นร่างกายก็จะหลังฮอร์โมนคอร์ติซอลมากขึ้น ทีนี้แหละค่ะ เราจะยิ่งรู้สึกโหยจนทนไม่ได้จนต้องกระหน่ำทานอาหารมากยิ่งขึ้น นี่คือที่มาของคำว่า “ยิ่งอดยิ่งอ้วน” ค่ะ 

ดังนั้น แทนที่จะอดอาหารหมอแนะนำว่าให้ใช้วิธีลดพุงโดยการคุมอาหารลดพุงดีกว่าค่ะ นอกจากจะไม่ทำให้เราหิวโหย หรือรู้สึกเครียดกับการลดไขมันหน้าท้องมากจนเกินไปแล้ว ยังทำให้น้ำหนักลดและหน้าท้องแบนราบได้อย่างแฮปปี้อีกด้วยค่ะ หรือจะใช้วิธีการลดน้ำหนักแบบ Low Carb Diet, Atkins Diet

ซึ่งเป็นรูปแบบการทานอาหารลดน้ำหนักที่เน้นการทานโปรตีน ทานผักและผลไม้ ที่สำคัญคือ ลดการทานคาร์โบไฮเดรตลง  หรือใครที่ยังตัดอาหารจำพวกแป้งหรือขนมปังไม่ได้ หมอแนะนำรูปแบบการทานอาหารแบบ Mediterranean Diet ค่ะ ซึ่งวิธีนี้สามารถทานข้าวขัดสีน้อยและขนมปังที่ผสมธัญพืชได้ค่ะ แต่ทั้งนี้แนะนำให้ทำในระยะสั้น ๆ นะคะ

เนื่องจากรูปแบบการทานอาหารเหล่านี้เป็นการจำกัดสารอาหารบางชนิดที่อาจส่งผลต่อสุขภาพได้ ทางที่ดีเมื่อน้ำหนักลดลง หน้าท้องเล็กลงในระดับหนึ่งแล้ว ให้กลับมาควบคุมน้ำหนักและสัดส่วนให้คงที่ด้วยการคุมอาหารลดพุงแบบที่หมอแนะนำได้เลยค่ะ

สรุป

          การคุมอาหารเป็นการปรับพฤติกรรมในการรับประทานอาหาร ที่เน้นลด-ละ-เลิกอาหารที่ทำให้สุขภาพเสียหุ่นพัง ซึ่งส่งผลให้น้ำหนักลดลงและลดหน้าท้องได้อย่างยั่งยืน ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย หมอเชื่อว่าไม่ว่าเราจะมีพุงป่องแบบไหนก็สามารถลดหน้าท้องได้ เพียงแค่เราเอาจริงเอาจังและมีวินัยกับตัวเอง ทั้งนี้ไม่ใช่เพื่อใครค่ะ แต่เพื่อตัวเราเอง รับรองได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้มันคุ้มค่ากับสุขภาพและรูปร่างแน่นอนค่ะ

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic

KOL Trainer
แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet

พญ.กรพร สถิตวิทยานันท์ (หมอมะปราง)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


              บทความนี้ จัดทำขึ้นโดย Amara Clinic (เอมาร่า คลินิก) ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ คัดลอก ทำซ้ำ หรือเผยแพร่บทความนี้ในนามอื่น (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, ข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนก็ตาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย